กำพร้า ณ ต่างโลก 30 ประชุมเริ่มกิจการ

ตอนที่ 30 ประชุมเริ่มกิจการ

“เอาล่ะ ตอนนี้ ผมจะเริ่มสั่งงาน พวกคุณจะทำงานกันเป็นแผนกๆ แต่เดินไปพร้อมกันเป็นฮาโมนี่ พวกคุณจะทำงานที่สั่งไปด้วย หาคนเป็นลูกมือให้เยอะขึ้นเรื่อยๆด้วย พวกคุณจะใช้หลักการ จินตนาการ”

ผมเขียนหาลูกมือ จากนั้นจินตนาการตัวใหญ่กว่า

ผมหันหานา

“นา ผู้จัดการ”

ผมเขียนชื่อนากับตำแหน่งบนกระดานดำ

“เธอจะหาคนเพิ่ม หาแผนกโฆษณา หาคนที่ทำป้ายประกาศเก่งๆ และหาบ้านพักใหญ่ๆเน้นอยู่สบายให้คนทั้งหมดอยู่ที่เดียวกัน พร้อมมีลานกว้างอยู่ ขอเป็นพื้นหญ้าโล่งๆ และเงินเดือนของเธอจะเพิ่มเป็นเดือนละ 9 ทอง”

ผมเขียนรายละเอียดงานและเงินเดือน

“และแบ่งเงินมาครึ่งหนึ่งเพื่อเป็นทุนค่าอะไรก็ได้สำหรับคนของฮาโมนี่”

ผมเขียนบนกระดาน ‘ทุนอะไรก็ได้ของคนฮาโมนี่ 250,000 ทอง’

ทุกคนเริ่มฮือฮาเสียงดัง

“อะไรก็ได้เลยเหรอ?”

พี่อเด็ปถามด้วยหน้าตาเหมือนไม่เชื่อ

“อะไรก็ได้ เครื่องแต่งกายของคนของเรา พาหนะ งบผลิตของที่เป็นแค่ความคิดที่ยังไม่ได้ขาย”

“เช่นฉันคิดออกแบบเสื้อผ้าใหม่ แต่ยังไม่รู้ขายได้ไม่ได้ ฉันเบิกได้?”

“ใช่”

“เท่าไหร่ก็ได้?”

“ใช่ แต่บอกเหตุผลกับนา ผู้จัดการด้วย”

พี่อเด็ปยิ้มกว้าง

“เข้าใจแล้ว”

ผมมองหน้านาอีกครั้ง และเห็นเธอดูกระฉับกระเฉง

เมื่อเสร็จแล้วผมหันไปมองวีกับวิว

“วีและวิวเพื่อนสองคนแรกของผม ระหว่างรอสถานที่ หัดเรียนขี่นกฟาเนิค เมื่อได้สถานที่ฝึกร่างกายทุกคนให้คนที่สนใจเรียนป้องกันตัว ป้องกันตัวเป็น ให้คนที่ไม่สนฝึกด้านร่างกายอย่างเดียว พวกเธอจะได้คนละ 10% ของเงินที่ฉันได้”

“ได้เงินด้วยเหรอ? หนูไม่อยากได้อ่ะ”

“เอาไปบริจาคกับสิ่งที่เธอเห็นด้วยก็ได้ หรือไม่ก็ลงทุนทำมูลนิธิ”

ผมบอกวีที่ถาม

“มูลนิธิ? คืออะไรอ่ะ?”

วิวถามด้วยหน้าตาอยากรู้อยากเห็น เพราะมันเป็นสิ่งที่เธอไม่เคยได้ยินหรือ?

“องค์กรหนึ่งที่ทำเพื่อคนด้อยโอกาสกว่าเรา พูดให้เข้าใจก็คนที่เขาต้องอยู่ในชีวิตที่ลำบากกว่าเรา ค้นหาว่าพวกเขาขาดอะไร แล้วเปิดมูลนิธิเพื่อให้สิ่งนั้นถ้าให้ก็ช่วยได้ชั่วคราว”

“ให้เขาแล้ว ก็ช่วยเขาไม่ได้เหรอ?”

วีถามที่ผมอธิบายอยู่

“การให้มันช่วยเรื่องตอนนั้นที่กำลังร่อแร่ได้เท่านั้น เราต้องให้เขาเรียนรู้ที่จะหาด้วยตัวเอง เมื่อเขาทำเป็นแล้วยังขาด เราให้ช่วยเขาอีกได้ แต่ไม่ใช่ให้อย่างเดียว ยกเว้นบางเรื่อง”

“บางเรื่องเช่นอะไร?”

“เหมือนมีคนหิวจะตายอยู่แล้วเราไปสอนให้เขาปลูกผักรอหลายวันไม่ได้ใช่มั้ยล่ะ? เราต้องให้เขารอดตายไปด้วยแล้วพร้อมเรียนก่อน”

ผมตอบวิวที่ถามขึ้นมาพร้อมเอียงหัว จากนั้นหัวเธอเด้งมาตั้ง

“อ๋อ พี่วี มาทำร่วมกับหนูนะ”

“อืม”

วียิ้มอ่อนๆตอบวิว

เมื่อผมมีที่อยู่ มีบ้าน ผมจะเปิดมั่ง

มีอีกเรื่องที่ผมหนักใจ คิดทีไรใจหวิวตลอด

“แล้วก็ เลิกเรียกกันแบบพี่น้องเถอะ”

““เอออ๋!?””

“มันชวนให้คนได้ยินเข้าใจผิด ฉันจะไม่ห้ามอะไรพวกเธออีกแล้ว เธอจะทำอะไรกับฉันก็ได้ ยกเว้นที่สุดของความสัมพันธุ์เราต้องฉัน 21 แล้วพวกเธอ 20 ก่อน”

“เรื่องนี้อีกแล้วนะ วารี! ฉันเบื่อแล้ว! ทำไมแค่จะเป็นแฟนกับคนที่เรารักมันยากแบบนี้ ทำไมข้อแม้พะ- เธอเยอะอย่างนี้ เป็นคู่อื่นเขาไปถึงไหนกันแล้ว!”

ตอนแรกเธอตัดสินใจรอ แต่ผมทำให้มีอารมณ์ฉับพลันที่ใหญ่กว่านั้นขึ้นมา จนคำว่ารอกลายเป็นลมกลายเป็นอากาศไป เมื่อคิดหาเหตุผล คำตอบเดียวที่ได้คือเธอเป็นคน

วีวิ่งมา วิวจะจับ แต่คว้าไม่ทันเธอเร็วกว่าต่อฝึก เธอเอาจริง

วีตบหน้าผมแรงมาก หน้าผมสะบัดจนตัวโยก เธอมีน้ำตาไหลอาบแก้มเป็นเส้น

“ถ้าห้ามฉันนักแล้วฉันก็จะบอกให้รู้แล้วรู้รอดไป”

“พี่วี อย่าเลย! ไม่นานเราก็ 20 แล้ว”

วิวเรียกด้วยน้ำตาคลอ

“รู้มั้ยแต่ละปีฉันลำบากแค่ไหน ผู้หญิงปรกติเขามีเรื่องระบบพร้อมมีกันอยู่แล้ว แต่กึ่งสัตว์มีเรื่องที่อยากหาคู่แต่ละปีเข้ามาอีก”

วิวเอาแขนเสื้อเช็ดน้ำตา เธอพูดถึงช่วงเวลาติดสัตว์ของเหล่ากึ่งสัตว์

“เธอพร้อมอยู่แล้ว ทำไมเธอไม่ทำสักที ช่วงเวลาหาคู่เดี๋ยวก็จะมาอีกแล้ว ฉันกลัว วารีฉันอยากได้อบอุ่นเหมือนคนอื่นสักที”

ผมจับไหล่เธอ

“เธอยังเห็นฉันเป็นพี่ กับพี่มันรักแท้อยู่แล้วเป็นธรรมดา ฉันไม่อยากรักแท้กันเพราะความเป็นพี่ ฉันอยากเป็นคนแปลกหน้าของพวกเธอ วี! วิว!”

ผมปล่อยน้ำตาที่อั้นไว้เพราะกฎต่างๆ วีร้องไห้หนักกว่าเดิม

“แต่พะ- เธอเป็นพี่ หง่าาาาา”

วีน้ำตาแตก แต่เธอเกือบเรียกผมว่าพี่ วิวเดินมาแล้วถอนหายใจก่อนตบหน้าผม

“หนู 18 แล้ว!”

“ไม่ต้องเรียกตัวเองว่าหนูหรอกวิว พี่ไม่เห็นเธอเด็กกว่าแล้ว”

“ฉันจะเรียก อย่ายุ่งกับสิ่งที่ฉันเลือก”

วิวปฏิเสธผม มันหายากที่เธอจะโกรธ แต่เธอพูดถูก ถ้าผมจะเป็นคนแปลกหน้าจริง ถ้าเธอเลือก ผมต้องปล่อย

“เมื่อฉันเลิกเป็นพี่ แล้วพวกเราเคยห่าง ฉันให้เธอเลือกรอ พวกเธอก็รอ ฉันให้พวกเธอเรียนรู้ พวกเธอเรียนรู้แล้วก็ยังรอ ฉันจะให้พวกเธอสบายใจ เมื่อเวลา ‘นั้น’ มาถึง เราทั้งคู่รู้ดี เราผูกกันด้วยรักแท้จริงๆ ฉันอยากเป็นคนรักของพวกเธอ!”

“ว้าว”

เสียงป้าคุมะ ผมไม่ได้หันไปมอง ผมมองตาวีกับวิว

“ถ้าอย่างนั้นคบกับหนู!”

“ได้! ขอบคุณที่เลือกฉัน เวลาหาคู่เดี๋ยวฉันช่วยเอง ฉันมีวิธี ที่ยังไม่ต้องทำจริง”

“เอออ๋!? ได้ด้วย แล้วจะทำให้ด้วย! เรื่องจริงเหรอเนี่ย?”

วีดีใจมากจนยิ้มทั้งน้ำตา ผมเห็นวิวหน้าโกรธนิดๆ

“แล้วหนูอ่ะ เป็นแฟนกันนะ แล้วหนูจะรอ”

“ได้สิวิว”

“ว่าวี้ฮิ้ววววว!!!”

วีร้องคำเฉพาะตัว

“พวกเธอควรหาเงินที่สร้างตัวเองได้กันทั้งคู่โดยไม่ง้อพี่ สร้างอาชีพ เมื่อเลี้ยงตัวเองได้ พวกเธอจะเห็นค่าตัวเองมากขึ้น และขอร้อง ส่องกระจกด้วย”

“เอ๋!? ส่องทำไม”

วิวล้วงกระจกที่อยู่ในกระเป๋าที่เอว

“ก็ปรกตินี่”

“ใช่”

ผมตอบวิว

“อะไรแปลกๆอีกแล้วอ่ะดิ”

วีพูดเหมือนรู้ก่อน แหม

ผมเกาหัว หน้าร้อนขึ้นมามาก

“ดูเธอตอน 18 สิว่าสวยขนาดไหน ฉันก็ทนแบบของฉันเหมือนกัน”

ผมยังไม่อยากดูเธอชัดๆ กลัวจะคิดไกล ผมห้ามใจตัวเองไว้ ไม่มองใคร

พวกเธอหัวเราะเบาๆ

เพราะโลกเก่าผมชอบมองคนมากไป คนคิดว่าผมแปลกแล้วไม่ยุ่ง ผมต้องเลิกมันให้ขาด ตัดไปเลยแล้วเป็นเด็กให้ถึง 15 แล้วสร้างตัว

ผมมัวบอกตัวเองว่า ‘สร้างตัวก่อน มีค่าค่อยไปอยากคนนั้นคนนี้’

ผมต้องหาปัญญาก่อน ค่อยไปทำ ไม่ใช่ อยากก็ทำ ผมก็ทนมาตั้งแต่พวกเธอโตแล้วด้วย

และโลกเก่าผมก็ไม่ได้โตหนักหนา เรียนเรียนเรียน แล้วเข้าทำงาน สร้างตัวก็ไม่ได้ คบใครผมก็ไม่เคยเพราะผมคิดแบบนั้นแล้วมองอย่างเดียว

ตอนนี้ตัวผมมีค่าแล้ว ผมต้องตอบแทนที่เธอรอมั่ง ผมเลือกเป็นวัยรุ่นในโลกใหม่ และกิจกรรมผมคือสร้างตัว

ผมปาดน้ำตาแห้งๆ

จากนั้นผมหนไปมองมหัศศรี

“มหัศศรี แผนกผ่าตัดนายจะทำงานร่วมกันกับคิเซกิ แผนกวิจัยได้กันคนละ 8 ทองต่อเดือน”

ผมเขียนแผนกผ่าตัดและแผนกวิจัยลงกระดานดำ

“นายสองคนจะคนจะร่วมงานกันสร้างความรักให้ตัวเองกัน หมายถึงทำสิ่งที่พวกนายคิดจะทำ อยากทำมานาน”

“ห้ะ? ไม่ได้มีงานเรอะ? นึกว่าจะเอาฉันมาใช้หนักๆ”

“ฉันไม่ได้จะใช้พวกนายเป็นเครื่องมือ เราจะขับเคลื่อนด้วยความสุข รักชีวิต รักตัวเอง ฉันรู้ว่านายไม่พอใจกับสิ่งที่นายเป็นกันทั้งคู่”

ผมมองพวกเขา พวกเขายิ้มมุมปาก จับมือกัน

“ฉันจะให้พวกนายเปลี่ยนมันเอง ฉันจะให้ทุน ให้เวลา และฉันจะเปลี่ยนกฎโดยใช้เงินที่มี”

“นายกล้าลงทุนให้เราที่เป็นแค่เพื่อนเรียนหมอ? ไปเอาความกล้ามาจากไหน?”

“ความเชื่อ”

“ฮ่าฮ่าฮ่า ได้สิ ฉันจะทำมั่ง”

มหัศศรีหัวเราะ คิเซกิยิ้มกว้าง

ผมเขียนรายละเอียดงานว่า การผ่าตัดแบบใหม่

จากนั้นผมหันหาลูน่า

“ลูน่า เธอจะเป็นแผนกสัตว์ เธอจะหาคำตอบในสิ่งที่สัตว์ต้องการจะเป็น สิ่งที่สัตว์อยากวิวัฒนาการไปเป็น เรารู้ว่าสัตว์ให้ประโยชน์เรามากกว่าที่คิดโดยไม่มีอะไรเสีย แลกกับอาหาร”

ผมอธิบายให้เธอฟัง

“ระหว่างเวลาว่างหาว่าสัตว์ทำประโยชน์ต่างๆที่เราใช้เช่นน้ำร้อน, ตู้เย็น, นกรัก ชอบกินอะไรกัน”

ผมเขียนหาของกินให้สัตว์เลี้ยงบนกระดานหลังชื่อลูน่า

“งานหลักคือหานกรักที่กลายพันธุ์ ตอนนี้เรามีปัญหาเรื่องใช้นกรักหลายตัวอยู่กรงมันใหญ่ หาตัวเดียวที่สื่อได้หลายตัวเจอเมื่อไหร่บอกฉัน เธอจะได้ 9 ทองต่อเดือน”

ลูน่าพยักหน้า หน้าตาเฉยๆ แต่ผมเห็นได้ที่แววตาเธอว่าเธอมีความมุ่งมั่นอยู่หลังลูกตา

“ผักชี แผนกประดิษฐ์”

มันมีของที่ไม่มีบนโลกนี้อยู่เยอะมาก มีรถ มีเครื่องบิน มีรถไฟ

แต่รถไฟมีคาราวานอยู่แล้วที่ไว้ให้คนเยอะๆเดินทางไกลๆ

ผมเลือกโดรน ลองจินตนาการ

อุบัติเหตุมันจะเยอะ และทุกคนไม่ใช่นักบิน ผมต้องหาคนขับที่อุบัติเหตุน้อยที่สุด

แต่ผมต้องเริ่มจากของที่คนกินเยอะก่อน

ผักชีเริ่มหันซ้ายหันขวาดูคนนั้นคนนี้ เหมือนทำอะไรไม่ถูก เพราะคำสั่งไม่มาสักที

ผมสั่งงาน

“งานเมื่อว่าง ทำเครื่องเก็บข้อมูล ‘คอมพิวเตอร์​’ เครื่องที่เหมือนเบเรชนุ่ง ดูว่าเบเรชนุ่งทำงานอย่างไร และใช้สารกึ่งตัวนำด้วย”

“สารกึ่่งตัวนำ?”

“สารที่ทั้งนำกระแสหินจื่ดๆและป้องกันพร้อมกัน มันจะทำให้ไฟวิ่งผ่านไม่ค่อยดี ฉันก็ไม่รู้มันทำงานยังไงเหมือนกัน แต่ที่ที่ฉันมา มีเครื่องที่เก็บข้อมูลในกระดาษจำนวนเยอะๆและส่งภาพผ่านจอ”

ผมวาดชุดเครื่องคอมพิวเตอร์บนกระดาน ผมชี้ซีพียู

“ตู้นี้จะเป็นสมองของมัน จากนั้นมีจอแสดงภาพที่สมองคิด และมีแป้นพิมพ์ตัวอักษร จากนั้นมี หนูแทนลูกศรบนจอ งานนี้ไม่ต้องรีบ ฉันรู้ว่ามันยาก เธอจะได้วันละ 2 ทอง”

จากนั้นผมวาดเครื่องทำน้ำแข็งกับเครื่องปั่น

“ส่วนนี้เครื่องทำน้ำแข็งกับเครื่องปั่น”

“น้ำแข็ง? คืออะไร”

ผักชีเอียงหัว ผมยิ้มแล้วตอบผักชี

“น้ำที่เย็นมากจนแข็งน่ะ”

“ไม่เคยเห็นเลย”

ผักชีหน้าตาเหมือนอยากรู้อยากเห็น

“มันจะเย็นเจี้ยบ”

ผักชียิ้มให้กับคำพูดผม

“น้ำจะขึ้นไปที่แท่ง ตอนนั้นให้ตัดมาใช้ความเย็นจากกบตู้เย็นหรือกบคูล”

ผมวาดภาพน้ำขึ้นไปโดนแท่งโลหะ

“แล้วเมื่อน้ำแข็งตัวได้เป็นก้อนที่ติดแท่ง ก็เอาน้ำลง”

  ผมวาดรูปก้อนน้ำแข็ง

“จากนั้นใช้ความร้อนให้น้ำแข็งตกลงไปข้างล่าง ในที่เก็บ”

ผักชีมองกระดานและไม่หันไปมองอะไรอื่นเลย

จากนั้นผมวาดใบมีดเครื่องปั่น กับตัวกรวย

“นี่คือเครื่องปั่น เมื่อใส่น้ำแข็ง ใส่น้ำที่จะชงลงไป ปิดฝา ปั่น น้ำแข็งจากก้อนจะกลายเป็นเกล็ด”

ผมเขียนว่ามอเตอร์อยู่ตรงไหน ผักชีมองอย่างตั้งใจ

“นี่คืองานของเธอ ฝากด้วยล่ะ”

“เชื่อมือฉันได้เลย!”

ตาผักชีดูไม่กลัวอะไร

ผมหันหาพี่คุมะ

“พี่คุมะแผนกอาหาร ผมจะให้พี่วันละ 2 ทอง พี่เริ่มทำตำผลสุกดิบก่อนพี่จะใช้สูตรเดิมเป็นตำปลาร้า แล้วคิดสูตรตำไทยที่รสออกเปรี้ยวหวาน ใส่ปูดองหรือไม่ใส่ก็ได้แล้วแต่ชอบกิน แล้วก็ตำปูปลาร้า, ตำแตง, ตำขนมจีน”

“ไม่เรียกฉันว่าพี่มั่งสิ เธอรู้ว่าฉันต้องการอะไร”

แต่คุมะอายุมากกว่าผมเป็น 10 ปี ผมทำตามสิ่งที่เธอขอ

“ได้สิ คุมะ”

“ฮ่าฮ่าฮ่า เขินจัง โตมาตั้งเท่านี้ ไม่คิดว่าจะมีเด็กมาเรียกเหมือนแฟน”

คุมะหน้าแดงนิดหน่อย

ผมเขียนเมนูพร้อมอธิบาย พี่คุมะกอดอกแววตาอยากเริ่่ม แล้วผมเขียนเมนูลาภต่างๆกับเมนูย่างต่างๆ

“และที่ขาดไม่ได้ ข้าวเหนียว”

“ข้าวเหนียวป้าว่าต้องที่มาร์แลนด์อร่อย ที่นี่มันแฉะไป”

มาร์แลนด์ เมืองแห่งทะเลทรายน่ะเหรอ? มันอยู่บนศิโรและกัลเลีย ผมแวะได้

และที่โครอลลัลเรย์เรียมีข้าวเหนียวอยู่ แต่แฉะ

“เดี๋ยวผมดูแลเรื่องจัดหาตัวข้าวก่อนหุงเอง”

“อิ้ม เอามาเร็วๆล่ะ

พี่คุมะเร่งผมหลังได้ยินผมพูด ผมเขียนรายละเอียด

จากนั้นผมหันไปหาพี่อเด็ป

“พี่อเด็ป แผนกเสื้อผ้าพี่จะคิดค้นยกทรงกับการเกงในใส่สบาย เน้นผ้าโปร่งแต่ไม่ใส เมื่อสัมผัสกับผิวจะให้ความรู้สึกนุ่มพิเศษ”

ผมวาดชั้นในแบบธรรมดาและแบบกีฬา ชุดชั้นในแบบเป็นเสื้อ

ผมชี้ที่แบบธรรมดา

“แบบนี้จะมีคุณสมบัติบีบให้หน้าอกมันเข้าหากันจนเกิดเป็นเส้นโค้งสวยๆ”

ผมวาดโค้งเนินหน้าอก พี่อเด็ปตั้งใจดู แล้วเขียนบนสมุดเล่มเล็กๆ

“จากนั้นมีแบบเซ็กซี่น้อย เซ็กซี่มากแต่เน้นความสวยผ้าลูกไม้เซ็ตนึง ความสบายอีกเซ็ตนึง ความเซ็กซี่ชิ้นเล็กอีกเซ็ตนึง”

เมื่อดูหน้าพี่อเด็ป พี่อเด็ปดูไม่หวั่น

มันมีเสื้อยืดอยู่แล้ว และมีเสื้อผ้าออกแฟนตาซีเก่าๆ มีเสื้อกล้าม

“จากนั้นเวลาว่าง คิดซิป”

ผมวาดรูปซิป

“มีตัวรูด พอเลื่อนขึ้น เสื้อจะปิด พอรูดลงล่าง เสื้อจะเปิดแยกออกจากกัน ความคิดคือ ใส่เสื้อ รูดซิป แล้วออกข้างนอกได้เลย”

ผมวาดตัวซิป เมื่อเปิด ตัวรูดด้านข้าง

พี่อเด็ปยังเอียงหัวอยู่ จากนั้นวาดรูปใส่สมุดโน้ตเล็กๆ

พี่อเด็ปวาดภาพเสร็จก็เอาสมุดลง ดูคิดหนัก

“ซิปลองถามผักชี”

เหลือแผนกสุดท้ายพี่เนตรทิพย์ แต่ไม่สิ ยังเหลือเด็ก 10 ขวบอีกคน แต่เธอต้องเรียนและโตก่อน ผมเริ่มคิดสิ่งที่ทำควบคู่ไปกับความเชื่อไว้ที่มุมใจ

“พี่เนตรทิพย์ แผนกเครื่องประดับ เรียนเจียเพชร”

ผมวาดรูปเพชรพร้อมตีเหลี่ยมของมันเท่าที่จำได้

ที่โลกนี้มีอยู่แล้วแต่ใช้เป็นก้อนใหญ่และไม่สะท้อนแสงดี คนจึงไม่นิยมเล่นเพชรแล้วไปเล่นพลอยสีหลักๆมากกว่าเพราะเจียเหลี่ยมสะท้อนแสงวับๆกว่า แต่ก็เป็นเหลี่ยมที่ไม่ค่อยสวย

“เน้นฝังแบบหนามเตยกับฝังแบบสอดล็อค”

ผมวาดการฝังหนามเตยร่วมหนามเตยเม็ดเดี่ยว หนามเตยแยก ฝังสอดล็อกด้านข้าง

พี่เนตรทิพย์วาดอย่างเร็ว ผมเดินไปดู ภาพไม่ผิดเพี้ยนไปเลย แถมมีแบบแหวนเพชรที่เสร็จแล้วด้วย

“พี่จะได้ 5 ทองต่อเดือน”

พี่เนตรทิพย์พยักหน้าแต่ดูกลัวๆนิดหน่อย

“เอาล่ะ ทุกคนอย่าลืมหาคนมาทำแทน ทำให้เป็นแล้วสอนทุกอย่างให้เป็น คนไหนอยากจ้างถามนาได้เลย”

“““ได้เลย!”””

ทุกคนตอบรับพร้อมกันยกเว้นเด็กลูกเลี้ยงนา ผมเดินไปหาเด็กคนนั้น

หุ่นเธอเหมือนเด็กผู้ชาย แต่ผมยาวเกือบประบ่าทำให้รู้ว่าเธอเป็นผู้หญิง ถ้าดูดีๆ หน้าเธอครึ่งหนึ่งออกผู้ชาย อีกครึ่งหนึ่งออกผู้หญิง

หน้าเธอสมมาตรแบบสองเพศ แต่ก็ยังดูน่ารักแบบเด็กๆ

“ส่วนน้อง”

ผมยืนหน้าน้องเขาแล้วพูด

“เรียนและเติบโต ยังไม่ต้องทำงาน อายุเท่าไหร่แล้ว?”

“11!”

ตัวเธอเตี้ยกว่าเด็ก 11 ปรกติแต่สูงกว่าดวอร์ฟ

“ขอดูเข่าหน่อย”

เข่าไม่เหมือนดวอร์ฟ แต่สีออกเขียวๆ

“ขอดูเท้าหน่อย”

“ดะ, ได้”

เท้ามีดอกไม้งอก เธอเป็นเผ่านางไม้ ช่วงเด็กนางไม้โตมันต้องใช้ความรักแต่เธอขาดมัน

หน้าน้องเขาสับสนมาก

“สุดท้าย แต่ก่อนเป็นอะไร?”

“กำพร้า”

เธอพูดเบาๆ ไม่มองผม

ถ้าอย่างนั้นเธออาภัพเหมือนกัน ผมเปลี่ยนไปเรื่องอื่น

“ตั้งใจเรียนฝึกร่างกายกับวีและวิว ว่างก็เล่น อยากดูใคร ดูได้เลย! อยากถามอะไร ถามได้เลย! ทำสิ่งที่อยากทำ น้องชอบอะไร?”

“หนูชอบเพื่อนหนู เขาไม่เหมือนใคร เขาก็คนเดียวเหมือนหนู”

วิญญาณก็ไม่ได้สบาย ไม่มีใคร ทำอะไรใครไม่ได้เหมือนกัน

“หนูชื่อ ‘เฟท’ ส่วนเพื่อนหนูจะชื่อ”

ผมฉุกคิด

“เพื่อนหนูชอบอะไร?”

“ชอบอะไรเหรอเธอ?”

เด็กถามความว่างเปล่าหลังผมถาม

“เขาชอบหนูเหมือนหนูชอบเขา”

“เพื่อนเธอชื่อ ‘ซิ่นเนี่ยน’ จากนี้ไปเธอคือ เฟทและซิ่นเนี่ยน”

“เย้ซิ่นเนี่ยนเราได้ชื่อแล้ว ฉันเฟทนะ”

เธอจับมือกับอากาศแล้วให้ส้นเท้าเป็นแกนตัวเพื่อหมุน

เฮ้ นี่มันผิดแล้ว วิญญาณมีน้ำหนักได้ด้วยหรือ?

จากนั้นเฟทกอดลม แล้วลอย เฮ้! ไม่ใช่แล้วนี่มันลอยได้แล้วเนี่ย! ซิ่นเนี่ยนยกคนได้ด้วย?

อะไรๆมันผิดกฎไปเยอะจนผมสับสน

“โอ้วิทยาศาสตร์ของฉัน หายไปไหนแล้ว?”

เฟทหันมาเอียงหัว ผมใช้มือขยี้ผมเธอให้เสียทรง

เธอจัดมันมองผมหน้าเหมือนงอน

สุดท้ายผมก็ยังไม่เห็นซิ่นเนี่ยนอยู่ดี

“เอาล่ะ สงบกันก่อน ทุกคนได้รับงานแล้ว ทุกคนพร้อมมั้ย”

“““พร้อม”””

ทั้งหมดพูดเป็นเสียงเดียวกัน

“เอาล่ะ คนฮาโมนี่ทุกคน ตั้งแต่นี้ เราจะบรรเลงงานอย่างจริงจังกัน เลิกประชุมครับ!”

พี่เนตรทิพย์เริ่มปรบมือก่อน จากนั้นเฟทตบมือเสียงดังพาทุกคนปรบมือ ผมคำนับก่อนแล้วมองหน้าวีกับวิว

วิวปรบมืออย่างตั้งใจมากเกินไปหน่อย ผมหัวเราะอยู่ในใจ วีปรบมือแบบให้เกียรติ

พวกเธอไม่ร้องไห้กันแล้ว แม้ยังเห็นอยู่ว่าดวงตามีแดงๆ

ผมฟังทุกคนปรบมืออยู่สักพักแล้วยิ้มอ่อนๆให้ทุกคนก่อนเดินออกมาจากห้อง

ถ้าผมยังอยู่คงปรบมือกันไม่หยุด

“ฟู่ว ผ่านไปแล้วสินะ”

ผมถอนหายใจโล่งใจสั้นๆ

ต่อไปผมต้องไปรับพวกเพื่อนๆบ้านกำพร้าเดียวกันที่ไม่มีงาน ลองไปหาหมายเลข 11 เด็กดวอร์ฟเผื่อไปด้วยถ้ามีเวลา

ไม่สิเขาเรียกตัวเองว่าเหล็กกล้าแล้ว เป็นชื่อที่เหมาะกับเขาดี ผมสงสัยว่าเขาจะแปลชื่อตัวเองว่าอย่างไร

ขอให้งานออกมาเร็วๆ ผมจะได้สร้างเงินให้ตัว สร้างชีวิต ไปด้วยกันกับเพื่อน

ร่วมงานกันเป็นฮาโมนี่

แปลโดย: wayuwayu

tipme : tipme.in.th/wayuwayutl

ได้โปรดโดเนทเพื่อสนับสนุนผู้แปล ด้วยการช่วยเหลือของท่านจะทำให้แปลต่อไปได้เรื่อยๆ ขอบคุณครับ

ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: https://x.com/wayutl

https://facebook.com/100087843892571/

กำพร้า ณ ต่างโลก

กำพร้า ณ ต่างโลก

Score 10
Status: Completed
นี่คือเรื่องราวของชายหนุ่มผู้ได้ไปเกิดต่างโลก แต่กระนั้นเขาเป็นกำพร้า แล้วตัดสินใจจะสร้างชีวิตใหม่ในโลกใหม่ใบนี้ ร่วมใช้ชีวิตไปกับเขา ณ โลกใหม่กับคนใหม่ๆ กับ กำพร้า ณ ต่างโลก

Options

not work with dark mode
Reset