ขณะที่ชีวิตของจ้าวจวิ้นแขวนอยู่บนเส้นด้ายนั้น หลิงเทียนหมายเลขสี่กับหมายเลขห้าที่สังหารลูกทีมของเหลยถิงสำเร็จแล้วก็ลงมือพร้อมกันทันที ดาบแสงของพวกเขาเล่มหนึ่งมาจากด้านบน ส่วนอีกเล่มมาจากด้านล่าง แทงเฉียวถิงด้วยองศาที่จับทางได้ยากอย่างอำมหิต
เมื่อเผชิญหน้ากับการจู่โจมเฉียบพลันของคนทั้งคู่ มุมปากของเฉียวถิงก็เผยรอยยิ้มหยัน เทียบกับตอนเริ่มแรก เขาดูระแวดระวังลูกทีมของหลิงเทียนสองคนนี้อย่างยิ่งแล้ว ดังนั้นเขาจะไม่เตรียมตัวป้องกันตัวจากการจู่โจมกะทันหันของพวกเขาอีกได้อย่างไร?
ทันใดนั้นก็เห็นหุ่นรบของเฉียวถิงบิดตัวอย่างแปลกประหลาด ดาบแสงสองเล่มที่ลอบโจมตีมาเฉียดผ่านด้านข้างหุ่นรบของเขาอย่างน่าหวาดเสียว ทว่าไม่ได้สร้างความเสียหายให้เขาเลยแม้แต่น้อย เวลาเดียวกันดาบแสงของเขาที่กระหน่ำโจมตีใส่จ้าวจวิ้นพลันเปลี่ยนทิศทาง แทงใส่หุ่นรบหนึ่งในนั้นด้วยองศาที่คาดไม่ถึงอย่างรวดเร็วสุดขีดเช่นกัน…
การโจมตีของเฉียวถิงมาอย่างรวดเร็วฉับพลันมากเกินไป ดาบแสงแทงทะลุการป้องกันของโล่แสงหุ่นรบ จมหายเข้าไปในห้องคนขับโดยตรง…
ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงจากการที่ร่างกายถูกเสียบทะลุแทบทำให้ลั่วล่างหมดสติไป ลั่วล่างกัดฟันกรอด ร่างกายสั่นสะท้าน ดวงตาสองข้างที่เดิมทีฉ่ำรื้นกระจ่างใส เปลี่ยนเป็นเย็นชาอำมหิตไร้ความปรานีในวินาทีถัดมา เขาในยามนี้คล้ายกับสัมผัสไม่ได้ถึงความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสที่ส่งผ่านมาจากทางร่างกายแล้ว
“ฮึ ต้องให้ฉันมาทนรับช่วงวิกฤติเนี่ยนะ บุคลิกหลักอย่างนายไม่มีความรับผิดชอบเกินไปแล้ว” ขณะที่ลั่วล่างกำลังพึมพำกับตัวเองอยู่นั้น เขาก็กดปุ่มระเบิดตัวเองของหุ่นรบอย่างเฉียบขาด แล้วยื่นมือทั้งสองข้างออกไปจับดาบแสงที่เสียบทะลุร่างของเขาไว้แน่น พลังงานที่ดาบแสงปลดปล่อยออกมาเผาสองมือของลั่วล่าง ทว่าลั่วล่างไม่รู้สึกอะไรเลยสักนิดเดียว ราวกับว่าร่างกายนี้ไม่ใช่ของเขาก็ไม่ปาน
ตอนนี้เอง เฉียวถิงกำลังอยากดึงดาบแสงออกจากในห้องคนขับของหลิงเทียนหมายเลขห้า ทว่าเมื่อเขาชักทีหนึ่งกลับไม่สำเร็จ ดาบแสงติดอยู่หรือไงนะ?
“ลั่วล่าง…” หลี่อิงเจี๋ยที่อยู่ด้านข้างเห็นลั่วล่างถูกแทง เขาก็ร้องด้วยความตื่นตระหนกขึ้นมาทันใด
“หลบ!” เสียงเย็นเยียบของลั่วล่างดังมาจากในช่องสื่อสารของหุ่นรบ หลี่อิงเจี๋ยพลันนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขาหน้าเปลี่ยนสีทันที ก่อนจะถอยกรูดไปข้างหลังอย่างรวดเร็ว
“เชี่ย ไอ้หนูลั่ว รอพี่ชายก่อนสิ!” จ้าวจวิ้นได้ยินเสียงของลั่วล่างเช่นเดียวกัน ยังมีอะไรไม่เข้าใจอีกล่ะ ดูท่าลั่วล่างเตรียมตัวใช้กลยุทธ์ที่สองของหลิงหลานแล้ว ใครใช้ให้พวกเขาเจอเฉียวถิงก่อนเล่า
กระทั่งรุ่นน้องตัวน้อยที่เด็กกว่าเขาสี่ปียังไม่กลัว แล้วเขาจะหัวหดได้เหรอ? จ้าวจวิ้นกัดฟันกรอด ตัดสินใจโยนดาบแสงที่มีพลังเหลืออยู่ไม่เท่าไหร่ทิ้งไป ก่อนจะขับหุ่นรบให้พุ่งเข้าไปอย่างดุดันในระหว่างที่เฉียวถิงไม่อาจชักดาบแสงออกมาจนทำการโจมตีไม่ได้ หลังจากนั้นก็กอดหุ่นรบของเฉียวถิงเอาไว้แน่นๆ
เฉียวถิงเห็นทั้งสองคนถึงตายก็ไม่ยอมถอยหนี เขาก็ตะลึงงันไป ความคิดหนึ่งแล่นวาบขึ้นในสมอง สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างยิ่งยวด ก่อนจะทิ้งดาบแสงในมือโดยไม่ลังเล หุ่นรบเร่งพลัง หมายจะสลัดหลุดจากการพัวพันของจ้าวจวิ้น ขณะเดียวกันยังเปิดใช้งานโล่แสงของหุ่นรบไพ่ราชาจนถึงขีดสุด…
ทว่ามันรวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ เฉียวถิงยังไม่ทันหลุดพ้นจากการพัวพันของจ้าวจวิ้น เสียง ‘ตูมๆ’ ดังสนั่น เสียงระเบิดขนาดใหญ่ดังขึ้นติดต่อกัน หุ่นรบของลั่วล่างกับหุ่นรบของจ้าวจวิ้นพลันระเบิดออก พลังงานมหาศาลซัดทรายขาวบนพื้นปลิวว่อนไปในอากาศ ทั่วทั้งพื้นที่ภายในรัศมีหนึ่งร้อยเมตรถูกทรายขาวปกคลุม ผู้ชมไม่อาจมองเห็นสถานการณ์ด้านในได้ชัดเจน
“ปังๆๆ!” ส่งเสียงชนกันอย่างรุนแรงดังออกมาจากด้านในอีกครั้งภายใต้สถานการณ์ที่ไม่รู้เช่นนี้ จากนั้นหุ่นรบตัวหนึ่งพลันบินออกมาจากในบริเวณที่ทรายขาวปกคลุม บนร่างหุ่นรบตัวนั้นปล่อยควันโขมงออกมาหลายสาย หุ่นรบที่เดิมทีส่องประกายสีเงินพราวพร่าง เวลานี้เปลี่ยนเป็นทะมึนเล็กน้อย เปลือกนอกของหุ่นรบที่เกลี้ยงเกลาปรากฏร่องรอยความเสียหายหลายจุด หุ่นรบตัวนี้ก็คือหุ่นรบไพ่ราชาของเฉียวถิงนี่เอง ดาบแสงซึ่งเป็นอาวุธโจมตีแต่เดิมไม่อยู่แล้ว แทนที่ด้วยปืนลำแสงกระบอกหนึ่ง เล็งไปยังด้านในทรายขาวที่พร่ามัว ก่อนจะเหนี่ยวไกลงไป ลำแสงสายหนึ่งสาดออกมาจากปากกระบอกปืน
จากนั้นหุ่นรบอีกตัวก็บินออกมาจากในทรายขาวเช่นกัน เผชิญหน้ากับลำแสงที่พุ่งเข้ามา เขาไม่ได้เลือกหลบหนี หากแต่ประจันหน้าตรงๆ เขาก็คือหลิงเทียนหมายเลขสี่ที่รอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียวจากในหุ่นรบหลิงเทียนสามตัว
“หมอนี่รนหาที่ตายแล้ว!” เมื่อเห็นการกระทำโง่เง่าเช่นนี้ของหลิงเทียนหมายเลขสี่ บรรดานักเรียนที่ชมการต่อสู้ก็อดสบถขึ้นไม่ได้ ไม่ใช่ดูถูกหลิงเทียนหมายเลขสี่ หากแต่การกระทำที่มุทะลุดุดันเป็นชุดของสมาชิกทีมหลิงเทียนทำให้เหล่านักเรียนที่ชมการประลองอดเอนเอียงไปทางหลิงเทียนเองไม่ได้ ดังนั้นพวกเขาเลยไม่อยากเห็นหลิงเทียนหมายเลขสี่พลีชีพอย่างเปล่าประโยชน์
ลำแสงยิงโดนหลิงเทียนหมายเลขสี่อย่างที่คาดเอาไว้ โล่แสงของหุ่นรบมืดสลัวลงไปในชั่วพริบตาเพราะปืนนัดนี้ ทุกคนต่างรู้ว่า ขอเพียงยิงโดนอีกนัด หุ่นรบของหลิงเทียนหมายเลขสี่ก็จะทานทนไม่ไหว วอดวายทั้งคนทั้งหุ่นรบอย่างแท้จริง
“รีบหลบเร็วเข้า ไอ้งั่ง!” พวกนักเรียนที่ชมการต่อสู้กำหมัดตัวเองแน่นท่ามกลางเสียงสบถด่าด้วยความโกรธเกรี้ยว หวังว่าหลิงเทียนหมายเลขสี่จะไม่หุนหันพลันแล่น ปกป้องตัวเองให้ดีก่อน แล้วค่อยคิดวิธีอื่นโจมตีเฉียวถิงอีกที…
น่าเสียดาย ความหวังของพวกนักเรียนที่ชมการต่อสู้ไม่เป็นจริง หลิงเทียนหมายเลขสี่คล้ายกับสูญเสียสติสัมปชัญญะไปแล้วเพราะการระเบิดตัวเองของสมาชิกสองคนในทีมตน เขาที่คลุ้มคลั่งพุ่งไปหาเฉียวถิงราวกับแมลงเม่าบินเข้ากองไฟโดยไม่มีความเกรงกลัวเลยสักนิดเดียว…
ดวงหน้าของเฉียวถิงผุดร่องรอยความเยาะหยันเมื่อเผชิญหน้ากับการกระทำที่ไร้สมองแบบนี้ เขาขับหุ่นรบให้ถอยหลังไปพลาง เหนี่ยวไกปืนในมืออย่างใจเย็นไปพลาง ขอแค่นัดเดียวเท่านั้น หลิงเทียนหมายเลขสี่คนนี้ก็จะถูกเขาสังหารขับไล่ออกไปจากสนามเหมือนกับอีกสองคน
ปากกระบอกปืนลำแสงเบ่งบานรัศมีแสงสีขาวส่องจ้าสายหนึ่งอีกครั้ง ก่อนจะพุ่งใส่หลิงเทียนหมายเลขสี่ ขณะที่ทุกคนคิดว่าหลิงเทียนหมายเลขสี่จะต้องตายแน่นอน ทันใดนั้นเองลำแสงสายหนึ่งพลันตกลงมาจากบนฟ้าเหนือพวกเขา สกัดลำแสงที่กำลังจะยิงโดนหลิงเทียนหมายเลขสี่เอาไว้ ลำแสงสองสายละลายกันเอง ท้ายที่สุดก็ร่วงกระจายลงมาท่ามกลางอากาศ
แน่นอนว่าเมื่อลำแสงสองสายนี้กระจายออก มันยังคงมีพลังงานบางส่วนเล็ดรอดออกมา ถ้าเกิดหลิงเทียนหมายเลขสี่หยุดชะงัก รอจนกระทั่งพลังงานหายไปจนหมดแล้ว เขาก็จะไม่เป็นไร ทว่าหลิงเทียนหมายเลขสี่ไม่พิจารณาจุดนี้เลย ตรงกันข้าม เขากลับเร่งความเร็วพุ่งไปหาเฉียวถิง หุ่นรบทะลวงผ่านบริเวณที่พลังงานลำแสงกระจายตัว พลังงานเหล่านี้นำความเสียหายมาให้หุ่นรบอีกครั้ง โล่แสงที่เดิมทีมืดสลัวมากแล้ว สูญเสียรัศมีแสงไปอย่างสิ้นเชิงเพราะการกระทำของเขา ทั่วทั้งร่างของหุ่นรบเปลี่ยนเป็นสีเทา…
“ต่อให้ฉัน หลี่อิงเจี๋นต้องพ่ายแพ้ออกไปจากสนาม ก็จะกัดเนื้อบนตัวคู่ต่อสู้มาให้ได้” หลี่อิงเจี๋ยเห็นว่าเพื่อนร่วมทีมมาถึงแล้วในที่สุด เขาก็หัวเราะดังลั่นขึ้นมาอย่างลำพองใจ เปิดใช้งานเครื่องยนต์ไอพ่นทั้งหมดของหุ่นรบ เร่งขึ้นไปจนถึงขีดสูงสุดโดยไม่ลังเล
หุ่นรบทำงานเกินพิกัดจนร่างของหุ่นรบวาดออกเป็นเงาเลือนรางสายหนึ่ง พุ่งไปที่ตัวหุ่นรบของเฉียวถิงในชั่วพริบตา เนื่องจากการทำงานเกินพิกัดจึงทำให้หุ่นรบที่พังเสียหายอย่างหนักของหลี่อิงเจี๋ยไม่อาจทานทนไหว หุ่นรบเริ่มแตกสลาย เกราะชั้นนอกบางส่วนหลุดออกมาจากตัวหุ่นรบ ร่วงลงมาจากฟ้า ต่อให้ไม่มีการโจมตีจากพลังภายนอก หุ่นรบของหลี่อิงเจี๋ยทนอยู่ได้อีกแค่ไม่กี่วินาทีก็จะพังทลายโดยสิ้นเชิง…
ทันทีที่เฉียวถิงเห็นการกระทำของหลี่อิงเจี๋ย เขายังไม่รู้ได้อีกเหรอว่าอีกฝ่ายคิดทำอะไร เขากำลังคิดจะเปิดใช้ความเร็วหุ่นรบจนถึงขีดสุด เตรียมตัวหลบการโจมตีแบบพลีชีพของหลี่อิงเจี๋ย ทว่าตอนนี้เอง ลำแสงต่อเนื่องชุดหนึ่งปกคลุมลงมาบนศีรษะของเขา เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีของลำแสงที่มาอย่างท่วมท้นแบบนี้ เฉียวถิงแทบจะไม่มีโอกาสหลบเลย ทำได้เพียงตัดสินใจยิงลำแสงสวนกลับเพื่อหักล้างการโจมตีเหล่านี้ แต่การตัดสินใจแบบนี้ทำให้เขาไม่สามารถหลบหลี่อิงเจี๋ยได้
วินาทีถัดมา ขาขวาของหุ่นรบเขาถูกหลี่อิงเจี๋ยกอดไว้ เฉียวถิงหน้าถอดสี เขาหันปากกระบอกปืนฉับพลัน เล็งไปยังหลี่อิงเจี๋ยที่กอดต้นขาของเขาไว้ ต่อให้หุ่นรบโดนอีกฝ่ายยิง เขาก็ต้องจัดการหลิงเทียนหมายเลขสี่ที่คุกคามหุ่นรบของเขาตัวนี้ก่อน
“หมายเลขสิบเอ็ด จากนี้ต้องพึ่งนายแล้ว” หลี่อิงเจี๋ยกดปุ่มระเบิดตัวเองของหุ่นรบท่ามกลางเสียงตะโกนดังลั่น และหุ่นรบของหลิงเทียนที่ปรากฏตัวใหม่นั้น ถึงแม้มันไม่ได้ตอบ ทว่าลำแสงที่ปากกระบอกปืนสาดออกมาอย่างบ้าคลั่งก็คือการตอบรับคำพูดประโยคนี้ของหลี่อิงเจี๋ย
ขณะที่ลำแสงของเฉียวถิงยิงโดนหลี่อิงเจี๋ย เสียง ‘ตูม’ หนึ่งดังสนั่น หุ่นรบของหลี่อิงเจี๋ยที่ถูกทำลายจนยับเยินตัวนั้นพลันกลายเป็นเปลวไฟกลุ่มหนึ่ง พลังงานมหาศาลจากการระเบิดทำให้อากาศบิดเบือนขึ้นมา
เวลานี้ เหล่านักเรียนที่ชมการต่อสู้ต่างเงียบกริบ พวกเขาไม่รู้แน่ชัดว่า ระเบิดนั้นเป็นผลจากการที่หลี่อิงเจี๋ยระเบิดตัวเองสำเร็จ หรือว่าเป็นผลจากการที่ถูกเฉียวถิงสังหาร แต่ไม่ว่าผลลัพธ์ไหนต่างทำให้พวกเขาเกิดความชื่นชมนับถือต่อกลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนที่ก่อตั้งขึ้นใหม่นี้ นึกไม่ถึงเลยว่าหน่วยรบหลิงเทียนที่ก่อนรบไม่มีโอกาสชนะเลยแม้แต่น้อยจะสามารถต่อสู้ได้ถึงระดับนี้ ไม่คาดคิดว่าหุ่นรบระดับพิเศษหนึ่งตัวกับหุ่นรบระดับสูงสองตัวจะบีบเฉียวถิงจนตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก นี่เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนับตั้งแต่ที่เฉียวถิงเลื่อนขั้นเป็นไพ่ราชา
“อ้า พวกนายดูสิ หุ่นรบของราชันสายฟ้า!” ท่ามกลางเขม่าควันที่ตลบอบอวน ในที่สุดหุ่นรบของเฉียวถิงก็บินออกมาจากในเปลวไฟหมอกควัน เวลานี้ภายนอกของหุ่นรบเขาทำให้บรรดานักเรียนที่ชมการประลองตื่นตะลึงอย่างยิ่งยวด ที่แท้ ขาขวาครึ่งท่อนล่างของหุ่นรบเฉียวถิงถูกระเบิดหายไปแล้ว
“หลิงเทียนหมายเลขสี่ เขาระเบิดตัวเองสำเร็จแล้ว!” คนที่สนับสนุนหลิงเทียนตะโกนขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นยินดี ถ้าหากหลิงเทียนหมายเลขสี่ทำอย่างที่พูดในตอนที่เขาออกจากสนาม เขาก็กัดเนื้อของเฉียวถิงพาขาขวาครึ่งท่อนล่างของหุ่นรบเฉียวถิงออกไปจากสนามต่อสู้ได้อย่างสมศักดิ์ศรีแล้วจริงๆ
“คำเตือน คำเตือน หุ่นรบถูกทำลาย 15% แล้ว พลังป้องกันลดลงไป 15% ความเร็วในการบินลดลง 12% โปรดปรับพารามิเตอร์ความสมดุลของหุ่นรบทันที…” ออปติคัลคอมพิวเตอร์ของหุ่นรบเฉียวถิงส่งเสียงแจ้งเตือนฉุกเฉินหลายครั้ง เฉียวถิงควบคุมหุ่นรบให้คืนความสมดุลกลับมาเป็นดังเดิมอย่างรวดเร็วด้วยสีหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความอึมครึม เวลาเดียวกันยังหลบหลีกหลิงเทียนหมายเลขสิบเอ็ดที่กำลังจู่โจมเขา หรือก็คือศัตรูเก่าของเขา หัวหน้าเสนาธิการแต่เดิมของกลุ่มหุ่นรบอู๋จี๋ นักเรียนชั้นปีห้าหลี่หลานเฟิง
“ไม่นึกเลยว่า คนของหน่วยรบหลิงเทียนก็รู้ยุทธการนั้นด้วย!” ตอนนี้สีหน้าของถังอวี้ที่กำลังชมการต่อสู้ดูสับสนมาก เขามองเฉียวถิงที่ดูจนตรอกในหน้าจอ ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ เทียบกับเหลยถิงแล้ว หน่วยรบหลิงเทียนเตรียมตัวสำหรับการต่อสู้ครั้งนี้อย่างเต็มที่มากกว่า ลูกทีมเหล่านี้รู้ดีว่าตัวเองต้องทำอะไร…
“ดูท่า หน่วยรบหลิงเทียนเตรียมใช้ยุทธการนี้มาจัดการเฉียวถิงแล้ว” มุมปากของผู้อำนวยการเผยรอยยิ้มพึงพอใจออกมา ควรพูดว่า กลยุทธ์นี้ของหน่วยรบหลิงเทียนไม่เลวเอามากๆ เป็นกลยุทธ์เพียงอย่างเดียวที่หลิงเทียนอาจจะเอาชนะเฉียวถิงได้ในยามนี้
“ไม่รู้ว่าพวกเขารู้เรื่องกลศึกนี้ได้ยังไง” ถังอวี้เอ่ยด้วยรอยยิ้มขื่น ควรรู้เอาไว้ว่าตัวอย่างสงครามนี้ถูกสหพันธรัฐปกปิดไว้มาตลอด มีเพียงคนที่เลื่อนขั้นเป็นผู้ควบคุมไพ่ราชาเท่านั้นถึงมีสิทธิ์ศึกษาดูได้…
———————–