Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน 667 แด่อลิซ

ตอนที่ 667 แด่อลิซ

รอบ​เวที​ทั้ง​สี่ด้าน​

ผู้ชม​ต่าง​พูดคุย​กัน​เกี่ยวกับ​ท่า​มูน​วอล์ก​

ความสนใจ​ของ​ทุกคน​กระจัดกระจาย​ไป​มาก​

ต่อให้​เป็น​หลิน​เยวียน​เอง​ เขา​ยัง​ไม่สามารถ​ขจัด​ความ​ตกตะลึง​ที่​ผู้ชม​มีต่อ​ท่า​มูน​วอล์ก​ได้​ จน​สามเพลง​หลังจากนั้น​ไม่อาจ​ดึงดูด​ความสนใจ​ของ​ผู้ชม​ได้​อย่าง​เต็มที่​!

จะให้​รับ​เวที​ต่อ​จาก​มูน​วอล์ก​ได้​อย่างไร​ล่ะ​

แต่ว่า​…

เรื่อง​ทั้งหมด​หลิน​เยวียน​เป็น​คน​ก่อ​ขึ้น​เอง​

ใน​แถวหน้า​

เมื่อ​สังเกตเห็น​การ​ถกเถียง​อย่าง​ดุเดือด​เกี่ยวกับ​มูน​วอล์ก​ จู่ๆ รอยยิ้ม​ของ​เฟ่ย​หยาง​ก็​แปลก​ขึ้น​มาเล็กน้อย​ “นึกไม่ถึง​ว่า​อาจารย์​เซี่ยนอวี๋​จะรับ​เวที​ต่อ​ไม่ไหว​…”

เจียง​ขุย​ยิ้ม​ขื่น​

“ท่า​เต้น​เมื่อกี้​สุดยอด​มาก​ พวกเรา​ขึ้น​เวที​ไป​พร้อมกัน​ก็​รับ​ไม่ไหว​”

ซุน​เย่าหั่ว​หัวเราะ​ลั่น​ “รับ​ไม่ไหว​ก็​ไม่เป็นไร​ ถึงยังไง​ก็​เป็น​เวที​ของ​รุ่นน้อง​เอง​ คอนเสิร์ต​วันนี้​อลังการ​งาน​สร้าง​สุด​ๆ!”

“ถึงจะว่า​อย่างนั้น​ก็​เถอะ​ แต่​นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​ฉัน​เห็น​อาจารย์​เซี่ยนอวี๋​ทำ​อะไร​ไม่ถูก​บน​เวที​”

จ้าว​อิ๋ง​เก้อ​เอ่ย​ขึ้น​

นักร้อง​มืออาชีพ​ต่าง​มองเห็น​ปัญหา​ของ​เซี่ยนอวี๋​

บรรดา​พ่อ​เพลง​อย่าง​เจิ้งจิงและ​หยาง​จงหมิง​ย่อม​มองออก​เช่นเดียวกัน​

อิ่นตง​ครุ่นคิด​ กล่าวว่า​ “วันนี้​คน​ที่​เอาชนะ​เซี่ยนอวี๋​ได้​มีแค่​เซี่ยนอวี๋”​

เยี่ยจือ​ชิว​หยอกล้อ​ “นี่​คือ​เหตุผล​ที่​คุณ​​แพ้​เขา​อยู่​ร่ำไป​?”

เจิ้งจิงหัวเราะ​อย่าง​ไร้​ปรานี​

ส่วน​หยาง​จงหมิง​เลิกคิ้ว​

วิธี​จบ​การแสดง​เช่นนี้​ช่างไม่สอดคล้อง​กับ​สไตล์​ของ​เซี่ยนอวี๋​เอา​ซะเลย​

หรือว่า​ต้องการ​ให้​ผู้ชม​ทุกคน​ดื่มด่ำ​ไป​กับ​ความสนุก​สุดเหวี่ยง​ของ​การ​เต้น​ไป​จน​จบ​คอนเสิร์ต​

คน​ดนตรี​มืออาชีพ​ต่าง​มีความคิด​ของ​ตนเอง​

ขณะที่​ผู้ชม​กลับ​ไม่ได้​สนใจ​มาก​นัก​

พวกเขา​กำลัง​ถกเถียง​กัน​อย่าง​ออกรส​ออก​ชาติ​

ขณะที่​ถกเถียง​กัน​อยู่​นั้น​เอง​

ไม่รู้​ว่า​บน​เวที​มีเปียโน​โผล่​ขึ้น​มาบน​เวที​ตั้งแต่​เมื่อไหร่​

ด้านหน้า​ของ​เปียโน​

หลิน​เยวียน​เปลี่ยนไป​สวม​ชุด​สูท​สีขาว​ กำลัง​นั่ง​อย่าง​เงียบเชียบ​

ทันใดนั้น​เอง​

มือ​ของ​เขา​ปัด​คีย์​เปียโน​

และ​หลังจากนั้น​

เสียง​ของ​เขา​ดัง​ไป​ทั่ว​ทั้ง​สนาม​ “การแสดง​ชุด​สุดท้าย​ ขอ​มอบ​บทเพลง​เปียโน​นี้​ให้​กับ​ทุกคน​ครับ​”

พรึบ​ๆๆๆ !

ในที่สุด​ความสนใจ​ของ​ผู้ชม​จึงถูก​ดึงดูด​ไว้​ชั่วคราว​

ถึงแม้ความ​ตกตะลึง​จาก​ท่า​มูน​วอล์ก​ยัง​ดังก้อง​อยู่​ใน​ใจของ​พวกเขา​

“เพลง​เปียโน​”

“การแสดง​จบ​เป็น​เพลง​บรรเลง​?”

“หรือว่า​เป็น​เพลง​วิวาห์​ใน​ฝัน​?”

“น่าจะเป็น​เพลง​นั้น​”

“ผม​ชอบ​เพลง​วิวาห์​ใน​ฝัน​มาก​ นี่​เป็น​เพลง​ที่​เพราะ​ที่สุด​ของ​พ่อ​เพลง​อวี๋!”​

“พวกคุณ​รู้สึก​ไหม​ว่า​พ่อ​เพล​งอ​วี๋​หล่อ​มาก​!”

“เหลวไหล​น่า​!”

“เขา​สวม​สูท​สีขาว​ เหมือน​เจ้าชาย​ที่​หลุด​ออก​มาจาก​การ์ตูน​เลย​!”

“ผม​ยัง​อยาก​ดู​พ่อ​เพล​งอ​วี๋​เต้น​”

“ถ้าได้​ดู​พ่อ​เพล​งอ​วี๋​เต้น​อีก​คงจะ​ดี​”

“ท่า​เต้น​นั้น​ถ้ามีโอกาส​ฉัน​จะเรียน​ให้ได้​เลย​!”

“…”

ประเด็น​สนทนา​วกกลับ​มายัง​การ​เต้น​เมื่อ​ครู่​

แม้ว่า​เซี่ยนอวี๋​จะเล่น​เปียโน​และ​สวม​ชุด​สูท​สีขาว​ ก็​ไม่อาจ​ดึง​ความสนใจ​ของ​ผู้คน​กลับมา​ได้​ทั้งหมด​

ใน​คอนเสิร์ต​กลับมา​คึกคัก​อีกครั้ง​

และ​ท่ามกลาง​ความคึกคัก​นี้​

ทันใดนั้น​ มือ​ของ​หลิน​เยวียน​ปัด​ผ่าน​คีย์​เปียโน​…

ด้วย​การเคลื่อนไหว​อัน​ไหล​รื่น​ประหนึ่ง​สายน้ำ​ โน้ตเพลง​ไหลริน​จาก​ปลายนิ้ว​ของ​เขา​

อ่อนโยน​

หอม​หวาน​

ระคน​กับ​ความเศร้า​เล็กน้อย​

เสียง​พูดคุย​ของ​ผู้ชม​เบา​ลง​ฉับพลัน​

……

แถวหน้า​

สีหน้า​ของ​หยาง​จงหมิง​ค่อยๆ​ เปลี่ยนไป​ “เพลง​ใหม่​?”

เจิ้งจิงครุ่นคิด​ “ฉัน​คิด​ว่า​เป็น​วิวาห์​ใน​ฝัน​ซะอีก​”

แววตา​ของ​อิ่งตง​นิ่ง​ไป​ มอง​ไป​บน​เวที​

เยี่ยจือ​ชิวสี​หน้า​เคร่งขรึม​ขึ้น​มา “เพลง​นี้​…”

“กลิ่นอาย​ของ​เพลง​คลาสสิก​”

อู่​หลง​พูด​ต่อ​ด้วย​น้ำเสียง​ซับซ้อน​

ส่วน​นักร้อง​ซึ่งอยู่​ด้าน​ข้าง​ สีหน้า​ค่อยๆ​ ตกตะลึง​ขึ้น​มา

เบื้องหน้า​เปียโน​

ร่างกาย​ของ​หลิน​เยวียน​คลอน​ไปมา​เบา​ๆ

เสียง​เปียโน​นั้น​ราวกับ​ผีเสื้อ​กระพือปีก​อัน​ปราดเปรียว​ และ​บิน​โฉบ​เข้าหา​โสตประสาท​ของ​ของ​ผู้ชม​ทุกคน​

……

ที่นั่ง​รอบ​ทิศ​ของ​เวที​

ผู้ชม​หยุด​สนทนา​มากขึ้น​เรื่อย​

สายตา​ต่าง​ทยอย​จับจ้อง​ไป​ยัง​เวที​

ผู้ชม​ทั่วไป​ไม่มีความสามารถ​ใน​การ​เสพ​ดนตรี​ระดับ​พ่อ​เพลง​ แต่​ไม่ได้​หมายความว่า​พวกเขา​มีความสามารถ​ใน​การ​แยกแยะ​ว่า​ดี​หรือ​แย่​ได้​

เพลง​นี้​ไพเราะ​มาก​

ไม่ได้​ด้อย​ไป​กว่า​วิวาห์​ใน​ฝัน​!

ถึงขั้น​ที่​…

มีรสชาติ​มากกว่า​ด้วยซ้ำ​?

นี่​คือ​เพลง​อะไร​กัน​?

บางคน​จ้องเขม็ง​ ราวกับ​ต้องการ​คำตอบ​จาก​รอบตัว​

อย่างไรก็ตาม​ ไม่มีใคร​บอก​ได้​ว่า​เพลง​นี้​มีชื่อว่า​อะไร​

เพราะ​นี่​เป็น​เพลง​ใหม่​

ทั้ง​ยัง​เป็น​เพลง​ที่​ไม่เคย​ปล่อย​ออกมา​

‘แด่​อ​ลิ​ซ’ โดย​บีโธเฟน​!

นี่​คือ​ผลงาน​ซึ่งหลิน​เยวียน​ใช้ปิด​คอนเสิร์ต​ของ​เขา​!

ใช่แล้ว​

หาก​คิด​จะรับ​เวที​ต่อ​จาก​ท่า​มูน​วอล์ก​ให้​ดี​ มีแต่​ต้อง​ทำ​ตรงข้าม​เท่านั้น​!

ท่า​มูน​วอล์ก​คือ​ความ​ระเบิด​เวที​ขั้น​สุด​!

ส่วน​เพลง​แด่​อ​ลิ​ซนั้น​คือ​ความสงบ​และ​อ่อนโยน​

เสียงดนตรี​แผ่วเบา​ราว​ธาร​น้ำ​ใส

คีย์​เปียโน​ทอแสง​กระจ่าง​

บทเพลง​ไพเราะ​ขึ้น​เรื่อยๆ​

ผู้ชม​ค่อยๆ​ หลับตา​ลง​อย่าง​แผ่วเบา​

ความ​กระวนกระวาย​ภายใน​จิตใจ​ซึ่งเกิด​จาก​ท่า​มูน​วอล์ก​ ขณะนี้​ค่อยๆ​ สงบ​ลง​

ใน​คอนเสิร์ต​

เงียบ​ลง​เรื่อยๆ​

ประดุจ​การบรรเลง​ดนตรี​เพื่อ​ชำระ​จิตใจ​

บทเพลง​รูปแบบ​รอน​โด​อัน​แสน​คลาสสิก​ประสาน​เข้า​ด้วย​ดัน​

บางครั้ง​ก็​ขึ้น​

บางครั้ง​ก็​ลง​

มือ​ของ​หลิน​เยวียน​ไม่ได้​เคลื่อนไหว​เร็ว​นัก​

ทว่า​ทำนอง​ของ​ดนตรี​กลับ​ไม่ได้​จืดชืด​

ไร้​ซึ่งการโอ้อวด​ทักษะ​

ไร้​ซึ่งตัวโน้ต​อัน​หนักหน่วง​

คัน​เหยียบ​ใต้​ฝ่าเท้า​ผสมผสาน​ทุก​จังหวะ​

“ตึ๊ง​ตึง​ตึ๊ง​ตึง​ตึ๊งตึ่งตึ๊งตึ่งตึ่ง”​

“ตึ่ง​ตึง​ตึง​ตึ๊ง”​

“ตึ่งตึ๊ง​ตึง​ตึ่ง”​

“ตึ๊ง​ตึง​ตึ๊ง​ตึง​ตึ๊งตึ่งตึ๊งตึ่งตึ่ง…”​

ใน​ท่วงทำนอง​

ราวกับ​มีใบหน้า​ของ​หญิงสาว​คน​หนึ่ง​ปรากฏ​ขึ้น​

อ่อนโยน​

งดงาม​

ทั้ง​สนาม​รังนก​เงียบสนิท​

และ​มือ​ของ​หลิน​เยวียน​เร่ง​เร็ว​ขึ้น​เป็นครั้งแรก​

เสียงดนตรี​มีชีวิตชีวา​ขึ้น​จาก​โน้ต​สามพยางค์​ซึ่งสูงขึ้น​

บันได​เสียง​โค​ร​มาติก​เริ่ม​ลด​คีย์​ลง​

เชื่อมโยง​กับ​ธีมหลัก​ของ​เพลง​

ประมาณ​สามสี่นาที​ผ่าน​ไป​

ในที่สุด​มือ​ของ​หลิน​เยวียน​จึงหยุด​ค้าง​กลางอากาศ​

บทเพลง​ทั้งหมด​จบ​ลง​พร้อมกับ​บรรยากาศ​อัน​ผ่อนคลาย​และ​รื่นเริง​

สั้น​เหลือเกิน​

เพลง​นี้​คือ​ผลงาน​ดนตรี​ขนาดย่อม​ของ​บีโธเฟน​

ถึงแม้จะสั้น​ แต่กลับ​มีชื่อเสียง​ไป​ทั่วโลก​!

ผู้ชม​ยังคง​หวน​นึกถึง​ท่วง​ทะ​นอง​

เป็นครั้งแรก​ที่​พวกเขา​หลงลืม​ความ​ตกตะลึง​จาก​ท่า​มูน​วอล์ก​

เช่นเดียวกับ​การ​กิน​น้ำแกง​ผัก​หนึ่ง​ชามหลังจาก​กิน​อาหาร​รสเผ็ดร้อน​

ความ​ร้อนใจ​มลาย​หาย​ไป​แล้ว​สิ้น​

ใน​ใจสงบเงียบ​และ​อบอุ่น​

ราวกับ​มีแสงตะวัน​สาดส่อง​มายัง​สนาม​รังนก​ ทำให้​ผู้คน​รู้สึก​ผ่อนคลาย​

นี่​คือ​ความ​ตกตะลึง​อีก​รูปแบบ​หนึ่ง​

ไม่มีเสียง​กรีดร้อง​ดังลั่น​

ไม่มีแสงไฟวูบวาบ​บ้าคลั่ง​

ไม่มีป้าย​ไฟหรือ​แท่ง​ไฟที่​พร่า​เบลอ​

คอนเสิร์ต​นี้​ระเบิด​รุนแรง​จน​ผู้ชม​แทบ​หยุด​หายใจ​

ทว่า​สุดท้าย​แล้ว​

ทุกสิ่ง​กลับ​สู่ความสงบ​

สิ่งที่​ทุกคน​สัมผัส​ได้​ คือ​ความพึงพอใจ​อย่าง​ที่​ไม่เคย​เป็นมา​ก่อน​

ที่แท้​สิ่งที่​น่า​ประหลาดใจ​ที่สุด​อยู่​ที่นี่​

ความ​ชื่นมื่น​และ​ขมขื่น​…

ทั้งหมด​ล้วน​รวม​อยู่​ใน​สนาม​รังนก​ใน​คำ่คืนนี้​

ตั้งแต่​นี้​ คอนเสิร์ต​ใน​ครั้งนี้​จะตราตรึง​อยู่​ใน​ใจของ​ผู้ชม​นับ​แสน​ไป​อีก​นาน​หลาย​ปี​

มีเสียง​ปรบมือ​

หลังจากนั้น​ผู้ชม​ทุกคน​เริ่ม​ปรบมือ​ตาม​

ท่ามกลาง​เสียง​ปรบมือ​นั้น​เอง​ หลิน​เยวียน​ลุกขึ้น​ยืน​และ​โค้ง​คำนับ​

เขา​ทำสำเร็จ​แล้ว​

การแสดง​ชุด​สุดท้าย​ รับมือ​กับ​ความ​ตกตะลึง​ของ​ผู้ชม​จาก​ท่า​มูน​วอล์ก​ได้​สำเร็จ​

ด้วย​รูปแบบ​อัน​เงียบงัน​เสมือน​สายลม​ฤดูใบไม้ผลิ​ที่​อ่อนโยน​และ​ฝน​ที่​ชุ่มฉ่ำ

แถวหน้า​

ซุน​เย่าหั่ว​พึมพำ​ “ฤดูกาล​เพลง​เดือน​หน้า​ ฆ่าไม่เลี้ยง​แน่​”

นักร้อง​ซึ่งอยู่​ด้าน​ข้าง​ไม่พูดจา​

ทว่า​ทุกคน​ล้วน​พยักหน้า​โดย​ไม่ลังเล​

คอนเสิร์ต​ใน​ครั้งนี้​มีเพลง​ใหม่​หลาย​เพลง​

คุณภาพ​ของ​บทเพลง​เหล่านี้​ หาก​ปรากฏ​บน​การ​จัดอันดับ​เพลง​พร้อมกัน​ใน​ตอนนี้​ กลาย​เป็นการ​ฆ่าล้าง​บางอย่าง​โหดเหี้ยม​!

ทุก​คนใน​คอนเสิร์ต​สามารถ​คาดเดา​ได้​!

“เพลง​นี้​ชื่อว่า​อะไร​”

เจิ้งจิงเอ่ยปาก​

หยาง​จงหมิง​มอง​ไป​ยัง​ข้อความ​บน​ตัวอักษร​บน​หน้าจอ​ใหญ่​ ตอบ​ว่า​ “แด่​อ​ลิ​ซ”

ข้อมูล​เพลง​ล่าช้า​

หลังจาก​ชื่อ​เพลง​ ‘แด่​อ​ลิ​ซ’ ปรากฏ​สู่สายตา​ของ​ทุกคน​

คอนเสิร์ต​ก็​เป็นอัน​สิ้นสุดลง​

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

Score 10
Status: Completed
“ดนตรี ภาพยนตร์ จิตรกรรม เขียนพู่กัน แกะสลัก วรรณกรรม นายทำได้หมดเลย?”

Options

not work with dark mode
Reset