สุดยอดเซนต์ตัวปลอมแห่งยุค 112 After Story: สิ่งที่หลงเหลือไว้(จบบริบูรณ์)

ตอนที่ 112 After Story: สิ่งที่หลงเหลือไว้(จบบริบูรณ์)

ดีจ้า ไอดอลของทุกคน เอลริสจังเองจ้า

ช่วงหลังมานี้ชั้นเริ่มจะเข้าใจถึงเสน่ห์ของฟิกเกอร์ตัวขนาดเท่าของจริงแล้วล่ะ

อา จู่พูดขึ้นมาอย่างนี้ก็คงจะไม่เข้าใจสินะ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังละกัน

อย่างที่ทุกคนรู้ การที่แม่มดถูกกำจัดไป ก็เท่ากับว่าจะไม่มีปีศาจถือกำเนิดขึ้นมาอีกแล้ว เป็นเพราะว่าปีศาจก็คือสัตว์ที่ถูกพลังของแม่มดเข้าครอบงำนี่นา การที่ไม่มีพลังของแม่มดเหลืออยู่ก็เท่ากับว่าปีศาจจะไม่สามารถเพิ่มจำนวนขึ้นมาได้อีก

ส่วนพวกตัวที่เหลือนี่ก็โดนชั้นล่าไปจนเกือบหมดแล้ว

ถ้าจะหาปีศาจในยุคนี้จริงๆ ก็คงมีแต่ในเกาะที่อยู่ห่างไกลมากๆหรือไม่ก็ดำอยู่ใต้น้ำ คิดว่าที่ฟุกุเทนอาจจะมีเหลือให้เห็นอยู่บ้าง แต่ถ้าไม่ถึงกับระดับตั้งทีมสำรวจออกล่าก็คงจะไม่เจอ เรียกได้ว่าพวกมันเป็นเผ่าพันธุ์ที่ใกล้กับคำว่าสูญพันธุ์แบบสุดๆ ถึงชั้นจะไม่ทำอะไรต่อ เดี๋ยวพวกมันก็จะหายไปเอง

ก็ไม่มีปัญหาอะไรนี่? มีสิ สำหรับตัวชั้นน่ะนะ

ก็ที่โลกนี้มันไม่ค่อยจะมีอะไรให้ทำนี่นา การรังแกพวกปีศาจนี่เป็นงานอดิเรกอย่างเดียวของตูเลยนา ถ้าไม่มีปีศาจให้ชั้นกระทืบเล่นแล้วจะให้ทำไงล่ะ?

ถึงชีวิตชั้นจะสงบสุขดีก็เถอะ แต่ก็ใช่ว่าจะอยากไม่ทำอะไรเลยนะ ไม่ได้อยากจะมาบำเพ็ญตนซักหน่อย

รู้งี้น่าจะซื้อเครื่องแฮนด์เฮลกลับมาจากญี่ปุ่นด้วย

ตอนนี้เลยมาเสียใจทีหลังเลยแน่ะ จริงๆจะให้อัลเฟรียช่วยคลายผนึกออกซักแป๊บแล้วค่อยจับผนึกใหม่ตอนกลับมาก็ได้นั่นแหละ แต่อุตส่าห์ร่ำลากับยามาโตะซังไปตั้งขนาดนั้นแล้ว ถ้าเผลอไปเจอเธอเข้านี่คงจะอึดอัดน่าดูเลย…

มันทำให้ชั้นเบื่อสุดๆไปเลยล่ะ

และเป็นเพราะว่าชั้นเบื่อ วันนึงชั้นเลยมีความคิดที่จะลงไปสำรวจในบ่อที่โปรเฟตะเคยอาศัยอยู่

ก็ไม่มีเหตุผลอะไรมากนอกจากอยากรู้อยากเห็นเท่านั้นล่ะ ไม่ได้คิดว่าจะมีอะไรพิเศษอยู่ใต้นี้ด้วย

พอลงไปที่ส่วนลึกสุด ก็เห็นว่าตรงนั้นมีชันเหมือนจะมีอุโมงค์อะไรสักอย่าง ก็เลยลองเข้าอุโมงค์ตามทางนั้นไป จนมาโผล่ด้านในของถ้ำ

ชั้นลองหายใจเข้าดู การที่มีอากาศในนี้ก็แสดงว่าถ้ำนี้น่าจะเชื่อมต่อกับด้านนอกตรงจุดไหนสักจุด

ในถ้ำนั้นมีแผ่นหินอยู่จำนวนมาก และในแต่ละแผ่นนั้นมีรูปและอักษรเขียนเอาไว้อยู่ หลังจากที่ตรวจดูก็พบว่านี่คือรูปของเหล่าเซนต์รุ่นก่อนๆ

มีกระทั่งรูปของเซนต์ลิเลียที่ไม่เป็นที่จดจำเพราะว่าเธอทำหน้าที่ของตัวเองไม่สำเร็จด้วย

บนแผ่นหินเหล่านั้นยังมีการเขียนเรื่องราวของเซนต์แต่ละคนตั้งแต่เกิดจนตายอยู่ด้วย

คงคิดได้แค่ว่าคนที่สลักรูปลงในแผ่นหินพวกนี้ก็คงจะเป็นใครอื่นไปได้นอกจากคุณเต่าที่คอยมองโลกภายนอกอยู่มาเป็นพันปี

ถึงชั้นจะไม่ใช่เซนต์ตัวจริงแท้ๆ แต่ก็มีรูปของชั้นอยู่ด้วย รู้สึกแปลกๆแฮะ

เต่าตัวนั้นสลักรูปพวกนี้ขึ้นมาได้ยังไงกันนะ? เอาปากคาบไม้แกะสลักเหรอ? ทุ่มเทจริงๆแฮะ

ก็นะ อยู่มาตั้งเป็นพันปีนี่นา มีเวลาให้ฝึกฝีมือเหลือเฟือนั่นแหละ

คิดว่าแรงกระตุ้นให้โปรเฟตะทำรูปพวกนี้ขึ้นมาก็คงจะเป็น…ความรู้สึกผิด

เมื่อเซนต์ถือกำเนิดขึ้นมา เธอก็จะถูกพรากจากพ่อแม่ ถูกเลี้ยงดูขึ้นมาโดยมีเป้าหมายเดียวก็คือการทำลายแม่มด และเมื่อทำภารกิจเสร็จสิ้นก็กลับถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นแม่มดคนต่อไปอีก

โปรเฟตะเองก็มีส่วนรับผิดชอบในการผลักพวกเธอลงไปยังเส้นทางขุมนรกแบบนั้นด้วย อย่างน้อยที่สุด ก็อยากจะหลงเหลือหลักฐานการคงอยู่ของเซนต์เหล่านี้เอาไว้ ต่อให้มีเพียงตัวเองที่รู้ก็เถอะ

“หืม? อะไรน่ะ?”

ชั้นเหลือบไปเห็นตัวอักษรที่เขียนอยู่บนกำแพงถ้ำ

มันเขียนไว้ว่า:

[ตัวข้าทิ้งคำขอร้องนี้เอาไว้ให้แก่ใครก็ตามที่ค้นพบสถานที่แห่งนี้ ข้าเป็นผู้ที่บันทึกเรื่องราวชีวิตของเหล่าเซนต์ทั้งหลาย

หากโลกยังคงประสบภัยพิบัติจากแม่มดอยู่ล่ะก็ โปรดปล่อยแผ่นหินเหล่านี้ไว้ที่นี่ตามเดิม

แต่ถ้าหากในอนาคต โลกใบนี้ได้เปลี่ยนไปแล้วล่ะก็ หากผู้คนเปิดใจพอที่จะรับฟังเรื่องราวของวีรสตรีเหล่านี้ ผู้อุทิศชีวิตเพื่อต่อสู้และปกป้องโลกใบนี้เอาไว้แล้วล่ะก็ โปรดนำเรื่องราวเหล่านี้ไปเผยแพร่แก่สาธารณชน นี่คือเรื่องราวที่จำเป็นต้องหลงเหลือไว้ให้แก่ชนรุ่นหลัง ผู้คนสมควรที่จะรับรู้ถึงภาระที่เด็กสาวเหล่านี้แบกรับ]

คำขอของโปรเฟตะถือว่ามีเหตุผล

ถ้าเป็นในยุคสมัยที่แม่มดยังอยู่ล่ะก็ ถ้าเอาชีวิตของเธอพวกนี้ไปเผยแพร่ โดยเฉพาะกับเซนต์ที่ทำหน้าที่ของตนไม่สำเร็จอย่างเซนต์ลิเลียแล้วล่ะก็ มีแต่จะโดนประนามซะเปล่าๆ

เปิดใจอย่างนั้นเหรอ?

ผู้คนในตอนนี้เปิดใจถึงระดับนั้นแล้วรึยังนะ?

โลกก็ถึงยุคสมัยที่สงบสุขมาสักพักหนึ่งแล้ว ความนับถือที่ผู้คนมีต่อเซนต์ก็มากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน คำถามก็คือว่านั่นพอรึยัง?

จริงๆก็ทำทางเข้าซะยากเชียวนะ นอกจากชั้นแล้ว จะมีใครมาพบที่นี่เข้าได้ล่ะเนี่ย?

ชั้นก็อยากจะทำคำขอสุดท้ายของโปรเฟตะให้เป็นจริงอยู่หรอก แต่ก็ไม่รู้ว่ามันเร็วไปรึเปล่า? ตอนนี้ก็ต้องระวังเอาไว้ก่อน เอาเป็นว่าชั้นก็เอาแผ่นหินพวกนี้ออกจากถ้ำมาตั้งไว้ในป่าแทน

แทนที่จะประกาศออกไปรวดเดียวเลย ใช้วิธีเพิ่มคนที่รู้ถึงเรื่องนี้ทีละนิดน่าจะดีกว่า

เพราะงี้เอง ชั้นเลยมานั่งแกะสลักรูปปั้นหินอยู่แบบนี้

ชั้นใช้เวทมนตร์สร้างวิหารสำหรับบูชาพวกเธอขึ้นมา และตอนนี้ชั้นก็มานั่งแกะสลักรูปปั้นให้กับเซนต์แต่ละคนอยู่

เป็นงานอดิเรกที่เพลินน่าดูเลยล่ะ เวลาผ่านไปไวจนไม่รู้สึกตัวเลย

ถ้าใส่ดีเทลอะไรได้ชั้นก็อยากจะใส่อ่ะนะ แล้วก็ตอนที่นั่งขัดทรงหน้าอกออกมาให้ดูสมจริงที่สุดนี่ก็ต้องใช้สมาธิพอสมควรเลย

ชั้นเพิ่งจะแกะสลักรูปปั้นของเซนต์ลิเลียที่เป็นเซนต์ของสองรุ่นที่แล้วเสร็จ ตามที่อ่านจากประวัติที่โปรเฟตะทิ้งไว้นี่ก็รู้สึกได้เลยว่าชีวิตคนคนนี้ดูจะลำบากเหลือเกิน

ทั้งๆที่เป็นถึงเซนต์แท้ๆ แต่จิตใจและความหวังของเธอนั้นก็เหมือนกับเด็กสาวธรรมดาทั่วไป สุดท้ายหลังจากได้รับฟังความจริงจากปากของลุงไอส์ที่บอกไปด้วยความหวังดี เธอก็ตกลงสู่ความสิ้นหวังและทิ้งชีวิตตนเองไป

น่าสงสารจังน้า

มันไม่ยุติธรรมเลยที่ตัวปลอมอย่างชั้นจะโดนบูชาถึงขนาดนี้ แต่เซนต์ตัวจริงอย่างลิเลียกลับถูกเมินเฉย จริงอยู่ที่ชั้นอาจจะทำรูปปั้นพวกนี้เพื่อฆ่าเวลา แต่สักวันหนึ่งก็หวังว่าผู้คนจะได้รู้เรื่องของเธอพวกนี้เหมือนกันล่ะนะ

ชั้นเตรียมตัวจะแกะสลักรูปปั้นของเซนต์คนอื่นต่อ แต่ก็ชะงักเมื่อรู้สึกได้ถึงใครสักคนที่เข้ามายังวิหารแห่งนี้

“ลิเลีย…”

ชั้นหันหลังกับไป เห็นลุงไอส์ยืนค้างอยู่ตรงนั้น

ตาของเขาจับจ้องรูปปั้นขนาดเท่าตัวจริงของเซนต์ลิเลียแบบไม่กะพริบ คิดว่าลุงแกคงจะมาหาชั้นนั่นแหละ แต่ตอนนี้แกดูจะสติหลุดไปแล้ว

เขาเดินเข้าหารูปปั้นนั้นทั้งๆที่ขาสั่น จากนั้นก็ล้มคุกเข่าร้องไห้ฟูมฟายใหญ่เลย

ก็คิดมาตั้งนานแล้วล่ะ แต่ลุงแกนี่บ่อน้ำตาตื้นนะเนี่ย คิดว่าแกน่าจะเป็นพวกที่ถ้าเมาแล้วก็จะพล่ามอะไรไม่เป็นเรื่องออกมาไม่หยุดแน่เลย

สิบนาทีผ่านไปกว่าลุงแกจะร้องไห้เสร็จ จากนั้นเขาก็หันหน้ามาพูดกับชั้น

“ขออภัยขอรับ ท่านเอลริส ข้าแสดงสิ่งที่ไม่น่าดูให้แก่ท่านเสียได้ แต่ว่ารูปปั้นนี้มาจากที่ไหน…?”

“โปรเฟตะทิ้งบันทึกพวกนี้ไว้ให้น่ะค่ะ”

ชั้นเอาแผ่นหินที่จารึกเรื่องของลิเลียเอาไว้มาให้ลุงดู จากนั้นแกก็น้ำตาแตกอีกรอบนึง เช็ดน้ำมูกน้ำตาไม่หยุดเลย

“ในที่สุด…ชนรุ่นหลังก็จะได้รับรู้เรื่องของลิเลีย…ขอบพระคุณมากขอรับท่านเอลริส…ขอบพระคุณจริงๆ”

ลุงแกนี่ก็ลำบากเหมือนกันนะ

ชื่อของเซนต์ที่ถูกสั่งสอนในสถาบันนั้นมีเพียงเหล่าเซนต์ที่ทำหน้าที่ได้สำเร็จเท่านั้น ตอนแรกก็นึกว่าตั้งใจที่จะหันไม่ให้คนรู้ชื่อของเซนต์ที่ล้มเหลวเป็นการเอาคืนอะไรแบบนั้น แต่คิดว่านั่นคงจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้วในการปกป้องชื่อเสียงของพวกเธอ

ไม่อยากให้ประชาชนจดจำพวกเธอไว้ในฐานะของเซนต์ที่ล้มเหลวในหน้าที่ บางครั้งการไม่เป็นที่จดจำก็คงดีกว่าการเป็นที่จดจำในแง่ลบ

ลุงไอส์แกก็คงจะเจ็บปวดน่าดูเลยที่จำเป็นต้องลบชื่อของลิเลียออกจากประวัติศาสตร์

“ชั้นคิดว่าจะให้โลกได้รับรู้ถึงเรื่องนี้เลยในทันทีก็อาจจะเร็วเกินไปค่ะ แต่ว่าสักวันหนึ่ง…”

“ขอรับ สักวันหนึ่ง…”

ในอนาคตที่ห่างไกล จะต้องมีสักวันที่น้ำหนักของความล้มเหลวเหล่านั้นจะแบ่งเบาลง เมื่อโศกนาฏกรรมในครั้งนี้กลายเป็นเพียงอดีต ในวันที่ผู้คนสามารถเปิดใจรับฟังถึงเรื่องราวเหล่านี้ได้ ในวันนั้นลิเลียก็จะกลายเป็นเพียงหนึ่งในหมู่เซนต์ เหล่าวีรสตรีที่เคยแบกรับภาระในการปกป้องโลกใบนี้เอาไว้บนบ่าของพวกเธอ

ชั้นคงหวังได้แค่ว่าเรื่องราวของพวกเธอจะถูกสืบทอดต่อไปยังชนรุ่นหลังหลังจากที่ชั้นจากไปแล้ว

ก็นะ พูดเอาเท่ไปอย่างนั้นแหละ ชั้นก็แค่ชอบแกะสลักรูปปั้นของสาวสวยน่ะ

.

ในคืนนั้นเอง ชั้นก็มีความฝันหนึ่งขึ้นมา

เหมือนกับตอนที่ชั้นตาย รอบๆตัวที่เป็นสีดำเมี่ยมไปหมดเลย

บนแบ็กกราวด์สีดำนั้น คือเหล่าเซนต์ที่ควรจะจากไปนานแล้ว พวกเธอส่งยิ้มให้กับชั้น ดวงตาของพวกเธฮปริ่มเหมือนจะร้องไห้

เซนต์ลิเลียที่อยู่ด้านหน้าสุดจับมือของชั้นไว้ กุมแน่นเลย จากนั้นก็พูดออกมา

“ขอบคุณ”

และแล้วพวกเธอก็หันหลังและเดินจากไป

จุดที่พวกเธอเดินไปนั้นส่องแสงขึ้นมา ที่ตรงนั้นมีคนอยู่หลายคนเลย ชั้นเองก็ไม่เคยเห็นหน้าของพวกเขามาก่อน แต่กลับรู้สึกได้จากสัญชาตญาณ ในหมู่คนพวกนั้น บ้างก็เป็นองครักษ์ บ้างก็เป็นครอบครัว เพื่อนฝูง หรือแม้กระทั่งคนรัก…เหล่าคนสำคัญของเซนต์ทุกคน

เมื่อเซนต์เหล่านั้นสลายหายไป ชั้นก็พบว่าตัวเองตื่นจากฝันมาอยู่บนเตียง

มันอาจจะเป็นแค่สิ่งที่ชั้นคิดไปเองก็ได้ คนตายไปแล้วจะมาคุยกับคนเป็นได้ยังไงกัน แต่ก็นะ ถ้าเป็นที่โลกนี้ล่ะก็อะไรก็เป็นไปได้ ขนาดชั้นยังเคยวิญญาณหลุดออกจากร่างไปโผล่ที่ญี่ปุ่นตั้งหลายรอบแน่ะ

ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ถึงแม้ว่านี่อาจจะเป็นภาพหลอนที่สมองชั้นสร้างขึ้นมาเพื่อให้ตัวเองรู้สึกพอใจ แต่พอได้ยินเซนต์ตัวจริงพูดแบบนี้ใส่แล้ว… ต่อให้เป็นคนแบบชั้นก็เถอะ ก็คงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกมีกำลังใจขึ้นมา

ชั้นลุกออกจากเตียงพร้อมกับบิดขี้เกียจนิดหน่อย

เอาล่ะ วันนี้เอลริสเองก็จะใช้ชีวิตในโลกนี้อย่างเต็มที่เช่นเคย!

จบการแปลนิยายเรื่องนี้อย่างสมบูรณ์แล้วจ้า ขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอดเด้อ

นี่เป็นผลงานแปลเรื่องแรกของผมเลย รู้สึกดีใจมากที่แปลได้ตั้งแต่ต้นจนจบ หวังว่าจะสนุกกับนะครับ

นิยายอีกเรื่องที่แปลควบไปด้วยนี่ก็ทิ้งไปซะนานเลย เดี๋ยวจะกลับไปแปลเรื่องนั้นต่อนาจา

สุดยอดเซนต์ตัวปลอมแห่งยุค

สุดยอดเซนต์ตัวปลอมแห่งยุค

Score 10
Status: Completed
[บุปผานิรันดร์ร่วงโรย] ไม่เหมาะสมที่จะถูกเรียกว่าเกมจีบสาว เพราะไม่ว่าเลือกรูทไหน นางเอกหลักก็จะต้องตายในทุกรูทไป ฟุโดว นิอิโตะ เข้านอนทันทีหลังจากผ่านฉากจบของเกมที่ไม่น่าพอใจ เมื่อเขาตื่นมา เขาก็พบว่าตัวเองนั้นอยู่ในร่างของตัวละครเซนต์ตัวปลอมผู้น่ารังเกียจ เอลริส ถึงแม้จะสับสน แต่เขาเข้าใจว่าการกระทำของเอลริสจะส่งผมกระทบร้ายแรงต่อตัวละครมากมายในอนาคต เขาจึงใช้โอกาสนี้เพื่อเปลี่ยนเแปลงประวัติศาสตร์ของเกม กลับกลายเป็นว่า ถึงแม้ข้างในจะเน่าเหม็น แต่เอลริสกลับถูกยกย่องโดยผู้คนทั่วโลกในฐานะของเซนต์ผู้สมบูรณ์แบบ ยิ่งไปกว่านั้น ตัวเกมที่อยู่ในโลกเก่าก็ถูกเปลี่ยนไปด้วยตามการกระทำของเอลริสผู้ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย ข้างนอกคือเซนต์ ข้างในคือชายใจทราม ผู้เกิดใหม่นิสัยสารเลวที่เกิดในร่างของตัวละครสารชั่ว! การรวมกันของขยะเปียกและขยะแห้ง เกิดเป็นเซนต์ตัวปลอมผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

Options

not work with dark mode
Reset