แฟนเก่าของผมเป็นครู 2 แผนลับกระชับพื้นที่

ตอนที่ 2 แผนลับกระชับพื้นที่

บทที่ 2 แผนการลับกระชับพื้นที่

เช้าวันรุ่งขึ้น

“อรุณสวัสดิ์จ๊ะ โทวมะคุง”

ผมเปิดประตูออกมาแล้วก็เจอโคฮาคุ ที่กำลังยืนรออยู่หน้าห้อง

“อ้าวเฮ้ย”

ผมโคตรตกใจ ทำไมโคฮาคุถึงมายืนอยู่ที่หน้าห้องผมได้ ก็เมื่อวานเธอสัญญากับอาคาริแล้วนิว่าจะไม่พยายามรุกใส่ผมอีก

ไม่สิเธออาจจะมีเหตุผลก็ได้

“เออโคฮาคุ เธอมาทำอะไรหรอ”

“ฉันคิดว่าจะมาจูบลาก่อนออกไปนะ”

เอ๊ะ นี่เธอพยายามรุกผมอยู่ใช่ไหม

“เออเราไม่ควรจูบกันนะ”

ผมเนี่ยโคตรอยากจูบกับโคฮาคุเลย แต่ผมคิดว่าการจูบกันเนี่ย มันเป็นเรื่องของคู่รักไม่ใช่เหรอจะมาจูบกันมั่วๆไม่ได้

“ฉันแค่ล้อเล่นนะ จ๊ะ”

ล้อเล่นเหรอ ผมล่ะโคตรมั่นใจเลยว่าเธอเอาจริง ถ้าผมยอมให้เธอจูบ

“แล้วเธอมาทำอะไรที่นี่ล่ะ ถ้าคิดจะไปโรงเรียนพร้อมกันหละก็อย่าดีกว่านะ”

โคฮาคุเป็นจุดสนใจของทุกๆคน ไม่ว่าเราจะเดินไปโรงเรียนด้วยกันหรือแม้แต่จะนั่งรถยนต์ไป ถ้าผมไปโรงเรียนพร้อมกับโคฮาคุ แล้วมีนักเรียนคนไหนมาเห็นเข้า จะต้องมีคนถามแน่ว่าพวกเรามีความสัมพันธ์พิเศษอะไรกันหรือเปล่า มันจะต้องมีคนสงสัยแน่ๆ

“ชั้นรู้ ว่าการที่ครูกับนักเรียนไปโรงเรียนด้วยกันน่ะมันไม่ถูกต้อง แล้วชั้นก็สัญญาแล้วเมื่อวานว่าจะไม่พยายามเข้าใกล้โทมะคุง(ในที่สาธารณะ)อีก”

แต่แล้วโคฮาคุก็คว้าแขนของผมเข้าให้ หน้าอกอันอ่อนนุ่มของเธอสัมผัสเข้ากับตัวผม ใจผมเต้นแรงแทบจะหลุดออกมา

ผมจำไม่เห็นได้เลยว่าโคฮาคุเป็นคนที่รุกหนักขนาดนี้ เธอเป็นคนขี้อายมากๆแล้วก็ไม่เคยพูดออกมาเองเลยว่าอยากจะจูบกับผมก่อน ขนาดพูดเล่นยังไม่เคยเลยแล้วนี่มันอะไร

หรือว่าเธออาจจะเริ่มใจกล้าขึ้นนิดหน่อยมั้งตอนที่เราไม่ได้เจอกัน

“นี่ตอนนี้มีแค่เราสองคนเองนะ เราเองก็เข้ากันได้ดีไม่ใช่เหรอ”

เออไอ้คำว่า’เข้ากันได้ดี’เนี่ยผมมั่นใจเลยว่ามันต้องหมายถึงเรื่อง… นั้นแหงมเลย ผมรู้สึกจั๊กจี้ขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อผมคิดถึงเรื่องนั้น

“ก็ใช่ ที่เราอยู่กันสองคน แต่มาทำแบบนี้ข้างนอกมันไม่ดีไม่ใช่เหรอ แล้วอีกอย่างอาคาริก็อยู่ห้องข้างๆนี่เองนะรู้ใช่ไหม?”

โคฮาคุมาอยู่ที่นี่ ดังนั้นอาจเป็นไปได้ที่อาคาริก็น่าจะคิดเหมือนกันกับเธอ ถ้าหากว่าอาคาริมาเห็นโคฮาคุกำลังจีบผมอยู่หละก็ พวกเธอต้องวางมวยกันอีกแน่เลย ผมแน่ใจ

“ไม่เป็นไรจ๊ะ เดี๋ยวชั้นพาเธอไปตรงที่ไม่มีใครเห็น เธอจะไปกับชั้นมั้ย?”

โคฮาคุถามผมด้วยสีหน้าดูกังวล เหมือนเธอกลัวว่าผมจะปฏิเสธ

ผมจะไปปฏิเสธผู้หญิงที่ผมรักได้ยังไง ในเมื่อเธอทำหน้าแบบนั้น นอกจากนี้โคฮาคุยังเสี่ยงมาหาผม

ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าอาจถูกอาคาริจับได้ ผมรู้สึกได้เลยว่าเธอต้องรักผมมากแน่ๆ

“โอเค ผมจะไปด้วย”

พอได้ยินผมพูดแบบนั้นสีหน้าของโคฮาคุก็สว่างสดใสขึ้นมา ดูมีความสุขมาก

ผมขึ้นลิฟต์มาพร้อมกับโคฮาคุ ลิฟต์พาเราทั้งคู่ลงไปชั้นลานจอดรถใต้ดิน แล้วโคฮาคุก็พาผมเดินมาหยุดอยู่ที่หน้ารถมินิแวนคันหนึ่ง

มันเป็นรถมินิแวนสีดำดูน่าสงสัย ให้อารมณ์ประมาณว่าจะมี คุณลุงชุดดำดูใจดี? พุ่งออกมาลากขึ้นรถได้ทุกเมื่อ

มองยังไงก็ไม่เห็นภาพเลยว่าผู้หญิงตัวเล็กๆน่ารักอย่างโคฮาคุจะขับรถแบบนี้

“เออนี่รถของโคฮาคุเหรอ?”

“ใช่จ๊ะ จริงๆชั้นอยากได้มินิคาร์มากว่านะ แต่คุณพ่อท่านบอกให้ซื้อคันใหญ่หน่อยจะได้ไม่อึดอัด”

ตอนที่เรายังคบกันอยู่ ผมเคยได้ยินมาว่าพ่อของโคฮาคุนั้นเป็นคนที่เข้มงวดมาก(หวงลูกสาวสุดๆ)

เธอมีเคอร์ฟิวที่เข้มงวด ดังนั้นเราเลยไปออกเดทกันไกลๆไม่ได้ นอกจากนั้นเขายังโทรหาโคฮาคุบ่อยมากตอนนี่เราเดทกัน ผมหละกลั้นหายใจทุกครั้งเลยที่เขาโทรมา

ถ้าตาลุงขี้หวงนั่นรู้ว่าลูกสาวคบหาอยู่กับผู้ชาย เขาอาจตามมาแอบดูก็ได้ แล้วถ้าหากมารู้ว่าจริงๆแล้วผู้ชายที่กำลังคบอยู่กับลูกสาว อายุน้อยกว่าตั้ง 5 ปีหละก็ฮ่าๆ ผมโดนเจี๋ยนแน่นอน เพราะฉะนั้นเราเลยเก็บเรื่องความสัมพันธ์ของเราไว้เป็นความลับ

บางที ที่โคฮาคุเลือกที่จะไปเรียนมหาลัยที่มันไกลบ้าน อาจจะเป็นเพราะต้องการหนีจากพ่อก็ได้

ในช่วงปีแรกๆที่ เธอเรียนมหาลัย เธอก็จะแอบกลับบ้านเพื่อมาเดทค้างคืนกับผมบ่อยๆ แต่เราได้เจอกันแค่นานๆทีไม่เหมือนกับตอนนี่เธออาศัยอยู่แถวๆนี้ และด้วยเหตุนี้หละที่ทำให้เราต้องเลิกกัน

“ลุงนั้นปล่อยให้เธอออกมาอยู่คนเดียวได้ไงนิ?”

ถึงระยะทางจากบ้านพ่อแม่ของโคฮาคุจะข้อนข้างไกล แล้วก็ไม่ได้หมายความว่าจะ ไป-กลับ ไม่ได้เพราะเอาเข้าจริงๆน้องสาวของโคฮาคุ ก็ ไป-กลับ ทุกวัน

“ตอนแรกคุณพ่อก็ไม่เห็นด้วยหรอกจ๊ะ แต่สุดท้ายท่านก็ยอม เพราะถ้าเป็นโรงเรียนอื่น ท่านก็คงไม่มีทางยอมหรอก”

“โรงเรียนอื่น หมายความว่ายังไง?”

โคฮาคุพยักหน้า

“พ่อของชั้นเป็นผู้อำนวยการของโรงเรียนเราหนะจ๊ะ”

… เอาจริงดิ

ผู้อำนวยการโรงเรียนเราที่ขึ้นชื่อเรื่องความเข้มงวดคนนั้น ที่ไล่นักเรียนออกไปนับไม่ถ้วนโดยไม่มีทั้งเลือดและน้ำตาคนนั้นนะเหรอ เป็นพ่อของโคฮาคุ ชิบหายแล้วดิงั้น

ถ้าเกิดว่าความสัมพันธ์ของผมกับโคฮาคุหลุดไปหละก็ ผมโดนไล่ออกแน่นอน ไม่ดิ อาจจะได้ไปคุยกับรากมะม่วงด้วยซ้ำ

ไม่ ไม่ ต้องคิดบวกไว้ โคฮาคุรู้ดีกว่าใครๆว่าคุณพ่อเธอเป็นคนแบบไหน ถ้ายังอยู่ในสายตาของเขาเธอต้องเป็นเด็กดีและประพฤติตัวเป็นครูที่เหมาะสมแน่ เพราะงั้นเขาจะไม่มีวันรู้เรื่องความสัมพันธ์ของเราแน่นอน

ผมปลอบใจตัวเองอย่างนั้น โคฮาคุเปิดประตูรถด้านหลังให้และเชิญผมเข้าไปนั่งที่เบาะหลัง แหม๋ภายในรถตู้ดูกว้างขวางมาก แถมยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆลอยอยู่ในอากาศด้วย

“กว้างมากเลยนะครับ”

โคฮาคุเข้ามานั่งข้างๆผมแล้วก็กระซิบข้างหูว่า

“เดี๋ยวอีกหน่อยมันก็จะแคบแล้วหละจ๊ะ”

“เอ๊ะ เธอหมายความว่าไง?”

“ก็หมายความว่าฉันจะมาลูกกับโทวมะคุงเยอะๆยังไงละจ๊ะ เรามาตั้งทีมวอลเลย์บอลของเรากันเถอะ” (6คน)

“หา! นี่เธอพูดอะไรออกมาเนี่ย ?”

“เอ๋ โทวมะคุงอยากได้ทีมฟุตบอลมากกว่าเหรอจ๊ะ” (11คน)

“ไม่ใช่แบบนั้นซิ แล้วอีกอย่างทีมฟุตบอลคนมันเกินนะ”

“เธอพูดถูกจ๊ะ งั้นเราซื้อเป็นมินิบัสกันดีมั้ย?”

“อย่าหาทำ!?”

“ชั้นเดาว่ามินิบัสมันน่าจะแพงน่าดูเลย”

“ผมไม่ได้สนใจเรื่องราคาหรอก ตอนนี้นะผมสนเรื่องที่อยู่ดีๆเธอก็มาวางแผนอนาคตกระทันต่างหากหละ”

“เอ๊ เรื่องแบบนี้เราต้องวางแผนกันตั้งแต่เนิ่นๆซิถึงจะถูก”

“นั้นมันก็ถูกนะครับ เห้ยไม่ใช่ดิ นี่ผมยังไม่ได้ตัดสินใจเลยนะว่าจะกลับไปคบกับโคฮาคุหรือเปล่านะ”

โคฮาคุพึ่งเข้ามากอดผม ไอ้เจ้ากลมๆของลูกที่แสนนุ่มนิ่ม มันกำลังกดทับแขนของผม

สติของผมแทบจะเลือนราง มันเป็นสัมผัสชวนคิดถึงที่ไม่ได้สัมผัสมานาน แล้วโคฮาคุก็ยิ้มให้ผม

“ชั้นรักเธอ โทวมะคุง”

“ขอบคุณนะ”

“แล้วโทวมะคุงรักชั้นมั้ย?”

“ครับผมก็รักเธอเหมือนกัน”

“มากกว่าอากามิเนะเซนเซย์หรือเปล่า?”

“… ผมรักทั้งสองคนเหมือนๆกัน”

ผมบอกกับเธอไปตรงๆ ถึงจะรู้สึกผิดที่พูดเรื่องแบบนี้ต่อหน้าเธอ แต่ก็ดีกว่าที่จะโกหกเพื่อทำให้เธอพอใจ

โคฮาคุส่งสายตาเศร้าๆมาให้ผมแต่ไม่นานเธอก็กลับมายิ้มร่า

“ขอบคุณจ๊ะ”

“ทำไมต้องขอบคุณผม?”

“เพราะเธอบอกว่าเธอยังรักชั้นอยู่ แม้ว่าชั้นจะบอกเลิกกับเธออย่างโหดร้าย ฉันมีความสุขมากที่ได้ยินแบบนี้”

และเธอก็พูดด้วยหน้าตามุ่งมั่นว่า

“ชั้นนะไม่แพ้อากามิเนะเซนเซย์แน่นอน ก่อนเธอจะเรียนจบ ชั้นจะทำให้เธอรักชั้นมากกว่าอากามิเนะเซนเซย์ให้ได้แล้ว เธอจะกลับมาคบกับชั้นได้มั้ย?”

“ได้ซิ ถึงตอนนี้ผมจะกลับไปคบกับโคฮาคุโดยไม่ลังเลเลย”

เมื่อได้ยินคำสัญญาของผมแบบนั้น โคฮาคุก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

“ชั้นแทบจะรอไม่ไหวที่เราจะกลับไปคบกันโทวมะคุง อ๊ะ! ใช่แล้วโทวมะคุง…”

โคฮาคุปรบมือขึ้นเหมือนเธอจำบางอย่างได้ แล้วหยิบข้าวกล่องออกมาจากระเป๋าของเธอ

“ชั้นทำนี่มาให้จ๊ะโทวมะคุง”

“เอ๊ นี่เธอลำบากทำนี่มาให้ผมเหรอ?”

“ใช่แล้วจ๊ะ ชั้นทำแต่ของโปรดของโทวมะคุงเยอะแยะเลย ชั้นหว้งว่าเธอจะกินมันจนหมดนะ”

“ผมจะกินไม่ให้เหลือเลยครับ ผมชอบอาหารฝีมือโคฮาคุมาก”

ถ้าถามว่าก่อนตายอยากกินอะไร ผมก็คงตอบอย่างไม่ลังเล เลยว่า อาหารของโคฮาคุ

ผมกินอาหารกลางวันจากร้านสะดวกซื้อมาทั้งชีวิต พ่อกับแม่ของผมเป็นพวกบ้างานเลยไม่ค่อยได้สนใจเรื่องอาหารเท่าไหร่แถมทั้งคู่ยังทำอาหารไม่เป็นอีก

ผมยังคงไม่ลืมความประทับใจในอาหารที่โคฮาคุทำให้ผมกินครั้งแรกตอนที่อยู่มัธยมต้นปี 1 เมื่อได้ทานอาหารฝีมือของเธอเข้าไป

ผมก็ตกหลุมรักโคฮาคุเข้าอย่างจัง ไม่ใช่แค่อร่อยแต่เธอปรุงรสชาติออกมาตามแบบที่ผมชอบอีกด้วย

เธอทำอาหารให้ผมกินบ่อยๆ แล้วก็ยังทำข้าวกล่องไปทานเสมอที่เราไปเดทกัน

ตั้งแต่เธอไปเรียนมหาลัย ผมก็ไม่ค่อยได้กินอาหารฝีมือเธอบ่อยเท่าแต่ก่อน สำหรับผมที่ไม่เคยได้กินอาหารฝีมือแม่ตัวเอง อาหารฝีมือโคฮาคุก็เลยเปรียบเสมือนอาหารรสมือแม่สำหรับผม

“ชั้นดีใจมากเลย ชั้นจะทำอาหารอร่อยๆให้เธอกินทุกวันเองจ๊ะ”

“โอ้ แบบนั้นก็ดีเลย”

แค่คิดว่าจะได้กินอาหารฝีมือโคฮาคุทุกวันเหมือนเมื่อก่อนก็ทำให้ผมมีความสุขแล้ว

“เออ แล้วผมต้องทำยังไงกับกล่องนี่?”

“เดี๋ยวชั้นจะไปเก็บมันหลังเลิกเรียนจ๊ะ”

“โอเค โทรหาผมก่อนนะ เผื่อไว้”

เมื่อวานผมได้ให้ โคฮาคุและอาคาริปลดบล็อกเบอร์ของผมไว้แล้ว

ผมใส่ข้าวกล่องลงไปในกระเป๋าของผม

“เอาหละ ผมไปโรงเรียนดีกว่า”

“เดี๋ยวจ๊ะ ก่อนไปช่วยจูบลาหน่อยได้มั้ย?”

…? โคฮาคุล้อเล่นอีกแล้วเหรอ หือแต่อารมณ์เธอดูต่างไปจากเดิมนะ ดวงตาของเธอดูหวานหยดย้อย แก้มก็ดูแดงก่ำ หรือแม้แต่เสียงก็ดูยั่วยวน

แฟนเก่าผมที่เปี่ยมล้นไปด้วยความเซ็กซี่และเสน่ห์ดึงดูดแบบผู้ใหญ่กำลังเชิญชวนผม แย่หละผมชักจะทนไม่ไหวแล้ว

ไม่ซิ ไม่ได้ ใช้หัวคิดหน่อยตัวผมหัวจริงๆนะที่อยู่ข้างบน ไม่ใช่ข้างล่าง

“เออ ผมว่าเราไม่ควรจูบกันนะ เราเป็นครูกับนักเรียนจะมาจูบกันไม่ได้”

“แต่ตอนนี้มีเราแค่สองคนนะ”

“เออมันก็จริง แต่…”

จริงๆแล้วผมก็อยากจะจูบเธอใจจะขาด แต่ว่าถ้าจูบไปแล้วหละก็ มันจะไม่หยุดที่จูบนะซิได้มีเฮแน่ แล้วถ้าเกิดว่าการจูบกลายเป็นกิจวัตรประจำวันหละมีหวังได้ไปโรงเรียนสายทุกวันแน่เลย ผมจะเสี่ยงให้เกิดเรื่องแบบนั้นไม่ได้ แล้วยิ่งกว่านั้นถ้าเกิดมีคนมาเห็นพวกเราหละ ถึงแม้พวกเราจะรักกันดีแต่เราก็ไม่ได้กำลังคบกันอยู่ 

เพราะงั้นเราจีงควรหลีกเลี่ยงสิ่งต่างๆที่คนรักทำกัน

โคฮาคุทำท่าทางเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง

“แล้ว…จะจับหน้าอกของชั้นมัยจ๊ะ”

เห้ยไม่เห็นจะเข้าใจอะไรเลยซักนิดนี่หว่า

อ๊าก ผมโคตรอยากจะจับมันเลย เย็นไว้เย็นเอาไว้ตัวผม ต้องเอาชนะกิเลสภายในใจให้ได้ผมต้องไม่โดนล่อลวง

ผมจะจับมันไม่ได้ เราไม่ใช่คนรักกัน เราไม่ใช่คนรักกัน ท่องเอาไว้ตัวผม

แต่ผมก็ไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่าจะทนกับการยั่วยวนนี้ไปได้ เพราะอะไรหละเหรอ? 

ก็ตอนนี้นะหน้าของโคฮาคุแดงแจ๋ แล้วเธอก็จับมือของผมแล้วขอร้องให้ผมจูบเธอ และก็ขอให้จับหน้าอกของเธอด้วย ผมเหมือนจะทนไม่ไหวแล้วหละไม่น่ารอดแน่ๆ หลังจากไม่ได้เจอเธอมานานแล้วมาเจอกับสถานการณ์แบบนี้เข้าอีก

โคฮาคุพยายามอดทนต่อความอาย เธอพยายามทำเป็นกล้าหาญและพยายามอ่อยผม เพื่อที่เราจะได้กลับมาคบกันอีกครั้ง ผมรักเธอผมไม่สามารถปฏิเสธผู้หญิงที่ผมรักได้ ทั้งๆที่เธอพยายามทำเพื่อผมขนาดนี้

โชคดีที่ตอนนี้มีแค่เราสองคน ผมไม่สามารถจูบและจับหน้าอกของเธอได้ทุกวัน แต่อย่างน้อยผมก็ควรต้องทำซักครั้งเพื่อตอบแทนความกล้าของเธอแล้วทำให้เธอใจเย็นลงด้วย

“นี่… เธอโอเคกับมันจริงๆเหรอ?”

“ใช่จ๊ะ ชั้นอยากให้เธอสัมผัสชั้นเหมือนเมื่อก่อน แต่ว่า… คือมันก็นานแล้วที่เราไม่ได้ทำแบบนี้คือว่า ช่วยอ่อนโยนกันชั้นด้วยนะ”

โคฮาคุกัดริมฝีปากล่างของเธอราวกับว่าต้องการระงับความเขินอายของเธอ และร่างกายของเธอก็แข็งเกร็งด้วยความประหม่า ผมเอื้อมมือไปที่หน้าอกของเธอและ…

ก๊อก ก๊อก ก๊อก มีเสียงเคาะกระจก

อาคาริกำลังจ้องมองเราผ่านหน้าต่าง

“ว๊ากกกกก!!” ชิบหายแล้วไง

ผมรีบดึงมือออกอย่างเร็ว “มีอะไรเหรอจ๊ะ” โคฮาคุถามแล้วก็มองมาตามสายตาของผมก่อนที่จะสังเกตุเห็นอาคาริ อาคาริกวักมือเรียกเราสองคนให้ลงจากรถ

อาคาริจ้องมองโคฮาคุและ…

“ชิราซาวะเซนเซย์ กำลังพยายามล่อลวงโทวมะอยู่เหรอ”

“ไม่ใช่นะชั้น ไม่ได้พยายามล่อลวงโทวมะคุงนะ ชั้นแค่จะเอาข้าวกล่องมาให้เขาเฉยๆ”

 “ถ้างั้นชั้นก็จะเริ่มทำข้าวกล่องให้เขานับตั้งแต่วันพรุ่งนี้ มันเป็นหน้าที่ของครูพยาบาลที่ต้องดูแลสุขภาพของนักเรียน”

“ไม่ค่ะ ชั้นที่เป็นครูคหกรรมจะเป็นคนทำข้าวกล่องให้เค้าเอง”

ไม่มีฝ่ายไหนที่จะยอมถอยเลย ดูไม่ออกเลยว่าข้อพิพาทนี่มันจะจบลงอย่างไร

“นี่ไม่ต้องแย่งกันว่าใครจะเป็นคนทำข้าวกล่องนะ ทำมาทั้งสองคนนั้นหละผมจะกินของทั้งสองคนเอง”

“เอ๋ แต่ถ้ากินเยอะขนาดนั้นมันจะไม่ปวดท้องเหรอจ๊ะ”

“ไม่ชั้นจะไม่ปล่อยให้โทวมะกดดันตัวเองหรอกนะ”

“อย่าได้กังวล ผมมันใจในพลังของกระเพาะตัวเอง ผมเป็นคนกินเก่งมาก เพราะงั้นอย่าได้ลังเลที่จะทำผมจะกินมันเอง”

โคฮาคุดูมีความสุขที่ได้ยินที่ผมพูดแบบนั้น แต่อาคาริดูไม่ค่อยสบายใจนักแต่ก็พยักหน้าตอบ

หลังจากยุติการโต้เถียงแล้ว ผมก็ออกมาจากลานจอดรถโดยมีทั้งสองคนตามมาส่ง

คาบที่4ของวันนี้

ความจริงแล้วพวกเราจะต้องไปทดสอบสมรรถภาพร่างกายกันที่สนามโรงเรียน แต่เนื่องจากฝนตก พวกเราจีงต้องมาเล่นวอลเลย์กันในโรงยิมแทน

ทีมที่กำลังแข่งกันอยู่ตอนนี้มี เอสของชมรมพร้อมทั้งกัปตันทีมวอลเลย์บอลด้วยทุกคนเลยตื่นเต้นกับการรับชมเกมที่ดุเดือด

ท่ามกลางเสียงเชียร์ ผมนั่งอยู่ที่มุมของโรงยิมและกำลังคิดบ้างอย่างอยู่

ปัญหาเกี่ยวกับแฟนเก่าของผม

ทั้งโคฮาคุและอาคาริพร้อมที่จะกลับมาคืนดีกับผม และผมก็รักพวกเธอทั้งคู่ แต่ผมไม่สามารถเลือกใครได้เพราะผมนั้นรักทั้งสองคนเท่าๆกัน และเนื่องจากผมไม่สามารถมีความสัมพันธ์กับทั้งสองคนพร้อมกันได้

ผมจึงจะต้องเลือกคนใด คนนึงจากพวกเธอทั้งสองคน

ผมควรจะกลับไปคืนดีกับโคฮาคุที่เป็นแฟนคนแรกของผมดีมั้ย หรือว่าควรจะไปคืนดีกับอาคาริดี

“ผมต้องทำยังไงดีเนี่ย”

“เห้ย! ระวัง”

ปัง! มีบางอย่างซัดเข้าที่หน้าของผมเต็มๆ แล้วความเจ็บปวดก็แล่นขึ้นมาที่จมูกของผม

“โอ้ย”

“ขอโทษ นิจิโนะคุง เป็นอะไรมากมั้ย”

เด็กผู้ชายที่เสิร์ฟลูกบอลอัดหน้าผม เดินมาขอโทษ พวกผู้หญิงที่เล่นอยู่ฝั่งตรงข้ามก็หันมามองด้วยความกังวล

“ไม่เป็นไรๆ ผมผิดเองที่มัวแต่เหม่อ”

เพื่อนร่วมชั้นของผมที่ดูหวาดๆจากท่าทางของผมที่ดูน่ากลัว เมื่อได้ยินผมบอกว่าไม่เป็นไร เขาก็ดูโล่งใจขึ้นมา

นี่ก็ดีเหมือนกันจะได้ใช้โอกาสนี่ในการแก้ไขภาพลักษณ์ที่ดูน่ากลัวของผม ถือว่าเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่

“เห้ย นิจิโนะ เลือดๆ”

“หือ… อะไร อ๊ะ! เวรหละ”

ของเหลวไหลออกมาจากจมูกของผม เมื่อผมเอาหลังมือเช็ดมัน ผมก็เห็นเลือดเปื้อนอยู่ที่หลังมือ ขณะที่ผมกำลังพยายามเอามือปิดจมูกอยู่นั้น ครูพละก็เดินมาหาผม

“นิจิโนะ นายโอเคมั้ย”

“ไม่เป็นไรครับ แค่เลือดกำเดาไหล ผมขอไปห้องน้ำได้มั้ยครับ”

ถ้าผมเอาทิชชู่ยัดจมูกไว้เดี๋ยวมันก็คงหยุดไหลไปเองหละ

“เออชั้นก็ไม่ว่าหรอกท่าจะไปห้องน้ำนะ แต่ไม่ไปให้อากามิเนะเซนเซย์ดูไม่ดีกว่าเหรอ”

ผมค่อนข้างกังวลที่จะติดต่อกับอาคาริที่โรงเรียน แต่เธอก็คงทำตัวเหมือนครูปกติหละมั้ง ผมคิดว่านะ

ผมตัดสินใจทำตามที่ครูพละบอกและออกจากโรงยิมมา

“ขออนุญาตนะครับ”

เมื่อผมเปิดเข้ามาในห้องพยาบาล ผมเห็นแต่อาคาริอยู่ในห้อง เธอกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานและกำลังดูเอกสารอะไรบางอย่าง เมื่อเธอมองขึ้นมาเห็นผม

“อาร๊า เป็นอะไรมาเหรอ”

เธอพูดด้วยใบหน้าสง่างาม

ขอบคุณพระเจ้าที่เธอทำหน้าที่ครูได้ดี ถึงตอนนี้จะมีแค่เราสองคน แต่ผมก็ต้องแสดงตัวในฐานะนักเรียนให้ดี

“ผมโดนบอลอัดหน้ามานะครับ แล้วเลือดกำเดามันก็ไหล คุณมีทิชชูมั้ยครับ”

“นี่ ใช่เท่าที่ต้องการเลย”

ผมได้รับทิชชูมาจากอาคาริกล่องนึง แล้วผมก็นั่งลงบนเก้าอี้ หยิบทิชชูออกมาม้วนเป็นกลมๆแล้วยัดเข้าไปในจมูก เสร็จแล้วก็ไปล้างมือเพื่อเอาเลือดออก

“เธอหยุดเลือดเสร็จหรือยัง”

“ครับเรียบร้อยแล้วครับ”

“โอเค งั้นมาทางนี้หน่อย”

อาคาริยืนอยู่ข้างเตียงแล้วกวักมือเรียกผม

“เอ๊ะ ทำไม?”

ผมรู้สึกไม่ค่อยดีเลย เธอคงจะไม่ชวนเล่นผีผ้าห่มใช่มั้ย

“เราต้องรักษาตามขั้นตอน”

“ขั้นตอนอะไร ก็ทำไปแล้วไม่ใช่เหรอรักษานะ”

“แค่นั้นมันไม่พอ เพราะฉะนั้นมาตรงนี้ ถ้าไม่มาชั้นจากย้ายเตียงไปหาตรงนั้น”

อาคาริเป็นคนแข็งแรง และเธอก็ไม่ใช่คนประเภทที่ชอบล้อเล่น เธอเอามือคว้าปลายเตียงไว้แล้วเธอน่าจะแบกเตียงมาจริงๆแน่ถ้าผมปฏิเสธ

แต่เธอก็บอกไว้แล้วว่าจะไม่มาทำเรื่องอย่างว่าในโรงเรียน เพราะงั้นไม่น่าจะเป็นไรอะไร ผมเลยทำตามที่อาคาริบอกแต่โดยดี

ในขณะที่ผมกำลังเดินไปที่เตียง อาคาริก็เปิดฟูกออก

“เอ้าเข้าไปนอนซะ”

“แค่เลือดกำเดาไหลเอง”

“อย่าประมาทว่ามันแค่เลือดกำเดาไหล นายต้องไปนอนพักจนกว่าเลือดจะหยุดไหล”

“เข้าใจแล้วครับ”

ผมตัดสินใจทำตามที่ครูพยายาลสั่ง โดนถอดเสื้อคลุมออกแล้วไปนอนบนเตียงจากนั้นอาคาริก็ปิดม่านกั้นแล้วก็มุดเข้ามานอนบนเตียง

เธอกำลังทำอะไรซุกซนอยู่

“นี่จะทำอะไรนะ”

“ก็มานอนด้วยไง”

“ไอ้นั้นนะเห็นแล้ว”

“อ่ออันนี้ก็กำลังกอดอยู่ไง”

“แล้วจะมากอดทำไม?”

“การกอดช่วยให้รู้สึกปลอดภัยลดความเครียดและความกังวลจากการบาดเจ็บได้”

“นี่มันทำให้ผมประหม่านะครับ เพราะฉะนั้นช่วยกรุณาลุกออกไปทีครับ”

เมื่อผมบอกเธอด้วยน้ำเสียงเป็นทางการ อาคาริทำตาตกพร้อมด้วยตัวที่สั่นเครือด้วยความเศร้า

“นี่เธอไม่ชอบนอนกับชั้นแล้วหรอ”

“ไม่ใช่แบบนั้นนะ”

ผมชอบนอนกับอาคาริ พอมองย้อนกลับไปสมัยที่เรายังคบกันอยู่ ผมจำได้ว่าผมนอนกับเธอทุกครั้งที่มีโอกาส

ช่วงเวลาที่น่าจดจำที่สุดคือตอนที่เราไปเที่ยวออนเซ็นด้วยกัน ในช่วงปิดเทอมฤดูหนาวปีแรกที่เราคบกัน

เราไปแช่ออนเซ็นด้วยกัน นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมเห็นร่างกายที่เปลือยเปล่าของอาคาริ พวกเราจูบกันบนฟูกหลังจากที่แช่น้ำร้อนเสร็จ เราไม่ได้แค่นอนด้วยกันเท่านั้นแต่กอดกันกลมราวกลับเด็กแรกเกิด ผมยังใจสัมผัสเนียนนุ่มและความอบอุ่นจากตัวของอาคาริได้อย่างชัดเจนอยู่เลย

“แล้วกอดหละ ชอบกอดชั้นเหมือนกันมั้ย”

ครั้งแรกตอนที่อาคาริกอดผมคือตอนที่เจอกันที่งานศพของญาติห่างๆ

ผมอยู่ในมุมนึงของงาน รู้สึกเศร้าจากการอกหัก แล้วอาคาริก็โอบกอดผมอย่างอ่อนโยนเพื่อปลอบใจผม

ตอนนั้นผมอยู่ ม.3 และอาคาริอยู่ มหาลัยปี 2 ถ้าผมเป็นอาคาริ ผมคงไม่เข้าไปกอดเด็กม.ต้นที่พึ่งเคยเจอกันครั้งแรกหรอก แต่อาคารินั้นทำเพราะเธอไม่สามารถปล่อยผมไว้คนเดียวได้และเข้ามาปลอบโยนผมด้วยการกอด

เมื่อผมอธิบายสาเหตุที่ผมเศร้า ว่าไม่ใช่เพราะเสียญาติไปแต่เพราะผมใจสลาย เธอก็ชวนผมออกไปเล่นเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของผม

ตอนนั้นผมคิดกับตัวเองว่า ถ้าผมมีพี่สาวแบบนี้จะเป็นยังไง นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาผมก็เริ่มชอบอาคาริในฐานะพี่สาวและเธอก็เอ็นดูผมในฐานะน้องชาย

เรามาเล่นด้วยกันบ่อย เธอพาผมไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำสวนสัตว์และที่อื่นอีกมากมาย แล้วผมก็ได้ตกหลุมรักเธอเข้า

และหลังจากนั้นเราก็กลายเป็นคนรักกัน อาคาริก็เริ่มแสดงด้านอื่นๆของเธอออกมา

ผมกลายเป็นคนเดียวที่เธอสามารถพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาต่างๆของเธอได้อย่างเปิดเผย เพราะเธอได้รับการเลี้ยงดูจากพ่อแม่ที่น่านับถือทั้งสอง คนนึงเป็นหมออีกคนเป็นครู และเธอก็ไม่อยากทำให้พวกเขาผิดหวัง ทุกครั้งที่เธอมีปัญหา เธอก็จะมากอดผมแล้วก็ให้ผมคอยดูแลเธอ บางที่อาจจะ…

“นี่มีอะไรในใจหรือเปล่า?”

เมื่อผมลองถามเธอก็ตัวสั่นเทา

“นายรู้ได้ยังไง?”

“ก็เพราะผมรักอาคาริไงหละ ผมถึงได้รู้ว่าผู้หญิงที่ผมรักมีอะไรผิดปกติ ถ้าเธอมีปัญหาอะไรบอกผมได้นะ”

“มันจะไม่เป็นไรเหรอ ถึงแม้ว่าชั้นจะไม่ได้เป็นแฟนของโทวมะ มันจะไม่รบกวนนายเหรอ”

“เธอไม่ได้รบกวนอะไรผมเลย ถึงอาคาริจะเป็นแฟนเก่าของผม แต่ความรู้สึกของผมที่มีต่อเธอนะมันเป็นของจริงไม่ได้โกหกหรือหลอกลวงอะไร ถ้าผู้หญิงที่ผมรักกำลังมีปัญหา มันก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรือที่จะเข้าไปช่วยเธอนะ”

นอกจากนี้อาคาริยังเป็นคนที่ช่วยผมไว้ตอนที่หัวใจแตกสลาย เออผมไม่ได้หมายความว่านี่จะเป็นการตอบแทนสิ่งเธอในตอนนั้นนะ แต่ผมไม่สามารถปล่อยอาคาริทิ้งไว้ได้จริงๆ

อาคาริมองผมด้วยสายละเศร้าแล้วพูดด้วยเสียงแผ่วเบา

“อาหารที่ชิราซาวะเซนเซย์ ทำเมื่อวานอร่อยมาก มันคงจะหายากมากที่จะมีคนไม่ชอบอาหารที่อร่อยขนาดนั้น แต่เมื่อเทียบกับเธอแล้ว ชั้นทำอาหารไม่ได้เรื่องเลย”

อาคาริเป็นคนที่ทำอาหารได้ห่วยมากๆ

ตอนที่เรายังคบกันอยู่ผมเคยได้กินอาหารฝีมือเธอ บอกตามตรงว่าสุดจะบรรยาย ทั้งไม่สุก มีกลิ่นคาว รสชาติห่วย แล้วเสิร์ฟมาแบบเละตุ้มเปะ

แต่ผมก็กินมันจนหมดนะ ตอนนั้นเล่นเอาเห็นคุณปู่กำลังกวักมือเรียกจากอีกฟากของแม่น้ำเลยนะ หลังจากวันนั้นผมก็ท้องเสียอย่างหนัก อาคาริก็ขอโทษขอโพยผมยกใหญ่

นอกจากทำอาหารแล้วอาคาริก็ยังมีอย่างอื่นอีกที่ไม่ถนัด เช่น ทำความสะอาด ซักผ้า เย็บปัก และอื่นๆอีก เอาจริงๆแล้วเธอไม่ถนัดงานบ้านเลย ตรงข้ามกับโคฮาคุทุกอย่าง

เธอเลยรู้สึกมีปมด้อยเรื่องนี่ และเธอก็รู้สึกเศร้าที่ผมชอบฝีมือการทำอาหารขอโคฮาคุ

“ชั้นจะไม่ทำข้าวกล่องให้โทวมะหรอก เห็นได้ชัดเลยว่านายจะต้องปวดท้องแน่ และชั้นก็เอาชนะชิราซาวะเซนเซย์ไม่ได้”

“อย่าพึ่งท้อซิ คนเรามีจุดแข็งจุดอ่อนต่างกันนะ”

“แต่ชั้นไม่เก่งอะไรเลย”

“ไม่จริงซักหน่อย อาคาริขับรถเก่งแถมยังร้องเพลงเพราะอีก”

“แต่ชั้นสู้ชิราซาวะเซนเซย์ไม่ได้หรอก ตอนที่รู้ว่าพวกเธอยังรักกันอยู่ ชั้นก็รู้ตัวว่าชั้นคงไม่ได้อยู่ในตัวเลือกหรอกใช่มั้ย”

“ไม่ใช่ซักหน่อย”

“เธอจะกลับมาคืนดีกับชั้นมั้ย”

“นั่นมัน ผมยังตอบไม่ได้ แต่ผมรักอาคาริมากๆนะ พอๆกับที่รักโคฮาคุ ทันทีที่ผมเห็นรอยยิ้มของเธออีกครั้ง ผมก็ตกหลุมรักเธอทันที เพราะงั้นอย่าทำหน้าเศร้าเลยนะ”

เมื่อผมปลอบเธอด้วยความรู้สึกที่จริงจัง อาคาริก็กลับมามีความสุขอีกครั้ง

“ขอบคุณนะโทวมะ ชั้นก็รักเธอเหมือนกัน หนอยแนะ นังแมวขโมย ชั้นจะไม่มีวันยกโทวมะให้เธอเด็ดขาด”

เห้ยเมื่อกี้เธอพูดว่าแมวขโมยใช่มั้ย ผมเริ่มกังวลเกี่ยวกับความไม่เป็นมิตรที่อาคาริมีต่อโคฮาคุซะแล้วซิ

ผมกังวลว่าพวกเธอจะทะเลาะกันทุกครั้งที่เจอกัน

“ขออนุญาต”

ชิบแล้วใครเข้ามาเนี่ย ถ้าเกิดว่ามาเห็นพวกเราในสภาพนี้ต้องเข้าใจผิดแน่เลย

“เอาไงกันดี”

“ใจเย็นๆไว้ เดี๋ยวชั้นจัดการเอง”

เธอดูสั่นไปทั้งตัวตอนนี้ อ้าวเห้ยไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่ จะไหวมั้ยเนี่ย

“นี่ถ้าจะกังวลขนาดนั้นก็อย่ามานอนกับผมตั้งแต่แรกซิ”

“ชั้นขอโทษ”

“อย่าขอโทษ ผมได้ได้จะโทษเธอ”

ตอนนี้เธอไม่ควรจะมาขอโทษใช่ไหม นี่เธอเสียใจขนาดนั้นเชียว ผมหละสงสัยจริงๆว่าตอนนี้เธอจะตอบสนองอย่างใจเย็นได้ในสถานการณ์นี้หรือไม่

“ขอโทษนะคะ อากามิเนะเซนเซย์ คุณอยู่หรือเปล่า?”

หือเสียงนี่มัน

“นั่นโคฮาคุใช่มั้ย?”

“เธอพูดถูกถ้าเป็น ชิราซาวะเซนเซย์หละก็ ชั้นจัดการได้ไม่มีปัญหา”

อาคาริอยู่ ๆก็มีความมั่นใจขึ้นมาอย่างกระทันหัน

นี่ซินะจิตวิญญาณต่อสู้ของผู้หญิง และแน่นอนว่าเธอรู้ว่าถึงแม้โคฮาคุจะรู้เรื่องนี้ก็ไม่เป็นอะไร แต่ว่านะไอ้การถูกจับได้แบบนี้มันก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะ

แต่เอาเถอะผมไม่มีทางเลือกอยู่แล้ว อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด ปล่อยอาคาริเป็นคนจัดการแล้วกัน ถ้าเกิดว่าโคฮาคุจับได้ว่า ผมมานอนกับอาคาริ เธอน่าจะเข้าใจผิดว่าเรากำลังคบกัน เพราะงั้นผมต้องรีบหลบออกไปจากที่นี่โดยการลบตัวตนออกไปแล้วพยายามออกไปจากห้องให้ได้

อาคาริก้าวออกไปจากหลังม่ายโดยทิ้งผมไว้บนเตียง

“อากามิเนะเซนเซย์ ทำไมถึงออกมาจากตรงนั้น คุณไปนอนมาเหรอ”

“ใช่ชั้นรู้สึกไม่ค่อยสบายเลยไปงีบซักหน่อยนะ”

“พวกคุณนอนด้วยกันใช่มั้ย”

“เปล่าชั้นนอนอยู่คนเดียว”

“นอนคนเดียวงั้นเหรือ แล้วกลิ่นนี่มันหมายความว่ายังไง”

“กลิ่นอะไร?”

“ก็กลิ่นของโทวมะคุงไง”

เห้ยประสาทรับกลิ่นของโคฮาคุน่ากลัวเกิน

“กลิ่น กลิ่นอะไรไม่เห็นมีเลย”

“ชั้นรู้นะ อย่าได้ประมาทประสาทรับกลิ่มของครูคหกรรม ฟุดฟิด ฟุดฟิด นั่นไงชั้นได้กลิ่นของโทวมะคุง อากามิเนะเซนเซย์ เธอไปนอนกับโทวมะคุงมาใช่มั้ย”

“แล้วมันผิดหรือไง?”

อ่าวเห้ยแล้วไปยอมรับทำไมหละนั่น

จู่ม่านก็เปิดออกแล้วโคฮาคุก็โผล่มา

“นายได้ทำเรื่องลามกกับอากามิเนะเซนเซย์หรือเปล่า”

“ผมไม่ได้ทำงั้นแน่นอนครับ”

“แต่ว่านะโทวมะคุงเธอเลือดกำเดาไหนนะ”

“มันไม่ได้ไหลเพราะผมตื่นเต้นซักหน่อย ผมโดนบอลอัดเข้าที่หน้ามาครับ”

โคฮาคุเลยลดความสงสัยลง

“เธอโอเคมั้ย”

“สบายดีแล้วครับ ไม่ค่อยเจ็บแล้วด้วย”

โคฮาคุถอนหายใจอย่างโล่งอก แล้วก็มองไปที่อาคาริ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงตำหนิ

“นอนด้วยกันแบบนี้มันขี้โกงนิ นี่คุณพยายามจะตัดหน้าชั้นเหรอ”

“ชั้นไม่ได้พยายามจะตัดหน้าอะไร ที่ชั้นนอนกับเค้าก็เพื่อจุดประสงค์ในการดูแลผู้บาดเจ็บ หากชั้นต้องโดนกล่าวโทษหละก็ คดีเรื่องข้าวกล่องของชิราซาวะเซนเซย์ก็ต้องโดนด้วย”

“ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น แต่… การนอนด้วยกันแบบนั้นมันน่าอิจ…ฉ ไม่ซิมันไม่ยุติธรรมนี่น่า ชั้นก็อยากนอนกับโทวมะคุงเหมือนกันนะ ดังนั้น…”

โคฮาคุจ้องมาที่ผม

“โทวมะคุงวันนี้มานอนกับชั้นมั้ย”

“แทนที่จะไปนอนกับชิราซาวะเซนเซย์ เธอมานอนกับชั้นดีกว่า ชั้นกอดนายได้ดีกว่าเธอแน่”

“ไม่จริงหรอก ชั้นกอดเก่งกว่าเธออีก ตอนเราคบกันนะ ชั้นเคยนอนแก้ผ้ากับโทวมะคุงด้วยซ้ำ ตอนนั้นเค้าดูมีความสุขมาก”

“โทวมะก็นอนกับชั้นด้วย เราเปลือยกายแล้วก็นอนกอดกัน แล้วเค้าก็มีความสุข”

โคฮาคุและอาคาริรำลึกความหลังที่แสนซุกซนที่พวกเธอมีกับผม

ผมไม่คิดว่ามีใครเหนือกว่ากันหรอกนะสำหรับเธอทั้งสองคน แต่ถ้าผมไม่ยอมให้พวกเธอนอนด้วยหละก็พวกเธอได้ทะเลาะกันไม่เลิกแน่ดังนั้น

“วันเสาร์หน้าเราสามคนมานอนด้วยกันมั้ย”       (3P?)

ตามข้อเสนอของผมพวกเธอหยุดทะเลาะกันทันที

“เอ๊ะ นอนด้วยกันเหรอ?”

“โทวมะ นี่นายพูดจริงเหรอ”

“ผมไม่มีปัญหา แต่เราต้องนอนกันสามคนนะ พวกเธอโอเคมั้ยหละ?”

“แน่นอน”

“ชั้นก็ไม่มีปัญหาจ๊ะ”

ทั้งสองคนพูดด้วยใบหน้ามีความสุข  จากนั้นเมื่อบทสนทนาใกล้จบลง อาคาริก็นึงบางอย่างออก

“ว่าแต่ชิราซาวะเซนเซย์ มาห้องพยาบาลทำไมหละ”

“ชั้นมาที่นี่เพื่อมาเอาผ้าพันแผลจ๊ะ”

“พอดีคาบ5 มีคลาสทำอาหาร ชั้นเลยต้องมาเตรียมผ้าพันแผลไว้เผื่อมีนักเรียนได้รับบาดเจ็บจ๊ะ”

“ทำไม่คุณไม่มาตอนเที่ยง”

“ชั้นคิดว่าตอนเที่ยงมันน่าจะวุ่นวายนะจ๊ะ แต่พอมาคิดอีกทีสงสัยสัมผัสที่ 6 ของชั้นน่าจะตื่นขึ้นมาแล้ว”

โคฮาคุดูจะภูมิใจมากที่สามารถมาหยุดไม่ให้อาคารินอนกับผมได้ และอาคาริก็ดูหงุดหงิดหน่อยๆเธอเดินไปหยิบผ้าพันแผลจากตู้ส่งให้โคฮาคุ เมื่อโคฮาคุได้ผ้าพันแผลแล้วเธอก็หันกลับมาพูด

“เธอจะอยู่ที่ห้องพยาบาลอีกนานแค่ไหนจ๊ะโทวมะคุง”

“โอ้เหมือนผมจะต้องกลับไปที่โรงยิมแล้วหละครับ”

ผมอยู่นานเกินไปแล้ว ผมรีบดึงทิชชูออกจากจมูก เลือดกำเดาหยุดไหลแล้ว

ผมจึงรีบชิ่งออกมาแล้วปล่อยเธอทั้งสองไว้อย่างนั้น

แฟนเก่าของผมเป็นครู

แฟนเก่าของผมเป็นครู

Score 10
Status: Completed
เอ้าทำไมแฟนเก่าผมถึงได้มาเป็นครูได้หละเนี่ย

Options

not work with dark mode
Reset