แฟนเก่าของผมเป็นครู 1.1 แฟนเก่ามาเยี่ยมบ้าน

ตอนที่ 1.1 แฟนเก่ามาเยี่ยมบ้าน

บทที่1:ตอนที่1 แฟนเก่ามาเยี่ยมบ้าน

เห้ย เห้ย เห้ย นี่มันเป็นเรื่องโกหกใช่มั้ย

แทบจะกรีดร้องทั้ง ๆ ที่ อยู่กลางพิธีเปิดภาคเรียนใหม่ หัวใจผมเต้นแรงและเหงื่อยก็แตกไหลยังกับน้ำตก

คุณครูที่พึ่งเข้ามาบรรจุใหม่ยืนเรียงรายอยู่บนเวทีหน้าโรงยิม ในจำนานนั้นมีสองคนที่ผมรู้จักดี

คนนึงเป็นครูสาวหน้าตาอ่อนโยน เธอเป็นสาวสวยหุ่นสะบึม ผมสีน้ำตาลอ่อนยาวถึงไหล่ เธอมองนักเรียนด้วยสายตาที่อ่อนโยนราวกับเป็นพระแม่ศักดิ์สิทธิ์

อีกคนเป็นครูสาวที่มาดเท่ เธอเป็นสาวสายหุ่นดี ที่มีผมยาวสลวยถึงเอว ใบหน้าของเธอมองตรงไปข้างหน้าพร้อมทั้งริมฝีปากที่เรียบเฉย

ใช่ครับทั้งสองคนเป็นแฟนเก่าของผมเอง

ถึงจะยากที่จะเชื่อแต่ตอนแนะนำครูคนใหม่ผมก็ได้ยินว่าพวกเธอมีชื่อว่า ชิราซาวะ โคฮาคุ และ อากามิเนะ อาคาริ

 

นี่มันเรื่องจริงเหรอเนี่ย เอาจริงดิพวกเธอคือโคฮาคุกับอาคาริจริงเหรอ แล้วต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นเนี่ย นี่ผมจะต้องไปเข้าเรียนคลาสของแฟนเก่า? แบบนั้นมันน่าอึดอัดตายชัก

ในขณะที่ผมกำลังหวั่นวิตกอยู่นั้น

“การได้พบพวกเธอทั้งสองอีกครัง ยังกับฝันไปแนะ”

ผมได้ยินเสียงพึมพำจากคนที่นั่งข้างๆเหมือนดังความฝัน

ครูสาวสวยสองคนที่พึ่งย้ายเข้ามาบรรจุใหม่ ผมก็เข้าใจหละว่าทำไม่เขาถึงยิ้มออกมาอย่างมีความสุข แต่ ‘อีกครั้ง’เนี่ยมันหมายความว่ายังไง

“นี่ นายรู้จักกับ ชิราซาวะ-เซนเซย์ กับ อากามิเนะ-เซนเซย์ เหรอ”

ผมถามเด็กผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างๆ ผมและใบหน้าที่ผ่อนคลายของเขาก็ขมวดคิ้ว

ผมตัวสูงแถมมีหน้าตาที่ดูหน้ากลัว ดังนั้นผมคงทำให้เขาตกใจ

แน่นอนว่ามีแค่รูปลักษณ์ภาพนอกของผมเท่านั้นหละที่ดูหน้ากลัว แต่มันก็ไม่ใช่ความผิดผมนิที่หน้าตาหน้ากลัว และดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยมีคนประหลาดๆที่ชอบคบค้าสมาคมกับคนที่หน้าตาน่ากลัวหละนะ ผมเลยไม่มีเพื่อนเลยซักคน

“อ่อ  นิจิโนะคุงคงไม่รู้ซินะ เพราะนายพึ่งย้ายมา พวกเธอทั้งสองคนเป็นนักศึกษาฝึกสอนนะ”

พวกเธอมาฝีกสอนที่โรงเรียนนี้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา ซึ่งน่าจะประมาณ4เดือนก่อนที่ผมจะย้ายมาที่นี่

“โชคดีจริงๆ ที่มีครูดีๆแบบนี้มาที่นี่ อ้อ ชั้นได้ยินมาว่าพวกเธอยังไม่มีแฟนหละ”

“จริงเหรอ?”

ผมคิดว่าพวกเธอจะเจอกับคนที่ชอบไปแล้ว หรือพวกเธอยังไม่ได้สารภาพรัก หรือพวกเธอสารภาพไปแล้วแต่ถูกปฏิเสธ

ไม่ ข้อมูลนั้นมันตั้งแต่ปีที่แล้ว ตอนนี้พวกเธอน่าจะมีแฟนแล้ว ผมหมายถึงผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าพวกเธอมีแฟนหรือเปล่า

ผมอยากให้เรากลับมาคืนดีกันอีกครั้ง แต่ผมไม่สามารถที่จะมีความสัมพันธ์ระหว่างครูกับนักเรียนได้ แล้วผมก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะกลับไปคืนดีกับใครดี?

แต่ก็ช่างมันแล้วกัน ยังไงผมก็โดนทิ้งไปแล้ว

หลังจากที่เขาอธิบายให้ผมฟังเสร็จแล้ว เขาก็กลับไปมองโคฮาคุและอาคาริด้วยสีหน้าหลงไหลอีกครั้ง นักเรียนคนอื่นๆก็มีสีหน้าแบบเดียวกัน ผมเข้าใจความรู้สึกนั้นนะ เพราะพวกเธอทั้งสวยและก็น่ารักมาก

ผมเคยคบกับผู้หญิงทั้งสองคนนั่นเลยนะ ในฐานะผู้ชายด้วย ผมรู้สึกภูมิใจในตัวเองมาก แต่ก็ไม่ได้อยากไปโม้ว่า 

“ชั้นเคยคบกับทั้งสองคนเลยนะ น่าทึ่งใช่มั้ยหละ”

นั้นมันจะเป็นการประทำที่ไร้ประโยชน์ทั้งยังทำให้พวกเธอต้องเดือดร้อนด้วย

ถ้าหากว่ามีคนรู้ว่าทั้งสองคนคบหากับนักเรียน ก็จะถูกมองด้วยสายตาเย็นชา และในกรณีเลวร้ายที่สุดพวกเธออาจจะถึงขั้นโดนไล่ออกจากการเป็นครูเลยก็ได้

ผมรู้ดีว่าความฝันของพวกเธอคือการเป็นครู ผมไม่อยากสร้างปัญหาให้กับพวกเธอเพราะพวกเธอได้ทำความฝันสำเร็จแล้ว

ถึงพวกเราจะเลิกลากันไปแล้ว แต่ผมก็ยังรักพวกเธออยู่

ผมไม่อยากไปทำลายชีวิตที่สดใสและรุ่งโรจน์ในฐานะครูของพวกเธอ ผมจะคอยสนับสนุนทั้งโคฮาคุและอาคาริในฐานะของครูจากในเงามืด

เนื่องจากเราอยู่ในโรงเรียนเดียวกัน เราคงได้เจอกันซักวันแน่ๆ มันคงอึดอัดน่าดู ผมต้องพยายามหลบเลี่ยงให้ได้

ขณะที่ผมกำลังคิดว่าเอาทำอย่างไรอยู่นั้น พิธีเปิดก็จบลง ผมกลับไปยังห้องเรียน จากนั้นก็หมดไปอีกวัน

“สองคนนั่นยังน่ารักเหมือนเดิมเลย”

“ฉันแทนรอคาบเรียนของ ชิราซาวะเซนเซย์ไม่ไหวแล้ว”

“อย่างที่คิดเลยอากามิเนะเซนเซย์นิเท่จริงๆเลย”

หลังเลิกเรียนในห้องเรียนยังเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยเกี่ยวกับคุณครุคนใหม่ โดยโคฮาคุเป็นครูสอนคหกรรม 

ส่วนอาคาริเป็นครูห้องพยาบาล

เนื่องจากมีครูสอนคหกรรมคนเดียว นักเรียนทุกคนจึงต้องเข้าคลาสเรียนของโคฮาคุ และถ้าพวกเขาได้รับบาดเจ็บหรือไม่สบาย

ก็ต้องเข้ารับการตรวจจากอาคาริ

แม้ว่าผมจะไม่อาจโดนเรียนและหลีกเลี่ยงกับที่จะพบกับโคฮาคุได้ แต่ผมก็สามารถหลีกเลี่ยงการที่จะไปห้องพยาบาลได้

คงต้องระวังไม่ให้บาดเจ็บซะแล้ว

เมื่อคิดได้ดังนั้น ผมก็เดินออกจากห้องไปยังระเบียงทางเดิน แล้วผมก็เห็นเด็กผู้หญิงผมบลอนซ์ทองเดินผ่านผมไป

เธอสะพายกระเป๋าไว้บนบ่า และตัวเธอก็โน้มไปข้างหน้าเหมือนจะกำลังถือของที่ดูหนักมากอยู่

“เออ เธอต้องการความช่วยเหลือมั้ย?”

ผมอาจจะทำให้เธอตกใจ แต่ผมไม่ได้มีเจตนาอย่างนั้น ผมเรียกเธอจากด้านหลัง แล้วเธอก็หันกลับมา

เธอเป็นเด็กสาว ที่ดูเหมือนพวกสาวแกล ชุดของเธอดูลัดแล้วกระโปรงของเธอก็สั้น เธอมีดวงตาที่ดูแข็งกร้าว และใบหน้าที่ดูข้องข้างจะเอาเรื่อง

เธอจ้องมองผมด้วยสายตาระแวง…. ทำไมต้องจ้อง?

“ฉันจะไม่ให้ข้อมูลอะไรทั้งนั้นไม่ต้องมาจีบชั้น”

“ไม่นะชั้นไม่ได้จะมาจีบเธอนะ”

ถึงผมจะอยากได้แฟนมากแค่ไหน แต่ก็ใช่ว่าจะของขาดถึงขนาดที่ไปไล่ตามจีบแม้แต่ผู้หญิงที่ไม่รู้จักชื่อด้วยซ้ำ

ถึงผมจะไม่รู้จักชื่อของเธอ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่เคยเจอเธอมาก่อน เราเป็นเพื่อนร่วมชั้นกันในปีนี้ และผมก็เคยเดินสวนกับเธออยู่หลายครั้ง เอ่อ…ว่าแต่เธอชื่ออะไรหว่า

“นี่นายกำลังทำไรอยู่นะ มองหน้าอกชั้นงั้นเหรอ น่าขยะแขยงจริง”

“เธอเข้าใจผิดแล้ว ผมแค่กำลังดูป้ายชื่อนะจะได้เรียกได้ถูก”

อีกอย่างนะเธอจะไม่หยาบคายไปหน่อยเหรอ นี่ผมไปทำอะไรให้เธอเกลียดตอนไหนเนี่ย?

…เอ๊ะ ผู้หญิงคนนี้ชื่อ ชิราซาวะ เหรอ?

เธอดูไม่เหมือนกับโคฮาคุเลย แต่ว่าตอนที่เราคบกันอยู่เธอเคยเล่าว่ามีน้องสาวที่อายุเท่ากับผมนิ

ผมไม่เคยเจอน้องสาวของเธอเลยเพราะไม่เคยไปเยี่ยมที่บ้านของเธอ แต่บางที่เธออาจจะเคยได้ยินเรื่องของผม บางทีนั่นอาจจะเป็นสาเหตุที่เธอพูดจาหยาบคายแบบนี้

“ชิราซาวะซัง คุณเป็นน้องสาวของ ชิราซาวะเซนเซย์ เหรอ?”

ดวงตาของเธอยิ่งจ้องมาที่ผมมากขึ้น

“นึกแล้วว่าต้องทัก พวกนายเนี่ยตื้อจริงๆนะ ถึงจะมาประจบชั้นยังไง ชั้นก็ไม่มีทางให้ช่องทางติดต่อ โอเน่จัง เด็ดขาด”

อ่อ เข้าใจแล้วนี่ซินะที่เธอต้องการจะสื่อ

โคฮาคุเป็นครูที่เป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก เธอสามารถชั้นใจนักเรียนปี 1 ได้เพียงแค่เธอมองตา และสามารถชนะใจพวกปี2และปี3ได้ในช่วงที่เธอเข้ามาฝึกสอน ไม่น่าแปลกใจเลยถ้าจะมีพวกนักเรียนชายเข้ามาตีสนิทกับเธอที่เป็นน้องสาวเพื่อที่จะได้ใกล้ชิดกับโคฮาคุ

เธอมักจะถูกพวกผู้ชายเข้ามาประจบเพื่อต้องการที่จะตีสนิทกับพี่สาวของเธอ และเธอก็เบื่อหน่ายกับเรื่องพวกนี้

“ผมไม่ได้จะมาจีบเธอ และผมก็พึ่งรู้ว่าเธอเป็นน้องสาวของชิราซาวะเซนเซย์ด้วย”

“นายนี่โกหกไม่เนียนเลยนะ ทำไมนายจะไม่รู้เรื่องนี้ ทั้งที่ปีที่แล้วมีแต่คนพูดถึงเรื่องนี้”

“ผมเป็นนักเรียนที่พึ่งย้ายมาใหม่นะ ผมพึ่งย้ายมาเมื่อปีที่แล้วหลังจากปิดเทอมฤดูร้อน”

ชิราซาวะซังกระพริบตาด้วยสีหน้างงๆ

“อ่อ เข้าใจแล้ว แล้วนายทักชั้นทำไม”

“ผมเห็นเธอถือของมันดูหนักมาก ผมเลยคิดว่าจะช่วยเธอถือนะ”

“นั่นหมายความว่าจะเข้ามาจีบชั้นว่างั้น”

“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้มาจีบ ที่ผมทักคุณเพราะว่าสงสารไม่ได้มีเจตนาอื่นแอบแฝงเลยทั้งสิ้น”

“หือ…สงสาร?”

เธอสงสัยผมเหรอ นี่ต้องไม่เชื่อใจผู้ชายขนาดไหนเนี่ย

“เอาหละนิจิโนะคุง ถ้านายอยากจากช่วยงั้นก็รบกวนที”

เธอพูดด้วยน้ำเสียงเย่อหยิ่ง แล้วก็คุกเข้าแล้ววางสัมภาระลง

…เอ่อ ผมเห็นร่องอกของเธอชัดเจนมาก อีกทั้งยังเห็นกางเกงในสีชมพูชัดแจ๋วเลย

ผมไม่คิดว่าเธอจะตั้งใจโชว์ให้ดูหรอกนะ แต่เธอมีช่องว่างเต็มไปหมดสำหรับคนที่ไม่ไว้ใจผู้ชายหละนะ

จากนั้นชิราซาวะก็หยิบตำราอาหารออกมากจากกองสัมภาระ 2-3เล่ม

“พวกนั้นมาจากห้องสมุดเหรอ?”

“ใช่ฉันยืมมาตอนปิดเทอมช่วงฤดูใบไม้ผลิ กำหนดส่งคืนคืออาทิตย์หน้า แต่เนื่องจากวันนี้ไม่มีเรียนและวันนี้ก็ไม่ได้มีสัมภาระอะไรมากมาย ชั้นเลยถือโอกาสนี้เอาพวกมันมาคืนทั้งหมด นายมั่นใจในความแข็งแรงของตัวเองมั้ย นิจิโนะคุง”

“ผมเหรอ”

ผมเป็นคนที่มีรูปร่างดีมาตั้งแต่เด็กๆ และพวกเพื่อนเก่าของผมก็บอกว่าผมดูอายุมากว่าพวกเขาซัก3ขั้น ตอนนี้ผมสูง 174 cm

และมีกล้ามเนื้อพอสมควรทั้งที่อยู่ชมรมกลับบ้านแท้

“ถ้างั้นผมขอหนังสือ 10 เล่มนะ”

หลังจากที่ส่งหนังสือให้ผมแล้ว ชิราซาวะซัง ก็เดินนำหน้าผมไปอย่างรวดเร็ว ผมไม่มั่นใจว่ามีหนังสือทั้งหมดกี่เล่มแต่หนังสือพวกนี้ดูหนักมาก และ ชิราซาวะซังก็ดูผอมมาก ดังนั้นเธอไม่น่าจะมีแรงพอที่จะถือหนังสือพวกนี้

“ถ้ามันหนัก ก็ส่งมาให้ผม ผมยังถือไหวอยู่”

“ชั้นสบายดี แล้วก็อย่ามาเดินข้างๆชั้นเดี๋ยวจะมีคนเข้าใจผิดว่าเรากำลังคบกันอยู่”

ผมไม่คิดว่าจะมีใครเข้าใจผิดหรอก แต่ตอนนี้เราใกล้จะถึงห้องสมุดแล้ว ถ้าเกิดว่าโคฮาคุมาเห็นเข้าในสถานการณ์แบบนี้ เธออาจจะคิดว่า ‘ผมเข้าไปยุ่งกับน้องสาวเธอแน่’

ผมไม่อย่างให้แฟนเก่าของผมเข้าใจผิดเรื่องนี้ ผมจึงตัดสินใจถอยห่างออกมาตามคำแนะนำของเธอ เมื่อผมเดินผ่าน ชิราซาวะซัง

แล้วก้าวเดินลงบันไดไปและ…

“กรี๊ด!!”

ทันทีที่ผมก้าวลงบันได ผมก็ได้ยินเสียงกรีดร้องดังมาจากข้างหลัง พอผมหันหลังกลับไป ก็เห็น ชิราซาวะซัง ลื้นล้มและกำลงตกลงมา ผมจึงรีบคว้าตัวเธอไว้แล้วเราก็ร่วงลงมา หลังผมกระแทกพื้น

“โอ้ย!!”

“นี่…นายโอเคมั้ย”

เธอรีบลุกขึ้นและมองหน้าผมด้วยความกังวล

“เออ ผมไม่เป็นไรหรอก แล้วชิราซาวะซังได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า ขาพลิกหรือเปล่า?”

“ชั้นสบายดี ขอบคุณนิจิโนะคุงนะที่ช่วยชั้นไว้นะ”

“นี่ทำไมนายถึงดูเหม่อลอยขนาดนั้น หัวกระแทกพื้นเหรอ”

“เปล่าแค่ที่หลังนะ”

เหตุผมเดียวที่ทำให้ผมมึนงงคือความตรงไปตรงมาอยากไม่คาดคิดของชิราซาวะซัง ผมแน่ใจว่าเธอต้องวีนใส่ผมที่ไปกอดเธอเข้าแน่

“ไปห้องพยายาลกันเถอะเพื่อความปลอดภัย”

“ผมก็บอกแล้วไงว่าผมสบายดี”

“ไม่นะนายไม่ควรตัดสินใจเองซิ นายควรไปพบอาจารย์ห้องพยาบาลซิ”

เพราะงั้นหละผมเลยไม่อยากไป เพราะถ้าไปก็ต้องเจอกับอาคาริแน่ๆ แต่ผมคงบอกกับชิราซาวะซังไม่ได้หละนะ

ช่วยไม่ได้งั้นผมคงต้องไปห้องพยาบาลหละนะ ถึงแม้จะรู้สึกอึดอัดก็ตาม

“โอเคงั้นเราไปกันเถอะ”

ผมเดินไปที่ห้องพยาบาลพร้อมกับชิราซาวะซัง แล้วเปิดประตูออก

ตอนแรกผมคิดว่าห้องพยาบาลน่าจะเต็มไปด้วยนักเรียนที่อยากจะใกล้ชิดอาคาริ แต่ผิดคาดมันดันว่างเปล่าซะงั้นพวกเขาคงคิดว่าการบุกเข้ามาในห้องพยาบาลมันคงเป็นการรบกวนนักเรียนที่ป่วยจริงๆพวกเข้าเลยลังเลที่จะทำแบบนั้นซินะ

ห้องนี้เต็มไปด้วยกลิ่นของน้ำยาฆ่าเชื้อและก็มีเพียงอาคาริคนเดียวเท่านั้นที่อยู่ภายในห้อง เธอเป็นครูสาวที่ใส่เสื้อกาวน์สีขาวทับชุดสูททำงานสีดำไว้

อาคาริที่กำลังนั่งดูเอกสารอยู่ ก็ได้กรีดตามามองผมและ…

เธอเบิกตากว้างด้วยความตกใจ แล้วก็จ้องผมตาเขม็ง

“เข้าไปตรวจเถอะ เดี๋ยวชั้นจะรอ”

ชิราซาวะซังผลักหลังผมเข้าไปหาอาคาริ

ไม่รู้ว่าเพราะอะไรอาคาริถึงได้เศร้าเมื่อเธอมองมาทางผม

ผู้ชายที่เธอเป็นคนทิ้งไปตอนนี้มายืนอยู่ตรงหน้าของเธอ ปกติแล้วคนเราก็จะแสดงอาการขยะแขยงไม่ก็ทำท่าทางเขินอายซิ

แต่ทำไมอาคาริถึงมีหน้าตาที่เศร้าหมองละ

นี่หมายความว่าเธอยังรักผมอยู่หรือเปล่า

“เธอดูเหมือนกำลังจะตาย”

หานี่ผมกำลังได้ยินคำสาปแช่งเหรอ คำทักทายแบบนั้นมันจะไม่รุนแรงไปหน่อยหรือไง นี่หมายความว่าเธอเกลียดผมมากๆเลยซินะ

“เอ๊ะ นี่นายจะตายเหรอ”

“ผมไม่ตายหรอกนะ”

“แต่อากามิเนะเซนเซย์ บอกว่านายจะตายนิ”

ชิราซาวะซังดูเป็นกังวลมากบางทีเธอน่าจะเข้าใจผิดว่าผมกำลังจะตายเพราะเธอ ผมนะไม่ตายหรอก แต่อาคาริไม่ใช่คนประเภทที่ชอบพูดเล่น ดังนั้นเธอจึงอดไม่ได้ที่จะเชื่อ

อาคาริ

“หน้านายดูซีดๆนะ ไปนอนพักที่เตียงเถอะ”

ดูเหมือนว่าอาคาริอยากจะอยู่กับผมสองต่อสอง เพื่อที่เธอจะได้คุยกับผมตามลำพัง ผมแน่ใจว่าเธอไม่อยากให้ผมเปิดเผยความสัมพันธ์ของเราสองคน

“เออผมไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ แล้วอาจารย์ก็มีงานที่ต้องทำใช่มั้ยละ งั้นพวกผมไปก่อนนะครับ”

ผมรีบออกมาจากห้องพยาบาล ผมยังแสร้งทำว่าเราพึ่งเคยเจอกันครั้งแรก ซึ่งน่าจะทำให้เธอเข้าใจได้ว่าผมไม่มีความต้องการที่จะ

เปิดเผยความสัมพันธ์ของเราสองคน

“เฮ้ นายแน่ใจนะว่าไม่ต้องไปนอนพักนะ”

“ไม่ต้องกังวล อาจจะเพราะแสงหละมั้งที่ทำให้หน้าตาดูเหมือนป่วย”

“อืมชั้นเข้าใจแล้ว”

ชิราซาวะซังดูโล่งใจขึ้นนิดหน่อย ตอนแรกผมนึกว่าเธอเป็นพวกสาวปากร้าย แต่เอาเข้าจริงดูเหมือนเธอจะเป็นคนอ่อนโยนกว่าที่คิด

ผมเดินไปตามทางเดินและได้ทำความเข้าใจกับเพื่อนร่วมชั้นคนนี้มากขึ้น และแล้วเราก็มาถึงห้องสมุด แล้วประตูก็เปิดออก…

โคฮาคุก็เดินออกมา

“เอ๊…………?”

โคฮาคุร้องออกมาเมื่อเห็นหน้าของผม จนหนังสือในมือของเธอล่วงลงมาหมด แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ได้สนใจมันเลยเอาแต่จ้องมาที่ผม

“นี่โอเน่จัง จู่ๆก็ตะโกนออกมาทำไมเนี่ย”

ชิราซาวะซังมองดูเธอด้วยความสงสัย แล้วเธอก็แนะนำผม

“นี่เพื่อนร่วมชั้นของหนูเอง นิจิโนะคุง เขามาช่วยหนูถือหนังสือหนะ ถึงเขาจะตัวใหญ่และดูน่ากลัวแต่ก็ไม่ใช้คนเลวร้ายอะไรเพราะฉะนั้นอย่ากลัวเขาเลยนะ”

“นักเรียนของเรานี่เอง ขอบคุณที่ช่วยดูแลน้องสาวของชั้นนะ มานั่งพักที่ห้องคหกรรมซักหน่อยมัน เดี๋ยวครูจะชงน้ำชาให้เป็นการตอบแทน”

ชาขอบคุณคงจะเป็นแค่ข้ออ้างที่จะได้อยู่กันตามลำพังซินะ จุดประสงค์จริงๆก็คือเพื่อหาทางปิดปากชั้น แต่ว่าผมไม่สามารถอยู่กันตามลำพังกับโคฮาคุได้ หากใครมาเห็นเราสองคนอยู่กันตามลำพังหละก็อาจจะคิดว่าเราสองคนกำลังมีความสัมพันธ์ที่ผิดศีลธรรมแน่

“หนูอยากดื่มชาของโอเน่จัง จังเลย”

เราคงไม่สามารถคุยกันเรื่องอดีตต่อหน้าชิราซาวะซังได้อยู่ดี

“เพื่อตอบแทนการช่วยเหลือของนาย ชั้นจะอนุญาตให้นายได้ดื่มชาของ โอเน่จังได้”

เธอพูดอย่างกับว่ามันคือการได้รับเกียรติงั้นหละ แต่ในความจริงชาที่โคฮาคุชงให้สำหรับเด็กผู้ชายมันก็เป็นอะไรที่ใครก็อยากดื่มละนะ

จริงๆผมก็อยากดื่มหละนะ แต่ว่า…

“ไม่เอาดีกว่า คือว่าจะรีบกลับบ้านไปซักผ้านะครับ”

“นายซักผ้าเองเหรอ”

“ใช่ เพราะว่าชั้นอยู่คนเดียวนะ”

ผ่านมาหกเดือนแล้วตั้งแต่ผมย้ายมาอยู่ที่นี้ เพราะครอบครัวผมต้องย้ายที่ทำงานไปต่างประเทศ เนื่องจากผมไม่สบายใจที่ต้องย้ายไปอยู่ต่างประเทศ ผมเลยตัดสินใจไม่ย้ายตามพ่อแม่ไป และได้เริ่มใช้ชีวิตด้วยตัวคนเดียวตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิปีนี้

“ครูว่าเธอดูเหนื่อยจากการขนหนังสือใช่มั้ยหละ บ้านเธออยู่ไกลมั้ย เดี๋ยวครูไปส่งเธอได้นะ”

“เออไม่เป็นไรครับ อพาร์ตเมนต์ของผมอยู่ใกล้ๆนี่เอง”

“อยู่ใกล้ๆ หรือว่าจะอยู่ที่อพาร์ตเมนต์สีเขียวๆ”

“ก็ใช่ แต่…”

“อยู่ที่อพาร์ตเมนต์ เดียวกับครูเลย”

โคฮาคุพูดออกมาอย่างตื่นเต้น

ดูเหมือนว่าเธอจะดีใจกับเรื่องนี้ ? แต่ไม่จริงน่าเธอพึ่งเจอกับแฟนเก่านะนอกจากนั้นยังพบว่าเขาอยู่ที่อพาร์ตเมนต์เดียวกับเธออีกสงสัยเธอจะช๊อคจนเพี้ยนไปแล้วแน่ๆ

“ครูอยู่ที่ห้อง 503 นะ”

ยังไม่ได้ถามเลยแล้วจะมาบอกทำไมเนี่ย

“เอ๊ะ นั้นมันอยู่ห้องข้างๆนิ”

ผมไม่เคยนึกเคยฝันมาก่อนเลยว่าแฟนเก่าจะมาอยู่ห้องข้างๆกัน

“เออ คุณมาอยู่นานหรือยังครับ”

“น่าจะประมาณสองอาทิตย์ได้แล้วนะ ชั้นเคยไปทักทายห้องข้างๆแล้วแต่ไม่มีคนอยู่”

เมื่อสองอาทิตย์ที่แล้วเป็นช่วงที่ผมไปเยี่ยมบ้านคุณย่ากับครอบครัว

ผมเคยได้ยินว่าห้องข้างๆมีคนย้ายเข้ามาแต่ช่วงปิดเทอมฤดูใบไม้ผลิผมแทบจะไม่ได้ออกมาจากห้องเลยดังนั้นเราเลยไม่เคยเจอกัน แต่ไม่นึกไม่ฝันเลยว่าจะเป็นแฟนเก่า

ผมรู้สึกสิ้นหวัง แต่แล้วชิราซาวะซังก็มองค้อนมาที่ผม

“นายคงจะไม่ได้ไปหาโอเน่จังใช่มั้ย?”

“ชั้นไม่ไปหรอกน่า”

“งั้นก็ดีไป ขอบคุณที่ช่วยวันนี้นะ ขอบใจมาก”

“ด้วยความยินดี ผมจะกลับบ้านไปพักผ่อนแล้วเจอกันพรุ่งนี้นะ ชิราซาวะเซนเซย์ก็ด้วยนะครับ ลาหละครับ”

ผมก้มหัวให้และเดินจากไป

แฟนเก่าของผมเป็นครู

แฟนเก่าของผมเป็นครู

Score 10
Status: Completed
เอ้าทำไมแฟนเก่าผมถึงได้มาเป็นครูได้หละเนี่ย

Options

not work with dark mode
Reset