บทที่ 141 – ชิโอริ
ปี ค.ศ. 1999 เดือน สิงหาคม วันที่ 11 เวลา 00:00 น.
บางทีวันก่อนหน้านี้อาจจะไม่เคยมีอยู่มาตั้งแต่แรก วันหลังจากนี้ก็ไม่มีทางเกิดขึ้น ทุกอย่างจะเป็นเพียงความว่างเปล่าอันเป็นศูนย์มาตั้งแต่แรก
เวลาที่กล่าวไปข้างต้นอาจจะมีใครบางคนเขียนขึ้นมา หรือใครบางคนอาจจะกำหนดให้เป็นวันนี้เฉยๆ
ไม่รู้สิ… แต่ทว่าในเวลานี้เองได้มีการเกิดขึ้นมาของหญิงสาวคนหนึ่ง เธอลืมตาดูโลกครั้งแรกภายใต้แสงแยงตาของไฟในโรงพยาบาล
อาจจะแปลกไปสักหน่อย แต่หญิงสาวที่พึ่งลืมตาขึ้นก็ได้ยินเสียงและสามารถเข้าใจคนที่กำลังสื่อสารกันได้ แม้ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นคืออะไรแต่เธอกลับเข้าใจความหมายมัน เธอไม่เข้าใจแม้แต่แนวคิดของการสื่อสารด้วยซ้ำ เพราะเธอเป็นเด็กทารก
แต่ก็อย่าที่กล่าวไปข้างต้น เธอเข้าใจมันได้ว่าพวกเขาพูดว่าอะไร…
แน่นอนคำกล่าวของพวกเขาก็เป็นคำกล่าวตามปกติเมื่อมีเด็กเกิดขึ้นมา แม้สาวน้อยตัวเล็กจะไม่ค่อยเข้าใจ แต่เธอก็รู้ว่ามันเป็นเรื่องปกติ
จนกระทั่งเสียงของผู้ที่น่าจะเป็นแม่… เพราะน่าจะเป็นคนคลอดเธอออกมาเมื่อกี้ น้ำเสียงของเธอมีความเหนื่อยล้าและอ่อนแรงอยู่ด้วย
เธออุ้มสาวน้อยที่เป็นลูกสาวอย่างอ่อนโยน แม้จะเต็มไปด้วยความเหนื่อยแต่เธอราวกับเป็นผู้ที่มีความสุขที่สุดในวันนี้
“ชื่อของลูกคือ.. ชิโอริ”
และนั่นเป็นวันแรกที่สาวน้อยชื่อชิโอริได้เกิดขึ้นมา และได้รู้จักชื่อของตัวเอง.. และเป็นจุดเริ่มต้นที่แท้จริง
หลายปีต่อมา… โลกในปัจจุบันต่างจากอดีตราวกับโลกคนละใบ ในปี ค.ศ. 2033 โลกได้เปลี่ยนไปจากอดีตโดยสิ้นเชิง
เพราะมีภัยพิบัติเหนือธรรมชาติมากมายเกิดขึ้น ไม่ว่าจะประตูบอร์เดอร์ลึกลับหรือหอคอยปริศนาแม้แต่ดวงจันทร์ดวงที่สอง
ทำให้ระบบนิเวศ หรือสภาพแวดล้อมของโลกแปรเปลี่ยนไปจนหมด หากเทียบปัจจุบันกับเมื่อหลายสิบปีก่อนคงไม่มีใครจินตนาการออกว่าโลกจะเป็นแบบนี้ในตอนนี้
ชิโอริในตอนนี้อายุได้ 33-34 ปีเห็นจะได้..เธอนอนบนโซฟาในโกดังเก่าๆ ที่ไม่ค่อยเจริญมากนัก
เอาเข้าจริงรอบๆ นี้มีแต่โกดังเก่า โกดังร้างเท่านั้น สภาพที่ที่เธอนอนก็ไม่ได้ดีอะไรเลย อันที่จริงคนที่ตกอยู่ในสภาพแบบเธอใช่ว่าจะไม่มี
จากภัยพิบัติครั้งใหญ่แม้ทางรัฐจะมีนโยบายช่วยเหลือประชาชน แต่มันก็ไม่ครอบคลุมมากพอ หรือบางคนอาจจะเลือกปฏิเสธการรับความช่วยเหลือจากรัฐบาลเอง
สำหรับชิโอริก็ไม่สามารถบอกได้ว่าเธอปฏิเสธการรับความช่วยเหลือ หรือสายตาของรัฐบาลสอดส่องมาไม่ถึงเธอ
อย่างน้อยเธอก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้ว.. ด้านหน้าโซฟามีบอร์ดกระดานตั้งอยู่หนึ่งบอร์ด.. ดวงตาของชิโอริค่อยๆ เปิดขึ้น
ดวงตาดำคล้ำของเธอเห็นได้ชัดว่าพักนี้เธอนอนไม่ค่อยจะพอเท่าไหร่… เธอพึมพำเบาๆ หลังจากลืมตาขึ้นมาว่า
“อรุณสวัสดิ์ ชิโอริ…”
เธอพูดอรุณสวัสดิ์กับตัวเอง เธอไม่ได้ดูแลร่างกายตัวเองก่อนเป็นอันดับแรกแต่เธอเดินไปมองบอร์ดกระดาน
ที่ตอนนี้มีภาพและมีหมุดที่พันด้วยด้ายสีแดง สีเหลือง สีเขียวปักใส่รูปติดกับบอร์ดจนเต็มกระดาน
ใช่แล้ว ชิโอริเองก็เป็นคนหนึ่งที่ได้สูญเสียทุกอย่างในเหตุการณ์เมื่อหลายปีก่อน เหตุการณ์ที่ประตูบอร์เดอร์ได้ปรากฏขึ้นมานั้น
พรากทุกอย่างไปจากเธอ.. ไม่ว่าจะครอบครัวหรืออะไรก็ตาม ชิโอริยกมือขึ้นกาแฟปรากฏขึ้นที่มือของเธอ ก่อนที่เธอจะดื่มมันอย่างช้าๆ
เธอไม่ใช่ผู้ใช้อารยธรรม ไม่ใช่ผู้ใช้ระบบ แต่ทว่าเธอก็ได้เสกกาแฟขึ้นมาจากความว่างเปล่าได้.. หากถามว่าทำไม เธอเองก็ตอบไม่ได้
เพราะเธอก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน
พลังของเธอนั้นค่อนข้างแปลกประหลาด สามารถสร้างอะไรขึ้นมาก็ได้ตามที่เธอต้องการ ถ้าเธอเข้าใจว่าสิ่งที่ตัวเองสร้างคืออะไร
กล่าวคือหากเธอไม่รู้ว่ามันคืออะไรเธอก็จะไม่สามารถสร้างได้ แต่นอกจากเงื่อนไขดังกล่าว พลังของเธอก็ไร้ซึ่งข้อบกพร่องและไม่มีข้อแลกเปลี่ยน
แต่ถึงแบบนั้นพลังของเธอก็ไม่สามารถช่วยครอบครัวเธอเอาไว้ได้… ในการปรากฏตัวของประตูบอร์เดอร์ครั้งแรกนั้น
มันได้พรากเอาชีวิตของน้องชายสุดที่รักของเธอไป…คางาริ.. คางาริคือน้องชายคนแรกของเธอและอยู่กับเธอมานานที่สุด
แต่ทว่าเขาก็ตายเพราะประสบอุบัติเหตุจากประตูบอร์เดอร์ที่ปรากฏขึ้นจนถึงแก่ชีวิต ภาพของคางาริปักอยู่บนกระดาน
โยงใยด้วยด้ายสีแดงไปหาภาพของน้องอีกสองคนของเธอ นาโอะ น้องคนกลางของเธอที่ตอนนี้ได้หายสาบสูญไปพร้อมกับน้องคนเล็ก ซาจิ
รวมไปถึงพ่อและแม่ของเธอก็ยังหายสาบสูญไปอีกด้วย.. การหายสาบสูญไม่ใช่เรื่องแปลกจากภัยพิบัติประตูบอร์เดอร์
เพราะไม่ใช่แค่ครอบครัวของเธอที่หายตัวไปเพราะประตูบอร์เดอร์ ทั่วทุกมุมโลกที่มีการปรากฏตัวของประตูบอร์เดอร์ล้วนมีคนที่อยู่ใกล้เคียงหายตัวไป
จากการสันนิษฐานเบื้องต้น เขาคาดเดากันว่าจะพลัดหลงเข้าไปในบอร์เดอร์ แต่ตั้งแต่วันนั้นจนวันนี้ ยังไม่มีใครค้นพบคนที่หายไปในประตูบอร์เดอร์เลย
แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าไม่มีความหวัง เพราะโลกอีกใบของอีกฝั่งของบอร์เดอร์นั้นมันกว้างขวางยิ่งใหญ่เหมือนกับโลกเรา
หรืออาจจะใหญ่กว่าด้วยซ้ำในบางโลก การจะหาคนที่ไร้ข้อมูลในอีกโลกคงจะยากเกินไป แถมในโลกที่ไม่ได้มีมิตรมากมายขนาดนั้นคงไม่แปลกที่จะหาไม่เจอ
ในกรณีเลวร้ายที่สุดอาจจะไปโผล่ในโลกที่อันตราย ก่อนจะถูกพรากชีวิตไปอย่างเงียบเชียบ.. และแน่นอนว่าชิโอริที่ตามหาครอบครัวตัวเองก็ตระหนักถึงเรื่องนั้นดี แต่เธอก็ไม่มีทางที่จะยอมแพ้เด็ดขาด
“พ่อ แม่ ซาจิ นาโอะ… รอก่อนนะ ฉันไม่มีทางให้ทุกคนเป็นแบบคางาริอย่างแน่นอน”
“และคางาริ.. รอพี่ก่อนนะ.. ไม่ว่าจะต้องทำอะไร พี่ก็จะเอาเธอคืนมาให้ได้”
หางตาของชิโอริมองไปยังด้านขวามือ.. ตรงนั้นมีกล่องแก้วปริศนาทรงสี่เหลี่ยมวางยาวอยู่ถูกคลุมไว้ด้วยผ้าสีเทา
และผ้านั้นก็เปิดขึ้นนิดหน่อย ทำให้มองเห็นภายในแก้วนั้นว่ามีน้ำ…และมีร่างกายของผู้ชายคนหนึ่งอายุยี่สิบต้นๆ นอนลอยอยู่ในนั้น
ใช่แล้ว มันคือร่างกายของคางาริที่ควรจะถูกเผาไปจนเหลือแต่กระดูกไปแล้ว.. แต่ด้วยพลังลึกลับของชิโอริการจะสร้างร่างกายของคางาริขึ้นใหม่
มันไม่ได้ยากขนาดนั้น….
รวมถึง… วิธีที่จะทำให้คางาริกลับมามีชีวิตอีกครั้ง
ดวงตาของชิโอริจ้องมองกลับมาที่กระดานขาวในนั้นมีภาพของผู้หญิงคนหนึ่งปักอยู่ และเส้นสายทุกสีต่างโยงมายังหญิงสาวนางนี้
ผมสีม่วงอมดำ และมีไฮไลท์เป็นสีฟ้าประปราย.. ความสวยงามของเธอแม้แต่ชิโอริยังรู้สึกเลยว่าสวยที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็นมาในชีวิต
ใช่แล้ว.. มันคือภาพของ ‘มิว’
“เธอ… หายตัวไปไหนกัน หลักฐานทุกอย่างมันบ่งชี้ไปที่เธอ ต้นเหตุที่ทำให้คางาริต้องตาย”
ชิโอริสร้างภาพนี้ขึ้นมาจากความทรงจำของน้องสาวของเธอที่เคยเห็นผู้หญิงคนนี้ และมันดันไปตรงกับผู้หญิงคนเดียวกับที่แฟนของคางาริเจออยู่ในห้องคางาริ
ในเวลาไล่เลี่ยกัน คางาริก็ตายและผู้หญิงคนนี้ก็เป็นคนพาร่างที่ใกล้ตายของคางาริมาโรงพยาบาล ซึ่งจากคำบอกเล่าของเรนะ
ร่างของคางาริบาดเจ็บก่อนที่ประตูบอร์เดอร์จะโผล่ขึ้น และคนที่น่าจะรู้ทุกอย่างก็ผู้หญิงผมม่วงคนนี้
อันที่จริงมีการคาดเดามากมายเกิดขึ้นในหัวของชิโอริ… หนึ่งในการคาดเดาที่มีโอกาสเป็นจริงมากที่สุดคือ…
ผู้หญิงคนนี้เป็นคน.. ฆ่าคางาริเอง
และแน่นอนถ้าเป็นแบบนั้นชิโอริ…ไม่มีทางยกโทษให้ได้อย่างแน่นอน
และในตอนนั้นเองโทรศัพท์เธอก็ดังขึ้นเพราะมีคนโทรเข้า เธอก็ยกขึ้นมารับสายทันที
“ชิโอริ ฉันเจอแล้ว!”
“ชาล็อตเหรอ มีอะไร เจออะไร”
“คนที่เธอตามหาไง!”
“คนที่ฉันตามหา?”
“ก็นั่นไง ผู้หญิงคนนั้นไง! คนที่น่าจะเกี่ยวข้องกับการตายของน้องชายเธอน่ะ!”
สิ้นคำนั้นดวงตาของชิโอริก็หดเล็กลง
“เจอที่ไหน”
“เมืองแห่งท้องทะเล เมืองเหนือน่านน้ำที่แปซิฟิก”
“ขอบใจมาก เรื่องค่าตอบแทน… ฉันจะจัดการให้”
“แต้งกิ้ว”
ชิโอริพึมพำ
“เมืองท้องทะเล..”
ภาพของเรนะแฟนของคางาริลอยขึ้นมา ถ้าจำไม่ผิดเมืองนั้นมันมีผู้หญิงคนนั้นอยู่ด้วยสินะ… ผู้หญิงเลวที่มีส่วนทำให้น้องชายเธอต้องตาย
ชิโอริค่อยๆ รวบผมมัดเป็นทรงหางม้า แต่อาจจะเพราะร่างกายที่เล็กของเธอเลยทำให้เธอแทนที่จะดูมาดแมนเป็นผู้ใหญ่กับดูเหมือนเด็ก
ใช่แล้ว แม้ชิโอริจะไม่รู้สึกตัวเลยแต่ตอนนี้ร่างกายของเธอได้หดเล็กลงจนเหมือนกับเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี.. ผมสีดำ ดวงตาสีดำสนิทไม่ทอแสง
ราวกับความมืดมิดจากหุบเหวที่สามารถกลืนกินแสงได้
เหมือนกับจอมมารจากหุบเหวแห่งความตายสีดำสนิท
บางทีต่อให้เป็นคางาริที่สนิทกับเธอมากที่สุดมาเห็นเธอในยามนี้
ก็คงจำเธอไม่ได้ว่า… เธอคือ ‘ชิโอริ’
ไม่มีใครรู้ว่าร่างกายของเธอกลายเป็นแบบนี้ได้อย่างไร เพราะที่แน่ๆ ก่อนหน้านี้เธอก็เป็นผู้ใหญ่ตามปกติ
แต่นับตั้งแต่ที่ทุกอย่างเปลี่ยนไป เธอตามสืบเรื่องราวของครอบครัวตลอดหลายปีที่ผ่านมา.. ร่างกายของเธอก็เปลี่ยนไปจนเป็นเช่นนี้
โดยที่.. เธออาจจะไม่ได้คิดว่าร่างกายเธอเปลี่ยนไปอย่างไร
เสมือนว่า.. นี่คือร่างกายของเธอมาตั้งแต่ต้น
…………….
“คุณหนูคะ เมื่อกี้คุณโทรหา…”
“ใช่ คนญี่ปุ่นที่ชื่อชิโอรินั่นแหละ”
ในห้องที่เต็มไปด้วยจอคอมพิวเตอร์มีหญิงสาวคนหนึ่งกำลังนั่งทำงานอยู่ ส่วนอีกคนคือผู้หญิงสวมชุดเมดที่ไม่ค่อยเข้ากับสถานที่สุดแสนจะไฮเปอร์ไฮเทคแห่งนี้เท่าไหร่
เธอนั่งเพียบอยู่บนพื้นพร้อมคุยกับ ‘คุณหนู’ ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้…
“แต่จะดีเหรอคะ.. เปิดเผยที่อยู่ของท่านผู้นั้นให้กับคนที่น่าจะเป็นศัตรูน่ะ”
“ไม่ต้องห่วงน่า แมร์รี่ ท่านผู้นั้นไม่เป็นไรหรอก”
“ถึงจะพูดงั้น แต่ก็เพราะอยากได้ของตอบแทนถึงขั้นขายนายตัวเองมากกว่ารึเปล่าคะ”
“เฮ้ย เธอนี่รู้ดีไปไหมเนี่ย?”
“แล้วอะไรหอบให้เจ้าหญิงไซเบอร์ที่รวยเกือบที่สุดในโลกอยากได้จากคนจรจัดไร้บ้านล่ะคะ?”
“หาทางช่วยจักรวาลละมั้ง?”
เมื่อได้ยินแบบนั้นเมดแมร์รี่ก็เกือบจะหลุดขำออกมา
“อย่างท่านน่ะนะ?!”
“เธอเนี่ยน้า….”
ชาล็อตถอนหายใจออกมาเบาๆ
“แถมผู้หญิงคนนั้น….”
ภาพภาพหนึ่งลอยขึ้นมาในใจของชาล็อต ภาพความทรงจำจากอดีตชาติของเธอ.. เธอไม่รู้ว่ามีใครเคยเห็นโลกใบนั้นแบบเดียวกับเธอในหมู่พวกเธอไหม
แต่ว่าที่นั่น.. มันอาจจะเกี่ยวข้องกับชิโอริ
รวมถึง…ขุมอำนาจลึกลับที่ปรากฏตัวขึ้น
ทุกอย่างมันอาจจะเชื่อมโยงกันหมดก็ได้
“ในฐานะสตรีศักดิ์สิทธิ์บรรพกาล ฉันต้องอ่านแผนท่านเทพให้ออก”
ชาล็อตพูดขึ้นดวงตาของแมร์รี่เรือนรอง.. นับตั้งแต่ที่เธอได้ความทรงจำกลับมา.. เธอก็เปลี่ยนไปแทบจะเป็นคนละคน
แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ชาล็อตก็เป็นคนที่เธอรับใช้ตั้งแต่อดีตชาติ.. จนถึงตอนนี้
……….
[หลังจากลีลากันมานาน ตอนนี้พามาเดินเนื้อหลักแบบเน้นๆ! กันสักตอน … หากถามว่ากลับมาแล้วเหรอ บอกเลยว่ายังไม่ปลด! แต่ผมได้ลาเลยพอมีเวลามาเขียนนิยายให้อ่านกัน เดี๋ยวถ้ามีเวลาจะมาเขียนให้อ่านตลอด … ใช่ข่าวดีก็คือไม่ต้องรอสองปี! แต่แค่อาจจะไม่ได้ลงเป็นระเบียบเหมือนแต่ก่อน โอเคนะทุกท่าน! – ผู้เขียน]