TN: ถ้าพวกคุณสงสัยว่าผมหายไปไหนซะนาน คำตอบครับคือ “ยุ่งมากจนปลีกเวลามาลงนิยายก็ยังไม่ได้” แต่ตอนนี้พอมีเวลาละครับ กลับมาลงแล้ว ไม่ลอยแพพวกคุณแน่นอนครับ (เกี่ยวก้อยสัญญา)
ข่าวการคืนชีพได้อย่างสำเร็จลุล่วงของคุณเทียน่า, การทำลายล้างกองทัพพวกมนุษย์ด้วยฝึมือของโยมิกับคุณเรน และการสร้างความบาดเจ็บสาหัสให้กับพวก 12 อัครสาวกของซากุระคุงกับฉันได้แพร่กระจายไปทั่วกองทัพจอมมารในชั่วพริบตาเลย
จากเรื่องนั้น ในเมืองหลวงของอาณาเขตของเผ่ามาร ‘แพนเดโมเนียม’ ก็มีงานฉลองจัดกันอยู่เลย
มีเสียงตะโกนชมเชยพวกเราเต็มเลย อย่าง ฉลองให้กับเหล่าขุนพลจตุเทวอสุรา, ฉลองให้กับท่านเรน, ฉลองให้กับท่านเทียน่า, ฉลองให้กับท่านจอมมาร
มันทำให้ฉันที่ไม่คุ้นเคยกับการได้รับคำชมเท่าไหร่ รู้สึกเขินนิดหน่อย
“สุดยอด สมกับเป็นท่านโยมิเลยนะ ถึงจะมีสมบัติศักดิ์สิทธิ์ช่วยด้วยก็เถอะ แต่ท่านก็กวาดล้างกองทัพ 20,000 นายไปเกือบครึ่งด้วยดาบแค่เล่มเดียวใช่มั้ยล่ะ? สมน้ำหน้าแล้วล่ะกับสิ่งที่เจ้าพวกมนุษย์มันทำเอาไว้น่ะ”
“ถ้าพูดอย่างนั้น ท่านลีนก็เหมือนกันเลยนะ! ได้ยินเรื่องที่เจ้า ‘วัชระ’ นั่น ที่แม้แต่ผู้บริหารก็รับมือไม่ไหว กลับถูกท่านจัดการเอาซะอยู่หมัดเลยนี่นา! แค่ได้ฟังเรื่องนี้ ก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมาเลยล่ะ!”
“นายบ้าหรือไง ซากุระตัน… ไม่สิ… ท่านซากุระสิที่เป็นคนที่ทำผลงานน่าชื่นชมที่สุดในครั้งนี้น่ะ… ฉันได้ยินว่าท่านยิงเวทระดับสูงใส่ไม่ยั้ง! เอาซะเจ้า ‘มหาเกาทัณฑ์’ ร้องไห้ขี้มูกโป่งเลย! ที่สำคัญ ท่านยังคืนชีพให้ท่านเทียน่าสำเร็จอีกด้วยนะ!”
“เอาน่า ถ้าให้มาตัดสินว่าใครเป็น MVP ในครั้งนี้ล่ะก็… เมื่อกี้ เธอเรียกท่านซากุระว่าอะไรนะ?”
ฉันได้ยินนะ
อ๊า โธ่ ก็เพราะแบบนี้ไง ฉันถึงรับมือกับคำชมไม่เก่งซะเลยน่ะ!
ซักพักมานี่ ฉันชักเริ่มขัดใจกับประสาทการได้ยินของแวมไพร์ซะแล้วสิ
จะว่าไป รู้สึกผู้หญิงที่พูดชมซากุระคุงอยู่เมื่อกี้นี้ น่าจะเป็นพี่สาวใน ‘สมาคมผู้คอยเฝ้ามองซากุระคิ้วน์ (ตัน) จากในเงามืด’ สินะ รู้สึกว่าคุณวีเนลจะเป็นประธานสมาคมเลยด้วย ทำอะไรของเขากันนะเนี่ย คนคนนั้นน่ะ
ก็นะ ฉันได้พักผ่อนเป็นช่วงเวลาสั้นๆ อยู่ในแพนเดโมเนียม ที่ตอนนี้ก็มีเทศกาลย่อมๆ จัดขึ้นมาไปโดยปริยายซะแล้ว
เพราะเดี๋ยวมะรืนนี้ ฉันก็ต้องกลับไปลงสนามรบอีกรอบแล้ว…
เอาจริงๆ ต้องเป็นอีก 5 วันล่ะนะ แต่เหมือนจะมีคำร้องขอกำลังเสริมฉุกเฉินมาจากผู้บริหารลำดับที่ 8 ‘แม่ทัพแห่งห้วงสมุทร’ คุณนัตสึเมะด้วย เพราะงั้นฉันเลยตัดสินใจจะไปที่นั่น
มันก็ดีอยู่หรอกที่ได้ฆ่าล้างพวกมนุษย์น่ะ… แต่ ก็ต้องแยกกับโยมิไปนานด้วยสิ…
“……เฮ่อ”
“ลีน ทุกครั้งที่ถอนหายใจ ความสุขมันจะหนีไปด้วยไม่ใช่เหรอ?”
“ก็เพราะว่า… ไม่มีอะไรที่ทำให้รู้สึกสิ้นหวังไปมากกว่าวันหยุดถูกตัดให้สั้นลงไงล่ะ ไม่คิดงั้นเหรอ?”
“เราเข้าใจความรู้สึกเลยล่ะ คราวนี้ ดูท่าจะเหลือเวลาสั้นน่าดูเลยสินะ? ไว้ตอนลีนกลับมา เราจะทำของชอบของเธอเอาไว้รอก็แล้วกัน? โชคดีนะ”
“อื้อ… ขอบใจนะ โยมิ……… เอ๊ะ! โยมิเหรอ!?”
“เอ๋? อื้อ โยมิเองไง?”
มาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย!?
…แย่แล้ว นี่ช่วงนี้ฉันปล่อยเนื้อปล่อยตัวเกินไปแล้วเหรอ? บางทีการรับรู้ของฉันอาจจะช้าลงไปก็ได้
“ม- มาที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ?”
“เพิ่งเมื่อกี้นี้เอง เมื่อกี้นี้ที่เธออยู่กับคุณเรนน่ะ”
“ร- เหรอ…”
…อา ไม่ไหวแฮะ
พูดตามปกติไม่ได้เลยอะ ช่วงนี้เป็นแบบนี้ตลอดเลย
เมื่อคืนวานนี้ ตอนก่อนจะบุกโจมตีก็ยังไม่เป็นแบบนี้เลยนะ
พอละสมาธิมาจากเรื่องนั้น ก็ดูเหมือนฉันจะกลับมาสนใจเรื่องของโยมิอีกแล้ว
ตอนนี้ ฉันรีบออกจากตรงนี้ก่อนที่หัวใจตัวเองจะระเบิดออกมาดีกว่าแฮะ
“เออ คือ… งั้น ฉันไปก่อนนะ?”
“เอ๋? ทำไมล่ะ? ไปด้วยกันสิ”
“ม- ไม่ คือมัน…”
แย่แล้ว ฉันหาคำแก้ตัวไม่ทันแล้ว
ทำยังไงดี? วิ่งหนีเหรอ? ไม่ล่ะ เปล่าประโยชน์ นี่มันตอนเช้าแล้ว ฉันไม่มีทางหนีเด็กคนนี้พ้นได้เลย เพราะฉันไม่มีการอวยพรจากดวงจันทร์ช่วยแล้ว
ระหว่างที่ฉันยังกังวลอยู่ว่าจะทำอะไรดี
“นี่ ลีน เกิดอะไรขึ้นน่ะ? ช่วงนี้ เธอดูแปลกๆ ไปนะ?
…อยู่ดีๆ มาโยนระเบิดให้กันทำไมเล่า! เด็กคนนี้นี่!
“…ป- เปล่า ฉันก็เหมือนทุกทีนี่นะ จริงมั้ย?”
“ไม่เลย เธอแปลกไปจริงๆ นะ ลีน คิดว่าพวกเราอยู่ด้วยกันมานานขนาดไหนแล้วล่ะ เราดูออกหมดนั่นแหละ”
อู่ว… ก็จริง ตอนนี้ ขนาดฉันเองก็ดูออกเวลาโยมิแอบซ่อนอะไรซักอย่างเอาไว้เหมือนกัน…
อึก ช่วยไม่ได้ ด้วยความหวังเล็กๆ ที่มีนี่ ต้องใช้กลยุทธ์ถอยทัพก่อนล่ะ!
“ม- ไม่เป็นไรหรอกโยมิ ฉันไม่เป็นอะไรเลย! ถ้างั้นก็…”
“เดี๋ยวก่อน”
…ฉันพยายามแล้ว แต่เธอก็คว้าแขนฉันเอาไว้
อื้อ แขน……
ข- แขน! จ- จ- จับเหรอ…!
ม- มือของโยมิ บนแขนฉันเหรอ……
“มานี่หน่อยสิ”
“……เห?”
ระหว่างที่ฉันยังสับสนไปหมด เพราะความตื่นเต้นที่แม้แต่ตัวเองก็ไม่เข้าใจ โยมิก็ลากฉันไปแล้ว
ขัดขืนเหรอ? เปล่าประโยชน์น่า ถ้าฉันไม่มีการอวยพรจากดวงจันทร์แล้ว สเตตัสของโยมิน่ะ เป็นเกือบ 1.5 เท่าของฉันเลยนะ
เพราะงั้น ฉันก็รีบล้มเลิกความคิดที่จะขัดขืนไปอย่างเร็วเลย เพราะมันไม่มีประโยชน์…
มารู้ตัวอีกที ฉันก็อยู่ในตรอกระหว่างตึกแล้ว
…หือ?
………หือออออ?
นี่ฉัน มาอยู่ในที่แบบนี้ทำไมกันเนี่ย?
ทำไมฉันถึงมาอยู่ในที่ที่ไม่ได้น่ามาเลยซักนิดแบบนี้ล่ะ? ถึงฉันจะโดนโยมิลากมาตลอดทางเลยก็เถอะ
“อ- เออคือ… โยมิ? คือเธอ… โกรธ อะไรอยู่ หรือเปล่า?”
“………”
พูดอะไรบ้างซี่!
น่ากลัวอ่า! ฉันทำให้โยมิโกรธงั้นเหรอ!?
น- แน่นอนอยู่แล้วสิ… ก็ตั้งแต่ฉันเริ่มรู้สึกกับโยมิเพราะเหตุการณ์ตอนที่พวกเราต้องสู้กับท่านฟลูเรเทียแล้ว ฉันก็ทำเรื่องนู่นนี่อย่างพยายามเว้นระยะห่าง หรือพยายามหนีนี่นะ!
แต่ว่านะ โยมิที่คว้าหัวใจคนอื่นได้ง่ายๆ ตามธรรมชาติแบบนี้ก็ผิดเหมือนกันนั่นแหละ…
“ลีน”
“เอ๋!”
“ที่นี่ไม่มีคน แล้วก็เป็นทางตรงด้วย เพราะงั้นเราจะรู้ทันทีว่าเธอจะไปทางไหน อีกอย่าง ถ้าลีนคิดจะหนี เราจะไล่ตามได้ทันทีเลยด้วย”
“อ- เออ คือ… โยมิ? นี่เกิดอะไรขึ้-…”
*――― ตึ้ง!*
มือของโยมิพุ่งเข้ามาขวางทางฉันเอาไว้ ในตอนที่ฉันเอาตัวชิดกับกำแพง แล้วพยายามจะแทรกตัวหนีออกไป
ใช่ เป็นแบบที่เขาเรียกกันว่า ‘คาเบะด้ง’ นั่นแหละ
…ฉันไม่ได้อ่านมังงะโชโจมากขนาดนั้น และฉันก็เคยคิดว่า ‘ไอ้ของแบบนี้มันมีดีอะไรนะ?’
‘ว้าว นี่มันคาเบะด้งนี่นา’ หัวใจฉันแทบจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว แถมยังรู้สึกว่าหน้าของตัวเองร้อนจนจะลุกเป็นไฟได้เลย จะไม่ให้ตื่นเต้นในสถานการณ์นี้น่ะ เป็นไปไม่ได้หรอก ในตอนที่ได้เห็นหน้าที่น่ารักเกินไปของโยมิใกล้มากขนาดนี้น่ะ
ม- ไม่ไม่ ไม่ไม่ไม่! …ใจเย็นก่อนนะดิฉัน
ใช่ ก็จริงอยู่ว่าตอนนี้น่ะจะเป็นเหมือนคาเบะด้งเลย
แต่นี่ไม่ใช่มังงะโชโจซักหน่อยนะ ก็แค่โยมิเอามือมาขวางทางไว้ ไม่ให้ฉันหนีเท่านั้นเอง
เพราะบนโลกนี้ ไม่มีวัฒนธรรมอย่างคาเบะด้งซักหน่อยนี่
เด็กคนนี้ก็แค่ทำไปตามที่เห็นว่าเป็นสิ่งที่ควรทำก็เท่านั้นเอง
*――― ตึ้ง!*
ใช่! เพราะอย่างนั้น! การที่เด็กคนนี้ ทำคาเบะด้งด้วยมือทั้ง 2 ข้างแบบนี้น่ะ เธอก็แค่ตั้งใจจะไม่ให้ฉันหนีไงเล่า! มันไม่ใช่อะไรแบบนั้นนะ! เพราะงั้นก็ไม่ต้องลนลานหรอกน่า!
“ลีน”
ตั้งแต่แรกเลยคาเบะด้งเองก็ดูเหมือนจะเป็นการโปรยเสน่ห์ของพวกตัวละครในมังงะที่ดูจะมีประสิทธิภาพแถมยังมีเรื่องเล่ากันว่ามันอาจเป็นแค่การเข้าใจผิดระหว่างที่ใจเต้นเพราะความกลัวเป็นใจเต้นเพราะความรักก็ได้หรืออะไรทำนองนั้นก็มีนี่นา―――
“โธ่ เราไม่ยอมให้เธอหนีไปไหนแล้วนะ”
………
………………
………เท่อะ
เท่มากเลย
เท่มากเลย! เท่มากเลย! เท่มากเลย! เท่มากเลย! เท่มากเลย!
หัวใจมัน… ไม่ไหว ถ้าเป็นแบบนี้ต่อ มันต้องระเบิดออกมาแน่ๆ เลย
แย่สุดๆ เลย ตอนนี้ แค่ประคองสติเอาไว้ก็ยากแล้ว
นี่น่ะ เท่เกินไปแล้วนะ
สีหน้าที่โกรธนิดหน่อยเข้ามาแทนที่เสน่ห์ตามปกติของเธอ ก่อนจะเปลี่ยนน่ารัก แต่ก็เท่แบบตอนนี้
อา ไม่ไหวแล้วล่ะ ฉัน… ชอบเด็กคนนี้มากจริงๆ นั่นแหละ
ฉันชอบเธอ ตอนที่น่ารัก ส่วนตอนที่เท่ ฉันก็รู้สึกเหมือนโดนคว้าหัวใจไปตลอดเลย
ถึงจะเป็นตอนที่เธอเป็นตัวของตัวเอง หรือตอนที่แกว่งดาบเข้าต่อสู้ แค่นึกถึงทั้งหมดนั่นขึ้นมาก็ทำเอาใจสั่นไปหมดแล้ว
เดี๋ยว อะ.. เดี๋ยวสิ เธอน่ะ เท่ที่สุดเลยล่ะ……
ความขัดแย้งกันกับความน่ารักตามปกตินี่มัน… อีกแล้ว… หัวมัน…
“…ฮวา……”
“เอ๊ะ? ……เดี๋ยว เดี๋ยวสิ ลีน!? ไม่เป็นไรนะ!?”
ดูเหมือน สมองของฉันจะวิ่งตามความเร็วของเลือดที่ไม่ทันซะแล้วสิ
ฉันเป็นลมไปพร้อมกับความเท่ของโยมิ ทั้งๆ แบบนั้นเลย
TN: สารภาพเลยว่า นี่คือหนึ่งในตอนที่ผมอยากแปลมากๆ 55555