ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐีบทที่ 19 มารับคุณชายเฉิน

บทที่ 19 มารับคุณชายเฉิน

บทที่ 19 มารับคุณชายเฉิน

หยางฮุยรู้ดีว่าเฉินเกอเป็นคนซื่อสัตย์มาก

เขาจะมีนิสัยฟุ่มเฟือยได้อย่างไร

หลังจากรอให้คนออกไป แล้วโทรศัพท์โกหกพวกเพื่อนๆที่หอพักผู้แสนดี

ทุกคนไม่เข้าใจว่าเมื่อวานเกิดอะไรขึ้น?

หรือว่าพี่เฉินจะสามารถทำให้ทุกคนไปที่วิลล่าเวินฉวนได้?

จะเป็นไปได้อย่างไร!

หลังจากได้ยินข้อสงสัยของหยางฮุย เฉินเกอก็ได้แต่ยิ้ม

ความหมายก็คือ เดี๋ยวพวกนายก็รู้เอง!

“คุณลูกค้าคะ ขอรบกวนสักครู่ ไม่ทราบว่าคุณลูกค้าจะยังรับอาหารที่สั่งไปไหมคะ หรือว่า..?”

ในขณะนี้พนักงานสาวสวยของร้านคนหนึ่งเดินเข้ามาหาและถามพวกเขาอย่างสุภาพ

แม้ว่าจะสุภาพ แต่เธอก็ไม่สามารถซ่อนความรู้สึกดูถูกเล็กๆน้อยๆไว้ในใจได้

เธอรู้ดีว่าวันนี้ใครเป็นคนเลี้ยง

แต่ด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ เธอเห็นว่ามีทายาทเศรษฐีสองคนได้แย่งกลุ่มหญิงสาวพวกนั้นไปแล้ว

ในเวลาเดียวกันคนอื่นๆที่กำลังรับประทานอาหารในล็อบบี้มองไปที่พวกเฉินเกอและหยางฮุยด้วยรอยยิ้มมีความหมาย

นี่มันน่าอายพอๆกับการถูกแย่งแฟนในที่สาธารณะ

ดังนั้นพนักงานสาวสวยจึงเดินเข้ามาสอบถามพวกเขาว่ายังรับอาหารอยู่ไหม ถ้าไม่รับก็จะได้รีบไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์

“ไม่ต้องแล้ว แค่แพ็คอาหารให้เราและเดี๋ยวพวกเราจะไปกินที่วิลล่าเวินฉวน!”

ทำไมเฉินเกอจะดูไม่ออกว่าพวกเธอกำลังมองพวกเขาด้วยสายตาดูแคลน

เมื่อเห็นหยางฮุยเป็นเสียแบบนี้ ใครจะมีกระจิตกระใจกินลง

ทว่าอาหารที่ทำมาใหม่ๆยังคงทิ้งไว้อยู่เต็มโต๊ะ มันก็น่าเสียดายจริงๆ

และพนักงานสาวรวมไปถึงคนที่นั่งอยู่ใกล้ๆก็แทบจะหัวเราะเมื่อได้ยินเฉินเกอพูดประโยคแบบนั้นออกมาเมื่อกี้

“ไอ้หมอนี่คงไม่ใช่คนโง่ใช่ไหม?”

“คิดว่าตัวเองเป็นใคร? กินอาหารมื้อเดียวก็จะห่อกลับ ทั้งยังคิดจะเอาไปกินที่วิลล่าเวินฉวนอีกหรือ?”

“ไม่รู้หรือไงว่าที่วิลล่าเวินฉวนมีอาหาร และต้องจองโต๊ะกันทั้งนั้น? ฮ่าฮ่า..”

“คิดว่ากลุ่มสาวๆเมื่อกี้ที่พวกเขาเลี้ยงข้าวโดนคนอื่นฉกไปแล้วล่ะสิ ก็เลยอยู่ที่นี่ไม่มีตัวตน นักศึกษาสมัยนี้เพื่อที่จะได้หน้า ก็ไม่สนแม้กระทั่งความน่าอับอาย รู้จักแต่โอ้อวด!”

ผู้คนที่อยู่รอบๆเริ่มซุบซิบนินทา

หยางฮุยและเพื่อนๆอดไม่ได้ที่จะเกาหัวของเขา เขาก้มหน้าไม่กล้าพูด

พนักงานสาวกลอกตามองเฉินเกอ “อย่างนี้…คุณลูกค้าท่านไหนจะเป็นคนชำระค่าอาหารคะ?”

“ฉันเองๆ!”

หยางฮุยรีบพูด

อย่าดูถูกโต๊ะนี้เพราะมีราคามากกว่า 800 หยวน

เป็นค่าครองชีพของหยางฮุยกว่าครึ่งเดือน

เฉินเกอหยิบถุงพลาสติกสองสามถุงและบรรจุอาหารที่นั่น

สำหรับการเยาะเย้ยของผู้อื่น เขากลายเป็นคนหูหนวก!

“ฮูฮูฮู…”

ในขณะนี้มีเสียงรถหรูสามคันผ่านหน้าประตู

และหยุดอยู่ตรงหน้าร้าน

“ว้าว! รถสามคันนี้คือโรลส์-รอยซ์ แฟนทอมนี่นา!”

“ให้ตายเถอะ ใครกัน สุดยอดจริงๆเลย! คันหนึ่งตั้งหลายสิบล้าน”

“มันไม่ใช่แค่รถที่เจ๋ง แต่ดูป้ายทะเบียนสิ!”

“รถทั้งสามคันนี้มีป้ายทะเบียนเป็นหมายเลขประจำเครื่องห้าหลักติดต่อกันสามตัวเลข 689”

แค่ตัวเลขเพียงอย่างเดียวก็มีค่าถึงหนึ่งหรือสองล้าน!

ในขณะนี้คนที่กำลังรับประทานอาหารอยู่ในล็อบบี้ทั้งหมดก็มองออกไป

แม้แต่พนักงานเสิร์ฟยังตกใจ

หากเจ้าของรถมาทานอาหารที่ร้าน แล้วเธอรีบออกไปต้อนรับข้างหน้าจะได้รับความเอ็นดูหรือไม่?

เธอรีบจัดแจงเสื้อผ้าตัวเอง จากนั้นก็สาวเท้าไปที่หน้าประตู

เพื่อดูว่าจะมาทานอาหารที่ร้านหรือไม่

มีคนสามคนลงจากรถแยกกัน

ทั้งสามคนนี้แต่งกายด้วยชุดสูทสีดำเป็นทางการ สวมแว่นกันแดดและชุดหูฟังสีดำ

ดูเหมือนบอดี้การ์ดที่คอยคุ้มกันคนใหญ่คนโตในทีวี

ออร่าแข็งแกร่งและเคร่งขรึม

“คุณผู้ชายทั้งสามท่าน รบกวนขอถามหน่อยค่ะว่า…”

พนักงานสาวสวยรีบไปต้อนรับ

แต่ไม่ว่ายังไงพวกเขาทั้งสามก็ไม่แม้แต่จะชายตามอง และเดินตรงไปตรงหน้าเฉินเกอที่กำลังเก็บของ

“คุณชายเฉิน!!!”

ชายทั้งสามโค้งตัวเก้าสิบองศาและพูดด้วยความเคารพ

“อะไรนะ? คุณชายเฉิน?”

“คนโง่ที่พูดมากก่อนหน้านี้ พวกเขาเรียกเขาว่าคุณชายเฉินงั้นหรือ?”

ทุกคนในล็อบบี้ตะลึง

หยางฮุยและเพื่อนคนอื่นๆก็ตกตะลึงยิ่งกว่า

นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

ทำไมพี่เฉินถึงเจ๋งได้ขนาดนี้?

ตอนนี้เฉินเกอแพ็คอาหารที่เหลือเสร็จแล้ว

“เอาล่ะพี่ฮุย พวกเรานั่งรถไปวิลล่ากันเถอะ?”

“คุณชายเฉิน ให้ผมช่วยถือของให้เถอะ!”

บอดี้การ์ดหลายคนเดินเข้ามาและรีบถือของที่อยู่ในมือเฉินเกอ

จากนั้นหยางฮุยและเพื่อนคนอื่นๆก็ออกไปพร้อมกับเฉินเกอราวกับว่าพวกเขากำลังฝันอยู่

“คุณชายเฉิน…เดินระวังครับ!”

เมื่อเดินไปที่ประตู ใบหน้าของพนักงานสาวสวยก็หน้าซีดเผือด เธอรีบพูดอย่างนอบน้อม

เฉินเกอได้แต่พยักหน้า

ในเวลาเดียวกันหน้าก็แดงขึ้นเล็กน้อย

เป็นเรื่องน่าอายจริงๆที่ถูกฝูงชนจ้องมอง!

พวกเขารีบขึ้นไปบนรถหรูและมุ่งตรงไปยังวิลล่า

ระหว่างทาง

หยางฮุยถามเฉินเกออย่างอดไม่ได้ “พี่เฉิน นี่…นี่มันเรื่องอะไรกัน?”

เฉินเกอรู้สึกว่ายังเร็วเกินไป จึงพูดแค่ว่า

“พี่ฮุย วันหลังฉันจะเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง แต่ตอนนี้นายแค่จำไว้ว่าพวกเราเป็นพี่น้องกัน เรื่องของนายก็คือเรื่องของฉัน วันนี้ฉันจะช่วยนายกู้หน้ากลับมาให้ได้!”

หยางฮุยและพวกเพื่อนๆจึงไม่ถามอะไรมาก แต่ก็ยังคงพยักหน้าด้วยความประหลาดใจ!

ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงวิลล่า

เดิมทีคนขับรถเหล่านี้ได้รับมอบหมายให้พาเฉินเกอและพวกเพื่อนๆของเขาไปที่ห้องอาหารเพราะได้เตรียมกิจกรรมบันเทิงเอาไว้ให้อย่างดี

แต่เฉินเกอเห็นว่าพวกหยางฮุยและบอดี้การ์ดยังอยู่ด้วยกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน ไม่สามารถผละตัวออกมาได้

จริงๆแล้วเฉินเกอเองก็ผละตัวออกมาไม่ได้เช่นกัน

เมื่อมาถึงหน้าประตูก็ขอให้คนขับทิ้งพวกเขาไว้ที่นี่แล้วกลับไป และบอกว่าจะขอเที่ยวเล่นอย่างอิสระที่วิลล่าก่อนสักพัก จากนั้นค่อยไปกินข้าว!

“ให้ตายเถอะ! พี่เฉิน นายมันเกินไปแล้ว นี่มันวิลล่าเลยนะ อยากเข้าก็เข้าได้!!”

หลี่ปิน กำลังเดินเล่นรอบๆในวิลล่าและเขาก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชมเขา

“แหะแหะ ฉันรู้จักกับผู้จัดการใหญ่ของที่นี่น่ะ! วันนี้พวกนายอยากเที่ยวอะไรก็เที่ยว! เที่ยวแบบไหนสนุกก็เที่ยวแบบนั้น!”

เฉินเกอหัวเราะและพูด

“อ๊า! ฉันเข้าใจแล้ว เสี่ยวเกอ นายรู้จักกับผู้จัดการใหญ่ของที่นี่ หรือว่าจะเป็นลูกสาวของคนที่นายช่วยไว้ และเพื่อเป็นการขอบคุณ ผู้จัดการใหญ่คนที่มอบบัตรช้อปปิ้งใบนั้นให้…”

“มันก็ถือว่าเกี่ยวข้องอยู่บ้าง…”

เนื่องจากบัตรพวกนี้ แท้ที่จริงแล้วพี่สาวให้หลี่เจิ้นกั๋วส่งมาให้เขา

หยางฮุยและพวกเพื่อนๆต่างก็รู้

ตอนนี้จะเที่ยวเล่นอะไรๆก็ง่าย

พื้นที่วิลล่าค่อนข้างกว้างใหญ่ครอบคลุมภูเขาเกือบครึ่งลูก

แม้ว่าวิลล่าจะมีวิวทิวทัศน์โดยรอบที่สวยงามมาก แต่ก็ไม่มีอะไรน่าสนใจเลย

จริงๆแล้วบ่อน้ำพุร้อนและพื้นที่รับประทานอาหารจะอยู่ในบริเวณจุดศูนย์กลาง

เฉินเกอค่อนข้างคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ “พวกเราเข้าไปข้างในกันเถอะ ไปกินข้าวก่อนแล้วค่อยไปแช่น้ำพุร้อน!”

“ข้างในหรือ ฉันดูในเน็ตบอกว่ามีการเก็บค่าใช้จ่ายไม่ใช่หรือ ไม่อย่างงั้นไม่ให้เข้า?”

หลี่ปินถามด้วยความแปลกใจ

ความจริงได้เดินเล่นเที่ยวเล่นด้านนอกวิลล่า เขาก็พอใจแล้ว

และรู้ดีว่าบริเวณรอบๆก็ไม่ใช่ใครที่จะสามารถเข้าได้ง่ายๆ

“ไม่เป็นไร!”

เฉินเกอหัวเราะ แม้ว่าพี่สาวจะเป็นคนเปิดวิลล่าแห่งนี้ แต่เขาก็ใช้บัตรประชาชนของเขา

เป็นเรื่องธรรมดาที่จะผ่อนคลายในตอนนี้

และจากพื้นที่รอบนอกไปยังพื้นที่ข้างในจะต้องผ่านสะพานเล็กๆที่ดูแปลกตา

ตอนที่เฉินเกอและเพื่อนๆเดินเข้ามาก็เห็นพวกจ้าวยีฟานกำลังถ่ายรูปกันอยู่

“พวกเธอดูนั่น นั่นมันพวกเฉินเกอนี่! พวกเขาเข้ามาได้อย่างไรกัน?”

พอหลินเจียวเห็นก็เดินเข้ามาหาเฉินเกอและเพื่อนๆ ทั้งยังพูดด้วยความประหลาดใจ

และในขณะนั้นจ้าวยีฟานกำลังสนทนากับจวงเฉียง

เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเจียว เธอก็ถึงกับขมวดคิ้วและมองไปทางเฉินเกอกับเพื่อนๆ

เป็นพวกเขาตามที่คาดไว้จริงๆ

“พวกเขาเข้ามาได้อย่างไร?” จ้าวยีฟานตกใจเล็กน้อย

ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี

ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี

Score 10
Status: Completed
ณวันนั้น พี่สาวกับพ่อแม่ที่ทำงานอยู่ต่างประเทศบอกกับตัวเองอย่างกะทันหันว่า ตัวเองเป็นทายาทเศรษฐี ครอบครองสมบัติหลายล้าน เฉินเกอคิดในใจว่า ฉันเป็นทายาทเศรษฐีจริงๆหรอ

Options

not work with dark mode
Reset