ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐีบทที่ 17 เพื่อนเก่ากลับมาจากต่างประเทศ

บทที่ 17 เพื่อนเก่ากลับมาจากต่างประเทศ

บทที่ 17 เพื่อนเก่ากลับมาจากต่างประเทศ

เฉินเกอมีความรู้สึกที่ไม่อาจอธิบายได้ต่อจ้าวยีฟาน

แม้ว่าเธอจะเป็นคนสวยมากและอารมณ์ดี

แต่เธอเป็นคนประเภทดูถูกคนจนชอบคนรวยไปหน่อยจึงทำให้เฉินเกอรู้สึกอึดอัด

ไม่รู้ว่าเสี่ยวหนานกำลังคิดอะไรอยู่ถึงอยากให้ทั้งสองสนิทสนมกัน

ดังนั้นเฉินเกอจึงไม่อยากไปเพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่น่าอึดอัดแบบนั้น

แต่ก็ไม่สามารถหยุดการคะยั้นคะยอของหยางฮุยได้

เพราะไม่อยากขัดความสุขของเพื่อนจึงตอบตกลงไป

สถานที่นัดหมายคือร้านอาหารตะวันตกที่มีชื่อว่าซิงหุย

แน่นอนว่าหยางฮุยไม่สามารถไปโรงแรมห้าดาวใดๆเหมือนอย่างทายาทเศรษฐีอย่างสวี่ตงและลู่หยาง

การออกไปทานอาหารคราวนี้ คนที่มาก็มีจ้าวยีฟาน สวีเสียและสาวๆที่หอพักรวมเป็นหกคน

ทั้งหกคนในหอพักของเฉินเกอและหม่าเสี่ยวหนาน

เฉินเกอไม่ได้ออกไปพร้อมกันกับหยางฮุยและคนอื่นๆเพราะเขากลับไปที่หอพัก

“ความจริงแล้วฉันเห็นว่าหอพักของเสี่ยวหนานและหยางฮุยมีหกคน พวกเราสิบสองคนออกมาเที่ยวพร้อมกันเป็นกลุ่มก็ดีแล้ว!”

จ้าวยีฟานนั่งลงบนที่นั่งและนั่งห้อยขากำลังดื่มน้ำผลไม้

ความหมายในคำพูดนั้นชัดเจนในตัวเอง

เธอค่อนข้างประทับใจในตัวหยางฮุย เพราะหยางฮุยดูเป็นคนสุขุมอย่างมาก

เพียงแต่พ่อแม่ของหยางฮุยเป็นเพียงครูโรงเรียนมัธยมธรรมดาๆ จึงยังไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานภายในใจของจ้าวยีฟาน

“อืมๆ แต่อย่าให้เฉินเกอคนนั้นมาล่ะ! พอเห็นเขาแล้ว ฉันก็นึกถึงเรื่องพวกนั้นที่เขาทำ! ตลกชะมัด!”

สวีเสียยังกล่าวติดตลก

“เอาล่ะๆ ยีฟาน สวีเสีย พวกเธอก็อย่าไปเกลียดเฉินเกอแบบนั้นเลย ที่จริงเขาเป็นคนดี พวกเธอลองคบไปนานๆก็จะรู้!”

หม่าเสี่ยวหนานพูดยิ้มๆ

“ใช่แล้ว พี่เฉินเป็นคนดี…”

หยางฮุยและคนอื่นๆพูดเสริมทัพ

“หึหึ คนดี? ถ้าดีจริงคงไม่ปล่อยให้พวกเราสิบสองคนนั่งรอเขาอยู่คนเดียวหรอก สวีเสียเธอว่าไง?”

จ้าวยีฟานส่งเสียง ฮึ

“อ๊ะ! เฉินเกอมาแล้ว!”

ในขณะนี้หม่าเสี่ยวหนานก็ลุกขึ้นโบกมือให้เฉินเกอที่อยู่หน้าประตูเพื่อเรียกเฉินเกอเข้ามา

“โทษที ฉันกลับไปคุยโทรศัพท์ที่หอ พอดีมีเรื่องที่ต้องจัดการนิดหน่อยก็เลยมาสาย!”

เฉินเกอยิ้ม

หม่าเสี่ยวหนานและจ้าวยีฟานนั่งอยู่ตรงข้ามกัน

ในขณะเดียวกันดวงตาที่สวยงามของเธอก็สังเกตโดยรอบและลุกขึ้นลากเฉินเกอมานั่งตรงที่นั่ง “เฉินเกอ นายมานั่งตรงนี้สิ!”

เฉินเกอไม่เข้าใจการกระทำของหม่าเสี่ยวหนาน

แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากและนั่งลง

“หลินเจียว เรามาสลับที่กันเถอะ!”

ไม่คิดว่าพอเฉินเกอนั่งลง จ้าวยีฟานที่มีใบหน้าเย็นชาก็พูดกับเพื่อนสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ

“พี่ยีฟาน ฉันไม่อยากสลับที่นั่ง ฉันไม่อยากนั่งกับคนจนคนนี้! ไม่รู้ว่าเขาจะคิดว่าเขาเป็นแฟนฉันหรือเปล่า!”

“อะไรนะ? เธอไม่พอใจหรือที่ได้เฉินเกอเป็นแฟน เธอดูสิ เฉินเกอซื้อได้แม้กระทั่งกระเป๋าใบละสามแสนกว่า! คิกคิก”

“จริงด้วยหลินเจียว ถ้าเธอได้ผู้ชายแบบเฉินเกอก็ดีไปเลย ฮ่าฮ่าฮ่า!”

หลินเจียวแต่งตัวสวยและรู้จักการเเต่งหน้า

ทั้งเนื้อทั้งตัวมีแต่แบรนด์เนม

และแน่นอนว่าเธอดูถูกเฉินเกออย่างมาก

เมื่อได้ยินเพื่อนร่วมหอพูดติดตลก เธอก็หมดคำพูด “อัยหยา ในเมื่อพวกเธอเห็นเฉินเกอดีเสียขนาดนั้นก็เอาเขาไปเป็นแฟนเลยสิ!”

“อ๊ะ! ยอมแล้วๆ!

เมื่อได้ยินแบบนั้น สาวๆจึงไม่มีใครกล้าล้อเล่น

เห็นได้ชัดว่าพวกเธออ่อนไหวต่อคำพูดที่ว่าได้เฉินเกอเป็นแฟน ก็เหมือนกับว่าหากเฉินเกอได้เป็นแฟนใคร คนคนนั้นก็จะโดนเยาะเย้ย

เมื่อหยางฮุย หลี่ปินและพวกเขาที่นั่งอีกฝั่งได้ยินคำพูดแบบนี้ ความจริงก็รู้สึกโมโหเล็กน้อย

แต่ก็ต้องทนเอาไว้

เฉินเกอถูกจ้าวยีฟานปฏิเสธที่จะนั่งกับเขาไปตรงๆ แม้ว่าจะไม่สมเหตุสมผลแต่ก็เป็นไปตามคาด

“เสี่ยวหนาน ฉันนั่งตรงนั้นก็ได้! เธอรีบนั่งเร็ว!”

เฉินเกออดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างหดหู่ ในสายตาของผู้หญิงหลายคน เขาดูเหมือนเทพแห่งโรคระบาดอะไรอย่างนั้น

ทายาทเศรษฐีคนอื่นๆมีเงิน 30,000 ถึง 50,000 อยู่ในมือก็สามารถปั้นหน้าต่อหน้าผู้หญิงสวยๆและได้รับความโปรดปรานจากผู้หญิงเหล่านั้น

ในมือเฉินเกอไม่รู้ว่ามีรายการทรัพย์สินจำนวนเท่าใด

แต่ทำไมถึงไม่ได้รับความโปรดปรานจากผู้หญิงสวยๆพวกนั้นล่ะ?

เฉินเกอก็เคยคิดจะใช้เงินโอ้อวด แต่เขาไม่ทำ!

ฮึ!

ในขณะที่พูดเฉินเกอก็ลุกขึ้นเดินไปอีกฝั่ง

หม่าเสี่ยวหนานต้องการจะโน้มน้าวให้ยีฟานตามเฉินเกอมาอีกครั้ง คราวนี้เธอคิดอยากจะปรับความเข้าใจกับคนทั้งสองจริงๆ

เพราะทั้งสองต่างก็เป็นเพื่อนสนิทของเธอ!

“ยีฟาน?”

ในขณะนี้มีเสียงดังขึ้นจากโต๊ะข้างๆของเฉินเกอ

มีหนุ่มหล่อ รูปร่างดีในชุดลำลองแบรนด์เนมยืนอยู่ต่อหน้าทุกคน

เขามองไปที่จ้าวยีฟานด้วยความประหลาดใจและแปลกใจ

“นายคือจวงเฉียง?”

จ้าวยีฟานก็ประหลาดใจเล็กน้อยเช่นกัน เธอสางผมสั้นและยืนขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ

“ใช่แล้ว จ้าวยีฟานฉันไม่ได้เจอเธอมาสองปีแล้ว เธอสวยขึ้นจนแทบจำไม่ได้แน่ะ!”

จวงเฉียงหัวเราะ

“อ้อ ใช่สิจวงเฉียง พ่อของนายส่งนายไปเรียนเมืองนอกไม่ใช่หรือ? นายกลับมาเมื่อไหร่?”

“ฉันเพิ่งกลับมาวันก่อน ฉันก็กำลังหาคนเพื่อหาวิธีติดต่อเธออยู่พอดีเลย เมื่อวานเรื่องที่ตี้หวางKTV คงไม่มีอะไรเกิดขึ้นใช่ไหม? ตอนนั้นต้าเหลยเพื่อนสมัยมัธยมโทรศัพท์บอกฉันว่าบังเอิญเจอเธอมีเรื่องอยู่ที่นั่น!”

จวงเฉียงพูดยิ้มๆ

แต่จ้าวยีฟานเอามือปิดปากด้วยความตกตะลึง

แม้แต่เพื่อนร่วมหอของจ้าวยีฟานก็รู้สึกได้ทันที

“อ๊า! จวงเฉียง เป็นนาย? เมื่อวานนายเป็นคนช่วยเรา?”

จ้าวยีฟานเผยสีหน้าตกใจ

ที่แน่ๆเรื่องเมื่อวานจวงเฉียงก็คิดหาวิธีช่วย และเขาก็เป็นคนให้พ่อโทรศัพท์หาหลี่เฟยหงแห่งตี้หวาง

แต่หลี่เฟยหงไม่ได้รับสาย

พอตอนนี้ได้ยินจ้าวยีฟานเข้าใจว่าเขาเป็นคนช่วย จึงไม่ได้คิดอะไรมาก

แค่พูดว่า “อืม ฉันให้พ่อช่วยพูดให้น่ะ!”

จ้าวยีฟานรู้สึกซาบซึ้งอยู่ในใจ ในขณะเดียวกันก็มีสีหน้าภาคภูมิใจ

ผู้หญิงมักจะไร้สาระที่สุดในโลก!

ตอนนี้ทุกอย่างก็หมดข้อสงสัยแล้ว ปรากฏว่าคนที่โทรศัพท์วันนั้นไม่ใช่หนิงฝานคนนั้นหรือคนอื่น กลับกลายเป็นว่าเป็นจวงเฉียงเพื่อนสมัยเด็กของเธอที่สามารถทำให้พี่ใหญ่อย่างหลี่เฟยหงสยบได้

ก่อนหน้านี้พ่อของจวงเฉียงและพ่อของเธอเป็นสหายร่วมรบกัน ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคนจึงดีมาก

ต่อมาธุรกิจของตระกูลจวงเฉียงยิ่งใหญ่โตมากขึ้นเรื่อยๆ และจวงเฉียงเองก็ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ

จึงขาดการติดต่อไปโดยปริยาย

แต่คาดไม่ถึงว่าเมื่อจวงเฉียงกลับมาจะทำให้เธอประหลาดใจอย่างไม่คาดคิด

นอกจากนั้นยังจัดการหลี่เฟยหงได้ อิทธิพลของตระกูลจวงเฉียงดูแค่นี้ก็รู้แล้ว!

“จวงเฉียง ไม่ว่าจะอย่างไร ฉันก็ต้องขอบใจนายมากนะ!”

ใจจ้าวยีฟานบานสะพรั่ง

ในขณะที่เห็นจ้าวยีฟานเป็นแบบนี้ เฉินเกอก็อายที่จะพูดถึงเรื่องนี้

ให้ตายเถอะ เป็นหนิงฝานต่างหากล่ะ

ผลพวงจากชัยชนะของตัวเองถูกจวงเฉียงคนนี้ช่วงชิงไปอีกครั้ง?

เฉินเกออยากบอกทุกคนว่า เขาเอง! เป็นเขาเฉินเกอคนนี้ที่เป็นคนโทรศัพท์ไปช่วย!

แต่นอกจากทำให้จ้าวยีฟานและพวกเธอเกลียดเขามากยิ่งขึ้นแล้ว เขายังจะได้อะไรอีก?

หลักๆก็คือเฉินเกอไม่คิดอยากจะสุงสิงกับจ้าวยีฟานมากเกินไป

ตอนนี้อยากทำอะไรก็เชิญ!

“อืมอืม ฉันมาร่วมงานเลี้ยงกับกลุ่มเพื่อนๆมัธยมของพวกเราน่ะ ตอนนี้อยู่กันข้างบน ฉันจะขึ้นไปทักทายข้างบนก่อนแล้วลงมา เธอก็แนะนำเพื่อนๆของเธอให้ฉันรู้จักหน่อยสิ!”

ในขณะที่พูดจวงเฉียงก็หันหน้ามาทางสาวๆและยิ้มให้ยิ้มให้เล็กน้อยด้วยท่าทางสุภาพบุรุษ จากนั้นก็ปลีกตัวออกไป

ปล่อยให้สาวสวยทั้งหลายคลั่งไคล้

ว้าว! หล่อจัง!

“ยีฟานยีฟาน รีบแนะนำหน่อยเร็ว ความเป็นมาของผู้ชายคนนั้นเป็นอย่างไร?”

“ใช่แล้ว เขามีแฟนหรือยัง?”

หลินเจียวและสาวๆรู้สึกสงสัย

จ้าวยีฟานพูดอย่างภาคภูมิใจ “จวงเฉียง เขาสุดยอดมาก พวกเธอรู้จักบริษัทอาหารเซิ่งหัวไหม? นั่นเป็นธุรกิจของครอบครัวเขา เป็นอุตสาหกรรมอาหารชั้นนำเลยนะ!

“ฉันรู้ ในบรรดากิจการจินหลิงที่เป็นบริษัทมหาชน ติดอันดับหนึ่งในร้อย! แข็งแกร่งจริงๆ!”

หลินเจียวและสาวๆคนอื่นพูดด้วยความชื่นชม

“ไม่กี่วันก่อนมีข่าวบอกว่าห่วงโซ่ทุนเซิ่งหัวมีปัญหาอะไรบ้างอย่างนี่นา?”

เฉินเกอนั่งฟังอยู่อย่างเงียบๆจากด้านข้าง แต่เมื่อได้ยินพวกเธอคุยกันไม่กี่คำ เขาก็อยากจะพูดแทรกสักสองสามคำ

แต่ทันทีที่พูดแบบนี้ บรรยากาศก็ขมุกขมัวขึ้นทันที

โดยเฉพาะจ้าวยีฟานที่มองเฉินเกออย่างโกรธ ๆ :

“นายหมายความว่าอย่างไร? ห่วงโซ่ทุนมีปัญหาก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว? นายจะทำตัวอวดเก่งไปถึงไหน?”

“ฮึ คนบางคนก็เป็นแบบนี้แหละ อิจฉาริษยาคนอื่น พยายามหาข้อบกพร่องเพื่อเอาชนะ น่ารังเกียจ!”

หลินเจียวพูดดูถูก

สิ่งที่เฉินเกอพูดก็เกือบนำไปสู่สงครามในชั่วขณะ…

“ยีฟาน!”

ในขณะนี้ก็มีเพื่อนนักเรียนเดินตามหลังจวงเฉียงลงมาจากบันได

ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี

ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี

Score 10
Status: Completed
ณวันนั้น พี่สาวกับพ่อแม่ที่ทำงานอยู่ต่างประเทศบอกกับตัวเองอย่างกะทันหันว่า ตัวเองเป็นทายาทเศรษฐี ครอบครองสมบัติหลายล้าน เฉินเกอคิดในใจว่า ฉันเป็นทายาทเศรษฐีจริงๆหรอ

Options

not work with dark mode
Reset