ความพ่ายแพ้ของไอแซค
「ผมแพ้……? บอกให้ยอมแพ้……? อย่ามาล้อเล่นนะ! การดวลยังไม่จบสักหน่อย! อย่าคิดว่าชนะแล้วนะเว้ย!」
ไอแซคไม่พอใจต่อข้อเสนอที่ให้ยอมแพ้จากยูโกและเข้าโจมตีเขาด้วยดาบคู่ในมือ
ทว่า……เมื่อยูโกปัดป้องการโจมตีนั้นได้อย่างง่ายดาย ก็พูดกับเขาที่สะดุดล้มไปข้างหน้า
「ไอแซค น่าจะรู้ตัวได้อยู่จริงไหม? นายในตอนนี้หายใจค่อนข้างหอบเลยนะ」
「พะ พูดอะไร……!?」
ไอแซคที่ถูกชี้ให้เห็นจากยูโกแม้จะตระหนักได้ว่าตนเองกำลังหายใจหอบซ้ำๆ แต่ดูเหมือนจะไม่รู้เลยว่าเรื่องนั้นหมายถึงอะไร
สีหน้าเขาค่อยๆร้อนรนและวิตกกังวลยิ่งขึ้น ยูโกยังคงพูดกับเขาต่อ
「ไอแซค……นายตอนนี้เคลื่อนไหวได้เหมือนตอนเริ่มประลองหรือเปล่า? ฉันไม่คิดว่าจะทำได้แล้ว นายเผาผลาญพลังกายไปยิ่งกว่าที่นายคิดไว้」
「พลังกาย? เรื่องแบบนั้น เรื่องแบบนั้นไม่มีทาง ก็เพราะผมน่ะ……!!」
แม้ไอแซคจะพยายามปฏิเสธคำพูดของยูโก แต่ก็รู้สึกได้ว่ามือของตนเองที่ถือดาบสั่นเล็กน้อยพร้อมกับตระหนักได้ว่าเรื่องนั้นถูกต้อง
เหงื่อไหล หัวใจเต้นเร็วและรัวจนคิดว่าจะระเบิดหรือเปล่า ลมหายใจเริ่มหนักขึ้น……จนถึงขั้นเลวร้าย บ่งบอกถึงขีดจำกัดของตนเอง
「โกหก……!? เรื่องบ้าๆแบบนั้นมัน……!! ทำไม ทำไมล่ะ……!?」
……สำหรับไอแซคมีโชคร้ายอยู่สองอย่าง หนึ่งคือการเข้าใจว่าที่นี่คือโลกในเกมที่ชื่อว่า『ลูมินัสฮิสทรี่』
แม้ว่าภายในเกมจะมีแนวคิดที่เรียกว่าHPกับMP แต่มันแทบจะไม่มีแนวคิดเรื่องสเตมิน่าอยู่เลย ตัวละครเกมตราบใดที่ยังมีHPอยู่ก็จะต่อสู้ได้ หากมีMPเหลืออยู่ก็สามารถปลดปล่อยท่าได้
อย่างไรก็ตาม……ไอแซคที่ได้เกิดใหม่เป็นมนุษย์ที่มีชีวิตจริงๆ
แม้ว่าจะมีพลังทางกายภาพและสเตตัสอันภาคภูมิใจแค่ไหน แต่ถ้าเคลื่อนไหวเต็มกำลังจะเหนื่อย ถ้าใช้ท่าใหญ่ซ้ำๆสเตมิน่าก็จะถูกเผาผลาญไปกับสิ่งนั้น การที่ตนเองใช้สามัญสำนึกภายในเกมคือโชคร้ายอย่างแรก
และ โชคร้ายอย่างที่สองคือ……เขาแข็งแกร่งเกินไป
ถ้าหากไอแซคได้ต่อสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าตนเองมาจนถึงตอนนี้ละก็ คงจะตระหนักได้ถึงขีดจำกัดของตนเองไปแล้ว
ต้องเคลื่อนไหวแค่ไหนถึงจะเหนื่อย ต้องปลดปล่อยท่าใหญ่แค่ไหนถึงจะขยับไม่ได้กัน? ควรจะมีโอกาสได้เรียนรู้เรื่องนั้นในการต่อสู้ไปแล้ว
ทว่า เขาไม่ได้รับโอกาสนั้น ผลลัพธ์จากการเสริมความคล่องตัวที่สูงและพลังการยิงที่สูง และถูกบูสต์ด้วยองค์ประกอบต่างๆเหล่านั้น ทำให้สามารถโค่นศัตรูได้ด้วยการโจมตีเดียว
เพราะงั้นไอแซคจึงไม่สามารถรับรู้ถึงขีดจำกัดของตนเองได้ ไม่ได้ฝึกหนักอย่างยูโก แค่เติบโตขึ้นอย่างง่ายๆต่อเนื่องหากจะกล่าวว่าโชคร้ายก็อาจจะใช่
ชั่วพริบตาที่ตระหนักได้ถึงความจริงนั้น หัวใจของไอแซคก็ปั่นป่วนและสับสน
เช่นเดียวกับเซน่อน ความปั่นป่วนทางจิตใจก็น่าจะส่งผลกระทบต่อร่างกายด้วย ในกรณีของไอแซคนั้นคือร่างกายที่อ่อนล้าเริ่มรู้สึกหนักขึ้น ระดับความเหนื่อยล้าพุ่งสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด
「แม่ง แม่ง แม่งเว้ยยยยย……!」
「……มาทำให้มันจบเถอะ ไอแซค ไม่อยากสร้างบาดแผลให้นายไปมากกว่านี้แล้ว」
ในการต่อสู้ครั้งนี้จุดพีคความแข็งแกร่งของร่างกายถึงจุดสูงสุดแล้ว
ในช่วงเวลาที่ยูโกได้ทำลายคอมโบไม้ตายที่ตนเองมั่นใจ ชัยชนะของไอแซคก็แทบจะริบหรี่แล้ว
ตัวไอแซคเองก็เข้าใจได้เช่นกันว่าแม้จะสู้ต่อเนื่องไปมากกว่านี้ก็เอาชนะยูโกไม่ได้
ทว่า ถึงอย่างนั้นจิตใจของเขาซึ่งเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็ไม่อาจยอมรับความจริงที่ชื่อว่าความพ่ายแพ้ซึ่งอยู่ตรงหน้าได้
「อย่ามาล้อเล่น……อย่ามาล้อเล่นนะโว้ยยยย! ผมแข็งแกร่ง! ผมไม่มีทางแพ้! ผมน่ะ ผมน่ะ! ได้ดาบนี้มาครองและแข็งแกร่งที่สุดแล้ว! จะไม่แพ้ให้ใครหน้าไหนและใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการ! เป็นชายที่จะสลักชื่อไว้ในโลกนี้ในฐานะวีรชนเดียวดายนะโว้ย! ผมที่เป็นแบบนั้นไม่มีทางมาแพ้ในที่แบบนี้! ผมต้องชนะ! ไม่มีทางแพ้! ไม่อยากแพ้! ไม่อยากแพ้ไม่อยากแพ้ไม่อยากแพ้! ไม่อยากแพ้พพพพพพพพพพ!」
「ไอแซค……?」
ยูโกกังวลเกี่ยวกับไอแซคที่กรีดร้องอย่างต่อเนื่องและมีท่าทีที่คิดได้แค่เพียงว่าคลั่งไปแล้วทว่า……สีหน้านั้นก็เปลี่ยนไปทันทีภายใต้หน้ากาก
เพราะที่ดาบคู่ซึ่งไอแซคถืออยู่ ได้มองเห็นพลังเวทสีเลือดแดงดำเปล่งแสงราวกับเกาะติดอยู่ที่ใบดาบนั้น
「หรือว่า……!?」
พลังเวทนั้นคุ้นเคยดี แม้จะพยายามลืมก็ลืมไม่ได้ มันถูกสลักไว้ภายในหัวของตนเองในฐานะอาวุธที่เต็มไปด้วยภัยคุกคาม
ทำไมกัน? ได้ยังไง? คำถามเช่นนั้นลอยขึ้นมา อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยูโกรู้สึกได้โดยสัญชาตญาณว่ามีสิ่งที่ควรทำยิ่งกว่าเรื่องนั้นอยู่ เขาหันไปข้างหลังพร้อมตะโกนไปทางเหล่าพวกพ้อง
「ทุกคน! หมอบลง!!」
เหล่าพวกพ้องที่ได้ยินเสียงตะโกนอย่างสุดชีวิตของยูโก แสดงสีหน้าสับสนต่อเสียงตะโกนอย่างกะทันหันนั้น
ทันทีหลังจากนั้น พลังเวทที่ปลดปล่อยออกมาจากดาบมารที่ไอแซคถืออยู่ก็เกิดระเบิดขึ้น เสียงกึกก้องดังไปทั่วลานประลอง