[นิยายแปล(WN)] สาวดุ้นตัวร้าย ผมที่กลับชาติมากเกิดใหม่เป็นตัวร้าย ♂ แต่ฉันจะไม่ยอมแพ้กับการTSหรอก 2 ถ้าเป็นนักเรียนโอนย้ายก็ต้องเป็นสาวสวยลึกลับสิ

ตอนที่ 2 ถ้าเป็นนักเรียนโอนย้ายก็ต้องเป็นสาวสวยลึกลับสิ

ตอนที่ 2: ถ้าเป็นนักเรียนโอนย้ายก็ต้องเป็นสาวสวยลึกลับสิ

 

ฉันย้ายมาเข้าเรียนที่โรงเรียนสหศึกษา เฟกตอม

ข่าวลือนั้นแพร่กระจายไปทั่วเขตการศึกษาอย่างรวดเร็ว

 

 

 เทรุคามิ มิซุฮิมาถึงห้องสภานักเรียนอย่างเร่งรีบ และเปิดประตูทันทีโดยไม่รอเสียงตอบกลับจากการเคาะประตู

 

「โอ๊ย!ฉันได้ยินแล้วน่ะ มิโรคุ! จะมีนักเรียนมาที่โรงเรียนนี้ใช่ไหม!?」

 

 

มิซุฮิซึ่งวิ่งไปหาเด็กผู้หญิงที่อยู่คนเดียวในห้องสภานักเรียนจนผมหางม้าสีแดงที่มัดไว้แกว่งไปมา

เด็กสาวผมสีฟ้าที่ถูกเรียกว่ามิโรคุเหลือบตาขึ้นมามอง จากนั้นก็ถอนหายใจและกลับไปดูเอกสารของเธอต่อ

 

「โทอาจังเป็นคนบอกสิเน๊ะ…… ฮ๊า ฉันกำลังคิดที่จะบอกเธอในเวลาที่เหมาะสมอยู่แล้ว เพื่อที่เธอจะได้ไม่มาเอะอะวุ่นวายแบบนี้ไง」

 

「มันไม่แปลกเกินไปรึไงที่มาเงียบเกี่ยวกับเรื่องสำคัญขนาดนี้น๊ะ! ก็แบบ、เท่ากับว่านี่เป็นนักเรียนคนที่สี่สำหรับโรงเรียนสหศึกษา เฟกตอมเลยน๊า!」

 

「มีคนย้ายเข้ามาแค่คนเดียวเอง จะไปทำให้วุ่นวายขนาดนี้ทำไม ถึงจะน่าเสียดายอยู่เน๊」

 

มิโรคุพูดพร้อมกับพับกระดาษในมือให้เป็นเครื่องบินกระดาษ แล้วปาไปที่มิซุฮิ

เธอคว้ามันไว้อย่างง่ายดาย และเปิดกระดาษที่ถูกทำเป็นเครื่องบินกระดาษออก

เป็นเอกสารการแจ้งย้ายของนักเรียนคนหนึ่ง

 

「นาตากิ(นาโระ) เคย์、ปีหนึ่ง……ผู้ชายสินะ」

 

「ไม่ชอบรึไง?」

 

「จริง ๆ ก็สะดวกดี ตอนนี้โรงเรียนนี้มีแต่นักเรียนหญิงด้วย ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปจะไม่มีนักเรียนชายมาเข้าใหม่แน่ ๆ เพราะคงโดนคิดไปว่าเป็นโรงเรียนหญิงล้วนล่ะนะ นั่นเป็นปัญหากว่าอีก」

 

「ถึงจะไม่เข้าใจผิด แต่ฉันก็คิดว่าคงไม่มีใครอยากจะมาเข้าโรงเรียนแบบนี้หรอกเน๊ะ ก็โรงเรียนนี้มันจบไปนานแล้ว」

 

มิโรคุมองออกไปนอกหน้าต่าง

สวนที่ครั้งหนึ่งเคยสวยงามตกอยู่ในสภาพทรุดโทรม และหลังคาสีขาวที่ตอนนี้ก็ทั้งสกปรกและแตกร้าวเต็มไปหมด

อาคารสไตล์ตะวันตกเช่น โบสถ์ที่กระจายอยู่ทั่วก็ผุพังมีรูเต็มไปหมด

 

「จะมีคนที่สนใจมาเข้าที่แบบนี้จริงเรอะ หรือไม่ก็――มีจุดประสงค์อะไรแอบแฝง」

 

「……ก่อนอื่นเลย、นาตากินี่น่ะ ใช่ นาตากินั่นรึเปล่า」

 

「ใช่ ที่คิดอยู่นั้นแหละ」

 

มิโรคุตอบยืนยัน ขณะที่ยังมองออกไปนอกหน้าต่างอยู่เช่นเดิม

 

「สามตระกูลใหญ่ที่ริเริ่มการสำรวจดันเจี้ยนในญี่ปุ่น ในหมู่พวกเขาตระกูลนาตากินั้นมีอิทธิพลอย่างมากต่อเมืองแห่งโรงเรียน แม้กระทั่งตอนนี้」

 

「เอลีทของเอลีทเลยไม่ใช่รึไงกัน!วิเศษมาก ถ้าเป็นแบบนี้ล่ะก็、การพูดถึงเทศกาลดินแดนสงครามในอีกหนึ่งปี นี่ก็ไม่ใช่แค่ความฝันอีกต่อไป」

 

「ถ้าเป็นอย่างงั้นจริงก็ดีสิเน๊ะ」

 

「เป็นอะไรมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วน่ะ ในที่สุดเราก็มีนักเรียนใหม่แล้วไม่ใช่รึไง แถมยังเป็นตระกูลนาตากิ……หรือว่าจะมีปัญหา?」

 

「ไม่มีอะไร ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ」

 

มิโรคุพูดราวกับพ่นออกมา ยังไงก็ตาม ดูเหมือนว่าความรู้สึกไม่เชื่อจะไม่สามารถลบล้างไปจากทุกคำของคำเหล่านั้นได้

 

「ทว่า、ดวงตาคู่นั้นทำให้ฉันประทับใจแปลก ๆ ล่ะ」

 

「ดวงตา?」

 

「ใช่ ดวงตาที่เหมือนมีอะไรบางอย่างผลักดันอยู่ตลอดเวลา ราวกับหัวใจถูกแผดเผาด้วยแสงอันแรงกล้า――ดวงตาของคนที่รีบร้อนที่จะตาย เหมือนกับครูของพวกเรา」

 

ทันทีที่มิซุฮิได้ยินคำพูดเหล่านั้น เธอก็จ้องมองไปที่หญิงสาวตรงหน้าเขม็ง

 

「……っ、นั่นเป็นอุบัติเหตุ อาจารย์ไม่ได้ฆ่าตัวตาย」

 

「ฉันเข้าใจดีน๊า、ขอโทษน่ะ มิซุฮิ ฉันเองก็สับสนเหมือนกัน เพราะท้ายที่สุดแล้ว เขาก็เป็นนักเรียนโอนย้ายคนแรกของโรงเรียนแห่งนี้ในรอบสิบปี」

 

มิโรคุพูดด้วยรอยยิ้มกลบเกลื่อน

มิซุฮิที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กของเธอ รู้ว่ารอยยิ้มนั้นปิดบังอะไรบางอย่างไว้ แต่เธอก็ยอมรับและยิ้มตอบ

 

「ตั้งตารอเลยน๊า แล้ว、เขาจะมาเมื่อไหร่ล่ะ」

 

「วันนี้แหละ」

 

「วันนี้!? เมื่อไหร่、เขาไปสอบโอนเทียบเมื่อไหร่กัน!?」

 

「ฉันกับโทอาจังพึ่งสัมภาษณ์เขาไปเรียบร้อยแล้ว」

 

「ฉันเป็นคนเดียวที่ถูกผ่าน!?」

 

ในขณะที่พยายามทำให้มิซุฮิที่เอาแต่บ่นอยู่ก็สงบสติอารมณ์ลง มิโรคุก็ถอนหายใจในใจ

และเธอก็นึกถึงตอนที่ได้เจอกับเขา

 

 

 

วันเวลาผ่านไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วจนถึงวันสัมภาษณ์

 

「――นาตากิ เคย์ซังสิเน๊ะ」

 

「ครับ」

 

ภายในห้องเรียนที่โรงเรียนสหศึกษา เฟกตอมนั้นที่ค่อนข้างสะอาด

มีเด็กชายและเด็กหญิงสามคนนั่งเผชิญหน้ากันอยู่ที่นั่น

 

「ถ้าอย่างงั้นเรามาเริ่มการสัมภาษณ์กันดีเลยดีไหม ยังไงก็ตาม นี่เป็นขั้นตอนพิธีการที่เรียบง่าย ดังนั้นโปรดผ่อนคลายไว้ ส่วนทางนี้คือผู้สัมภาษณ์ สึกิมิยะ โทอาจังค่ะ」

 

「โทะ、โทอาค่ะ! คะ、คือ、ขอฝากตัวด้วยนะคะ!」

 

「โทอาจัง、แบบนี้ฉันก็ไม่รู้ว่าใครเป็นผู้สัมภาษณ์กันพอดี ใจเย็น ๆ ไว้นะ」

 

「คะ、ค่ะ!」

 

เมื่อมองดูโทอา เด็กสาวผมทองที่พยายามสูดหายใจเข้าลึก ๆ หลายรอบ มิโรคุก็คิดในใจว่าตัวเองเลือกคนผิดแล้วรึเปล่า แต่เธอก็รีบปฏิเสธทันที เพราะหากพามิซุฮิเข้ามา ก็รู้ได้ทันทีว่ามันจะกลายเป็นการทดสอบภาคปฏิบัติและต่อสู้ทันที

 

(ถึงกระนั้นก็มีรูปลักษณ์ที่ดูสง่างามมากเน๊ะ)

 

มิโรคุสังเกตชายที่นั่งอยู่ข้างหน้า

ผมสีเงินอมฟ้า บรรยากาศเงียบสงบที่ให้ความรู้สึกถึงสติปัญญา

 

『นาตากิ เคย์』

 

เขาเป็นนักเรียนที่โรงเรียนมิคาเงะ ยังไงก็ดีได้ยินมาอย่างชัดเจนว่าเขาตัดสินใจลาออกจากโรงเรียนเนื่องจากพฤติกรรมมีปัญหาที่โรงเรียนด้วยตนเอง

แต่จากคนตรงหน้าที่เห็นกับตา เธอก็ไม่รู้สึกถึงบรรยากาศใด ๆ ที่ทำให้นึกถึงพฤติกรรมที่เป็นปัญหานั้นเลย

 

(พฤติกรรมที่เป็นปัญหานั้นเป็นเรื่องโกหกเพื่อล่อให้เขาออกมาหรือเปล่า หรือว่าเขาเป็นคนเจ้าเล่ห์ที่กำลังหลอกลวงฉันจริง ๆ แล้วจะเอายังไงดี)

 

มิโรคุพูดกับเคย์ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า ซึ่งตรงกันข้ามกับความรู้สึกของตนเอง

 

「เช่นนั้น、เรามาเริ่มการสัมภาษณ์กันดีกว่า」

 

「ขอรบกวนด้วยครับ」

 

แม้ว่าเขาจะแค่นั่งอยู่ตรงนั้น แต่เธอก็กลับรู้สึกถึงความสง่างามอย่างประหลาด

 

จากอิริยาบถเล็กๆ น้อยๆ ของพฤติกรรมที่เขาแสดงออกก็ทำให้เธอรู้สึกได้ถึงราศีของตระกูลที่มีชื่อเสียง

 

「ก่อนอื่นเลย、ทำไมต้องเป็นโรงเรียนนี้? แม้ฉันจะเป็นคนพูดเอง、แต่ที่นี่มันแย่ที่สุดเลยนะคะ?เขตปกครองตนเองส่วนใหญ่ก็ถูกโรงเรียนอื่นยึดครองไปแล้ว และปัจจุบันมีนักเรียนเพียงสามคนเท่านั้น ปีหน้าก็คงจะหายไปจากสารบบด้วยตัวเองด้วยซ้ำ」

 

「มะ、มิโรคุจัง」

 

「ก็เรื่องจริงไง หากเขาเข้าใจอะไรผิด、ฉันก็ควรต้องรีบหยุดเขาไว้ตั้งแต่ตอนนี้ซะ」

 

 

เคย์ส่ายหัวอย่างเงียบ ๆ ให้คำเหล่านั้น

จากนั้น เขามองลงต่ำด้วยสีหน้าจริงจังราวกับกำลังเลือกคำพูด ก่อนในที่สุดจะเงยหน้าขึ้นแล้วพูดว่า

 

「ผมมีภารกิจ」

 

「ภารกิจ?」

 

「ใช่ครับ เป็นเหตุผลที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนทำให้สำเร็จแม้ว่าจะต้องเสี่ยงชีวิตก็ตาม」

 

ดวงตามั่นคงแน่วแน่

ดวงตาสีฟ้าที่ดูเหมือนติดอยู่ที่ก้นมหาสมุทรนั้นเจาะผ่านมิโรคุ

แล้วก่อนที่จะทันรู้ตัว มิโรคุก็เอ่ยปากของตนเอง

 

「มีความจำเป็นที่ต้องเป็นโรงเรียนแห่งนี้ด้วยเหรอคะ」

 

「ครับ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงยอมทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างและมาอยู่ที่นี่」

 

「ฉันขอถามรายละเอียดได้ไหมคะ?」

 

「นั่น……」

 

เคย์ปิดปากของเขา

หลังจากเงียบไปสักพัก เขาก็พูดเหมือนคั้นออกมา

 

「บอกไม่ได้ครับ แต่ทว่า、ผมอยากจะเข้าโรงเรียนนี้ ไม่สิ ผมจำเป็นต้องเข้าโรงเรียนนี้ให้ได้」

 

「ทำไมถึงพูดขนาดนั้น」

 

「――ไม่มีเวลาแล้วครับ」

 

หลังจากพูดอย่างนั้น เคย์ก็ดูตกใจและรีบปิดปากตัวเอง

บางทีเขาอาจจะไม่ได้ตั้งใจที่จะพูดแบบนั้น

 

「อย่างงั้นเหรอคะ」

 

มิโรคุตอบสั้น ๆ

ยังไงก็ตาม ลึก ๆ แล้วเธอก็ยังรู้สึกประหลาดใจอยู่

นั่นคือคำพูดของคน ๆ นั้นเหมือนกัน

 

 

『ไม่มีเวลาแล้ว』

 

 

(……นั่นคือสิ่งที่ครูพูดก่อนตาย ไม่มีทาง)

 

มิโรคุถามอีกหนึ่งคำถาม

 

「คุณพอจะรู้จักนักเรียนชื่อ ซากุระบะ(ซากุระนิวะ) รักกะไหมคะ」

 

「っ!? ……มิโรคุจัง」

 

นั่นคือชื่อที่มีความหมายที่สุดในโรงเรียนแห่งนี้

เป็นชื่อของเด็กผู้หญิงที่จากโลกนี้ไปแล้ว และสำหรับมิโรคุกับมิซุฮิ นั่นคือชื่อของอาจารย์ของพวกเธอ

 

เมื่อเคย์ได้ยินชื่อนั้น ตาของเขาก็เบิกตากว้างเล็กน้อย

ดวงตาของเขามีแววบางอย่างอยู่ในนั้น มีบางอย่างอยู่ในดวงตาของเขา เหมือนกับแสงเทียนในวินาทีสุดท้ายของการมอดไหม้

 

「……ครับ รู้จัก」

 

「อย่างงั้นเหรอคะ」

 

หลังจากพูดอย่างนั้น มิโรคุก็ลุกขึ้นจากที่นั่ง

 

「ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป คุณจะเป็นนักเรียนของโรงเรียนแห่งนี้ค่ะ ยินดีต้อนรับเน๊ะ นาตากิ เคย์คุง」

 

「เอ๊ะ、เอ๊ะ?  มิโรคุจัง、จะดีเหรอ? ว่าไปแล้ว ทำไมฉันถึงต้องมาอยู่ที่นี่ด้วยล่ะ……」

 

มิโรคุมุ่งหน้าไปที่ประตูโดยปล่อยโทอาที่โวยวายไว้เบื้องหลัง

 

「โทอาจัง、ขอฝากที่เหลือด้วยเน๊」

 

「เอ๊ぇ?!」

 

มิโรคุออกจากห้องไปพร้อมรอยยิ้มกว้าง เธอเดินออกไปท่ามกลางคำพูดอันปั่นป่วนของโทอาที่แทบจะฟังดูเหมือนเสียงกรีดร้อง

 

เธอยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะไปที่ไหน

แต่ตอนนี้เธอแค่อยากจะสงบสติอารมณ์ที่เต้นแรงในใจ

 

「เจตจำนงของครูยังคงอยู่……!」

 

รู้สึกได้จากคำพูดเหล่านั้น

ความหมายบางอย่างที่แฝงไว้

 

「ในที่สุดโรงเรียนสหศึกษา เฟกตอมก็จะกลับมามีชีวิตอีกครั้งแล้วเน๊ะ」

 

คำพูดของหญิงสาวที่เคยนำทางพวกเธอยังคงก้องอยู่ในหัว

 

 

『สักวันหนึ่ง、รงเรียนแห่งนี้จะฟื้นคืนชีพขึ้นมาอย่างแน่นอน ดังนั้นโปรดเชื่อในตัวฉัน……ในตัวพวกเรา』

 

 

ไม่ใช่ทั้งการปลอบโยนหรือให้กำลังใจ นั่นเป็นคำพูดแห่งความจริงอันบริสุทธิ์

มิโรคุกำหมัดแน่น

มีแสงแห่งความมุ่งมั่นในดวงตาของเธอ

 

 

 

 

ขอแสดงความยินดีด้วยที่ได้ย้ายเข้า!

 

มีแค่สัมภาษณ์เพียงอย่างเดียวก็หมู ๆ แต่ก็สะเพร่ากันเกินไปแล้ว!!!!

 

ถ้าบอกไปว่าเหตุผลที่ย้ายเข้ามา เพราะอยากเป็นสาวสวย แบบนั้นก็อาจจะเกิดความสงสัยได้ นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมฉันถึงได้ตอบไปด้วยคำพูดที่ฟังดูคลุมเครืออย่าง『เหตุผลใหญ่』หรือ『ภารกิจ』 แต่ก็น่าดีใจที่พวกเขาไม่รู้ตัว

ฉันก็สับสนเหมือนกัน เมื่อจู่ ๆ ก็ถูกถามถึงชื่อตัวละครในฉบับดั้งเดิม แต่ก็สามารถตอบได้

 

 

เมื่อพูดถึงซากุระนิวะ รักกะแล้ว、เป็นตัวละครที่ปรากฏในเรื่องราวออริของเกมโซเชียลของลูทราแห่งโลกกระจก

ฉันไม่ได้เล่นเกมเลยไม่รู้จักเท่าไหร่ แต่ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นคีย์แมนสำคัญที่เป็นที่รู้จักในนาม『ต้นกำเนิดแห่งความอมตะ』『ตัวแทนแห่งท้องทะเลในตำนาน』『ผู้พิทักษ์แห่งโฮชิกิ(ต้นไม้ดวงดาว)』

 

ฉันสงสัยว่าเธอเป็นคนดังในโลกนี้ด้วยหรือเปล่า

ไม่มีทาง เธอมาจากเฟกตอมแห่งนี้น่ะเหรอ?

……ฮ่าๆๆๆ ไม่มีทาง

 

「ม๊า、จะยังไงก็ช่างเถอะ」

 

ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์แล้วตั้งแต่ฉันมาที่เฟกตอม

 

ทันทีที่ฉันตัดสินใจย้ายเข้า ฉันก็ออกจากแมนชั่นและย้ายไปที่เขตปกครองตนเองของเฟกตอม 

แม้ว่าจะเรียกว่าเป็นเขตปกครองตนเอง แต่ก็ต่างจากโรงเรียนอื่น ๆ ไม่มีเมืองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเชื่อมต่อกับโรงเรียน มีเพียงหอพักเล็ก ๆ ภายในโรงเรียน

อาคาร 2 ชั้น จำนวน 16 ห้อง

ปัจจุบัน ฉันเป็นผู้พักอาศัยเพียงคนเดียวในหอพักแห่งนี้ ซึ่งคนสองคนสามารถอยู่ในห้องเดียวกันได้

 

 

ดูเหมือนว่าจะมีหอพักเพียงยี่สิบแห่งเท่านั้น และส่วนใหญ่ว่างเปล่า

นี่มันภาวะขาดแคลนประชากรเลยไม่ใช่รึง๊ายยยยย!

 

ดูเหมือนว่านักเรียนคนอื่น ๆ นอกจากฉันแล้ว จะอาศัยอยู่ด้วยกันในหอพักแห่งเดียว แต่เนื่องจากพวกเขาทั้งหมดเป็นเด็กผู้หญิง ฉันจึงปฏิเสธอย่างสุภาพที่จะปล่อยให้พวกเขาอยู่ด้วยกันต่อไป การเข้าไปของผู้ชายถือเป็นบาปร้ายแรง

แต่รอก่อนเถอะ เมื่อกลายสาวสวยเมื่อไหร่ ฉันจะไปอยู่ด้วยน๊า!

 

「……ซ้า、ไปทำปาร์ทไทม์ดีกว่า」

 

ตอนนี้ฉันทำงานอย่างหนักในงานพาร์ทไทม์

ไม่ว่าจะนอนไม่ว่าจะตื่นก็ งานพาร์ทไทม์งานพาร์ทไทม์งานพาร์ทไทม์…… ก่อนอื่นเลย ยังไงฉันก็ต้องทำงานพาร์ทไทม์เพื่อหาเงิน

นั่นเป็นเพราะไม่มีอะไรที่ทำได้อีกแล้ว

 

เพราะโรงเรียนสหศึกษา เฟกตอมแห่งนี้ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นโรงเรียนมานานแล้ว

ที่นี่ไม่มีครูแม้แต่คนเดียว และมีเพียงเด็กผู้หญิงสามคนในสภานักเรียนแค่ในนามเท่านั้น

 

ดูเหมือนว่าเมื่อสองปีที่แล้ว ยังพอมีพวกรุ่นพี่ทำหน้าที่เข้าสอนในชั้นเรียนอยู่ แต่นั่นไม่เป็นเช่นนั้นอีกต่อไป

พูดอีกอย่างก็คือ ฉันมีเวลาว่างมากจนแทบจะเป็นการเสียเวลาเปล่า

 

ไม่มีที่ไหนแถวนี้ที่ฉันสามารถหางานพาร์ทไทม์ได้ ดังนั้นฉันจึงต้องไปที่ใจกลางเมือง และแม้จะรวมเวลาเดินทางแล้ว ฉันก็ยังมีเวลาเหลือเฟือ

 

「เคย์、วันนี้เองก็งานพาร์ทไทม์เหรอ」

 

「อะ、รุ่นพี่มิซุฮิ อรุณสวัสดิ์ครับ」

 

เมื่อออกจากหอพัก มาถึงหน้าประตูเขตปกครองตนเอง ก็มีเสียงเรียกฉันไว้

เมื่อหันไปมองก็เจอกับรุ่นพี่มิซุฮิและผมหางม้าสีแดงของเธอ

 

แม้ว่าภายนอกเธอจะดูเหมือนพวกนักรบที่คลั่งไคล้การต่อสู้ แต่เธอก็เป็นรุ่นพี่ที่เอาใจใส่มาก ๆ เช่นกัน เธอช่วยทำความสะอาดห้องในวันที่ฉันย้ายเข้ามา

 

「นายต้องไปที่ใจกลางเมืองเพื่อทำงานพาร์ทไทม์ตลอดแบบนี้ ทำไมไม่ลองมาลงทะเบียนเป็นทีมงานกู้ภัยด้วยกันล่ะ ถ้าเป็นนายที่เป็นสมาชิกในตระกูลนาตากิก็คงมีความรู้ความสามารถของทางนั้นบ้างใช่ไหมล่ะ?」

 

「ลงทะเบียนทีมกู้ภัยสินะครับ……」

 

หากคุณล้มเหลวในการพิชิตดันเจี้ยน ก็มีระบบที่ให้คุณขอความช่วยเหลือจากนักสำรวจที่อยู่นอกดันเจี้ยนได้

 

โดยปกติจะมีให้เลือกระหว่างแผนที่จะติดต่อนักเรียนที่เป็นนักสำรวจที่อยู่ในโรงเรียนเดียวกัน และแผนที่ยื่นขอการกู้ภัยจากนักสำรวจที่ลงทะเบียนเป็นนักสำรวจอาสากู้ภัย แต่จะนักสำรวจได้รับการติดต่อแบบสุ่ม

แบบหลังจึงแน่นอนว่ามีราคาถูกกว่า

เนื่องจากเมื่อมีนักเรียนมาจากโรงเรียนที่แตกต่างกันมา ความขัดแย้งก็อาจเกิดขึ้นได้ง่ายในประเด็นต่าง ๆ เช่น ค่าชดเชย 

 

「นายสามารถหาเงินได้มากกว่างานพาร์ทไทม์ปกติอีกน๊า นอกจากนี้ บางครั้งฉันก็พบโบราณวัตถุศักดิ์สิทธิ์ในดันเจี้ยนด้วย ถ้าเอาไปขาย ก็ถือว่าเป็นโบนัสพิเศษล่ะ」

 

「อืมー ก็ไม่ผิดครับ ถ้าแค่อยากหาเงิน ก็โอเคอยู่……」

 

พูดตามตรงฉันไม่รู้สึกว่าจะสามารถต่อสู้ได้ตรง ๆ

นาตากิ เคย์มาจากตระกูลที่มีชื่อเสียงก็จริง แต่จริง ๆ แล้วเขาไม่ใช่พวกเอลีท

 

ตลอดเวลามานี้ เขาเป็นพวกชั้นต่ำปลายแถวที่มาเพื่อแค่โอ้อวดอำนาจเท่านั้น

เขาอาจมีศักยภาพแต่ แต่ตอนนี้ที่มีฉันINเข้ามาอยู่ในร่างกายนี้แล้ว ตอนนี้ฉันอาจเป็นเพียงผู้เริ่มต้นที่ดีที่สุดเท่านั้น

 

「เรื่องนั้นผมขอไว้ก่อนครับ สำหรับตอนนี้ ผมอยากจะเห็นสิ่งที่เรียกว่าเมืองแห่งโรงเรียนเพิ่มอีกสักหน่อย」

 

「งั้นเรหอ งั้นฉันจะตั้งตาคอยวันที่จะได้ตะลุยดันเจี้ยนด้วยกันในสักวันหนึ่งนะ」

 

「ครับ」

 

「ถ้างั้น ก็เรามาทำให้ดีที่สุดด้วยกันเถอะ」

 

หลังจากพูดอย่างนั้น รุ่นพี่มิซุฮิก็เดินผ่านประตูเขตปกครองตนเองออกไป

ผมหางม้าสีแดงหายไปหลังประตูกลขนาดใหญ่

ฉันหลบประตูที่กำลังปิดตามออกไปทีหลัง 

 

 

 

ทันใดนั้น กลุ่มอาคารกระจายอยู่ตรงหน้าฉัน

จนถึงตอนนี้ ฉันอยู่ในโรงเรียนที่ทั้งเก่าและเสื่อมโทรม แต่สิ่งเหล่านั้นไม่มีอยู่ตรงหน้าอีกต่อไป

 

「……ยอดเยี่ยมเช่นเคย ซู๊ดยอด」

 

ฉันมองกลับไปที่ประตูที่ฉันพุ่งเข้ามา

เป็นประตูพิเศษที่เชื่อมต่อใจกลางเมืองกับดันเจี้ยนไว้ด้วยกัน

 

ด้วยการใช้สิ่งนี้ พวกเขาสามารถสร้างโรงเรียนภายในดันเจี้ยนได้ และสามารถสร้างเขตการศึกษาได้อย่างอิสระบนที่ดินจำนวนมหาศาลที่เทียบเท่ากับประเทศหนึ่ง

สิ่งที่มีอยู่บนเกาะที่ลอยอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกนั้นเป็นเพียงโลกเบื้องหน้าเท่านั้น

เป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนระหว่างโรงเรียนและนักท่องเที่ยว

สถานที่ที่ฉันทำงานพาร์ทไทม์อยู่ที่ร้านสะดวกซื้อเล็ก ๆ ในย่านนั้น

 

「วันนี้เองฉันจะทำให้ดีที่สุดที่เครื่องคิดเงินー!」

 

ท้องฟ้าแจ่มใสและมีแดดจัด

 

ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー

 

คนแปลขออนุญาตเปิดโดเนทหน่อยนะงับ 

{ไทยพาณิชย์} {880-222211-5} {เสฏฐวุฒิ}

{ไทยพาณิชย์} {880-222211-5} {เสฏฐวุฒิ}

 

ขอบคุณ คุณCHATCHAI SCB X-2478 มาก ๆ ครับ

ขอบคุณ คุณนิรนาม กรุงเทพ X-9999 มาก ๆ ครับ

ขอบคุณ คุณพันธวงศ์ กสิกรไทย X-2186 มาก ๆ ครับ

ขอบคุณทุกท่านที่สนับสนุนเป็นกำลังใจเข้ามาด้วยนะครับ

ขอบคุณงับ

 

[นิยายแปล(WN)] สาวดุ้นตัวร้าย ผมที่กลับชาติมากเกิดใหม่เป็นตัวร้าย ♂ แต่ฉันจะไม่ยอมแพ้กับการTSหรอก

[นิยายแปล(WN)] สาวดุ้นตัวร้าย ผมที่กลับชาติมากเกิดใหม่เป็นตัวร้าย ♂ แต่ฉันจะไม่ยอมแพ้กับการTSหรอก

Score 10
Status: Completed
ถ้าได้เกิดใหม่ ก็ต้องเป็นสาวสวยเท่านั้น! หากได้เกิดใหม่ ก็เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับการกลายเป็นสาวสวย! ชายคนหนึ่งได้ตายลงและกลับชาติมาเกิดใหม่ในโลกของมังงะดันเจี้ยนสมัยใหม่ที่เขาชื่นชอบ แต่ว่า、สถานะที่รอคอยเขาอยู่คือตัวร้าย♂ 「ทำไมถึงไม่ใช่เด็กผู้หญิงล่ะฟ๊ะ……!」 ถ้าฉันได้เกิดใหม่เป็นสาวสวยคงจะดีกว่านี้ ด้วยความจริงที่ชัดเจนในใจเช่นนี้、ชายคนนี้จึงใช้ชีวิตเพื่อจุดประสงค์ของตัวเขาเองในฐานะตัวร้าย♂(ไม่มีบทบาทนี้อีกต่อไป) เป้าหมายคือ การแย่งชิงอีเว้นท์TSที่จะเกิดขึ้นในอีกหนึ่งปีข้างหน้าตามในงานต้นฉบับ และกลายเป็นสาวสวยที่รอคอยมานาน! นี่คือเรื่องราวของนักสำรวจที่อาศัยอยู่ในโลกดันเจี้ยนสมัยใหม่ นี่คือเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่สมองถูกเผาไหม้ด้วยความปรารถนาที่จะTS นอกจากนี้、โดยไม่ได้คำนึงถึงความจริงที่ว่ากองกำลังทั้งหมดในงานต้นฉบับยอมรับว่าเขาเป็นขุมกำลังใหม่ที่ไม่รู้จัก และต้องระวัง จากการกระทำในระหว่างแต่งกายข้ามเพศซึ่งเป็นผลมาจากความปรารถนาที่จะTSของเขา

Options

not work with dark mode
Reset