เพี้ยะ!
ดูจากบรรยากาศที่พลุ่งพล่านในคอนเสิร์ตแล้ว ถงซูเหวินตบหน้าขาของตนเองอย่างแรง ก่อนจะกัดฟันกรอด
โอ๊ย เจ็บ
จะตบขาไม่ได้อีกต่อไป ตบขาตัวเองไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร ถงซูเหวินลูบหน้าขาพลางสูดลมหายใจเย็นเฉียบ หลังจากนั้นจึงยิ้มแก้มปริราวกับเด็กน้อยจ้ำม่ำ
เอาเลย!
ร้องอีก!
ส่งไมโครโฟนให้คุณเลย!
พวกคุณร้องให้เต็มที่!
ชั่วขณะนี้ถงซูเหวินเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ และท่ามกลางเสียงอึกทึกของผู้คน เสียงกรีดร้องดังขึ้นพร้อมกับการถกเถียงที่ปะทุขึ้น
“เวอร์ชันนี้ปังมาก!”
“รู้สึกว่าเจ๋งกว่าเวอร์ชันต้นฉบับอีก!”
“พ่อเพลงอวี๋ร้องเพลงเพราะมาก!”
“ท่อนเวอร์ของเพลงนี้ทำให้สะใจได้จริงๆ พ่อเพลงอวี๋เป็นอัจฉริยะด้านดนตรี ทั้งที่เป็นทำนองเดียวกันแต่กลับเล่นออกมาได้สารพัดรูปแบบ อย่างเพลงกุหลาบแดงและกุหลาบขาวในระยะแรก ก็เป็นภาษากลางและภาษาฉี ทั้งยังมีเพลงสิบปีที่เขียนให้ซุนเย่าหั่วหลังจากนั้น แล้วก็ปล่อยเพลงวันนี้ปีหน้าเวอร์ชันภาษาฉีออกมา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเพลงจูบลาที่ ออกมาเป็นเพลงภาษาอังกฤษเพราะๆ เพื่อตอกหน้าชาวหานในเดือนนั้น ไม่มีใครเก่งเรื่องหนึ่งทำนองสองเนื้อเพลงเท่าเซี่ยนอวี๋อีกแล้ว!”
“เป็นวาสนาของชาวฉี!”
“ภาษาฉีของพ่อเพลงอวี๋ดีมากจนแม้แต่พวกเราคนฉีเองก็ฟังไม่ออกถึงสำเนียงที่เพี้ยน ถ้าไม่รู้จักตัวตนของพ่อเพลงอวี๋ ผมคงคิดว่าพ่อเพลงอวี๋เป็นคนฉี ไม่น่าแปลกใจที่พ่อเพลงอวี๋ถึงเขียนเพลงภาษาฉีได้ดีขนาดนี้!”
“…”
บรรยากาศในคอนเสิร์ตปะทุขึ้นแล้ว!
และท่ามกลางบรรยากาศซึ่งลุกเป็นไฟนี้ หลินเยวียนร้องเพลงซึ่งคุ้นหูทุกคนอีกหลายเพลง อย่างเพลงกุหลาบแดงที่ผู้ชมเอ่ยถึงไปเมื่อครู่ เพลงเหล่านี้เป็นเพลงที่หลินเยวียนแต่งขึ้นเพื่อให้นักร้องคนอื่นๆ ตัวเขาเองไม่เคยขับร้องในที่สาธารณะ การแสดงที่ต่อเนื่องกันเช่นนี้ทำให้บรรยากาศร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ !
“เพลงต่อไปคือดาดฟ้า”
หลินเยวียนเอ่ยแนะนำข้อมูลเพลงถัดไป เพลงนี้คือเพลงคู่ชายหญิง หลินเยวียนสามารถใช้วิธีขับร้องด้วยเสียงชายและหญิง นี่คือความสามารถของเขา
วิธีการร้องนี้ให้ผลลัพธ์ของการแสดงสดที่ยอดเยี่ยม!
ทันทีที่หลินเยวียนสลับเสียงทั้งสอง ก็เกิดเสียงกรี๊ดมากมายดังสนั่นไปทั่งค นเสิร์ต เมื่อหลินเยวียนร้องมาถึงไคลแม็กซ์ของคอรัสที่สอง เขาเดินไปยังขอบเวที เขาจะมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ชม!
อย่างไรก็ตาม หลินเยวียนได้เรียนรู้มาแล้ว!
จะยื่นไมโครโฟนให้ผู้ชมกลุ่มใหญ่พร้อมกันไม่ได้ ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการขับร้องด้านหลัง แต่การยื่นไมโครโฟนให้ผู้ชมเพียงคนเดียวย่อมไม่มีปัญหา ไม่มีทางเกิดความผิดพลาดไปได้ หลินเยวียนนึกชื่นชมในความฉลาดของตนเอง!
“เซี่ยนอวี๋!”
เมื่อเซี่ยนอวี๋เดินไปขอบเวทีฝั่งขวาและทำท่ายื่นไมโครโฟน ผู้ชมในบริเวณนั้นส่งเสียงกรี๊ดลั่น ชายตุ้ยนุ่ยตัวไม่สูงคนหนึ่งลุกขึ้นยืนอย่างว่องไว ก่อนจะเดินไปหาหลินเยวียน
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยด้านข้างเตรียมพร้อม
คอยอารักขาเซี่ยนอวี๋ของเราตลอดเวลา
ผู้ชมชายมีสีหน้าตื่นเต้น ขยับเข้าหาไมโครโฟนพร้อมกับเพลงเสียงด้วยสีหน้าเคลิบเคลิ้ม “ฉันปิดประตูลงแผ่วเบา ขึ้นไปพร้อมกับความหวังฮ่าๆๆๆๆๆๆ คนคนนั้นไม่ใช่ฝันของฉันฮ่าๆๆๆๆๆ …”
เฮือก!
นี่มันอะไรกัน!
พังการแสดงหรือ?
ทั้งเวทีสี่ทิศหัวเราะลั่น!
เห็นชัดๆ ว่า ผู้ชมชายคนนี้ร้องเพลงถูกต้องทั้งหมด ทว่าทุกคำล้วนไม่ตรงคีย์ เมื่อร้องไปจนจบ ชายคนนี้จึงหัวเราะตนเองออกมาดังลั่น และรีบเดินกลับไปยังที่นั่งของตนเอง
“…”
หลินเยวียนงุนงง
ท่ามกลางการซูมของหน้าจอ ใบหน้าของหลินเยวียนแลดูสับสนอีกครั้ง คล้ายกับไม่เข้าใจว่าผู้ชมคนนี้ร้องเพลงให้ไม่ตรงคีย์เลยสักคำเดียวได้อย่างไร ถึงขนาดที่เมื่อเขาดึงไมโครโฟนกลับไป ก็ไม่รู้ว่าตนควรร้องเพลงต่ออย่างไรดี ไม่เพียงทำนองที่เพี้ยน แม้แต่เนื้อเพลงก็ยังร้องผิดไปหลายประโยค สุดท้ายแล้วเขาจำต้องหยิกหน้าขาเรียกสติและร้องเพลงต่อจนจบ
“ฮ่าๆๆๆ !”
“พ่อเพลงอวี๋อึ้งไปแล้ว!”
“ทำไมถึงตลกขนาดนี้!”
“พี่คนนี้ก็ตัวตึงไปอีก!”
“พาพ่อเพลงอวี๋ร้องเพี้ยนไปด้วยเลย!”
“พ่อเพลงอวี๋ ได้โปรดอย่าพยายามมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ชม คุณไม่รู้หรอกว่าที่นั่งอยู่ด้านล่างมีภูตผีปีศาจอะไรบ้าง มีปฏิสัมพันธ์กับแฟนคลับสองครั้งพังพินาศทั้งสองครั้ง แถมยังหนักกว่าครั้งแรกด้วย!”
“ทำไมคอนเสิร์ตของพ่อเพลงอวี๋ถึงตลกขนาดนี้!”
“สนุกจริงๆ พอวิดีโอคอนเสิร์ตออกอย่างเป็นทางการ ผมต้องกลับไปเปิดช่วงนี้อีกรอบ ผมมีลางสังหรณ์ว่าพี่คนนั้นต้องได้แจ้งเกิด!”
“…”
หลินเยวียนปรับอารมณ์
คอนเสิร์ตยังจำเป็นต้องดำเนินต่อไป ผู้ชมไม่ได้หัวเราะขบขันอีก ปฏิสัมพันธ์ที่ผิดพลาดเป็นเพียงช่วงที่สนุกสนานช่วงหนึ่ง เทียบกับแล้วทุกคนสนใจมากกว่าว่าเพลงต่อไปของเซี่ยนอวี๋เป็นเพลงอะไร
“เพลงต่อไป จูบลา?”
ทันทีที่เพลงใหม่เริ่มต้น ผู้ชมบางคนรู้ว่าเป็นเพลงอะไร ในคอนเสิร์ตโดยส่วนมากมีแต่แฟนคลับตัวยง ทุกคนคุ้นเคยกับเพลงของเซี่ยนอวี๋มาก ทุกครั้งที่ทำนอนอินโทรดังขึ้น ทุกคนจึงมีปฏิกิริยาตอบสนองทันที
อย่างไรก็ตาม
เมื่อหลินเยวียนร้องเนื้อเพลงประโยคแรกออกมา ผู้ชมด้านล่างเวทีต่างตกตะลึง!
ไม่มีใครคาดคิดว่าเพลงที่หลินเยวียนร้อง กลับเป็นเพลงจูบลาเวอร์ชันภาษาอังกฤษ!
หรือชื่อเพลงว่า Take Me to Your Heart!
“Hiding from the rain and show, trying to forget but I won’t let go. Looking at a crowded street, …”
ชั่วขณะต่อมา!
ทั้งคอนเสิร์ตเฮลั่น!
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ชมชาวหานในสนามรังนกยิ่งตื่นเต้นกันมาก!
เพลงภาษาอังกฤษไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนจะร้องได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับชาวฉินอย่างเซี่ยนอวี๋
เดิมทีทุกคนคิดว่าเซี่ยนอวี๋จะร้องเพลงจูบลาเวอร์ชันภาษากลาง!
ถึงอย่างไรก่อนหน้าเพลงนี้ หลินเยวียนก็ไม่เคยร้องเพลงภาษาฉีมาก่อน นับประสาอะไรกับภาษาอังกฤษซึ่งค่อนข้างแปลกใหม่สำหรับทุกคน!
“พ่อเพลงอวี๋เกินต้านมาก!”
“ไม่ใช่แค่ร้องเพลงภาษาฉีได้ ภาษาอังกฤษยังร้องได้goodขนาดนี้!”
“อย่าลืมว่าพ่อเพลงอวี๋เป็นคนเขียนเนื้อเพลง Take Me to Your Heart ในเมื่อพ่อเพลงอวี๋เขียนเนื้อเพลงภาษาอังกฤษออกมาได้ งั้นก็เป็นเรื่องปกติที่เขาจะพูดภาษาอังกฤษได้!”
“ปัญหาไม่ได้อยู่ที่พ่อเพลงอวี๋พูดEnglishได้!”
“ที่น่ากลัวที่สุดคือ ภาษาอังกฤษของพ่อเพลงอวี๋คล่องมาก ไม่ต่างจากคนหานอย่างเราๆ เลย!”
“respectพ่อเพลงอวี๋!”
“พรสวรรค์ด้านภาษาสุดยอดมาก!”
“…”
บนบลูสตาร์ใครๆ ก็พูดภาษากลางได้
ทว่ามีเพียงชาวฉีที่พูดภาษาฉีได้!
ส่วนภาษาอังกฤษ ในทวีปซึ่งผนวกรวมเข้ามาปัจจุบันนี้ มีเพียงชาวหานที่พูดได้!
แต่เซี่ยนอวี๋ถึงกับร้องเพลงภาษาฉีและภาษาอังกฤษได้พร้อมกัน แถมยังร้องได้ดีมากเสียด้วย!
สำหรับใครหลายคนแล้ว นี้คือสิ่งที่ยอดเยี่ยมมาก!
ต่อให้อยู่บนโลก คนที่พูดภาษาอังกฤษ ภาษากวางตุ้ง และภาษาจีนกลางได้ดีก็ไม่ได้มีมากมาย
ในแถวหน้า
เจิ้งจิงรู้สึกประหลาดใจมาก “เขาร้องเพลงภาษาอังกฤษได้ด้วย? ฉันยังคิดซะอีกว่าเขาเขียนเนื้อเพลงจูบลาเป็นภาษาอังกฤษด้วยการอ้างอิงจากหนังสือ”
หยางจงหมิงกล่าว “เขามีพรสวรรค์ พรสวรรค์ด้านภาษาดีจริงๆ ”
ซุนเย่าหั่วเอ่ยอย่างสะท้อนใจ “ที่แท้รุ่นน้องก็ภาษาอังกฤษดีขนาดนี้ ตอนนั้นเพลงจูบลาเวอร์ชันภาษาอังกฤษ เขาก็ร้องเองได้”
ด้านข้าง
เฉินจื้ออวี่พยักหน้า รู้สึกละอายใจและผิดหวังไปชั่วขณะ “อาจารย์เซี่ยนอวี๋ร้องได้ดีกว่าฉันอีก…”
ภาษาอังกฤษของเฉินจื้ออวี่นับว่าไม่เลวแล้วสำหรับคนทั่วไป
แต่เมื่อเทียบกับเซี่ยนอวี๋แล้ว กลับยังขาดรสชาติของดั้งเดิมไปเล็กน้อย
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ หลินเยวียนยังยินดีมอบเพลงนี้ให้ตน เรียกได้ว่าเป็นความใจกว้างมาก
“ไม่ใช่แค่คุณ”
เจียงขุยมองไปทางเวที ดวงตาของเธอเป็นประกาย
“อาจารย์เซี่ยนอวี๋ร้องเพลงปลายักษ์ได้ ในแง่ของความสามารถด้านการร้องเพลง พวกเราในราชวงศ์ปลาไม่มีใครสู้เขาได้ แต่เขายังใจดีช่วยเหลือพวกเราตลอด พวกเราติดหนี้น้ำใจอาจารย์เซี่ยนอวี๋เยอะมาก…”
นักประพันธ์เพลงคนอื่นๆ เขียนเพลงล้วนแต่ส่งมอบให้นักร้องเป็นผู้ขับร้อง เพราะนักประพันธ์เพลงร้องเองไม่ได้
เซี่ยนอวี๋นั้นต่างออกไป
เพลงที่เขาเขียนให้นักร้องหลายคน อันที่จริงเขาร้องเองได้ ถึงขั้นที่ร้องได้ดีกว่านักร้องด้วยซ้ำ!
ซุนเย่าหั่วพยักหน้า เพลงกุหลาบแดงที่หลินเยวียนร้องเมื่อครู่นั้นยอดเยี่ยมมาก
“นี่คืออาจารย์เซี่ยนอวี๋”
จ้าวอิ๋งเก้อถูกเวทีดึงดูดจนละสายตาไม่ได้ เธอพึมพำ
“นี่คือหลินเยวียน”
ซย่าฝานเอ่ยขึ้น รอยยิ้มแลดูอบอุ่น
“งั้นเพลงของฉันล่ะ?”
เว่ยห่าวอวิ้นสีหน้าเปี่ยมไปด้วยความสงสัย
ทุกคน “…”
เพลงของฉัน เขาร้องไม่ได้จริงๆ
เขาร้องได้แค่ ‘สุดหัวใจ’ กับ ‘โย่วๆ ลองฟังดู’
ในเวลานี้
บนเวที
หลินเยวียนร้องเพลง Take Me to Your Heart จบแล้ว
ท่ามกลางเสียงปรบมือ
จู่ๆ ด้านล่างเวทีก็มีผู้ชมตะโกนว่า
“พ่อเพลงอวี๋ได้โปรดเขียนเพลงภาษาฉู่สักเพลงเถอะ!!!”
————————
ปล. ต้นแบบของฉากที่แฟนคลับร้องเพลงเพี้ยนในคอนเสิร์ตคือฉากที่ไต้เพ่ยนี[1]มีปฏิสัมพันธ์กับแฟนคลับในคอนเสิร์ต นับว่าเป็นฉากดังที่เรียกเสียงหัวเราะในคอนเสิร์ตก็ว่าได้ ใครสนใจเข้าไปเสิร์ชหากันได้!
[1] ไต้เพ่ยนี (Penny Tai) นักร้องชื่อดังชาวมาเลเซีย