ตัวของผมในต่างโลก…. แม่งบ้า!!!บทที่ 2 60 จิตวิญญาณของหญิงสาวแห่งดาบ

บทที่ 2 ตอนที่ 60 จิตวิญญาณของหญิงสาวแห่งดาบ

 

 

โดมสีดำที่ครอบคฤหาสถ์อยู่หายไปแล้ว?

 

 

คุณเฉินคงจะจัดการตัวการได้แล้วสินะ

 

 

ทางนี้เอง ก็ต้องไม่น้อยหน้าเขาเหมือนกัน!

 

 

ตอนนี้พวกเราออกห่างมากคฤหาสถ์กันพอสมควร เนื่องจากการปะทะกันอันไร้จุดจบ ทำให้ทั้งฉันและปาซิต้ากระเด็นออกไปไกลจากตัวคฤหาสถ์

 

 

“หยุดวิ่งหนีเป็นหนูได้แล้ว!!!! ”ปาซิต้า

 

 

และขณะนี้เองฉันก็กำลังวิ่งหนี พลางป้องกันการโจมตีที่โถมเข้ามาใส่ล่ะ

 

 

เนื่องจากว่าศัตรูมันแข็งแกร่งและแรงเยอะเกินไป จนฉันไม่สามารถป้องกันมันได้ทั้งหมดจึงต้องถอยมาตั้งหลัก แต่ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถหนีจนพ้นจากปาซิต้าได้อยู่ดี

 

 

เป็นตัวประหลาดที่วิ่งเร็วชะมัด

 

 

ทว่าถัดไปจากตรงที่ฉันอยู่ในปัจจุบันไม่นานเราก็จะเข้าเขตบ้านหลักของตระกูลเจเนซิสแล้ว เป็นเขตที่ดินแดนของปาซิต้ามันเข้าไม่ถึงซึ่งถูกดูแลโดยคุณนายของบ้านเจเนซิส

 

 

ถึงเราจะเข้าไปที่นั่นให้เธอคุ้มหัวเราได้ แต่ยังไงเราก็ไม่สามารถออกจากแดนนรกนี่ได้อยู่ดี แม้จะเป็นเขตที่สิ้นสุด MY LAND ของปาซิต้า เราก็จะถูกกำแพงปริศนาที่ดาบของฉันในตอนนี้ผ่าไม่ได้ขวางเอาไว้ไม่ให้ออก 

 

 

สุดท้ายแล้วก็มาหยุดอยู่ที่ขอบสุดของเขตแดน

 

 

“ หยุดได้สักทีนะอีสัส ”ปาซิต้า

 

 

มันค่อยๆเดินเข้ามาอย่างช้าๆ ราวกับว่ามันกำลังจะสื่อว่ามันจะฆ่าฉันตอนไหนก็ได้ตามที่มันต้องการ

 

 

ทั้งฉัน และมัน ต่างก็ง้างอาวุธของตัวเองเพื่อเตรียมโจมตีกันทั้งคู่

 

 

ขวับ!!

 

 

เคร้ง!!

 

 

การที่ดาบยาวและขวานยักษ์ได้เข้ามาปะทะกันมันทำให้เกิดเป็นแรงกดดันจากการปะทะกันของออร่าของทั้งฉันและปาซิต้า ในการฟันแต่ละครั้งที่กระทบกับอาวุธของอีกฝ่ายจะเกิดประกายไฟขึ้นจำนวนหนึ่ง

 

 

และหลังจากนี้จะเป็นการโจมตีต่อเนื่องที่จะทำให้เกิดประกายไฟจำนวนมาก

 

 

ฉันแกว่งดาบด้วยแรงที่มากพอที่จะปัดทิศทางของขวานนั้นให้ออกห่างจากตัวได้ ก่อนที่จะได้หาจังหวะซัดทักษะใส่มันเป็นครั้งแรก

 

 

 SKILL – ฟันดาบ F

 

 

ART – ดาบประกาศิต

 

 

สะบั้นยักษ์!!!!

 

 

ฉันเหวี่ยงดาบของฉันที่ได้เคลือบออร่าไว้ ฟันเข้าที่กลางลำตัวของปาซิต้าจังๆ ทว่าหนังของมันกลับเหนียวมาก มันเหนียวมากซะจนดาบเคลือบออร่ายังเฉือนไม่เข้าเลย

 

 

ที่ทำได้ก็มีแค่ฟาดมันให้ลอย กระเด็นออกไปก็เท่านั้น แต่แค่นั้นมันก็เพียงพอแล้วสำหรับการที่จะเข้าไปใส่คอมโบต่อ

 

 

ART – ดาบประกาศิต

 

 

ผ่ามหาสมุทร !!

 

 

และซ้ำเข้าไปที่ร่างของเจ้ากระทิงถึกนั่นด้วยท่าดาบที่สามารถผ่าได้แม้แต่ท้องสมุทร

 

 

ถึงแม้ว่าผืนดินที่แห้งกรอบจะถูกผ่าครึงไปแล้ว บนตัวของมันกลับปรากฏเพียงรอยฟันแค่ดาดๆเท่านั้นเอง

 

 

แสดงให้เห็นว่าตัวของมันนั้นแข็งแกร่งมากซะจนดาบของวิกตอเรียเฉือนไม่เข้าเลย

 

 

รอรรรรร!!!!!!

 

 

มันทรงตัวลุกขึ้นมาอีกครั้ง แล้วปรากฏวงเวทขึ้นบทพื้นต่อหน้ามัน ไม่นานนักปาซิต้าด็ได้ทำการร่ายเวท

 

 

” แผ่นดินเอ๋ยจงผุดขึ้น! ทอดยาวออกไปเป็นทางให้ข้า!! “ปาซิต้า

 

 

เจ้ากระทิงนั่นเริ่มออกวิ่งมาทางนี้อย่างรวดเร็ว

 

 

ทีแรกก็คิดว่าน่าจะพุ่งมาตรงๆหรอก 

 

 

ที่ไหนได้ พื้นดินเริ่มก่อรูปจนสร้างเป็นทางให้มันวิ่งอยู่บนอากาศเหนือหัวของฉันเป็นวงกลม เท่าที่ฉันคิดมันน่าจะกระโดดมาจากด้านบน ฉันจึงเตรียมตั้งรับเอาไว้ก่อน

 

 

ทว่า- มันกลับไม่เป็นอย่างที่คิด

 

 

” จงก่อร่างเป็นก้อนหินยักษ์ ทลายศัตรูของข้าให้สิ้น!! “ปาซิต้า

 

 

ทุกๆย่างก้าวของมันที่วิ่งวนอยู่เหนือหัวของฉันได้มันวางวงเวทไว้ตลอดแนว ก่อนที่จะปล่อยออกมาพร้อมกันเป็นห่าฝนหินขนาดยักษ์ที่พุ่งมาด้วยควาวเร็วสูง

 

 

ทำให้ฉันไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเปิดใช้งานการโจมตีรอบทิศสุดแข็งแกร่ง อย่าง-

 

 

ART – ดาบประกาศิต

 

 

” ผ่าสามพันโลก!!! “วี

 

 

ชวิ๊ง!-

 

 

ขวับๆๆๆๆๆๆๆ!!!

 

 

โครม!!!

 

 

แม้ฉันจะจัดการพวกก้อนหินก้อนใหญ่ๆได้ แต่มันก็ยังคงเหลือเศษเล็กเศษน้อยไว้อีก แถมการตัดมันทั้งแบบนี้มันยังทำให้เกิดควันตลบอบแวลไปทั่ว

 

 

ทำให้ทัศนวิสัยของฉันแคบลงอย่างเห็นได้ชัด

 

 

ควันเยอะชะมัด มองไม่เห็นอะไรเลย!

 

 

ไม่สามารถมองเห็นสิ่งใดเกิดรัศมี 5 เมตรได้เลย ฉันเลยต้องระวังและพึ่งประสาทสัมผัสกับสัญชาตญาณของตัวเองมากกว่าปกติ

 

 

คอยสอดส่องไปรอบๆเพื่อหาตัปาซิต้า ก่อนที่จะได้รู้ว่ามันได้กระโดกลงมาจากยอดเส้นทางของหินที่มันได้สร้างขึ้นมาแล้ว

 

 

ด้วยความสูงระดับนั้น ผสานกับน้ำหนักตัวของมัน ทำให้การร่วงลงม่ของปาซิต้าเปรียบเสมือนกับดาวตกที่พุ่งลงมาอย่างรวดเร็วและรุนแรง

 

 

ในตอนนั้นฉันเห็นออร่าสีเหลืองของมันจางๆจากบนฟ้า มันง้างขวานของมันมาแต่ไกล

 

 

ข้างบนหรอ!?

 

 

ฉันยกดาบขึ้นมาพยายามจะหาจังหวะป้องกัน

 

 

แต่กลับพลาดไปเพียงชั่วเสี้ยววิเดียว-

 

 

ฟุม!!! ตึง!!

 

 

ฉับ-

 

 

ทันทีที่มันมาถึงพื้น คมดาบของฉันกันพลาดไปเพียงนิดเดียว ขวานของมันก็ได้กระชากเอาแขนขวาของฉันไปแล้ว

 

 

” อ๊า!! “วี

 

 

ฟุม!!!

 

 

” รอรร์!!! “ปาซิต้า

 

 

และไม่หมดเพียงแค่นั้น มันยังฟาดสันขวาดใส่สีข้างของฉันอย่างแรง จนซี่โครงหักไปหลายซี่และยังกระเด็นไปไกลจนกระแทกกับเสาหินที่ปรากฏขึ้นมาตามเวทของมันอีกต่างหาก

 

 

” อึ่ก.. ” วี

 

 

” ข้าบอกไปแล้ว แกจะต้องตายอยู่ที่นี่!! “ปาซิต้า

 

 

ร่างกายมัน.. ไม่ขยับ!

 

 

แขนฉัน.. ตัวของฉันไม่ตอบสนองแล้ว.. 

 

 

นี่ฉันต้องมาตายตรงนี้หรอ?..

 

 

ไม่เอานะ ยังไม่อยากตาย!!

 

 

” ภายใต้ใบหน้าที่เฉยชานั่น แกคงจะโอดครวญอยู่ล่ะสิท่า “ปาซิต้า

 

 

ฉันกัดฟันจนเลือดไหลออกมา พยายามกลั้นความเจ็บปวดที่โถมเข้าใส่อย่างถึงที่สุด

 

 

” ดาบก็ใช้ไม่ได้ “ปาซิต้า

 

 

” แขนที่ถนัดก็ขาด “ปาซิต้า

 

 

” ร่างกายก็ไม่ทำตามคำสั่ง “ปาซิต้า

 

 

” สำหรับนักดาบอย่างแกแล้ว นี่คงจะเป็นหายนะเลยล่ะสิ “ปาซิต้า

 

 

ที่มันพูดก็ไม่ได้ผิด เพราะที่มันว่ามาก็คือสิ่งสำคัญสำหรับนักดาบจริงๆ

 

 

แต่ที่สำคัญจริงๆน่ะไม่ใช่ร่างกาย

 

 

แต่เป็นจิตใจที่ไม่ย่อท้อต่างหาก!!

 

 

แฮ่ก… เลือด ไหลไม่หยุดเลย

 

 

ฉันพยายามพยุงตัวเองให้ลุกยืนขึ้นมาอีกครั้ง แม้ร่างกายจะไม่ตอบสนองไปบ้าง เหนื่อยล้าบ้าง แต่ว่าหากฉันไม่ทำแบบนี้ล่ะก็ ฉันก็คงจะถูกฆ่าตาย

 

 

ไม่เหมือนกับครั้งที่อยู่อารุฟาน รอบนี้ไม่มีใครสามารถช่วยฉันได้นอกจากตัวฉันเอง

 

 

อัลเลียน(บี๋)ก็ยังหลับอยู่.. ตอนนี้ฉันไม่สามารถพึ่งใครได้แล้ว มีเพียงแค่ฉันเท่านั้นที่จะสามารถจัดการสถานการณ์ในตอนนี้ได้อย่างอยู่หมัด

 

 

ถึงร่างกายนี้จะโรยริน แต่จิตวิญญาณของฉันมันยังคงกู่ร้องไปด้วยการโหยหาชัยชนะและการมีชีวิตต่อในการต่อสู้ครั้งนี้

 

 

สภาพแบบนั้น ยังจะลุกขึ้นยืนอีกเรอะ

 

 

น่าชื่นชมในฐานะที่เป็นนักรบจริงๆ

 

 

แต่น่าเสียดายที่ต้องมาตายอย่างไร้ค่าที่นี่

 

 

” ถึงแม้ร่างกายจะพิการ แขนขาด ขาหมดเรี่ยวแรง ก็ยังจะลุกขึ้นมาขัดขืนอีกรึ “ปาซิต้า

 

 

 ” ฉัน.. ไม่ยอมอยู่เฉยๆให้แกฆ่าหรอก! “วี

 

 

” โฮ่ ข้านับถือแรงใจนั่นนะ แต่- “ปาซิต้า

 

 

” แกต้องตายที่นี่!! “ปาซิต้า

 

 

มันง้างขวานของมันอีกครั้ง มันเหมือนกับการโจมตีครั้งก่อนๆ แต่ที่ไม่เหมือนคือสิ่งที่ทันจะทำหลังจากนี้

 

 

” อสนีบาตเอ๋ย!! “ปาซิต้า

 

 

” จงสถิตมา ณ ศาสตราวุธของข้าเพื่อให้ศัตรูของข้าได้ตายอย่างสงบ!!! “ปาซิต้า

 

 

ท้องฟ้าเริ่มคำราม และเต็มไปด้วยสายฟ้าฟาดมากมาย ไม่นานนักเม็ดฝนก็ได้กระหน่ำโปรยลงมา

 

 

น้ำฝนพวกนี้มันทำให้ฉันเจ็บแผลมากกว่าเดิมอีก..

 

 

เปรี๊ยงง!!!

 

 

เพรี๊ยะ เพรี๊ยะ

 

 

แล้วสายฟ้าก็ได้มาสถิตยังขวานยักษ์ของปาซิต้า อีกไม่นานมันก็จะได้ปิดฉากชีวิตของฉันแล้ว

 

 

ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฉันจะต้องมาจบแบบนี้

 

 

ริมฝีปากของมาสเตอร์.. ฉันยังไม่แม้แต่จะได้สัมผัสมันเลยด้วยซ้ำ.. ไม่สิ กระทั่งฝ่ามือคู่นั้นฉันก็ยังไม่เคยจับ

 

 

ฮะ ฮะ.. นี่ฉันแพ้คุณเฉินอย่างราบคาบเลยหรอ?

 

 

เธอช่าง.. เป็นผู้หญิงที่สุดยอดจริงๆ

 

 

ความเศร้าโศกทั้งมวลเริ่มถาโถมเข้าใส่ฉัน ทั้งเรื่องของตระกูลแฟงก์ที่ล่มสลายจากคลื่นมอนสเตอร์เมื่อนานมาแล้ว และฉัน.. ก็เป็นคนที่เหลือรอดอยู่เพียงคนเดียว

 

 

ถ้าไม่ได้การช่วยเหลือจากคุณหนูเร็กซ์.. ป่านนี้ฉันก็คงจะตกเป็นทาสไปแล้ว.. 

 

 

ทั้งพวกครูว์ และคนอื่นๆ ฉันคิดถึงพวกเธอ

 

 

ชั่วเสี้ยววิหนึ่งทันทีที่มันฟาดขวานยักษ์มาจากด้านบน ความรู้สึกของฉันมันเริ่มด้านชา ภาพที่เห็นเป็นภาพช้าทั้งหมด

 

 

มือซ้ายของฉันค่อยๆขยับเขยื้อออกไปด้านหน้า หมายมั่นที่จะกันการโจมตีนั้นเอาไว้โดยการปัดป้องมันออกไปจากตัว

 

 

เกร๊ง!-

 

 

ฉับ!!-

 

 

เกราะเหล็กกับขวานสายฟ้าได้กระทบกันอย่างรุนแรง ถึงแม้ฉันจะปัดมันออกไปได้อย่างหวุดหวิด

 

 

แต่นั่นมันก็หมายถึงการที่ฉันต้องแลกมากับมือซ้ายอีกข้างที่ได้ขาดออกจากข้อต่อเหมือนกัน

 

 

ฉันเห็นภาพของมือซ้ายฉันที่ได้ลอยออกไปอย่างช้าๆ พร้อมๆกับเลือดที่ได้พุ่งกระฉูดออกมาครู่หนึ่ง

 

 

ฉันไม่ได้รู้สึกตัวเลย จนกว่าที่ฉันจะได้สังเกตเห็นมันทั้งแขนขวาของฉันและมือซ้ายก็ไม่มีอยู่ซะแล้ว

 

 

ความเจ็บปวดทรมาณได้วิ่งผ่านเข้ามาสู่โสดประสาทของฉันราวกับสายฟ้าแล๊บ มาเจ็บ มันปวด มันทรมาณอย่างถึงที่สุด

 

 

อึ่ก-

 

 

” อ๊ากกกกก#&$^@€!!!!!! “วี

 

 

” ดูเหมือนว่าแค่มืออีกข้างจะยังไม่พอนะ “ปาซิต้า

 

 

หือ?.. ไม่.. ไม่!!

 

 

ขวับ!

 

 

ฉับบ!!!–

 

 

ฉันทรงตัวไม่อยู่อีกต่อไปแล้ว.. ข้าข้างซ้ายมัน.. หายไปแล้ว

 

 

” อ๊าากกกกกก!!!!!!! “วี

 

 

” เป็นเสียงที่ไพเราะเสียจริง กรีดร้องต่อไปซิ่!!!!! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!! “ปาซิต้า

 

 

ไอ้ควายบ้านี่.. มันโรคจิต!!

 

 

ตัวฉันในตอนนี้มันสิ้นหวังเกินไปแล้ว.. อยู่ๆ น้ำตามันก็ได้ไหลออกมา ฉันนึกถึงช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดในชีวิต..

 

 

คือการได้ใช้ชีวิตกับเพื่อนๆ 

 

 

ฉันไม่อยากที่จะต้องปกปิดใบหน้าของตัวเองตลอดไป.. ฉันอยากที่จะแสดงตัวตนจริงๆของฉันออกมา

 

 

อยากที่จะมีชีวิตเป็นปกติอย่างคนอื่น.. มีความรัก

 

 

และแต่งงาน 

 

 

ฉันอยากอยูากับคนที่รักฉันจริงๆไม่ได้หวังเพียงหน้าตาและร่างกายนี้.. ฉันอยากมีใครสักคน.. ที่เป็นแบบนั้น

 

 

[ วี!! หนีเลย!!!] บี๋

 

 

… อะไรกัน?

 

 

[ ว.. วิกตอเรีย แฟงก์ ยินดีที่ได้รู้จัก ] วี

 

 

[ อ- โอ้ สวัสดี ] บี๋

 

 

[ นี่วี~ เขาบอกว่าเธอเท่ห์ล่ะ!] ครูว์

 

 

[ อืม.. ] วี

 

 

ความทรงจำนี้มัน… ช่วงที่ฉันไปทำภารกิจที่อัฟฟา?

 

 

[ ข้าขอสาบานว่าจะเป็นอัศวินของท่าน เป็นดาบที่แบกรับเกียรติ์และศักดิ์ศรีของท่านไว้แต่เพียงผู้เดียว ] วี

 

 

[ อ- อื้ม.. ฝากตัวด้วยนะ วี ] บี๋

 

 

[..(ยิ้มอ่อนๆ) ค่ะ ] วี

 

 

มาสเตอร์…

 

 

[ เป็นเรื่องราวที่น่ายินดีเสียจริง ] ?

 

 

หะ- …เดี๋ยว- นี่มัน ความทรงจำของใคร!?

 

 

ไม่นาน ก็เริ่มมีความทรงจำแปลกๆผุดขึ้นมาในความคิดของฉัน สถานที่ที่อยู่เป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่และงดงาม

 

 

ต่อหน้าฉันคือฉันอีกคนหนึ่ง.. ที่ไม่แน่ใจว่าเธอคือใครกันแน่ แต่ที่แน่ๆเลยก็คือเธอมีหน้าตาเหมือนกับฉันทุกประการ เพียงแต่ว่าเกราะของเธอนั้นทันส่องสว่างเหมือนกับท้องฟ้ายามค่ำคืน ที่มีเหล่าดวงดาวและจักรวาลมากมายถักทอแสงเปล่งประกายอยู่ด้านบน

 

 

[ กอร์… อสูรผู้กระหายในเลือด วันนี้เจ้าจะต้องตาย ] ?

 

 

[ …. อัศวินของจักรวรรดิ์แห่งดารารึ เจ้าไม่อยู่ในรายชื่อที่ข้าต้องกำจัดด้วยซ้ำ ไปซะ ก่อนที่ข้าจะกระทืบเจ้า ] กอร์

 

 

[ ถึงเจ้าจะเป็นสตรี ข้าก็ไม่ยกเว้น ] กอร์

 

 

[ ข้าไม่เคยบอกให้เจ้าอ่อนข้อให้ข้า ข้าจะเอาหัวเจ้าไปประณาม เพื่อทำให้สงครามอันยาวนานนี่จบลงเสียที ] ?

 

 

[ …] กอร์

ฉันเห็นคนที่คล้ายฉัน และอีกคนที่คล้ายกับมาสเตอร์กำลังสู้กันที่สุดขอบทวีป ที่นั่นเป็นดินแดนแห่งผืนป่าที่กว้างใหญ่และอัศจรรย์

 

 

การต่อสู้นั้นกินเวลานาน.. และลามปามจนมันทำลายล้างทุกสิ่งโดยรอบไปจนหมดสิ้น ผืนป่าอันงดงามราบเป็นหน้ากลอง และจบลงด้วย.. ความพ่ายแพ้ของฉัน

 

 

[ ฆ่าข้าซะ.. อสูรสงคราม ] ?

 

 

[ … ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า ] กอร์

 

 

[ ข้าไม่อยากให้เกิดการนองเลือดโดยที่ไม่จำเป็น ] กอร์

 

 

[ …. ] ?

 

 

[ ถามจริงๆเถอะ.. เจ้าไม่เหนื่อยบ้างรึที่ต้องมาคอยกวาดล้างสงครามพวกนี้ตลอด เป็นข้า ข้าคงกลับไปรับใช้จักรวรรดิอย่างสันติแล้วล่ะ ] ?

 

 

[ … เหนื่อยสิ เหนื่อยมากด้วย แต่เพื่อยุติสงครามแล้ว ต้อให้ต้องฆ่าล้างทั้งเผ่าพันธ์ข้าก็จะทำ ] กอร์

 

 

[ … ] ?

 

 

[ ข้าชื่นชมอุดมการณ์ของเจ้านะ.. มันน่าเหลือเชื่อเกินกว่าที่จะทำได้.. ข้ามีนามว่า แอสเทเรีย อัศวินแห่งดวงดาว เจ้าล่ะ.. ] แอสเทเรีย

 

 

[ อสูรสงคราม กอร์ ] กอร์

 

 

[ จากนี้.. ข้าอยากจะขอติดตามเจ้าเป็นนายของข้าข้าอยากจะช่วยเจ้า-… ] แอสเทเรีย

 

 

[ โทษที ข้าไม่สนใจ ] กอร์

 

 

[ (ผงะ)] แอสเทเรีย

 

 

มันเป็นเรื่องราวที่อบอุ่น

 

 

ถึงแม้ในบทสรุปของเรื่องราวแล้ว คนที่เหมือนฉันคนนั้นจะตายจากคำสั่งของจักรพรรดิที่ให้ไปฆ่าคนที่มีชื่อว่ากอร์คนนั้น..

 

 

ซึ่งเธอ.. ก็ถูกกอร์ฆ่าตายนั่นแหละ แต่ก็ตายทั้งๆที่ยังยิ้มได้อยู่ มันเป็นรอยยิ้มที่อบอุ่นที่สุดของเธอเลย เป็นครั้งแรก และครั้งสุดท้ายเลยที่เธอได้ยิ้มออกมาอย่างมีชีวิตชีวา..

 

 

เดี๋ยวสิ- คุณกอร์.. หรอ?!

 

 

ไม่แน่ใจว่าเป็นคนเดียวกันรึเปล่า.. แต่ว่าต้องใช่แน่ๆ หลังจากจบศึกนี้ มีเรื่องให้ฉันต้องไปที่อารุฟานแล้วสิ

 

 

แต่- จะรอดออกไปได้ยังไงล่ะเนี่ย..

 

 

[ เจ้านี่ช่าง น่าสมเพชเสียจริง ] ?

 

 

ทันทีที่เสียงนั้นได้ดังขึ้นมา ทุกๆสิ่งรอบตัวฉันก็ได้หยุดลง เธอคนนั้นปรากฏตัวขึ้นมาต่อหน้าฉัน

 

 

คนที่ปรากฏอยู่ในความทรงจำคนนั้น.. ได้มาอยู่ตรงหน้าฉันแล้ว

 

 

[ แขนขาด ขาขาด สูญเสียวิถีแห่งอัศวินไป นี่รึตัวข้าในภพชาตินี้ ] ?

 

 

” ค- คุณคือ.. “วี

 

 

[ แอสเทเรีย อัศวินแห่งดวงดารา ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่อัศวินทั้งมวล ] แอสเทเรีย

 

 

” แต่คุณตายเพราะกอร์นะ? “วี

 

 

[ หุบปากซะอีหนู!!] แอสเทเรีย

 

 

ดูท่าเธอจะไม่ชอบให้พูดถึงเรื่องนั้นแฮะ

 

 

[ เฮอะ ช่างมันเถอะ ] แอสเทเรีย

 

 

[ เจ้าเองก็ทำได้ไม่เลวเลยทีเดียว ที่ได้เป็นผู้ติดตามของตัวของกอร์ในชาตินี้ หลังจากที่ข้าพลาดในการติดตามเขาในชีวิตที่แล้ว ] แอสเทเรีย

 

 

[ มาเข้าสู่ประเด็นหลักของเราดีกว่า ] แอสเทเรีย

 

 

อึ่ก..-

 

 

ฉันเผลอกลืนน้ำลายลงคอไปโดยที่ไม่รู้ตัว

 

 

[ ถึงเวลาแล้วที่ข้าจะมอบนามของข้าให้กับเจ้า ] แอสเทเรีย

 

 

[ เจ้าจักเป็นผู้สืบทอดนามของข้า ผู้ที่ภักดีและซื่อสัตย์ต่อผู้เป็นนายมากที่สุด ] แอสเทเรีย

 

 

[ ด้วยนามนี้ เจ้าจักแข็งแกร่งขึ้นอย่างทวีคูณ แต่ก็ต้องแลกมากับร่างกายบางส่วนที่ขาดหายไป เจ้าจะยอมรับหรือไม่?]  แอสเทเรีย

 

 

เนื่องจากว่าร่างกายของฉันในตอนนี้มันเกินเยียวยาแล้ว ดังนั้นฉันจึงไม่มีอะไรที่จะต้องเสียใจอีกต่อไปหากเลือกเดินในทางนี้

 

 

ฉันจึงพยักหน้า

 

 

เธอที่เห็นดังนั้นจึงได้พยักหน้าตอบ

 

 

[ ดี เนื่องจากตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ดีเท่าไรฉะนั้นข้าคงต้องรีบเร่งเสียหน่อย ] แอสเทเรีย

 

 

[ เจ้าจักเป็นผู้สืบทอดนามแท้ของข้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ข้าให้โชคเข้าข้างเจ้า ยัยหนู ] แอสเทเรีย

 

 

เธอพูดจบ ตัวของเธอก็หายไป

 

 

พร้อมๆกับสกิลที้ถูกเพิ่มเข้ามาในลิสต์ และทุกอันนั้นต่างก็เป็นสกิลที่แข็งแกร่งจนฉันคาดไม่ถึงเลย

 

 

 

[ ลิสต์สกิล :

 

– (ACTIVE) ฟันดาบ F

 

– (PASSIVE) ดาราทอแสงเปล่งประกาย SS [NEW!!]

 

คำอธิบาย : เป็นสกิลที่สามารถสร้างสิ่งใดก็ได้ขึ้นมาใหม่ด้วยพลังแห่งดวงดาวตามจิตใจของผู้ใช้

 

– (ACTIVE) ดวงดาวเจิดจริส S [NEW!!]

 

คำอธิบาย : สร้างคลื่นดาบขนาดใหญ่ขึ้นมาห้อมล้อมอาวุธด้วยพลังงานแห่งดวงดาว ขณะที่ปล่อยออกไปจะทำให้เกิดการทำลายล้างสูงสุดจนแทบจะไม่มีสิ่งใดป้องกันการโจมตีนี้ได้

 

– (PASSIVE) อาวุธแห่งดวงดาว S [NEW!!]

 

คำอธิบาย : เป็นสกิลที่ใช้เคลือบอาวุธ สร้างออร่าพลังขึ้นมาจากพลังงานของดวงดาวบนฟากฟ้า เกิดเป็นดาบออร่าที่แทบจะไม่มีทางแตกสลายได้ และมีความคมมากพอที่จะผ่าเหล็กกล้าราวกับเต้าหู้

 

– (PASSIVE) ดวงดาวอำนวยพร SS [NEW!!]

 

คำอธิบาย : อำนาจทั้งหมดของโลกและดาราจักรจะสถิตอยู่กับคุณ  ]

 

 

“ ตายซะ!!! ”ปาซิต้า

 

 

ทันทีที่ปาซิต้าได้เหวี่ยงขวานลงมาใส่ฉันอีกครั้ง ความรู้สึกที่ฉันได้รับนั้นมันเหมือนกับว่าทุกสิ่งนั้นมันล้วนเคลื่อนไหวได้เชื่องช้าไปซะหมด แขนของฉันที่ควรจะขาดไปได้ถูกพลังงานแห่งดวงดาวถักทอกันจนเป็นรูปร่างขึ้นมาใหม่ เป็นเกราะที่ห่อหุ้มแขนที่ว่างเปล่า เกราะนั้นส่องสะท้อนเงาของดวงดาวอันเจิดจรัสให้มันได้เห็น

 

 

SKILL – ดาราทอแสงเปล่งประกาย SS

 

 

เช่นเดียวกับแขนขวา ทั้งมือซ้ายและขาซ้ายของฉันที่ขาดไปได้ถูกพลังงานแห่งดวงดาวเข้าปกคลุมและแปรเปลี่ยนไปเป็นเกราะที่สะท้อนแสงของเหล่าดาราจักร แม้จะไม่ค่อยชินสักเท่าไหร่ แต่ฉันก็มั่นใจว่าสามารถกลับมาสู้ได้อย่างแน่นอน

 

 

SKILL – ดวงดาวอำนวยพร SS

 

 

รอบตัวของฉันที่เต็มไปด้วยออร่าของดวงดาวนั้น ราวกับว่าฉันฟื้นแรงกลับมาได้ทั้งหมด บางทีแรงของฉันในตอนนี้อาจจะมากกว่าเดิมก็ได้ 

 

 

ด้วยพลังงานที่มากมายแบบนี้ มีเหลือเฟือที่จะทำให้ฉันสามารถฆ่าไอ้ควายนี่ได้เลย

 

 

ก็…ทันทีที่ขวานมันมาอยู่ต่อหน้าของฉัน ฉันใช้มือขวาที่ได้กลายเป็นพลังงานปิดขวานนั่นออกไปอย่างง่ายดาย

 

 

ออร่าที่ฉันได้ปลดปล่อยออกมามันมีมากมายมหาศาลเกินกว่าที่ร่างกายของปาซิต้าจะรับไหว มันจึงเคลื่อนตัวถอยออกไปตั้งหลักไกลพอสมควร

 

 

ฉันลุกขึ้นยืน สำรวจร่างกายของตัวเองสักพัก ก่อนที่จะเดินไปหยิบดาบของตัวเองขึ้นมาแล้วหันไปมองหน้าของไอ้ควายนั่น แรงกกดดันที่มากมายมหาศาลของฉันทำเอามันหน้าเสียก่อนที่มันจะตั้งสติของตัวเองและคำรามออกมาเต็มที่

 

 

รารรรรรรร!!!!!!!!!!

 

 

“…”วี

 

 

ต้องขอบคุณคุณแอสเทเรียเลยที่ได้มอบความแข็งแกร่งมากมายขนาดนี้ให้ หลังจากนี้ฉันจะใช้พลังนี้เพื่อคนที่ฉันรับใช้ ตามความตั้งใจของตนเอง

 

 

SKILL – อาวุธแห่งดวงดาว S

 

 

ดาบยาวของฉันถูกปกคลุมไปด้วยพลังงานแห่งดวงดาวที่เข้มข้นและหนาแน่น มันบีบอัดอยู่ภายในตัวดาบอยู่อย่างมหาศาล สกิลนี้เป็นสิ่งที่ทรงพลังมากยิ่งกว่าออร่าที่ฉันมีซะอีก อีกอย่าง มันไม่กินพลังงานของฉันเลยแม้แต่น้อย

 

 

ถ้าหากว่าฉันผสานสกิลที่ได้รับมากับอาร์ตที่ฉันมีล่ะก็.. มันคงจะเป็นอาวุธที่ร้ายแรงมากแน่ๆสำหรับศัตรูของฉัน

 

 

เอาล่ะ

 

 

ART FICTION – ดาบประกาศิตแห่งห้วงดารา

 

 

ผ่าสามพันโลก

 

 

ฉับ- ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

 

คลืดดด—

 

 

เพียงแค่การสบัดดาบและแกว่งมันนิดๆหน่อยๆ กลับทำให้ดินแดนแห่งนี้ถูกตัดขาดและพังทลายลงมาเลย

 

 

เขตแดนของปาซิต้าถูกฉันทำลายลงอย่างง่ายดาย มันเป็นถึงเวทระดับ 9 ที่ต้องใช้พลังในระดับเดียวกันเพื่อที่จะต่อกรกับมัน แต่นี่ฉันเพียงแค่ขยับดาบเล็กน้อยก็สามารถทำลายมันได้แล้ว อย่างน้อยๆพลังระดับนี้ ถ้าให้เทียบกับจอมเวท ฉํนน่าจะมีความแข็งแกร่งพอๆกับระดับ 10 หรือไม่ก็มากกว่าเลย

 

 

ฉันชี้ดาบไปหามัน

 

 

คราวนี้ฉันจะเป็นฝ่ายรุกบ้างล่ะ เตรียมตัวตายให้ดีเถอะไอ้ควายบ้า

 

 

ด้วยพลังนี้ จะทำให้ฉันชนะได้อย่างแน่นอน

 

 

และหลังจากที่ฉันชนะได้แล้วก็จะขอมาสเตอร์เพื่อเดินทางไปตามหาความจริงที่อารุฟาน เขาคนนั้นน่าจะรู้จักคนที่หน้าคล้ายฉันมาก่อน ถ้าเป็นแบบนั้นจริงมันก็ง่ายที่จะตามหาตัวตนของเธอล่ะ

 

 

เพราะฉันไม่สามารถดึงความทรงจำทั้งหมดของเธอคนนั้นกลับมาได้ล่ะนะ

 

 

จริงสิ! ให้มาสเตอร์ไปด้วยดีกว่า! อยู่กับเขาแล้วมันรู้สึกสบายใจดีอ่า..

 

 

“…ฮว๊าากกกกกก!!! ”ปาซิต้า

 

 

มันพุ่งเข้ามาหาฉันอีกครั้งอย่างบ้าคลั่ง

 

 

ฉันง้างดาบของตัวเองไปข้างหลัง เตรียมที่จะฟันมาด้วยแรงทั้งหมด

 

 

แล้วก็..

 

 

 

ตัดจบตอน

 

 

 

 

เดจาวูล่ะ ได้นามแท้แล้วออกเดินทางเหมือนกันเลย

 

 

 

 

 

ตัวของผมในต่างโลก…. แม่งบ้า!!!

ตัวของผมในต่างโลก…. แม่งบ้า!!!

Score 10
Status: Completed
อยู่มาวันหนึ่ง ผมก็หลุดไปในอีกจักรวาลที่เรียกว่ามิติคู่ขนาน เรียกสั้นๆว่า ต่างโลกผมได้รู้ว่าที่นั่นเป็นโลกที่มีเวทมนตร์ทุกอย่างที่แฟนตาซี!แล้วก็ผมได้พบกับตัวเองที่นั่นที่เป็นผู้หญิงและใช่เธอแม่งบ้าาาา

Options

not work with dark mode
Reset