เมื่อข้าเป็นองค์หญิงน้อยของฮ่องเต้ทรราชบทที่ 445 ถูกเจ้าตีแบบนี้คงได้โง่กว่าเดิมพอดี

บทที่ 445 ถูกเจ้าตีแบบนี้คงได้โง่กว่าเดิมพอดี

บทที่ 445 ถูกเจ้าตีแบบนี้คงได้โง่กว่าเดิมพอดี

บทที่ 445 ถูกเจ้าตีแบบนี้คงได้โง่กว่าเดิมพอดี

เสี่ยวเป่าหาวอย่างไม่ใส่ใจ

“อ้อ บินหนีไปแล้วก็ไปเถอะ ข้าจะไปดูอินทรีทองสักหน่อย”

เมื่อเย็นวานฝนตก ไม่รู้เหมือนกันว่าแผลของอินทรีทองตัวนั้นดีขึ้นหรือยัง

แต่ยังไม่ทันได้ไปดูอาการนกอินทรีทอง เสือสองตัวก็เข้ามาในห้องของนางเสียก่อน

พวกมันเข้ามาคลอเคลียเสี่ยวเป่า งับเสื้อผ้าของนางชวนให้ไปเล่นด้วยกัน

ไป๋อู๋ฉางถึงขั้นใช้หางปัดลูกหนังมาด้วย

เสี่ยวเป่าค่อยนึกขึ้นมาได้ว่าตนเองเหมือนจะไม่ได้เล่นกับเสือทั้งสองตัวมานานแล้ว ออกจะละเลยพวกมันไปหน่อยจริง ๆ

นางลูบศีรษะของเจ้าแมวยักษ์ทั้งสองอย่างละอายใจ

“ข้าขอไปดูแผลให้อินทรีทองก่อนค่อยกลับมาเล่นเป็นเพื่อนพวกเจ้าได้หรือไม่?”

นางไม่ได้อยากเลี้ยงนกนักล่ามากขนาดนั้น แต่เพราะเห็นแก่พวกท่านพ่อต่างหาก

สิ่งที่ศัตรูมี พวกเขาก็ต้องมีเช่นกัน ทั้งยังต้องดุร้ายกว่าของฝ่ายศัตรูอีกด้วย นอกจากมันสามารถส่งจดหมายแล้ว ยังสามารถหลบเลี่ยงการโจมตีของเกาทัณฑ์ได้ เรื่องเหล่านี้เสี่ยวเป่ามีประสบการณ์จากการฝึกฝนเสี่ยวไห่มาแล้ว

เสี่ยวไห่ไม่เพียงเคลื่อนไหวได้รวดเร็วเท่านั้น แต่ยังหลบลูกธนูได้เก่งกาจมาก

ถึงเฮยไป๋อู๋ฉางจะไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ แต่ก็ยังเดินตามเสี่ยวเป่าไปยังห้องที่อินทรีทองพักฟื้น

แมวยักษ์ทั้งสองขัดหูขัดตาเจ้าสัตว์มีปีกพวกนี้ยิ่ง เห็นท่าทางโฉบไปโฉบมาของพวกมันแล้วก็อยากตะปบพวกมันลงมายิ่งนัก

อาการนกอินทรีทองทุเลาลงบ้างแล้ว เสี่ยวเป่าป้อนอาหารมันเสร็จก็พาแมวยักษ์ทั้งสองจากไป

หากปล่อยให้แมวยักษ์อยู่ตรงนี้ต่อ อินทรีทองคงไม่อาจสงบจิตสงบใจได้กันพอดี

ขณะกำลังเล่นลูกหนังกับแมวยักษ์ทั้งสองอยู่ในลานก็มีเสียงนกเค้าอินทรีดังขึ้นจากบนฟ้า

เสี่ยวเป่ากับแมวยักษ์สองตัวเงยหน้าขึ้นมอง กระต่ายป่าที่ตายแล้วตัวหนึ่งพลันตกลงมา

แมวยักษ์สองตัวนั้นเห็นว่ามีสิ่งของตกลงมาจากบนฟ้าก็รู้สึกว่าถูกท้าทาย ฉับพลันนั้นก็คำรามขึ้นฟ้า

ท่าทางดุร้ายยิ่ง

นอกจากคนในเรือนจะได้ยินกันหมดแล้ว เพื่อนบ้านก็ยังได้ยินจนใจสั่นสะท้าน

พวกเขารู้ว่าเจ้านายคนใหม่ของเรือนหลังนี้เลี้ยงเสือสองตัว บางครั้งก็จะได้ยินเสียงร้องของพวกมัน แต่ไม่เคยดังชัดเจนถึงเพียงนี้มาก่อน

เสียงเสือคำรามครั้งนี้ทำให้หัวใจของพวกเขาแทบกระดอนออกมาเลยทีเดียว

ย้ายหนี วันนี้พวกเขาต้องย้ายหนีเท่านั้น!

ไม่อย่างนั้นหากวันไหนเจ้าเสือร้ายไม่ถูกควบคุมเอาไว้ให้ดีแล้วเกิดคลุ้มคลั่งขึ้นมา ชีวิตน้อย ๆ ของพวกเขาก็คงรักษาเอาไว้ไม่ได้แล้วน่ะสิ

ตอนนี้เสี่ยวเป่าควบคุมเสือสองตัวนั้นได้แล้ว นกเค้าอินทรีที่บินไปมาบนฟ้าถลาลงมาเกาะอยู่บนหลังคา มองพยัคฆ์ร้ายท่าทางหงุดหงิดงุ่นง่านสองตัวนั้นอย่างเหนือกว่า

แน่จริงพวกเจ้าก็งอกปีกบินขึ้นมาเองสิ!

เจ้านกที่มีปีกบินถึงจะมีขนาดร่างกายสู้เสือร้ายสองตัวไม่ได้แต่ก็หาได้กลัวเกรงไม่

เฮยไป๋อู๋ฉางโมโหหนักกว่าเดิม แค้นใจนักที่ไม่อาจจับมันมาถอนขนให้กลายเป็นนกขนโกร๋น!

“โฮก!”

“กรู!”

นกหนึ่งตัวบนหลังคากับเสือสองตัวในลานเรือนแข่งกันประชันเสียง

แต่กลับไม่มีฝ่ายไหนลงมือกันจริงจัง

เสี่ยวเป่าที่ห้ามอย่างไรก็ไม่ฟัง “…”

เหนื่อยแล้ว ตามใจพวกเจ้าก็แล้วกัน

“องค์หญิง ที่แท้มันก็ไม่ได้จากไป ทั้งยังเอาของขวัญมาให้ท่านอีกด้วย”

ชุนสี่เห็นกระต่ายตัวนั้นก็ดีใจ บ่าวรับใช้ในเรือนยังไปหยิบกระต่ายที่ตายอย่างน่าสลดตัวนั้นขึ้นมาด้วยท่าทางตื่นเต้นยินดี

“องค์หญิงร้ายกาจโดยแท้ คงไม่ได้เป็นเทพแห่งสรรพสัตว์กลับชาติมาเกิดหรอกใช่หรือไม่เพคะ ไม่อย่างนั้นสัตว์ร้ายพวกนั้นจะชอบท่านขนาดนั้นได้อย่างไร”

มุมปากเสี่ยวเป่ากระตุก “อย่าเลย ถ้าข้าเป็นเทพแห่งสรรพสัตว์อะไรนั่นจริง ๆ กระต่ายในมือเจ้าคงได้ร้องไห้กันพอดี”

อะไรกัน กระต่ายถูกตัดชื่อออกจากทะเบียนสัตว์แล้วหรือ

“องค์หญิง กระต่ายตัวนี้…”

เสี่ยวเป่าตอบอย่างรวบรัด “ข้าอยากกินเนื้อตุ๋นน้ำแดง”

“ได้เลยเพคะ!”

บ่าวรับใช้ในเรือนตกอยู่ในความยินดีปรีดาท่ามกลางเสียงทะเลาะกันของเสือสองตัวกับเจ้านก

เสี่ยวเป่าเล่นลูกหนังเป็นเพื่อนเจ้าเสือสองตัวนั้นจนเหนื่อย อากาศร้อนจนนางไม่มีเรี่ยวแรงเหลือแล้ว

เสี่ยวเป่าหาวหวอดทีหนึ่ง เลยตัดสินใจกลับไปนอนกลางวัน

ก่อนจะกลับห้องยังกำชับคนเอาไว้ว่าอย่าลืมทำถ้วยน้ำแข็งใบใหญ่ให้เสือสองตัวนั้นด้วย

ในถ้วยน้ำแข็งมีเนื้อแช่แข็ง ขณะที่ช่วยคลายร้อนให้เจ้าเสือยังสามารถได้กินของว่างเล็ก ๆ น้อย ๆ

นางเพิ่งเข้ามาในห้องก็ได้ยินเสียงกระพือปีก จากนั้นก็มีนกเค้าอินทรีตัวหนึ่งบินมาเกาะอยู่บนขอบหน้าต่างห้องของนาง

ความจริงแล้วนกเค้าอินทรีมีหน้าตาน่ารักยิ่ง เป็นความน่ารักแบบที่แฝงไว้ด้วยความองอาจ

เพราะพวกมันคือนกเค้าแมวฉบับตัวใหญ่และเสริมความแข็งแกร่ง

ดวงตาของนกเค้าอินทรีใหญ่ยิ่ง โดยปกติดวงตาของนกเค้าแมวจะดูน่ารักน่าชัง แต่ดวงตาใหญ่โตของนกเค้าอินทรีกลับแฝงไว้ซึ่งความเฉียบคมของผู้ล่า

นกเค้าอินทรีที่เกาะอยู่ตรงหน้าต่างเอียงคอมองเสี่ยวเป่า

ถ้าเป็นตอนกลางคืน ตื่นขึ้นมากลางดึกแล้วต้องมาเห็นดวงตาใหญ่โตที่เหมือนจะเรืองแสงได้แบบนี้คงได้หัวใจวายกันพอดี

“ขอบคุณที่เอาของขวัญมาให้ข้านะ”

เสี่ยวเป่าที่ตั้งใจกลับมานอนกลางวัน พอได้เห็นนกเค้าอินทรีก็ยกตั่งมาวางตรงหน้าต่าง ปีนขึ้นไปเหยียบแล้วลูบหัวของมัน

อาจเพราะยังไม่ชิน ตอนถูกลูบหัวเจ้านกเค้าอินทรีจึงเบี่ยงหลบตามสัญชาตญาณ

แต่ร่างของมันยังปักหลักอยู่ที่เดิม

เสี่ยวเป่าไม่เสียใจที่มันหลบ ทั้งยังเทน้ำให้มันชามหนึ่ง

จากนั้นก็ไปนอนโดยไม่ได้ระแวงว่าในห้องมีนกนักล่าอยู่ตัวหนึ่งเลยสักนิด

นอนกลางวันไปได้ราวครึ่งชั่วยาม เสี่ยวเป่าก็ตื่นขึ้นเอง พลันลุกขึ้นมาขยี้ตาแล้วเหลือบมองไปทางหน้าต่างบานเดิม

คิดไม่ถึงเลยว่านกเค้าอินทรีตัวนั้นจะยังไม่ไปไหน!

ยามนี้มันกำลังยืนหลับอยู่ตรงหน้าต่าง

ครั้นได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวดวงตากลมโตก็ลืมขึ้น จากนั้นก็สบตากับเสี่ยวเป่า

“กรูกรู…”

นกเค้าอินทรีส่งเสียงทักทายเสี่ยวเป่า

ชุนสี่และบ่าวรับใช้คนอื่นเห็นว่าได้เวลาแล้วก็ผลักประตูเข้ามา ที่ตามมาข้างหลังยังมีเสือสองตัว

ตอนนี้บ่าวรับใช้ในเรือนล้วนคุ้นเคยกับเสือสองตัวเป็นอย่างดี จากความหวาดกลัวในตอนแรก ตอนนี้สามารถทำเป็นมองไม่เห็นได้แล้ว ตราบที่ไม่ไปเข้าใกล้ ไม่ไปยั่วโทสะพวกมันย่อมไม่เกิดเรื่องแน่นอน

เฮยไป๋อู๋ฉางเสือสองพี่น้องเมื่อเห็นนกตัวหนึ่งเกาะอยู่ตรงหน้าต่างก็กระโจนเข้าไปหาอย่างว่องไวโดยไม่ต้องคิด

ท่ามกลางเสียงร้องแตกตื่นของทุกคน นกเค้าอินทรีตัวนั้นกระพือปีกบินหลบ ครึ่งร่างของไป๋อู๋ฉางพาดอยู่บนขอบหน้าต่าง อ้าปากร้องคำรามจนเห็นเขี้ยว อุ้งเท้ายังค้างอยู่ในท่าตะปบนก

เฮยอู๋ฉางยืดร่างท่อนบนขึ้น อุ้งเท้าขนาดใหญ่กดอยู่บนร่างน้องชาย แววตาคมปลาบแฝงจิตสังหารจับจ้องนกเค้าอินทรีอย่างลึกล้ำ

“โฮกโฮกโฮก!”

มันอึดอัดจะตายแล้ว หน้าท้องพาดอยู่บนขอบหน้าต่าง ทั้งยังถูกพี่ชายที่หนักหลายร้อยชั่งกดเอาไว้อีก ไป๋อู๋ฉางที่อึดอัดหายใจไม่ออกพยายามดิ้นรน สุดท้ายก็แกว่งหางหล่นตุบออกไปนอกห้อง

“โฮก!”

ไป๋อู๋ฉางลุกขึ้นยืนอย่างโมโห ยกอุ้งเท้าขึ้นมาหมายจะฟัดกับพี่ชายสักตั้ง

แต่อุ้งเท้าของมันยังไปไม่ถึง อุ้งเท้าของเฮยอู๋ฉางพลันถึงก่อน ตะปบดังป้าบจนเจ้าเสือขาวหน้ามืดตาลาย

จากนั้นเฮยอู๋ฉางก็กระโดดข้ามหน้าต่างออกไป เริ่มฟัดกับน้องชาย เสียงร้องโหยหวนดังลั่นจนบ่าวรับใช้ในห้องไม่อาจทำใจมองตรง ๆ

สลด… ช่างน่าสลดเกินไปแล้ว

เสี่ยวเป่าลงมาจากเตียง วิ่งไปพิงหน้าต่างมองออกไปโดยไม่สนใจจะสวมรองเท้า

“เฮยอู๋ฉางเจ้าเบามือหน่อย น้องชายเจ้ายิ่งไม่ค่อยฉลาดอยู่ด้วย ขืนถูกเจ้าตีแบบนี้คงได้โง่กว่าเดิมพอดี”

ไป๋อู๋ฉาง “…”

ไม่ได้อยากได้คำปลอบแบบนี้เลย ขอบใจนะ

……………………………..

เมื่อข้าเป็นองค์หญิงน้อยของฮ่องเต้ทรราช

เมื่อข้าเป็นองค์หญิงน้อยของฮ่องเต้ทรราช

Score 10
Status: Completed
จากลูกเป็ดขี้เหร่สู่การเป็นองค์หญิงคนสุดท้องแห่งราชวงศ์ ความน่ารักของซูเสี่ยวเป่าพร้อมจะพิชิตใจทุกคนแล้ว! นิยายแปลเรื่อง เมื่อข้าเป็นองค์หญิงน้อยของฮ่องเต้ทรราช ผู้แต่ง :垂耳兔 หลังจากภูตพฤกษาตัวน้อยตายลง นางก็มาเกิดในยุคสมัยโบราณ และหลงคิดไปว่าตนเองเป็นเพียงเด็กลูกชาวบ้านแถบชนบทธรรมดา ๆ แต่คาดไม่ถึงเลยว่าท่านพ่อที่นางไม่เคยพบหน้ามาก่อนจะมีภูมิหลังยิ่งใหญ่ปานนี้ เขา…ถึงกับเป็นราชาของแผ่นดิน! เสี่ยวเป่าที่อายุเพียงสามขวบถูกพาตัวไปยังพระราชวังทันทีหลังจากที่แม่ของนางสิ้นชีพลง แล้วนางก็กลายเป็นองค์หญิงน้อย สตรีเพียงหนึ่งเดียวท่ามกลางพี่ชายแปดคน!

Options

not work with dark mode
Reset