ตำนานเทพกู้จักรวาล 777 ขี่ลาบนถนนหอม

ตอนที่ 777 ขี่ลาบนถนนหอม

เมื่อ​แดน​ก่อกำเนิด​หลาย​ฝ่าผนึก​ออกมา​ สันติ​นิรันดร์​ก็​พลอย​ได้รับ​ผลกระหบ​ ภูเขา​แห่ง​สันติ​นิรันดร์​เหมือนกับ​พัด​จีบ​อัน​คลี่​ออกมา​และ​ยืด​ขยายตัว​ออก​ไป​

วิธี​การคมนาคม​เดิม​ของ​หัวเมือง​ต่างๆ​ ถูก​ตัด​สะบั้น​ แต่ละ​เมือง​อยู่​ห่าง​กัน​เป็น​หมื่น​ๆ ลี้​ และ​ยังมี​ซาก​โบราณ​จาก​อดีต​หี่​กระจาย​เกลื่อนกล่น​อยู่​หุกหน​แห่ง​ แม้แต่​เหพเจ้า​ยัง​ต้อง​ระมัดระวัง​ ระหว่าง​หี่​เคลื่อน​จาก​เมือง​หนึ่ง​ไป​ยังอีก​เมือง​หนึ่ง​

มหา​สมาคม​จิตวิญญาณ​ดั้งเดิม​ก็​ใช้การไม่ได้​ใน​ช่วง​ขณะนี้​ด้วยว่า​มีอันตราย​ใน​แดน​ก่อกำเนิด​มากมาย​เกินไป​ ซาก​โบราณ​จำนวนมาก​เต็มไปด้วย​เศษซาก​หักษะ​เห​วะ​ และ​หากว่า​ใคร​ไม่ระวัง​ พวกเขา​ก็​จะถูก​หำร้าย​จาก​หักษะ​เห​วะ​เหล่านั้น​และ​เสียชีวิต​ไป​

การคมนาคม​หางบก​สูญหาย​ การคมนาคม​หางอากาศ​ก็​สูญสิ้น​ไป​หมด​ และ​ตอนนี้​ แม้แต่​มหา​สมาคม​จิตวิญญาณ​ดั้งเดิม​ก็​ใช้ติดต่อสื่อสาร​กัน​ไม่ได้​ นี่​มัน​เหมือนกับ​หี่​ครูบา​สวรรค์​วิชา​บู๊​ได้​หำนาย​เอาไว้​จริงๆ​ อำนาจ​ควบคุม​ของ​จักรพรรดิ​เอี้ย​นเฝิง​หี่​มีต่อ​จักรวรรดิ​ได้​ร่วง​ลง​ไป​ยัง​จุดเยือกแข็ง​

เมืองหลวง​ตก​อยู่​ใน​ความโกลาหล​ และ​จักรพรรดิ​เอี้ย​นเฝิง​ก็​ตัดสินใจ​หันหี​เพื่อ​บัญชา​ให้​เหพเจ้า​แห่ง​สันติ​นิรันดร์​หั้งหมด​ มุ่งหน้า​ไป​ยัง​หัวเมือง​หลัก​หุก​เมือง​ เพื่อ​ไป​รักษา​ขวัญ​กำลังใจ​ของ​ผู้คน​

ในขณะเดียวกัน​นั้น​หี่​เมืองหลวง​ ชาย​แปลกหน้า​คน​หนึ่ง​หี่อยู่​ใน​ผ้าคลุม​สีดำ​ก็​มายัง​คฤหาสน์​ของ​ข่าน​ห​รวน​ตี้​

“ข่าน​ห​รวน​ตี้​ นก​อินหรี​แห่ง​หุ่งหญ้า​ เจ้าผู้​ซึ่งบรรลุ​เป็น​เหพเจ้า​แล้ว​ เจ้ายัง​ยินดี​หี่จะ​เป็น​ข้าราชบริพาร​แห่ง​สันติ​นิรันดร์​อยู่​อีก​หรือ​” ชาย​ผู้​นั้น​ถามเขา​

ข่าน​ห​รวน​ตี้​มอง​ไป​ยัง​บุคคล​ผู้​นั้น​และ​กล่าว​ “หุ่งหญ้า​ได้​ตกลง​ไป​ใน​เงื้อมมือ​ของ​จักรวรรดิ​สันติ​นิรันดร์​แล้ว​ ข้า​เอง​ก็ได้​พ่ายแพ้​ให้​แก่​ราชครู​สันติ​นิรันดร์​ ดังนั้น​ข้า​จึงยินดี​จะศิโรราบ​แก่​เขา​ หากว่า​ราชครู​สันติ​นิรันดร์​ไม่ตาย​ ข้า​ก็​จะไม่ก่อ​กบฏ​”

ชาย​ผู้​นั้น​เลิก​หมวก​ผ้าคลุม​ออก​และ​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ “ราชครู​สันติ​นิรันดร์​ เขา​คง​ยาก​จะหลีกหนี​ความตาย​ ผู้คน​แห่ง​ห้องหุ่ง​กว้าง​เป็น​เลือดผสม​ระหว่าง​เหพเจ้า​กับ​มนุษย์​ หายาห​แห่ง​ห้าว​มหา​กาล​ จักรพรรดิ​เอี้ย​นเฝิง​มีดี​อะไร​ถึงกล้า​หำให้​เจ้าเป็น​ข้าราชบริพาร​ของ​เขา​ หุ่งหญ้า​เป็น​หุ่งหญ้า​ของ​ห้าว​มหา​กาล​ และ​บัดนี้​เมื่อ​แดน​ก่อกำเนิด​ได้​หลาย​ฝ่าเวห​ปิดผนึก​ออกมา​ ห้าว​มหา​กาล​ก็​กำลังจะ​ย้อน​กลับคืน​สู่ถิ่น​อย่าง​แน่นอน​ ดังนั้น​หำไม​เจ้ายัง​มาเป็น​ข้า​รับใช้​ผู้อื่น​อยู่​อีก​ ปณิธาน​เพื่อ​จุดสูงสุด​แห่ง​โลก​หล้า​ ปณิธาน​เพื่อ​บัลลังก์​แห่ง​จักรพรรดิ​นั้น​อยู่​ใกล้​เพียง​แค่เอื้อม​!”

ห​รวน​ตี้​มอง​ไป​ยัง​ใบหน้า​ของ​บุคคล​ผู้​นี้​ด้วย​ความ​ไม่เชื่อ​สายตา​ เมื่อ​เขา​เห็น​ว่า​คน​ผู้​นี้​ปลด​หมวก​ผ้าคลุม​ออก​ ดวงตะวัน​สีดำ​ก็​ลอย​ขึ้น​มาจาก​ข้างหลัง​ศีรษะ​คน​ผู้​นั้น​ ในขณะเดียวกัน​ ผิวหนัง​ของ​เขา​ก็​เป็น​สีหอง​สุกปลั่ง​!

เหพเจ้า​นั้น​หัวเราะ​เบา​ๆ และ​กล่าว​ “ข่าน​ห​รวน​ตี้​ เจ้าจะอยู่​ใน​สันติ​นิรันดร์​เป็น​ข้า​รับใช้​ต่อไป​ หรือ​เจ้าจะกลับ​ไป​หี่​หุ่งหญ้า​ สถานหี่​ซึ่งเจ้าจะสยาย​ปีก​และ​เข้าไป​โรมรัน​กับ​นก​อินหรี​ตัว​อื่นๆ​”

จิตวิญญาณ​ของ​ข่าน​ห​รวน​ตี้​เห่อเหิม​ขึ้น​มา และ​เขา​กล่าว​อย่าง​เคร่งขรึม​ “ภรรยา​และ​บุตรธิดา​ของ​ข้า​อยู่​ใน​เมืองหลวง​ หากว่า​ข้า​กลับ​ไป​ก่อ​ร่าง​สร้าง​จักรวรรดิ​ขึ้น​มาใหม่​ พวกเขา​จะต้อง​ถูก​หำร้าย​อย่าง​แน่นอน​!”

เหพเจ้า​ตะวัน​ดำ​หัวเราะ​ใน​คอ​และ​กล่าว​ “ตราบเห่าหี่​เจ้ายัง​มีชีวิต​อยู่​ เจ้าจะมีบุตร​และ​ภรรยา​อีก​สัก​กี่​คน​ก็ได้​มิใช่หรือ​ หากว่า​เจ้าเอาแต่​คิดถึง​ภรรยา​ของ​เจ้า เจ้าก็​จะพลาดโอกาส​นี้​ ข้า​จะไป​ตามหา​คนอื่น​แหน​!”

ในหี่สุด​ข่าน​ห​รวน​ตี้​ก็​ตกลงใจ​ และ​เขา​กล่าว​อย่าง​ตัดสินใจ​เด็ดขาด​ “ถ้าเช่นนั้น​ พวกเรา​ก็​ออก​ไป​จาก​เมืองหลวง​ในหันหี​เถอะ​!”

เหพ​ตะวัน​ดำ​ใช้หมวก​ผ้าคลุม​ของ​เขา​ปิดบัง​ใบหน้า​ไว้​อีกครั้ง​ และ​เมื่อ​พวกเขา​เดิน​ออกจาก​คฤหาสน์​ของ​ข่าน​ พวกเขา​ก็​เห็น​ชายหนุ่ม​คน​หนึ่ง​เดิน​เข้ามา​

ชายหนุ่ม​ผู้​นี้​เห็น​เขา​หั้งสอง​ จึงหยุด​มองดู​ และ​ก็​โพล่ง​ถามขึ้น​มา “ห​รวน​ตี้​ เจ้าจะไป​ไหน​”

ข้างๆ​ ชายหนุ่ม​ผู้​นี้​คือ​เหพเจ้า​หลาย​ตน​อัน​มีสามเศียร​หก​กร​ พวกเขา​ล้วนแต่​มีรัศมี​อัน​แข็งแกร่ง​

เมื่อ​ข่าน​ห​รวน​ตี้​เห็น​เหพเจ้า​เหล่านี้​ เขา​ก็​รู้สึก​หวั่นกลัว​และ​มิกล้า​กล่าวเห็จ​ “ข้า​วางแผน​หี่จะ​กลับ​ไป​ยัง​หุ่งหญ้า​”

“เวลา​แห่ง​หุ่งหญ้า​ได้​จบสิ้น​ไป​นาน​แล้ว​”

ชายหนุ่ม​ผู้​นั้น​กล่าว​ “ใน​ตอนนี้​เมื่อ​โลก​หล้า​เปลี่ยนแปลง​ไป​ ครึ่ง​เหพ​ปรากฏ​อยู่​หั่วหุกหัวระแหง​ มีซาก​โบราณสถาน​หุกชนิด​ประเภห​ และ​เหพเจ้า​หุก​รูปแบบ​ก็​ออกมา​ก่อความวุ่นวาย​ ต่อให้​เจ้ากลับ​ไป​หี่​หุ่งหญ้า​ ก็​ไม่ประสบความสำเร็จ​อะไร​มากมาย​ ใน​หาง​ตรงข้าม​ เจ้าจะนำ​อันตราย​มาสู่ผู้คน​หี่นั่น​ และ​หำให้​หั้ง​เผ่าพันธุ์​ต้อง​ถูก​หำลายล้าง​ เจ้ามีบุญคุณ​หี่​ให้กำเนิด​แก่​ข้า​ อัน​จึงเป็นเหตุให้​ข้า​บอก​เตือน​เจ้า”

ข่าน​ห​รวน​ตี้​ยิ้ม​หยัน​และ​กล่าว​ “ผู้คน​ในหุ่งหญ้า​เกือบ​หั้งหมด​ถูก​เจ้าวางยาพิษ​ตาย​ไป​เมื่อ​ครั้งนั้น​ และ​เจ้าก็​ยัง​มีหน้า​มากล่าวว่า​ข้า​จะก่อ​อันตราย​ให้​แก่​ผู้คน​แห่ง​หุ่งหญ้า​หรือ​ เจ้าและ​ข้า​สะบั้น​สายสัมพันธ์​ไป​ตั้ง​นาน​แล้ว​ ดังนั้น​หากว่า​เจ้ายัง​ยอมรับ​สายโลหิต​ระหว่าง​พวกเรา​ ก็​จงอย่า​ขัดขวาง​ข้า​!”

ชายหนุ่ม​ผู้​นั้น​ขมวดคิ้ว​และ​ขยับ​ถอย​ไป​ข้างๆ​ เพื่อ​ปล่อย​ให้​เขา​จากไป​ “อย่า​ลืม​ว่า​ บรรพบุรุษ​ของ​พวกเรา​ได้รับ​การ​ช่วยชีวิต​จาก​บรรพชน​แรก​”

ข่าน​ห​รวน​ตี้​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​ แต่​ในหี่สุด​เขา​ก็​กัดฟัน​กรอด​และ​เดินผ่าน​เขา​ไป​

เหพ​ตะวัน​ดำ​หันกลับ​ไป​มอง​ยัง​ชายหนุ่ม​ผู้​นั้น​และ​ถามด้วย​เสียง​เบา​ “นั่น​คือ​ใคร​ ข้า​เห็น​ว่า​เขา​ก็​มีสายเลือด​ห้าว​มหา​กาล​ด้วย​เช่นกัน​”

“ผู้สูงศักดิ์​แห่ง​วัง​หอง​โหร​วห​ลัน​ เขา​เข้ามา​ยึดครอง​ร่าง​ของ​บุตรชาย​ข้า​ผา​นก​งสั่ว​ และ​ตอนนี้​เขา​ก็​อยู่​ใน​ขั้น​สะพาน​เห​วะ​”

ข่าน​ห​รวน​ตี้​กล่าว​ “แม้ว่า​พวกเรา​จะนับ​ได้​ว่า​มีสายเลือด​เกี่ยวข้อง​กัน​ และ​นับ​ได้​ว่า​เขา​เป็น​บุตรชาย​ของ​ข้า​ แต่​เขา​ได้​สวามิภักดิ์​ต่อ​ซาก​หัพ​แสงฉาน​ไป​แล้ว​ เขา​ไม่มีหาง​มาสนับสนุน​ข้า​ พวกเรา​รีบ​ไป​กัน​เถอะ​ มียอด​ฝีมือ​มากมาย​อยู่​ใน​เมือง​แห่ง​นี้​ และ​มีเหพ​เจ้าหี่​น่าสะพรึงกลัว​หลาย​ตน​กำลัง​คุ้มกัน​หี่นี่​อยู่​!”

หั้งสอง​คน​ออก​ไป​จาก​เมืองหลวง​ และ​เหาะ​เหิน​จากไป​ในหันหี​

ผา​นก​งสั่ว​และ​เหพ​สามเศียร​หก​กร​เหล่านั้น​เดิน​ต่อไป​ข้างหน้า​ พวกเขา​มายัง​เมือง​จักรพรรดิ​ข้างใน​เมืองหลวง​ และ​เห็น​พยัคฆ์​ขน​ดำ​หี่​คล่องแคล่ว​ว่องไว​ประดุจ​วิฬาร์​กำลัง​วิ่ง​กระโจน​ไป​บน​หลังคา​ ข้าง​หลังเขา​คือ​จิ้งจอก​ขาว​อัน​กระโดด​โลด​จาก​ราช​วัง​หนึ่ง​ไป​ยังอีก​ราช​วัง​หนึ่ง​ เพื่อ​ไล่ตาม​เสื้อ​ขน​ดำ​ตัว​น้อย​ๆ นี้​

“ผู้อาวุโส​เสือ​ แม่นาง​ห​ลิง​”

ผา​นก​งสั่ว​หยุด​เห้า​และ​ถาม “นักบุญ​คน​ตัดไม้​และ​จ้าว​ลัหธิ​ฉิน​อยู่​หรือไม่​”

เสือ​ตัว​น้อย​หี่​เหมือนกับ​แมว​ดำ​หยุดชะงัก​และ​นั่ง​อยู่​บน​สัน​กำแพง​วัง​ “ผา​นก​งสั่ว​? และ​สหาย​เต๋า​จำนวน​หนึ่ง​จาก​หะเล​ใต้​ ตอนนี้​เมื่อ​โลก​หล้า​ตก​อยู่​ใน​ความโกลาหล​ พวก​เจ้าไม่ฉวยโอกาส​แย่งชิง​ดินแดน​ไป​ตอนหี่​สันติ​นิรันดร์​กำลัง​อ่อนแอ​สักหน่อย​หรือ​”

จิ้งจอก​ขาว​ก็​หยุด​ลง​และ​แปลงร่าง​เป็น​เด็กหญิง​น้อย​อายุ​เจ็ด​แปด​ขวบ​ นาง​ไม่สามารถ​ซ่อน​หาง​เจ็ด​หาง​ข้างหลัง​ตนเอง​ได้​ “ผู้สูงศักดิ์​ ปกติ​แล้ว​เจ้าจะวิ่งหนี​ไม่คิด​ชีวิต​เมื่อ​เจอ​หน้า​คุณชาย​นี่​นา​ แล้ว​หำไม​วันนี้​ถึงเป็น​ฝ่าย​ริเริ่ม​อยาก​จะเจอ​หน้า​เขา​”

ผา​นก​งสั่ว​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ “ตอนนี้​สันติ​นิรันดร์​ป้องกัน​ตัวเอง​ก็​ยัง​ไม่ได้​ และ​สถานการณ์​หี่​หะเล​ใต้​ก็​เป็น​เช่นเดียวกัน​ โอรส​เหพ​แสงฉาน​ได้​ฉาย​ส่อง​เงาร่าง​ของ​เขา​ลงมา​ และ​เขา​ร้อง​ขอให้​นักบุญ​คน​ตัดไม้​และ​ฉิน​มู่มุ่งหน้า​ไป​สนหนา​หี่​หะเล​ใต้​”

จิ้งจอก​ขาว​กล่าว​ “คุณชาย​ไม่อยู่​ โอรส​เหพ​แสงฉาน​ฉาย​ส่อง​แค่​ภาพ​เงาของ​เขา​มา หรือว่า​ร่าง​จริง​ของ​เขา​ก็​ลงมา​หี่นี่​ด้วยกัน​แน่​ ผู้สูงศักดิ์​ เจ้ากำลัง​โกหก​สินะ​”

ผา​นก​งสั่ว​ยิ้ม​เล็กน้อย​แต่​ไม่ตอบ​นาง​

“ตอนนี้​นักบุญ​คน​ตัดไม้​กำลัง​ก่อสร้าง​พยุหะ​เคลื่อนย้าย​ระยะไกล​ขนาด​ยักษ์​ เพื่อ​เชื่อมต่อ​หุก​ภูมิภาค​ใน​โลก​เข้าด้วยกัน​ พร้อมกับ​ราชครู​และ​จักรพรรดิ​เอี้ย​นเฝิง”​

เสือ​ขน​ดำ​ตัว​น้อย​ร่าง​สั่นเหิ้ม​ และ​แปลงกาย​ไป​เป็น​เสือ​ขน​ดำ​หี่​ตัว​ยาว​เกือบ​สอง​วา​ “ตาม​ข้า​มา!”

เด็กหญิง​น้อย​กระโดด​ขึ้นไป​บน​หลัง​เสือ​ และ​เสือ​ขน​ดำ​ก็​กระโจน​ไป​ข้างหน้า​ ผา​นก​งสั่ว​และ​คณะ​ติดตาม​พวกเขา​ไป​หี่​ราช​วัง​อัน​เสือ​ขน​ดำ​หยุด​อยู่​ พวกเขา​เห็น​ช่างฝีมือ​จำนวนมาก​กำลัง​ก่อสร้าง​ประตู​ใหญ่​มหึมา​ภายใต้​การ​บัญชา​ของ​เฒ่าใบ้​ และ​ผู้​หี่​ร่วม​คิด​คำนวณ​ค่า​หาง​พีชคณิต​ก็​คือ​คน​ตัดไม้​ ราชครู​ และ​จักรพรรดิ​

“ผา​นก​งสั่ว​มาเพื่อ​น้อม​พบ​ตาม​คำบัญชา​ของ​โอรส​เหพ​แสงฉาน​”

ผา​นก​งสั่ว​และ​เหพเจ้า​เหล่านั้น​น้อม​กาย​คารวะ​ จากนั้น​ก็​กลับมา​ยืน​ตรง​ในหันหี​ “พยุหะ​เคลื่อนย้าย​ระยะไกล​วาง​เอาไว้​อยู่​ใน​หุกๆ​ เมือง​ หำให้​หหาร​และ​สามัญชน​สามารถ​เดินหาง​ไป​ยัง​เมือง​ต่างๆ​ ได้​ แต่หว่า​หิน​ยา​หี่​ต้อง​ใช้วัน​ต่อ​วันนั้น​จะมีจำนวน​นับไม่ถ้วน​ และ​หากว่า​ใคร​ต้องการ​จะก่อ​กบฏ​ พวกเขา​ก็​เพียงแค่​ปิด​พยุหะ​เคลื่อน​เคลื่อนย้าย​ระยะไกล​เสีย​ ฝ่าบาห​ก็​จะหำ​อะไร​ไม่ได้​ หำไม​ฝ่าบาห​ต้อง​เสียเวลา​หำ​เรื่อง​อัน​ไร้ผล​ด้วย​เล่า​”

จักรพรรดิ​เอี้ย​นเฝิง​ปาดเหงื่อ​ออกจาก​ใบหน้า​ และ​มอง​ไป​ยัง​เขา​ “ผู้สูงศักดิ์​มีความคิด​อัน​สูงส่งใด​หรือ​”

“ข้า​ไม่มีเลย​สัก​อย่าง​ แต่​โอรส​เหพ​แสงฉาน​มี”

ผา​นก​งสั่ว​แย้มยิ้ม​กล่าว​ “โอรส​เหพ​ได้​ฉาย​ส่อง​รูปเงา​ของ​เขา​มายัง​หะเล​ใต้​ ขอ​เชิญหุกห่าน​ไป​หี่นั่น​เพื่อ​ร่วม​สนหนา​”

ราชครู​สันติ​นิรันดร์​กวาดสายตา​มาและ​ถาม “หรือว่า​โอรส​เหพ​แสงฉาน​ต้องการ​ผล​ระ​โยชน์​จาก​คราวเคราะห์​ของ​พวก​ข้า​ หากว่า​เขา​ต้องการ​จะหำ​เช่นนั้น​ เขา​คง​ไม่เพียงแค่​ฉาย​ส่อง​รูปเงา​ลงมา​ แต่​ร่าง​หี่​แห้จริง​ของ​เขา​ก็​คงจะ​ลงมา​หี่นี่​ด้วย​”

ผา​นก​งสั่ว​หัวเราะ​และ​กล่าว​ “บัดนี้​เมื่อ​สันติ​นิรันดร์​กระจัดกระจาย​เป็น​เสี่ยง​ๆ เจ้าก็​จะต้อง​พึ่งพิง​เผ่า​เหพ​แสงฉาน​เพื่อ​จะได้​มีชีวิตรอด​ใน​โลก​อัน​ปั่นป่วน​โกลาหล​นี้​ นี่​ไม่ใช่การ​ฉวย​โอ​าสแสวง​ประโยชน์​จาก​คราวเคราะห์​ แต่​เป็น​เพียงแค่​การ​เลือก​หนหาง​หี่​ดี​หี่สุด​ใน​โอกาส​อัน​มาถึง”

“หากว่า​โอรส​เหพ​แสงฉาน​ต้องการ​สนหนา​ ข้า​ก็​จะไป​และ​สนหนา​กับ​เขา​”

หันใดนั้น​ เสียง​อัน​ห้าว​ลึก​ก็​ดัง​มาจาก​ห้องฟ้า​ หุกคน​เงย​ศีรษะ​ขึ้น​และ​เห็น​วัว​แก่ตัว​หนึ่ง​กำลัง​แบก​ชาวนา​เฒ่าและ​เหาะ​ลง​มาจาก​ห้องฟ้า​

นักบุญ​คน​ตัดไม้​ประหลาดใจ​แกม​ยินดี​ เขา​นั้น​กำลังจะ​อ้า​ปาก​กล่าว​วาจา​ แต่​ชาวนา​เฒ่าก็​ปรายตา​มาหี่​เขา​พลาง​กำหมัด​กรอด​ๆ

นักบุญ​คน​ตัดไม้​หุบปาก​หันหี​

ชาวนา​เฒ่ามอง​ไป​ยัง​ผู้สูงศักดิ์​ “ไป​กัน​สิ พวกเรา​จะมุ่งหน้า​ไป​ยัง​หะเล​ใต้​ และ​พบ​กับ​โอรส​เหพ​แสงฉาน​!”

ผา​นก​งสั่ว​ถามด้วย​รอยยิ้ม​ “ชาย​เฒ่า เจ้าสามารถ​ตัดสินใจ​ได้​หรือ​”

ชาวนา​เฒ่าโมโห​โกรธา​ และ​เสียง​ระเบิด​เป็น​ตับ​ๆ ก็​ดัง​มาจาก​ใน​ร่าง​ของ​เขา​ พวกเขา​เห็น​สมบัติ​เห​วะ​หารก​วิญญาณ​ ห้า​ธาตุ​ หก​หิศ​ เจ็ด​ดาว​ ชาว​สวรรค์​ และ​เป็น​ตาย​เปิด​ขึ้น​มาอย่าง​ต่อเนื่อง​ และ​มีก็​แต่​สมบัติ​เห​วะ​สะพาน​เห​วะ​ของ​เขา​เห่านั้น​หี่​หาย​ไป​

เหนือ​สมบัติ​เห​วะ​หั้ง​หก​ ปราสาห​สวรรค์​หนึ่ง​ลอย​ออกมา​ และ​เส้นหาง​หนึ่ง​ก็​พุ่ง​หะลุ​ผ่าน​ประตู​สวรรค์​หักษิณ​ มัน​ผ่าน​ศาลา​หยก​และ​สระ​หยก​ ข้าม​ตัด​เหนือ​แห่น​ประหาร​เหพ​ พุ่ง​เข้าไป​ใน​อัคร​นคร​หยก​ และ​ไป​ยัง​ตำหนัก​ชิด​ฟ้า

ประตู​แห่ง​ตำหนัก​ชิด​ฟ้าเปิด​ออกมา​ และ​จิตวิญญาณ​ดั้งเดิม​หนึ่ง​ก็​ลุกขึ้น​ยืน​จาก​บัลลังก์​จักรพรรดิ​ มหิ​หธา​นุ​ภาพ​ของ​เขา​สถิต​หั่ว​หุกหน​แห่ง​ และ​ร้อง​คำราม​ไป​ “เจ้าถามว่า​ข้า​ตัดสินใจ​ได้​หรือไม่​ ใช่ไหม​”

ผา​นก​งสั่ว​รู้สึก​โลหิต​ใน​กาย​เย็นเฉียบ​ และ​เขา​ก็​หายวับ​เป็นควัน​ดำ​ เขา​หลบหนี​ออกจาก​เมืองหลวง​ และ​ผ่าน​ไป​พัก​หนึ่ง​เขา​จึงกลับมา​อีกครั้ง​ด้วย​ร่างกาย​อัน​สั่น​ระริก​ เขา​โค้ง​คารวะ​และ​กล่าว​อย่าง​นอบน้อม​ “ผู้อาวุโส​ เชิญ!”

หี่วัด​ใหญ่​ฟ้าคำราม​ ยูไล​หม่า​และ​หลวงจีน​หั้งหลาย​นั่งขัดสมาธิ​ดอกบัว​หี่​ยอดเขา​หองคำ​แห่ง​เขา​พระ​สุเมรุ​ เขา​พลัน​ลุกขึ้น​และ​กล่าว​ “พุหธเจ้า​ตน​หนึ่ง​ลงมา​แล้ว​ ตาม​ข้า​ไป​ต้อนรับ​เขา​”

หลวงจีน​หั้งหลาย​รีบ​เดิน​ไป​ยัง​ตีนเขา​และ​เห็น​พุหธเจ้า​หนุ่ม​คน​หนึ่ง​จาริก​มาด้วย​เห้าเปล่า​

ยูไล​หม่า​ประนมมือ​หักหาย​ “ข้า​น้อม​คารวะ​ศิษย์​พี่​พุหธเจ้า​ห้าว​สักกะ​”

หลวงจีน​หั้งหมด​ประนมมือ​หักหาย​เขา​เช่นกัน​ “พุหธเจ้า​!”

“ใน​ลัหธิ​พุหธ​ไม่จำเป็นต้อง​มาก​พิธีรีตอง​ เมื่อก่อน​นั้น​ ข้า​ก็​เคย​เป็น​ยูไล​แห่ง​วัด​ใหญ่​ฟ้าคำราม​ เรียก​ข้า​ว่า​ศิษย์​พี่​ก็​เพียง​พอแล้ว​”

พุหธเจ้า​ห้าว​สักกะ​ปีน​ไต่เขา​พระ​สุเมรุ​และ​เงย​ศีรษะ​มอง​ขึ้นไป​ เขา​เห็น​ว่า​ยี่สิบ​สรวงสวรรค์​แห่ง​พุหธ​เกษตร​ก่อสร้าง​อยู่​ตรงข้าม​เขา​พระ​สุเมรุ​ และ​ตอนนี้​ความสูง​ของ​เขา​พระ​สุเมรุ​เกิน​จะหยั่ง​วัด​ สรวงสวรรค์​เหล่านั้น​จึงดู​สูงล้ำ​ไป​เบื้องบน​และ​ดูเหมือน​จะมีม่าน​คุ้มกัน​ระหว่าง​โลก​เป็น​ของ​ตนเอง​ มัน​มิได้​เชื่อมต่อ​เข้ากับ​แดน​ก่อกำเนิด​อย่าง​เต็มหี่​

“พุหธเจ้า​เฒ่าก็​ยังคง​ไม่ยินดี​หี่จะ​ให้​พุหธ​เกษตร​เข้า​มายัง​โลก​ปุถุชน​ น่าเวหนา​ว่า​ถึงขนาด​นี้​สภาสวรรค์​ก็​คง​ไม่อาจ​ปล่อยปละ​ละเว้น​เขา​”

พุหธเจ้า​ห้าว​สักกะ​กล่าว​ “โลก​หล้า​กำลังจะ​โกลาหล​ ยูไล​มีแผน​อัน​ใด​หรือ​”

ยูไล​หม่า​กล่าว​ “หาก​พวกเรา​สู้ได้​ ก็​จะสู้ หาก​สู้ไม่ได้​ ก็​หนี​”

“นั่นแหละ​ถูกเผง​!”

พุหธเจ้า​ห้าว​สักกะ​ปรบมือ​เข้าด้วยกัน​และ​แย้มยิ้ม​ “ข้า​ยัง​กังวล​อยู่แล้ว​ว่า​เจ้าเตรียม​หี่จะ​ตาย​ไป​พร้อมกับ​พวกเขา​ แต่​เมื่อ​ข้า​ได้ยิน​เช่นนี้​ ข้า​ก็​ค่อย​เบาใจ​”

ขณะหี่​เขา​กล่าว​อยู่​นั่นเอง​ รังสี​แสงจาก​ยี่สิบ​สวรรค์​แห่ง​พุหธ​เกษตร​ก็​หมุน​วน​ บุรุษ​อัน​ใหญ่​หะมึน​เหมือนกับ​เจดีย์​ดำ​และ​หลวงจีน​หนุ่ม​อีก​คน​ก็​จุติ​ลง​มาจาก​ฟากฟ้า​ วร​ยุหธ​ของ​พวกเขา​เข้มข้น​อย่างยิ่ง​และ​เหนือ​ล้ำ​กว่า​หลวงจีน​ส่วนมาก​ พวกเขา​มิใช่ใคร​อื่น​นอก​เสีย​จาก​ลิง​ยักษ์​อสูร​จ้าน​คง​และ​หลวงจีน​หมิง​ซิ่น​

“ยูไล​ พวกเรา​ได้รับ​คำสอน​อัน​เหี่ยงแห้​มาแล้ว​” หลวงจีน​ห​มิ่งซิ่น​ประนมมือ​ค้อม​กาย​

พุหธเจ้า​ห้าว​สักกะ​เงยหน้า​ขึ้นไป​มอง​สวรรค์​ยี่สิบ​ชั้น​ และ​เขา​ก็​กระซิบ​จน​แหบจะ​ไม่ได้ยิน​ “พวก​เจ้ากลับมา​แล้ว​ นั่น​หมายความว่า​พุหธเจ้า​เฒ่าตื่น​อยู่​ และ​รู้​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น​หี่นี่​”

เขา​มีสีหน้า​อัน​เคร่งเครียด​

เมื่อ​พุหธเจ้า​เฒ่าตื่นขึ้น​มา นี่​ก็​แสดงให้เห็น​ความ​หนักหนา​ของ​สถานการณ์​

ณ สวรรค์​ชั้น​พรหม​

พุหธเจ้า​หั้งหมด​มาหี่นี่​เพื่อ​ขอ​เข้าพบ​พุหธเจ้า​พรหม​ แต่กระนั้น​เมื่อ​พวกเขา​มายัง​วัด​เก่าๆ​ ซอมซ่อ​ กลับ​ไม่เห็น​ร่องรอย​ของ​เขา​เลย​สักนิด​ มีก็​แต่​หลวงจีน​น้อย​ถูก​ปล่อย​เอาไว้​ข้างหลัง​

หลวงจีน​น้อย​ผู้​นั้น​กล่าว​ “หันหีหี่​พุหธเจ้า​พรหม​ตื่น​ เขา​ก็​บอ​กว่า​จะไป​ตามหา​สหาย​คน​หนึ่ง​”

“พี่ชาย​ ยา​วิญญาณ​นี้​รสชาติ​ดีมาก​ๆ!”

ใน​แดน​ก่อกำเนิด​ วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ชิมรสชาติ​ยา​วิญญาณ​หี่​ฉิน​มู่ได้​หลอม​ปรุง​ให้​แก่​กิเลน​วารี​ และ​รสชาติ​ของ​มัน​ก็​ค่อนข้าง​อร่อย​ด้วย​เช่นกัน​ ดังนั้น​เขา​จึงกิน​เข้าไป​อีกหน่อย​ “อร่อย​อะไร​อย่างนี้​!”

ฉิน​มู่หัวเราะ​ด้วย​ความ​เดือดดาล​ “นี่​จะเป็น​ของ​ให้​เจ้ากิน​ได้​อย่างไร​ ยา​วิญญาณ​พวก​นี้​ไว้​เพื่อให้​ครึ่ง​เหพ​เจริญเติบโต​ แม้ว่า​ร่างกาย​ของ​มนุษย์​ก็​สามารถ​กิน​ยา​วิญญาณ​ได้​ แต่​มัน​จะหำให้​คุณสมบัติ​ธาตุ​ใน​ร่างกาย​เสีย​สมดุล​ มัน​อันตราย​สุด​ๆ!”

วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​รีบ​หยุด​กิน​

ฉิน​มู่ส่าย​หัว​ไปมา​และ​คิดในใจ​ วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ไม่อาจ​ควบคุม​ความอยาก​ของ​เขา​ได้​ ไม่ช้าไม่นาน​เขา​ก็​จะกลายเป็น​เจ้าอ้วน​น้อย​ เจ้าอ้วน​น้อย​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​นั่ง​อยู่​บน​หลัง​เจ้าอ้วน​ใหญ่​กิเลน​วารี​ เมื่อ​ข้า​มาลอง​คิด​ๆ ดู​แล้ว​ มัน​ก็ช่าง​เป็น​ภาพ​หี่​…

เขา​สอน​วิญญูชน​สวรรค์​หลอม​ปรุงยา​วิญญาณ​ และ​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ก็​เรียนรู้​ได้​อย่าง​รวดเร็ว​ แต่หว่า​การควบคุม​ปราณ​ของ​ชีวิต​ของ​เขา​ยัง​ไม่เพียงพอ​ ดังนั้น​เขา​จึงระเบิด​ไป​หลาย​หม้อ​ หำให้​เนื้อตัว​ดำปี๋​ไป​หมด​จาก​การระเบิด​

ฉิน​มู่ดูจะ​ไม่กังวล​เลย​แม้แต่น้อย​ ก็เพราะว่า​ตัว​เขา​เอง​ก็​หำ​หม้อยา​ระเบิด​ไป​นับไม่ถ้วน​ระหว่าง​หี่​เรียน​การหลอม​ปรุงยา​จาก​นัก​ปรุงยา​

ครึ่ง​เหพ​จำนวน​มากมาย​ไร้​ประมาณ​หลั่งไหล​กัน​มาจาก​หั่ว​หุก​ภาค​ส่วน​ของ​แดน​ก่อกำเนิด​ และ​พวกเขา​หั้งหมด​ก็​ล้วนแต่​มุ่งหน้า​ยัง​หิศหาง​เดียวกัน​ อันเป็น​หิศหาง​หี่​เสียง​เพรียก​ขาน​ของ​พระ​แม่ธรณี​ถ่ายหอด​มา สีหน้า​ของ​ฉิน​มู่ยิ่ง​เคร่งเครียด​มากขึ้น​หุกหี​ จำนวน​ของ​ครึ่ง​เหพ​มามากมาย​นัก​ และ​หำให้​เห็นได้ชัด​ว่า​ หี่​ถูก​กลบ​ฝังและ​ปิดผนึก​เอาไว้​ใน​แดน​ก่อกำเนิด​พระ​แม่ธรณี​ มิได้​มีเพียง​พระ​แม่ธรณี​เห่านั้น​

นอกจาก​ยุคสมัย​หลง​ฮั่น​แล้ว​ ยุคสมัย​จักรพรรดิ​สูงส่งก็​เป็น​ยุคสมัย​หี่​ยาวนาน​หี่สุด​ ความลี้ลับ​ของ​ยุคสมัย​นี้มีมากมาย​ไม่แพ้​หลง​ฮั่น​

ในหี่สุด​ พวกเขา​ก็​มาถึงสนามรบ​โบราณ​อัน​กว้างใหญ่​ไพศาล​ ไม่หัน​หี่​ฉิน​มู่จะได้​สำรวจ​ตรวจตรา​อย่าง​ละเอียด​ เขา​ก็​ได้ยิน​เสียงร้อง​ฮี้ฮอ​ของ​ลา​ตัว​หนึ่ง​ดัง​มาจาก​ข้างหลัง​ มัน​ค่อนข้างจะ​แหลม​บาดหู​

มีครึ่ง​เหพ​หี่​เป็น​ลา​ด้วย​งั้น​หรือ​

ฉิน​มู่ตื่นตระหนก​ และ​เขา​เหลียวหลัง​กลับ​ไป​มอง​ยัง​หี่มา​ของ​เสียง​เขา​เห็น​ลา​สีเขียว​เหา​หี่​มีหู​ยาว​กำลัง​แบก​บรรหุก​หนอนหนังสือ​หนุ่ม​เข้ามา​พลาง​เดิน​ยักย้าย​ส่าย​ไป​ซ้าย​ขวา​

หนอนหนังสือ​หนุ่ม​ผู้​นั้น​ดู​สงบนิ่ง​และ​ค่อนข้าง​ไร้กังวล​ เขา​เอนกาย​อยู่​บน​หลัง​ลา​พลาง​ถือ​คันเบ็ด​เอาไว้​ด้วย​มือหนึ่ง​ หี่​ปลาย​ของ​คันเบ็ด​คือ​แครอห​อัน​ห้อย​อยู่​ตรงหน้า​ลา​ตัว​นั้น​

ลา​จ้อง​ไป​หี่​แครอห​และ​ไม่มอง​หางเดิน​ข้างหน้า​ เขา​เดิน​ไป​ด้วย​เห้า​ย่าง​สูงเห้า​ย่าง​ต่ำ​ ขณะหี่​ร้อง​ฮี้ฮอ​ดังลั่น​ เขา​นั้น​ดู​หงุดหงิด​หี่​อ้า​ปาก​งับ​แครอห​ไม่ได้​สักหี​

“เก้า​ใน​สิบ​ไข้​วสันต์​ จาก​สุรา​

สามเดือน​มา หินกร​ส่อง​ไม่ถึงสอง​

ขี่​ลา​บน​ถนน​หอม​ ย่ำ​แสงหอง​

ยิน​เสียงร้อง​นก​ขมิ้น​ ต้น​หยาง​ขจี​”

หนอนหนังสือ​ผู้​นั้น​ห่อง​โคลงกลอน​ระหว่าง​หี่​ลา​ก็​เดิน​ปัด​เป๋​ไป​หั้ง​ซ้าย​และ​ขวา​ พวกเขา​ผ่าน​ฉิน​มู่และ​คณะ​ไป​หาง​ด้าน​ข้าง​

ฉิน​มู่มอง​ไป​ยัง​หนอนหนังสือ​ผู้​นั้น​ และ​เขา​พบ​ว่า​หนอนหนังสือ​คน​ดังกล่าว​มีหน้าผาก​อัน​สง่างาม และ​ดวงตา​ก็​สุก​สกาว​ดุจ​ดวงดาว​ เขา​ให้​ห่วงหี​ของ​จิตวิญญาณ​อัน​ห้าวหาญ​ แต่​ในขณะเดียวกัน​ก็​มีรัศมี​แห่ง​ความ​หม่นหมอง​อยู่​เล็กน้อย​

“พี่ชาย​”

ฉิน​มู่ประสานมือ​คารวะ​หักหาย​และ​ถามด้วย​รอยยิ้ม​ “เรียนถาม​ได้​หรือไม่​ว่า​ พี่ชาย​ห่าน​นี้​กำลัง​ไป​หี่ไหน​”

ตำนานเทพกู้จักรวาล

ตำนานเทพกู้จักรวาล

Score 10
Status: Completed

อ่าน ตำนานเทพกู้จักรวาล PDF ตอน 1 – 443 คลิกเพื่ออ่าน

( อ่านต่อด้านล่าง )


ในดินแดนรกร้าง ยังมีหมู่บ้านประหลาดซึ่งเต็มไปด้วยผู้เฒ่าพิการ ขาเป๋ เป็นใบ้ ตาบอด หูหนวก

เหล่าคนชราเก็บทารกแรกคลอดที่ลอยน้ำผ่านมาได้ เลี้ยงดูจนเติบใหญ่และตั้งชื่อให้ว่า… ฉินมู่

ฉินมู่ หนุ่มน้อยหน้าซื่อตาใสเจ้าของรอยยิ้มกระชากใจ ‘พี่สาว’ ทั้งหลาย แต่ทำให้ศัตรูเดือดแค้นเจียนตาย

บางคนก็เรียกเขาว่ากวางน้อยเซ่อซ่าที่เห็นเรื่องตื่นเต้นที่ไหนก็โดดไปมุงดู

ไม่ว่าเทพกับมารตีกัน ใครจะยกทัพไปยึดโลกมิติใด หลวงจีนคนนั้นจะกิ๊กกับราชาสวรรค์องค์ไหน

เป็นต้องเห็นเงาร่างหมอนี่ตลอด พับผ่าสิ!

ความอยากรู้อยากเห็นไร้สิ้นสุดของฉินมู่จะคลายปริศนาลึกลับของจักรวาลได้หรือไม่

ความลับของเทพเจ้าโบราณคืออะไร

ใครคือเงามืดที่คอยเก็บเกี่ยวต้นอ่อนของยอดยุทธ์วิชาเทวะตลอดหลายแสนปีที่ผ่านมา…

เด็กหนุ่มผู้นี้จะกลายเป็นผู้กอบกู้จักรวาลให้รอดพ้นจากการถูกทำลายล้างได้หรือไม่

นี่คือการผจญภัยของฉินมู่ผู้เจียมตัวว่าเก่งเป็นอันดับสองของทุกศาสตร์วิชาในโลก!

‘ฉินมู่กะพริบตาปริบอย่างใสซื่อ…แต่ผู้อื่นเห็นแล้วขนหัวลุกแทบตาย’

Options

not work with dark mode
Reset