ซากุระคุงกับฉันเคลื่อนย้ายมาอยู่ข้างหลังของกองทัพของพวกมนุษย์ที่กำลังเดินทัพกัน ห่างออกมา 500 เมตร
พวกเราไปซ่อนตัวกันในจุดที่มีต้นไม้ค่อนข้างหนาแน่นเล็กน้อย
“ถ้างั้น… ก่อนอื่นเลย ฉันจะยืนยันตำแหน่งของเจ้า 12 อัครสาวกทั้ง 2 คนนั่นก่อนแล้วกัน”
“ค- ครับ!”
ฉันแอบมองเข้าไปที่กองทัพด้วยความสามารถของเนตรสวรรค์ อารุส อืม อย่างที่คิดเลยนะ สมบัติศักดิ์สิทธิ์ชิ้นนี้นี่ใช้งานสะดวกสบายจริงๆ เลย
…อ๋า อยู่นั่นเอง หาเจอซักที
“อยู่นั่นเอง ตรงท้ายแถว ขี่ม้าตัวใหญ่ๆ ดูโง่ๆ เหมือนกันทั้งคู่เลย”
“ง- งั้นก็ รีบไปกันเถอะครับ…!”
“ใจเย็นๆ ก่อนนะ ซากุระคุง เรายังช่วยตัวประกันไม่เรียบร้อยเลย ไว้จัดการเรื่องนั้นให้เรียบร้อยก่อนสิ”
“อะ… ค- ครับ… ขอโทษนะครับ ผ- ผมรู้สึก… กระวนกระวายน่ะครับ”
“ไม่ต้องกังวลหรอก ฉันเข้าใจความรู้สึกดีเลย”
ก็ครั้งนี้ ครอบครัวของซากุระคุงถูกฆ่านี่นา
ถึงโอกาสที่เรายังคืนชีพได้จะยังสูงอยู่ แต่มันก็ยังเครียดมากอยู่ดีอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
ฉันเองก็รู้จักกับซากุระคุงมานานพอสมควร… ถ้าในแง่อายุ จะบอกว่าเราเป็นเพื่อนสมัยเด็กกันก็ได้ (ถึงอายุจริงๆ ของซากุระคุงจะแก่กว่าฉันเยอะเลยก็เถอะนะ) แต่ฉันไม่เคยซากุระคุงโกรธขนาดนี้มาก่อนเลย
“…ถ้าการช่วยเหลือตัวประกันเรียบร้อยเป็นไปได้ด้วยดี พวกเราจะออกไปทันทีเลยนะ เธอเป่าอัครสาวก 2 คนนั่นกระเด็น แยกพวกมันออกจากทัพหลักไปให้ไกลๆ เลย จากนั้น เราค่อยแยกกันไปจัดการพวกมันแบบ 1 ต่อ 1 แบบนี้ดีมั้ย ซากุระคุง?”
“ค- ครับ เอาแบบนั้น เลยครับ…”
“ไม่เป็นไรนะ คุณเทียน่าต้องกลับมาได้แน่นอน… เพราะงั้น ตอนนี้น่ะ ไปสั่งสอนไอ้เวร 2 ตัวนั่นกันดีกว่า ให้พวกมันได้รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นถ้ามันมายุ่งกับพวกพ้องของเราน่ะ”
“……ครับ!”
ทำไมฉันถึงพูดอะไรที่มันเลื่อนลอยอย่าง ‘คุณเทียน่าต้องกลับมาได้แน่นอน’ ออกมากันนะ
เอาเถอะ มาสนับสนุนซากุระคุงด้วยวิธีที่ฉันถนัดดีกว่า
นี่คือ… การแก้แค้นของฉัน
“…แล้วไหงท่านฟลูเรเทียที่เกษียณไปแล้วถึงกลับมาอยู่ในสนามรบกันล่ะเนี่ย?”
“ต- ตรงนั้น…?”
ถึงจะไม่เข้าใจเหมือนกันว่าอะไรเป็นอะไร แต่ท่านฟลูเรเทียจู่ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้น แถมยังล้อมรอบเหล่าตัวประกันด้วยบาเรียเรียบร้อยแล้ว
ถ้าดูดีๆ แล้ว พวกมนุษย์ในบาเรียนั่นก็งงกันเป็นไก่ตาแตกเลย ทำไมถึง… อ๊ะ ตัวประกันที่โดนดาบจ่ออยู่นั่น… อ้าว ไม่บาดเจ็บเลยเหรอ?
อ๋า เข้าใจแล้ว {เวิร์ล ทริป (บาเรียต่างมิติ)} สินะ
คงต้องเป็นห้ามการทำร้ายกันข้างในบาเรียแน่เลย
ระหว่างที่ฉันกำลังชื่นชมอยู่ เหล่าบรรดานักเวทของพวกเราจำนวนนึงก็เคลื่อนย้ายเข้าไปในบาเรีย ก่อนจะพาตัวประกันกลับไปด้วย
มีมนุษย์บางคนเคลื่อนย้ายตามไปด้วย ก็ไม่เลวนะ ไปโดนยำตีนตายอยู่ที่นู่นซะเถอะ
“เออคือ คือว่า คุณลีนครับ… ตอนนี้ ดีแล้ว หรือยังครับ?”
“อื้อ การช่วยเหลือตัวประกันสำเร็จไปได้ด้วยดีแล้ว จะออกไปตอนไหนก็ได้เลย งั้น ตอนนี้ พวกเราจะไปกันเลยมั้ยล่ะ?”
“ค- ครับ!”
เอาล่ะ เริ่มต้นปฏิบัติการกันเลย
ลำดับที่ 4 กับลำดับที่ 5 สินะ ฉันจะขอสอนอะไรให้พวกแกได้รู้ไว้ก่อนตายซักหน่อยแล้วกัน
ฉันกับซากุระคุงเคลื่อนย้ายไปที่ตำแหน่งที่ฉันเห็นผ่านอารุสทันที
พวกมัน… อยู่ที่นี่ ไม่ผิดแน่
ลำดับที่ 4 ‘วัชระ’ ดูเก็น กับลำดับที่ 5 ‘มหาเกาทัณฑ์’ ฮัซซาร์ด
ดูเหมือนเจ้าพวกนั้นจะเห็นพวกเราแล้วเหมือนกัน ฮัซซาร์ดยกคันธนูอันโตสมฉายานั่นขึ้นมา
แต่ว่านะ จอมเวทที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเราน่ะ ร่ายเวทเอาไว้เรียบร้อยแล้วล่ะ
“{ยืดระยะ เพิ่มพลังขั้นสูง เอนเชนท์ • ช็อคเวฟ (เสริมกำลัง • คลื่นกระแทก)}”
“โว่!?”
“อะไรกัน…!?”
2 คนนั่นถูกโจมตีทีเผลอ และถูกซัดกระเด็นไปไกลลิบเลย
…อูว
ยังทรงพลังเหมือนเดิมเลยนะ
{คลื่นกระแทก} จะควบคุมบรรยากาศเพื่อสร้างแรงผลักแบบง่ายๆ นี่แหละ ซึ่งเป็นเวทที่เหมาะกับมือใหม่หัดเวทลมมากเลยล่ะ
แต่นี่ผลักแรงถึงขั้นควักผิวดินแถวนี้ลอยหายไปด้วยเนี่ย ทำได้ยังไงกันนะ?
“ซากุระคุง พลังเวทนั่น… อึม ไม่เป็นไรจริงๆ ใช่มั้ย?”
“ค- ครับ แค่นั้นน่ะ ไม่เท่าไหร่หรอกครับ…”
“เยี่ยม งั้นก็ตามฉันมาเลย”
“ครับ ง- งั้น ฝากด้วยนะครับ”
ตอนนี้ฉันมีการอวยพรจากดวงจันทร์อยู่ด้วย เพราะงั้นก็สามารถเข้าประชิดได้โดนที่ไม่ต้องใช้เวทเคลื่อนย้ายด้วยซ้ำ
คืนนี้ จันทร์ครึ่งดวง อัตราการเพิ่มพลังสูงขึ้น 3 เท่า แถมที่สำคัญ คุณเรนก็ระบุตำแหน่งของฉัน และคอยเอาเมฆหลบจุดที่ฉันอยู่ไว้ตลอด เพราะงั้นก็เรื่องผลสนับสนุนนี้ไม่มีขาดตอนไปกลางคันแน่นอน
พอพวกเรามาถึง การต่อสู้ก็เริ่มต้นขึ้นแล้ว
ดูเก็นถือหอกสีทองเด่นสะดุดตา และฮัซซาร์ดก็ถือคันธนูอันมโหฬารนั่น ที่ฉันยังดูไม่ออกเลยว่ามันใช้งานยังไง
“…คาดไม่ถึงจริงๆ เลยครับ ไม่คิดเลยว่าจะโดนจับแยกจากกองกำลังเร็วขนาดนี้”
“เห็นด้วยเลย ถ้าพวกเราไม่อยู่ก็ไม่มีใครนำทัพเลยน่ะสิ ต้องรีบกลับไปอย่างไวแล้ว”
เห ดูเหมือนจะคิดว่าพวกแกจะมีปัญญากลับไปได้งั้นสินะ
“มันไม่มีทางที่พวกแกจะได้กลับไปอยู่แล้ว อีกอย่าง ตอนนี้คุณเรนก็กำลังกวาดล้างเจ้าพวกนั้นอยู่กับอีกคนนึง เพราะงั้น ถึงพวกแกกลับไปก็เปล่าประโยชน์ ทิ้งภาระบนบ่าไป แล้วตายอยู่ที่นี่ได้เลย”
“ก็ขึ้นกับพวกเราจะตัดสินใจยังไงล่ะนะ”
“จริงด้วย… ถึงอย่างนั้น ก็จริงอยู่ว่าระดับความยากก็สูงเลย คุณดูเก็นรู้อยู่ใช่มั้ยครับ”
“อา… ได้ยินข่าวลืออยู่ กองทัพจอมมาร ตำแหน่งที่ 2 ของขุนพลจตุเทวอสุรา ‘ขุนพลเทพอสูร’ ลีน บลัดลอร์ด ไม่คิดเหมือนกันว่าจะได้มาเจอเจ้าสัตว์ประหลาดที่ฆ่าผู้กล้าไปที่นี่เลยนะเนี่ย”
อึม? รู้จักฉันด้วยเหรอนั่น?
ไม่นับเรื่องชื่อนะ แต่ฉันว่ายังไม่เคยบอกฉายาของตัวเองไปเลยนี่นา
……?
อ๋า! จำได้แล้ว!
“พวกแกได้ยินเรื่องจากนักผจญภัยระดับ S ที่ชื่อจูเลีย ที่เป็นหนึ่งในคณะผู้กล้าสินะ เป็นไงบ้าง เจ้านั่นตายตามพวกผู้กล้าไปหรือยังล่ะ?”
“อ่า ตายไปแล้ว ก็จากยาพิษของแกไง …ศัตรูของท่านผู้กล้า ข้าจะฆ่าแกที่นี่ซะ เรื่องอย่างแวมไพร์ฆ่าผู้กล้าน่ะ ข้าไม่มีวันยอมรับเด็ดขาด”
“พูดจาน้ำท่วมทุ่งจริงๆ เลยนะ แกลืมเรื่องที่พวกแกทำไว้กับผู้กล้า 2 รุ่นก่อนไปแล้วหรือไงฮะ”
“2 รุ่นก่อน…? อ๋า หมายถึงเด็กผู้หญิงนั่นน่ะเหรอ? เราอุตส่าห์เลี้ยงมันอย่างดีแท้ๆ ดันมาตายเร็วซะได้ เลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆ ไอ้เด็กโง่นั่น”
“อา ท่านอาวิซเป็นมนุษย์ เพราะงั้น พวกเราก็ต้องแก้แค้นให้เขาแน่อยู่แล้วครับ… แต่เด็กนั่นเป็น ‘เครื่องมือ’ นี่ ทำไมเราต้องสนใจด้วยเล่า?”
…โอ้ …โห?
…โยมิน่ะเหรอ โยมิของฉันน่ะเหรอ …เครื่องมือน่ะ?
“……แก ไปตายซะ”
“อะไรนะ?”
“หึ… เอาล่ะ คงได้เวลาแล้วสิ”
พอฉันพึมพำออกมาแบบนั้น ซากุระคุงก็ปรากฏตัวขึ้นข้างหลังพวกมัน
ดูเหมือนเขาจะหายไป แล้วก็เล็งหาช่องว่างเพื่อโจมตีทีเผลออีกรอบนึงสินะ
“{เฮลซ์ ไลท์นิ่ง (สายฟ้านรกภูมิ)}”
แต่พวกนั้นก็หลบมันด้วยสีหน้าใจเย็น
ก็อย่างที่คาดล่ะนะ
“เจ้าพวกมารโง่เง่า มีแต่พวกแกนั่นแหล่ะที่จะไม่รู้ตัวน่ะ…”
งั้นเหรอ พวกแกต่างหากล่ะที่โง่เง่าน่ะ
จังหวะที่พวกแกกระโดดหลบ ――― ซากุระคุงที่ซ่อนอยู่ข้างหลังฉันตลอดเวลาที่ผ่านมาก็…
“{เทมเพสต์เบลด (คมดาบมหาวายุ)}”
ตอนนี้ ในที่สุด เวทมนตร์จริงๆ ก็ถูกร่ายไปแล้ว
“อะไรกัน!?”
“ได้ยังไง…!?”
เวทมนตร์นั่นโดนเจ้า 2 ตัวนั่นแบบเต็มๆ สร้างความเสียหายได้พอสมควรเลย
ซากุระคุงที่ปรากฏตัวอยู่ข้างหลังเจ้าพวกนั้นน่ะ มาจากเวทจิตใจของเขา {เพอร์เฟ็ค วิชั่น (ร่างแยกที่แท้จริง)}
เป็นเวทมนตร์ที่น่ากลัวมากเลยล่ะ มันสามารถสร้างภาพลวงตาที่ดูเหมือนคนคนนึงทุกประการออกมาได้เลย ไม่ว่าอากัปกิริยา, กลิ่น หรือแม้แต่พลังเวทในตัว
อืม ก็สมกับเป็นจอมเวทที่แข็งแกร่งที่สุดของกองทัพจอมมารจริงๆ นะ ผู้ที่สามารถเรียนรู้เวทมนตร์ที่มีอยู่ในโลกได้มากกว่า 90% นี่แหละ สมกับเป็นสัตว์ประหลาดผู้เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ทางเวทมนตร์เลยล่ะ
“สมกับที่เป็นซากุระคุงเลย! งั้นก็ทิ้งดูเก็นไว้นั่นแหละ ดูเก็นคือไอ้คนที่ปลิวไปทางนั้นสินะ?”
“ช- ใช่ครับ! ฝ- ฝากด้วยนะครับ! ผมจะจัดการ ฆ่าฮัซซาร์ดให้เรียบร้อยเองครับ!”
แล้วพวกเราก็แยกกัน โดยที่ฉันมุ่งหน้าไปหาดูเก็น
พอฉันไปถึงจุดที่เจ้านั่นกระเด็นไปตก เจ้านั่นที่บาดเจ็บไปทั่วทั้งตัวก็ยืนตั้งท่าถือหอกที่แสนภูมิใจของมัน… สมบัติศักดิ์สิทธิ์ ‘หอกทองคำ ฟูล’
“เอาเถอะ นี่โดนไปขนาดนั้นยังไม่ยอมตายอีกเหรอ… แต่ แล้วแกจะทำอะไรล่ะ? โดนจับแยกกับเพื่อนแล้ว แถมที่นั่นก็มีซากุระคุงอยู่ด้วย แกคิดว่าคนอย่างแกจะมีปัญญาเอาชนะขุนพลจตุเทวอสุรา 2 คนได้หรือไง?”
“…หึ! เดี๋ยวพวกแกก็เป็นแค่คราบสนิมบนหอกเล่มนี้แล้ว อย่ามาดูถูกอัครสาวกลำดับที่ 4 ให้มันมากนัก ไอ้เด็กมารนี่!”
อย่าปล่อยให้หอกทองคำมีสนิมขึ้นสิ มันเสียของนะ
แต่ก็นะ มันไม่มีทางได้อยู่รอขัดคราบเปื้อนอะไรอยู่แล้ว
“ถ้างั้นก็ ได้เลย ฉัน… ลีน ‘ขุนพลเทพอสูร’ คนนี้ จะฆ่าแกให้เอง”
และจากนี้… ศึกแรกของฉันกับ 12 อัครสาวกลำดับบนก็เริ่มขึ้น