ตอนที่ 575 องค์ชายก็ทำผิดโทษฐานเดียวกับประชาชนได้
ไป๋จื่อคลึงข้อมือที่บัดนี้เป็นรอยแดงชัดเจน อีกทั้งก่อนหน้านี้พวกเขาดันหลังของนางไม่ยอมหยุด เวลานี้จึงรู้สึกเจ็บขึ้นมาอยู่บ้าง
“แม่นางไป๋ เจ้าอย่าเพิ่งโมโหเลยนะ ข้าจะลงโทษพวกที่มีตาหามีแววไม่ให้เจ้าเอง” เฉียนจงหยวนฉีกยิ้มหวาน ยามพูดจากับไป๋จื่อมีแต่ก้มหน้า ทั้งยังโค้งตัว ไหนเลยจะมีท่าทางข่มขวัญยามเผชิญหน้ากับนางเช่นก่อนหน้านี้
กู้ผิงฮุ่ยไม่เข้าใจ จึงตะโกนขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ “นายท่าน เหตุใดต้องลงโทษคนแทนเด็กสาวบ้านนอกเช่นนี้ด้วย มัดมือไปแล้วก็มัดสิ ครั้งก่อนมัดนางมาไม่สำเร็จ ครั้งนี้มัดนางมาสำเร็จได้เช่นนี้ก็นับว่าเป็นสวรรค์เป็นใจแล้ว”
เฉียนจงหยวนถลึงตามองภรรยาทันที เขาเอ่ยด้วยโทสะ “เจ้าหุบปากเสีย ที่นี่ไม่มีธุระของเจ้าแล้ว ยังไม่รีบไปอีกหรือ”
แล้วกู้ผิงฮุ่ยจะไปยอมได้อย่างไร “ที่นี่จะไม่มีธุระของข้าได้อย่างไร จินเอ๋อร์ยังนอนอยู่ในห้องอยู่เลย ท่านจะไล่ข้าไปไม่ได้ เฉียนจงหยวน ท่านกล้าไล่ข้าเช่นนี้ได้อย่างไร”
ไป๋จื่อไม่สนใจฟังพวกเขาตีฝีปากกันไม่จบไม่สิ้น นางพูดตรงประเด็นทันที “ฮูหยินเฉียนพูดถูก เถ้าแก่เฉียนไม่จำเป็นต้องลงโทษคนแทนข้า ข้าไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น เอาละ พวกเจ้าค่อยๆ ก่นด่ากันแล้วกันนะ ที่ร้านของข้ายังมีงานให้ทำมากมาย ขอตัวก่อน”
กู้ผิงฮุ่ยตะคอกเสียงดังทันที “หยุดเดี๋ยวนี้ ที่นี่จวนสกุลเฉียน ไม่ใช่ที่ที่เจ้าคิดอยากจะมาก็มา คิดอยากจะไปก็ไป เจ้าเห็นตนเองเป็นคนสำคัญเกินไปแล้ว!”
“แล้วอย่างไร เจ้ายังอยากกักตัวข้าไว้หรือ แต่ข้าขอเตือนเจ้าสักคำนะ การกระทำของเจ้านั้นผิดกฎหมาย หากเจ้าไม่อยากไปนั่งอยู่ในคุก ก็อย่าทำเรื่องพรรค์นี้จะดีที่สุด” ไป๋จื่อหัวเราะอย่างเย็นชา
นี่ราวกับเป็นเรื่องตลกที่สุดที่กู้ผิงฮุ่ยเคยได้ยินมา “เจ้าจะส่งข้าเข้าคุกรึ ข้าไม่ได้ฟังผิดไปกระมัง หรือว่าเจ้าไม่รู้ว่านายอำเภอเมืองชิงหยวนแห่งนี้เป็นน้องชายแท้ๆ ของข้า”
ไป๋จื่อเอ่ยเสียงดังกังวาน “เป็นน้องชายแท้ๆ ของเจ้าแล้วอย่างไร ถึงแม้เป็นองค์ชายทำความผิด ก็ต้องรับโทษเช่นเดียวกับประชาชน หรือว่าเจ้าคิดว่าตนเองสูงศักดิ์ยิ่งกว่าราชนิกูล หรือในสายตาของเจ้าไม่มีกฎหมายของแคว้นฉู่อยู่เลย หรือจะพูดว่าเจ้าคิดว่าน้องชายของเจ้ามีอำนาจล้นฟ้า ทำให้เจ้าสมดังใจปรารถนาได้ในเมืองชิงหยวนแห่งนี้ หรือแม้กระทั่งภายในอาณาเขตแคว้นฉู่นี้ใช่หรือไม่”
เฉียนจงหยวนยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกไม่ชอบมาพากล เพราะวาจาของไป๋จื่อช่างทำให้คนฟังหวั่นใจเสียจริง
“แม่นางไป๋ ฮูหยินของข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น เจ้าเข้าใจผิดแล้ว”
กู้ผิงฮุ่ยพูดเสียงแหลม “ข้าหมายความตามนั้น เข้าใจไม่ผิดหรอก” นางหันมาถลึงตาใส่ไป๋จื่อ แค่นหัวเราะด้วยอีกเสียงหนึ่ง “องค์ชายทำผิดแล้วต้องรับผิดเช่นเดียวกับประชาชนหรือไม่ ข้าไม่รู้หรอก และข้าก็ไม่สนใจเช่นกัน แต่ข้ากู้ผิงฮุ่ยอยู่ที่เมืองชิงหยวนแห่งนี้ ล้วนทำอะไรได้ตามใจปรารถนา เจ้าเป็นแค่เด็กบ้านนอก ถึงแม้ตอนนี้ข้าจะทำให้เจ้าตาย ก็ไม่ต่างอะไรกับการบี้ยุงตายตัวหนึ่ง เอาละ เจ้าเชื่อฟังข้าหน่อยดีกว่า ไม่เช่นนั้นวันนี้เจ้าเดินเข้ามาได้ ข้าจะส่งเจ้าออกไปในท่านอนเอง”
ไป๋จื่อปรบมือ “น่ากลัวเหลือเกิน ใต้เท้ากู้ ท่านได้ยินหรือไม่” สายตาเฉียบคมของนางมองเห็นกู้เฟิงคังตั้งนานแล้ว และคนที่มากับกู้เฟิงคัง ยังมีเฉินไท่เหรินอีกด้วย มีเฉินไท่เหรินอยู่ด้วยเช่นนี้ นางยิ่งมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม
กู้เฟิงคังเดินหน้าดำคร่ำเคร่งเข้ามา เขามองพี่สาวตนเองด้วยแววตาคมปลาบราวกับใบมีด พร้อมทั้งเอ่ยเสียงทุ้ม “แม่นางไป๋ พี่สาวของข้าเป็นคนพูดจาขวานผ่าซากมาแต่ไหนแต่ไร นางไม่ได้มีเจตนาเช่นนั้นจริงๆ หรอก แม่นางไป๋อย่าได้ถือสานางเลยนะ”
ไป๋จื่อส่ายหน้า “ข้าว่านางไม่ใช่คนพูดจาขวานผ่าซากหรอก นี่เรียกว่ายโสโอหังต่างหาก นางมีนายอำเภอเช่นท่านเป็นที่พึ่ง ชาวบ้านเมืองชิงหยวนอย่างพวกข้าล้วนมีชีวิตอยู่ในกำมือนาง ข้ากลัวเหลือเกิน!”
กู้เฟิงคังหัวเราะแห้งๆ “แม่นางไป๋พูดเล่นแล้ว ก็แค่วาจาไร้สาระของสตรีบ้าคนหนึ่ง อย่าคิดเป็นจริงเป็นจังเลย”
นางหันกลับไปมองกู้เฟิงคังตรงๆ “ใต้เท้ากู้ หากวันนี้ข้าลักพาตัวฮูหยินเฉียนไป ใต้เท้ากู้ก็จะปล่อยข้าไปง่ายๆ เช่นนี้เหมือนกันใช่หรือไม่”
……….
ตอนที่ 576 ดูหมิ่นกฎหมาย
กู้ฟิงฮุ่ยรู้สึกได้แล้วว่าเรื่องนี้ผิดปกติ หลายปีมานี้นอกจากระมัดระวังกิริยาต่อหน้าคุณชายเมิ่งผู้นั้นแล้ว น้องชายของนางก็ไม่เคยพูดจาอ่อนโยนกับใครเช่นนี้มาก่อน หรือเด็กสาวผู้นี้จะใหญ่มากจากไหนจริงๆ ครั้งก่อนน้องชายผู้นี้ไม่ใช่ว่าเคยสั่งโบยนางด้วยหรือ
กู้เฟิงคังถลึงตามองเฉียนจงหยวนอย่างดุดัน ก่อนจะลากเขาไปข้างๆ ถามเสียงเบาว่า “เกิดอะไรขึ้น อย่าบอกนะว่าพวกเจ้าลงมือกับนางแล้ว”
เฉียนจงหยวนก็ได้รับความไม่เป็นธรรมเช่นกัน “พวกข้าก็ไม่รู้ว่าหมอของโถงจี้เหรินคือนาง หากรู้ว่าเป็นนาง ข้าจะลงมือกับนางได้อย่างไร”
กู้เฟิงคังกวาดสายตามองพี่สาวของตนครั้งหนึ่ง ก่อนจะถามว่า “แล้วพี่สาวของข้าทำอะไรบ้าง เจ้าได้บอกกับนางแล้วใช่หรือไม่”
เฉียนจงหยวนยิ้มเจื่อน “ยัง ข้ายังไม่ทันได้บอกนางเลย” เขาไม่ได้เข้าไปในเรือนของกู้ผิงฮุ่ยนานแล้ว และคิดไม่ถึงเช่นกันว่าเรื่องราวจะเลยเถิดมาถึงขั้นนี้
ไฟโทสะสุมอยู่ในท้องของกูเฟิงคัง เขาอยากระบายมันออกมา แต่ก็ไม่รู้ว่าจะระบายมันออกมาอย่างไร จึงทำได้เพียงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วกลับไปยืนที่ตรงหน้าของไป๋จื่อ “แม่นางไป๋ ข้าถามดูแล้ว เรื่องนี้เป็นการเข้าใจผิดกันจริงๆ เอาอย่างนี้ ข้าจะลงโทษพี่สาวและพี่เขยของข้าแทนเจ้า ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่คิดว่า ถือเสียว่าเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิดกัน”
ไป๋จื่อแค่นหัวเราะเสียงเย็น “เข้าใจผิด? เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นมาแล้ว ใต้เท้ากู้เป็นถึงนายอำเภอ คิดว่าแค่มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดก็จบแล้วหรือ หากข้าไป๋จื่อฆ่าคน ทั้งยังฆ่าผิดคนอีกต่างหาก ข้าคงไม่ต้องเข้าคุกใช่หรือไม่”
กู้เฟิงคังหัวเราะแห้งๆ “เช่นนั้นแม่นางไป๋คิดว่าควรจัดการเรื่องนี้อย่างไร”
“ควรจัดการอย่างไรก็ทำตามนั้น ท่านเป็นใต้เท้านายอำเภอ คงต้องเคยจัดการคดีเช่นนี้มานักต่อนัก จัดการตามกฎหมายของแคว้นฉู่เถอะ ข้าคิดว่าใต้เท้ากู้คงไม่อยากให้ชื่อเสียงนายอำเภอของท่านเสื่อมเสียเพราะเรื่องพรรค์นี้อย่างแน่นอน ท่านว่าข้าพูดถูกต้องหรือไม่” ไป๋จื่อกล่าว
ต่อให้กู้เฟิงคังจะโมโหกู้ผิงฮุ่ยเพียงใด แต่ถึงอย่างไรนางก็เป็นพี่สาวแท้ๆ ของเขา จะให้เขาออกคำสั่งจับพี่สาวของตนเองหรือ เขาทำเช่นนั้นไม่ลงหรอก
กู้ผิงฮุ่ยเห็นน้องชายลำบากใจ ในใจก็เริ่มลนลานขึ้นมาบ้างแล้ว นางรีบเดินเข้าไปหาไป๋จื่อ ยิ้มพร้อมใบหน้าที่บัดนี้ไม่น่ามองแล้ว “แม่นางไป๋ เรื่องนี้เป็นความผิดของข้าเอง ข้าไม่ควรทำเรื่องโง่เง่าเช่นนี้เลยจริงๆ แม่นางไป๋เป็นหมอ จะต้องเข้าใจความรู้สึกของข้าเป็นแน่ บุตรชายของข้าป่วยหนัก ข้าหมดหนทางแล้วจริงๆ ถึงได้ทำเรื่องโง่ๆ ออกมาได้”
ไป๋จื่อเลิกคิ้ว เอ่ยเสียงดังว่า “บุตรชายของเจ้าป่วย เจ้าก็ดูหมิ่นกฎหมายแล้วหรือนี่ ทั้งยังอาศัยว่าตนมีใต้เท้านายอำเภอเป็นที่พึ่ง วางอำนาจบาตรใหญ่ตามใจชอบ อยากจับใครมารักษาโรคให้บุตรชายก็ทำได้ พี่สาวของนายอำเภอคนหนึ่งกล้าทำเช่นนี้ แล้วใต้หล้านี้จะวุ่นวายได้ถึงเพียงใด จะยังมีกฎหมายใดน่าเชื่อถืออีก”
กู้เฟิงคังเห็นว่าไป๋จื่อพูดมาถึงขั้นนี้แล้ว ในใจพลันเริ่มร้อนรนขึ้นมา เขารีบส่งสายตาไปหาเฉินไท่เหริน ทั้งยังขยิบตาให้ไม่ยอมหยุด ด้วยหวังว่าอีกฝ่ายจะช่วยเขาได้
เฉินไท่เหรินเอาตัวรอดเก่งมาแต่ไหนแต่ไร สำหรับเรื่องนี้ เขาย่อมยืนอยู่ข้างเดียวกับไป๋จื่ออยู่แล้ว ทว่าต่อหน้ากู้เฟิงคังเช่นนี้ เขาก็ไม่อาจทำเป็นมองไม่เห็น เพราะถึงอย่างไรเสียก็ยังต้องไปมาหาสู่กับเขาในเมืองชิงหยวนแห่งนี้ต่อไป
เขาเดินไปถึงข้างกายของกู้เฟิงคัง กระซิบที่ข้างหูว่า “ใต้เท้า เรื่องนี้วุ่นวายขนาดนี้แล้ว ตอนนี้แม่นางไป๋กำลังโกรธมาก ความโกรธของนางก็ยากจะสงบลงได้เสียด้วย แต่เรื่องนี้พวกเราก็เข้าใจได้ เพราะนางเจอเรื่องนี้เองกับตัว เป็นใครก็ไม่อาจสงบใจได้”
“เอาอย่างนี้ดีกว่า ท่านทำตามใจของแม่นางไป๋ไปก่อน ขังฮูหยินเฉียนชั่วคราว ขังนางในเชิงสัญลักษณ์สักสองสามวัน ถือเสียว่าเป็นการดับโทสะในใจของแม่นางไป๋ ส่วนศาลาว่าการเป็นอาณาเขตของท่าน ข้าว่าฮูหยินเฉียนอยู่ข้างในนั้นคงไม่มีทางได้รับความลำบากอะไร”