ตำนานเทพกู้จักรวาล 776 ข้างในกับดัก ข้างนอกกับดัก

ตอนที่ 776 ข้างในกับดัก ข้างนอกกับดัก

ฉิน​มู่ตรวจดู​อาการ​บาดเจ็บ​ของ​พุทธเจ้า​ท้าว​สักกะ​ และ​เขา​ก็​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ “แม้ว่า​กระดูก​จะหัก​ไป​หลาย​แห่ง​ แต่​ครูบา​สวรรค์​วิชา​บู๊​ก็​ควบคุม​กำลัง​ไว้​เป็น​อย่าง​ดี​ ไม่มีบาดแผล​ไหน​บน​ร่าง​ของ​พุทธเจ้า​ที่เป็น​อาการ​บาดเจ็บสาหัส​ จิตวิญญาณ​ดั้งเดิม​ของ​ท่าน​ไม่ได้รับบาดเจ็บ​”

พุทธ​จ้าว​ท้าว​สักกะ​มอง​ไป​ที่​เขา​ด้วย​สีหน้า​อัน​บรรยาย​ผสม​ปนเป​ เมื่อ​ครู่​เขา​คิด​ว่า​ฉิน​มู่เพียงแต่​ล้อเล่น​เท่านั้น​ แต่​ไม่คาดคิด​เลย​ว่า​สมบัติ​เท​วะ​สะพาน​เท​วะ​ของ​เขา​จะแตก​ทำลาย​ไป​จริงๆ​

“ถึงอย่างไร​พวกเรา​ก็​เป็น​สหาย​เก่าแก่​ เขา​ไม่ฆ่าข้า​หรอก​ แต่​อีก​ทาง​หนึ่ง​ เจ้า…”

เขา​ถอด​ถอนใจ​ออกมา​ “สมบัติ​เท​วะ​สะพาน​เท​วะ​ของ​เจ้าพิการ​ไป​โดยสิ้นเชิง​ จาก​วันนี้​เป็นต้นไป​… ไอ้​ลูก​เต่า​เฒ่านั่น​ อำมหิต​เกินไป​แล้ว​! เขา​ไม่รู้​หรือ​อย่างไร​ว่า​เจ้าเป็น​ทายาท​ของ​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​”

แต่ทว่า​ พุทธเจ้า​ท้าว​สักกะ​ก็​รู้​ว่า​ครูบา​สวรรค์​วิชา​บู๊​ไม่กลัว​หน้าอินทร์หน้าพรหม​ที่ไหน​ เขา​ไม่เคย​ไว้​หน้าแก่​ใครๆ​ และ​เมื่อ​ลูกหลาน​ของ​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ก่อ​อาชญากรรม​และ​สร้าง​ความปั่นป่วน​ เขา​ก็​จะสังหาร​ไป​โดย​ไม่พูดพร่ำทำเพลง​ จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​เอง​ก็​ไม่กล่าว​อะไร​เมื่อ​เขา​ทราบ​ถึงเรื่อง​พวก​นั้น​

“อันที่จริง​แล้ว​ มัน​ไม่เกี่ยวข้อง​กับ​ท่าน​”

ฉิน​มู่เคลื่อนไหว​ไป​รอบ​ๆ ตัว​เขา​ และ​นิ้ว​ของ​เขา​เริ่ม​เคลื่อนไหว​ขึ้นๆ ลงๆ​ ก่อ​ขึ้น​มาเป็น​รูปเงา​ต่างๆ​ เช่น​ดอกบัว​ แจกัน​วิเศษ​ ทวยเทพ​ และ​พุทธเจ้า​ทั้งหลาย​ เขา​ใช้วิชา​เสกสรร​เพื่อ​เชื่อมต่อ​กระดูก​อัน​แตกหัก​ “เขา​และ​ข้า​มีข้อ​สัญญาต่อกัน​ เขา​จะปกป้อง​จักรวรรดิ​สันติ​นิรันดร์​ และ​ข้า​ก็​จะบุกเบิก​สมบัติ​เท​วะ​สะพาน​เท​วะ​อัน​ถูก​ทำลาย​ไป​แล้ว​ขึ้น​มาใหม่​ ด้วย​วิธี​นี้​ข้า​ก็​จะสามารถ​แก้ไขปัญหา​ของ​ทุกๆ​ คนใน​โลก​สู้วัว​ ใน​แดน​โบราณ​วินาศ​ และ​ใน​จักรวรรดิ​สันติ​นิรันดร์​ เมื่อ​รู้​นี้​ข้า​ล้อ​ท่าน​เล่น​ที่​บอ​กว่า​ไป​รับ​หมัด​แทน​ท่าน​น่ะ​”

พุทธเจ้า​ท้าว​สักกะ​ก็​ยัง​นิ่วหน้า​อยู่ดี​ “แต่​ถึงอย่างไร​ การ​ที่​เขา​ทำลาย​สมบัติ​เท​วะ​สะพาน​เท​วะ​ของ​เจ้าไป​ทั้งๆ​ แบบนี้​ มัน​ก็​มากเกินไป​หน่อย​”

ฉิน​มู่หยุด​มือ​ และ​แขน​หนึ่ง​พัน​แขน​ก็​ปรากฏ​รอบ​ๆ กาย​เขา​ แต่ละ​แขน​ผนึก​วิชา​มุทรา​ที่​แตก​ต่างกัน​ไป​ ฉิน​มู่ตบ​มุทรา​เหล่านั้น​ลง​ไป​บน​ร่าง​ของ​ฝ่ายตรงข้าม​ เขา​รั้ง​แขน​ทั้ง​หนึ่ง​พัน​กลับมา​ และ​รูปเงา​ต่างๆ​ ก็​จางหาย​ไป​ เขา​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ “ทุบหม้อข้าว​ก่อน​บุก​เมือง​ ทำให้​ข้า​กล้าหาญ​ ตัดหนทาง​ถอย​ของ​ข้า​ มีก็​แต่​แบบนี้​ข้า​ถึงจะฟันฝ่า​ไป​ข้างหน้า​ได้​ ข้า​กลับ​รู้สึก​ขอบคุณ​เขา​เสีย​ด้วยซ้ำ​ ที่​ริเริ่ม​เป็น​ผู้ทำลาย​สมบัติ​เท​วะ​ให้​แก่​ข้า​ ปัดเป่า​ความกังวล​ของ​ข้า​ทั้งหลาย​ โดย​ไม่มีความคิด​วอกแวก​หลงเหลือ​ ก็​ไม่มีความลังเล​ใน​หัวใจ​ของ​ข้า​อีกต่อไป​!”

พุทธเจ้า​ท้าว​สักกะ​ลุกขึ้น​ยืน​และ​ขยับเขยื้อน​ร่างกาย​ เขา​ตระหนัก​ว่า​อาการ​บาดเจ็บ​ของ​เขา​หาย​ดี​ไม่มาก​ก็​น้อย​แล้ว​ เขา​ตื่นตระหนก​ ลอบ​อุทาน​ใน​ใจ จากนั้น​เขา​ก็​ส่าย​ศีรษะ​ “เจ้าคล้าย​กับ​เขา​มาก​ พวก​เจ้าทั้งสอง​คน​ล้วนแต่​เป็น​คนบ้า​”

“ถ้าไม่บ้า​สักครั้ง​จะใช้ชีวิต​คุ้ม​ได้​อย่างไร​”

ฉิน​มู่ปรับ​ลมหายใจ​ให้​สงบ​และ​มีสายตา​อัน​ลึกล้ำ​ “ข้า​ได้​เรียน​วิชา​บู๊​จาก​ครูบา​สวรรค์​วิชา​บู๊​อยู่​ระยะ​หนึ่ง​ สิ่งที่​ข้า​เรียน​มาจาก​เขา​มิใช่วิชา​ฝึกปรือ​และ​ทักษะ​เท​วะ​ มัน​คือ​จิตวิญญาณ​ของ​เขา​แห่ง​มรรคา​บู๊​ อะไร​คือ​จิตวิญญาณ​แห่ง​มรรคา​บู๊​ ก็​คือ​การ​ทุ่ม​สุดตัว​สุดใจ​ให้​แก่​มรรคา​บู๊​! ใน​เมื่อ​ข้า​มีจิตวิญญาณ​เช่นนี้​ ข้า​ก็​จะต้อง​ลง​ไป​ลุย​ให้​ถึงที่สุด​ และ​บุกบั่น​ไป​จนกว่า​จะถึงความสำเร็จ​! ยิ่งไปกว่านั้น​…”

เขา​เผย​ยิ้ม​และ​กล่าว​ “ใน​ยุค​บรรพกาล​ ผู้คน​เจ็ด​คน​ที่​ได้​บุกเบิก​สมบัติ​เท​วะ​ได้รับการยกย่อง​ให้​เป็น​เจ็ด​วิญญูชน​สวรรค์​ พวกเขา​เริ่มต้น​จาก​ไม่มีอะไร​เลย​และ​บุกเบิก​สมบัติ​เท​วะ​ทั้ง​เจ็ด​ กำหนด​ทิศทาง​ระบบ​ฝึก​วร​ยุทธ​แห่ง​สมบัติ​เท​วะ​ให้​แก่​อนุชน​รุ่นหลัง​ พวกเขา​สร้าง​บางสิ่ง​ขึ้น​มาจาก​ความว่างเปล่า​ และ​บัดนี้​ข้า​ก็ได้​รู้​แล้ว​ว่า​ข้างหน้า​ของ​ข้า​มีบางสิ่ง​รอ​อยู่​ ก็​จะง่าย​ขึ้น​ที่​ข้า​จะบุกเบิก​เพื่อให้​ได้มา​ซึ่งสิ่งนั้น​ ข้า​จะต้อง​บุกเบิก​สมบัติ​เท​วะ​สะพาน​เท​วะ​สำเร็จ​อย่าง​แน่นอน​”

เขา​ครอบครอง​ความเชื่อ​อัน​มั่นคง​จน​ไร้​ประมาณ​

ความเชื่อ​เช่นนี้​มิใช่เพียงแค่​มาจาก​กา​ยา​จ้าว​แดนดิน​ที่​ผู้ใหญ่บ้าน​กล่าวถึง​ แต่​มัน​ยัง​มาจาก​ช่วงเวลา​อัน​ยาวนาน​ของ​ประสบการณ์​และ​ฟันฝ่า​การ​ทดสอบ​

ตั้งแต่​เมื่อ​เขา​ย้อน​เวลา​กลับ​ไป​ยัง​อดีต​ และ​หวนคืน​สู่ปี​ศักราช​แรก​แห่ง​หลง​ฮั่น​ ได้​พบพาน​กับ​เจ็ด​วิญญูชน​สวรรค์​ และ​ได้​ประสบ​ความเปลี่ยนแปลง​มากมาย​ใน​ปี​แรก​แห่ง​หลง​ฮั่น​ ความมั่นใจ​และ​ความเชื่อ​ของ​เขา​ก็​ยิ่ง​แข็งแกร่ง​ขึ้น​ทุกที​ๆ!

ที่​ชุมนุม​สระ​หยก​ วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ถูก​ลอบสังหาร​ และ​วิธีการ​บรรลุ​เป็น​เทพเจ้า​ผ่าน​ปราสาท​สวรรค์​ อัน​น่าจะ​ถูก​วิญญูชน​สวรรค์​ฮ่าว​เป็น​ผู้​ถ่ายทอด​ ก็​กลายเป็น​ถ่ายทอด​ออก​มาจาก​ตัว​เขา​แทน​

คือ​เขา​นี่แหละ​ที่​แปลงร่าง​เป็น​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ และ​คิดค้น​วิธีการ​บรรลุ​เป็น​เทพเจ้า​ผ่าน​ปราสาท​สวรรค์​ ถ่ายทอดวิชา​ฝึกปรือ​นี้​ไป​ให้​กับ​ทุกๆ​ คน​!

พรสวรรค์​และ​ปฏิภาณ​ของ​เขา​ไม่ด้อย​ไป​กว่า​ใครๆ​ ที่นั่น​!

พุทธเจ้า​ท้าว​สักกะ​มอง​ไป​ที่​เขา​ด้วย​อารมณ์​อัน​ผสม​ปนเป​ เขา​สามารถ​มองเห็น​เงาของ​คน​อีก​ผู้​หนึ่ง​ใน​ชายหนุ่ม​ตรงหน้า​

เมื่อ​ครั้งกระโน้น​ จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ก็​บุกบั่น​ไป​ด้วย​ความทรหด​และ​มีปณิ​ทาน​และ​เจตจำนง​มั่น​อัน​ยิ่งใหญ่​ นั่น​จึงเป็นเหตุให้​เขา​สามารถ​รวบ​รวมยอด​อัจฉริยะ​จาก​ทุก​ศาสตร์​แขนง​ รวบรวม​ผู้คน​ที่​มีความฝัน​ต่างๆ​ กัน​ไป​

เขา​คิดในใจ​ เขา​นี้​คึกคัก​และ​มาก​ด้วย​ชีวิตชีวา​เสีย​ยิ่งกว่า​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ และ​อยู่​ไม่ติด​ที่​เท่ากับ​บรรพชน​ของ​เขา​ ยิ่งไปกว่านั้น​เขา​ก็​ยัง​รักสนุก​ชอบ​ละ​เล่น​เป็น​อย่างยิ่ง​ แต่​จิต​มุ่งมั่น​ของ​เขา​ยิ่ง​แข็งแกร่ง​มั่นคง​กว่า​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​เสีย​อีก​ เขา​นั้น​ทรหดอดทน​มากกว่า​ และ​ยิ่ง​กล้า​ท้าทาย​อุปสรรค​ยิ่งกว่า​

เขา​เผย​รอยยิ้ม​ออกมา​และ​ถาม “ตั้งแต่​วันนี้​เป็นต้นไป​ เจ้ากะ​ว่า​จะทำ​อะไร​”

ฉิน​มู่สายตา​วูบ​ไหว​ และ​ย้อนถาม​ไป​ด้วย​รอยยิ้ม​ “ไม่ทราบ​ว่า​พุทธเจ้า​สนใจ​ที่จะ​ไป​ชมดู​สถานที่​ของ​พระ​แม่ธรณี​หรือไม่​”

พุทธเจ้า​ท้าว​สักกะ​สีหน้า​แปรเปลี่ยน​เล็กน้อย​ และ​ดูเหมือน​ไม่เต็มใจ​นัก​

ฉิน​มู่กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ “ท่าน​เป็น​หนึ่งในสี่​ราชา​สวรรค์​ กล้า​แบกรับ​ความผิด​อัน​ใหญ่​มหึมา​จาก​พุทธ​เกษตร​เพื่อ​หลบหนี​การ​ไล่ล่า​ของ​จักรพรรดิ​แดง​ หากว่า​พุทธเจ้า​ไม่กริ่งเกรง​จักรพรรดิ​แดง​ ท่าน​จะไป​กลัว​พระ​แม่ธรณี​ที่​ตาย​ไป​แล้ว​ได้​อย่างไร​กัน​”

“ข้า​ไม่ได้​กลัว​พระ​แม่ธรณี​ ข้า​กลัว​เอา​เจ้าเข้าไป​พัวพัน​”

พุทธเจ้า​ท้าว​สักกะ​ถอนหายใจ​ “การ​ที่​เจ้าพัวพัน​กับ​ซาก​ทัพ​แห่ง​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​มาก​จน​เกินไป​นั้น​ไม่ใช่เรื่อง​ดี​เอา​เสีย​เลย​จริงๆ​ มัน​อันตราย​เกินไป​ต่อตัว​เจ้า พลัง​อำนาจ​ของ​ซาก​ทัพ​แห่ง​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ยัง​ถูก​รักษา​เอาไว้​เป็น​ส่วนมาก​ สันติ​นิรันดร์​มิได้​อยู่​ใน​สายตา​ของ​สภาสวรรค์​นอก​โลก​ แต่​หากว่า​เจ้าผนวก​เอา​ซาก​ทัพ​แห่ง​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​เข้าไป​ด้วย​ มัน​ก็​จะกลายเป็น​บางสิ่ง​อัน​พวกเขา​ไม่อาจ​มองข้าม​ได้​อีกต่อไป​ ครูบา​สวรรค์​คน​ตัด​ไม้เป็น​ผู้นำ​แห่ง​สี่ครูบา​สวรรค์​ แต่​ก็​ยังมี​บางอย่าง​ที่​เขา​มองไม่เห็น​ ยกตัวอย่างเช่น​ การ​ให้​ซาก​ทัพ​ที่​เหลือ​รอด​ของ​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​เข้ามา​สนับสนุน​สันติ​นิรันดร์​อย่าง​สุดตัว​นั้น​ เป็นการ​เดินหมาก​ที่​ผิดพลาด​ใน​ความเห็น​ของ​ข้า​”

ฉิน​มู่รับฟัง​อย่าง​เงียบเชียบ​

พุทธเจ้า​ท้าว​สักกะ​อธิบาย​ “สภาสวรรค์​นอก​โลก​มิได้​กริ่งเกรง​สันติ​นิรันดร์​ เขา​กริ่งเกรง​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ พวกเขา​เกรงกลัว​หมู่บ้าน​ไร้กังวล​ ด้วย​การ​ใช้พลัง​อำนาจ​แห่ง​ยุคสมัย​ก่อตั้ง​มาสนับสนุน​การ​ผงาด​ของ​มาของ​สันติ​นิรันดร์​ นี่​ก็​จะต้อง​ทำให้​สถาสวรรค์​นอก​โลก​พุ่ง​เป้า​หมายหัว​สันติ​นิรันดร์​อย่าง​แน่นอน​ เพียงแค่​สันติ​นิรันดร์​นั้น​เป็น​บางอย่าง​ที่​พวกเขา​อาจจะ​เมินเฉย​ไป​ได้​ แต่​บัดนี้​ พวกเขา​ไม่มีทางเลือก​อื่น​ นอก​เสีย​จาก​จะให้ความสำคัญ​อย่างยิ่งยวด​ ยิ่งไปกว่านั้น​ด้วย​การ​ทลาย​ฝ่าเวท​ปิดผนึก​ของ​แดน​ก่อกำเนิด​ขึ้น​มาในเวลานี้​ ข้า​ก็​มองเห็น​แต่​อนาคต​อัน​ย่ำแย่​ไป​ยิ่งกว่า​เดิม​”

ข้างหลัง​ศีรษะ​ของ​เขา​ วง​รัศมี​แสงพุทธธรรม​ที่​ครูบา​สวรรค์​วิชา​บู๊​ได้​ดับ​ไป​ ก็​จุด​แสงขึ้น​มาใหม่​อีกครั้ง​ “ซาก​ทัพ​แสงฉาน​ตั้ง​ฐาน​อยู่​ที่​ทะเล​ใต้​ ซาก​ทัพ​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ตั้ง​ฐาน​อยู่​ใน​แดน​โบราณ​วินาศ​ บัดนี้​เมื่อ​ผนึก​ของ​แดน​ก่อกำเนิด​ได้​แตก​ทำลาย​ออกมา​ ซาก​ทัพ​จักรพรรดิ​สูงส่งก็​จะปรากฏ​ขึ้น​มาใหม่​อีกครั้ง​ด้วย​ สันติ​นิรันดร์​ จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ จักรพรรดิ​สูงส่ง และ​แสงฉาน​ ผู้รอดชีวิต​และ​ยอด​ฝีมือ​ชั้นนำ​ทั้งหลาย​จาก​สี่ยุคสมัย​ล้วนแต่​มาปรากฏตัว​อยู่​ใน​โลก​มิติ​ใบ​เดียวกัน​ใน​ตอนนี้​”

ฉิน​มู่พลัน​ตัว​สั่นเทิ้ม​

พุทธเจ้า​ท้าว​สักกะ​กล่าว​ต่อ​ “เจ้ายัง​ไม่ได้​ไปดู​ที่วัด​ใหญ่​ฟ้าคำราม​ใช่ไหม​ ครั้งหนึ่ง​ข้า​เคย​เป็น​ยูไล​อยู่​ที่นั่น​ ดังนั้น​ข้า​จึงรู้​ว่า​วัด​ใหญ่​ฟ้าคำราม​มีหน้าตา​อย่างไร​ก่อนที่​มัน​จะถูก​ปิดผนึก​ ฮี่ๆ ตอนนี้​เมื่อ​แดน​ก่อกำเนิด​ทลาย​ฝ่าเวท​ปิดผนึก​ออกมา​ เขา​พระ​สุเมรุ​ของวัด​ใหญ่​ฟ้าคำราม​ก็​อาจจะ​กลาย​เป็นหนึ่งเดียว​กับ​เขา​พระ​สุเมรุ​แห่ง​พุทธ​เกษตร​ เหนือ​วัด​ใหญ่​ฟ้าคำราม​ขึ้นไป​นั้น​ มิใช่ใด​อื่น​นอก​เสีย​จาก​สวรรค์​ยี่สิบ​ชั้น​แห่ง​พุทธ​เกษตร​!”

ฉิน​มู่รู้สึก​เลือด​ใน​กาย​เย็นเฉียบ​

“แม้ว่า​พุทธ​เกษตร​จะถูกลาก​เข้ามา​พัวพัน​กับ​การ​ทลาย​ฝ่าเวท​ปิดผนึก​ของ​แดน​ก่อกำเนิด​ แต่​มียุคสมัย​ต่างๆ​ มากมาย​ อิทธิพล​อำนาจ​ต่างๆ​ มากมาย​ที่​สภาสวรรค์​ล้วนแต่​ต้องการ​กำจัด​ บัดนี้​พวกเขา​ทั้งหมด​ล้วน​มาปรากฏ​ใน​แดน​ก่อกำเนิด​แล้ว​ นี่​มัน​หมายความว่า​อย่างไร​ล่ะ​ นี่​หาก​ไม่ใช่สัญญาณของ​ความขัดแย้ง​ภายใน​ มัน​ก็​หมายถึง​การทำลายล้าง​จน​สิ้นซาก​!”

พุทธเจ้า​ท้าว​สักกะ​ถอนหายใจ​ และ​เขา​ก็​เดิน​ออก​ไป​จาก​หมู่บ้าน​ “ไม่ว่า​จะเป็น​ความขัดแย้ง​ภายใน​หรือ​การทำลายล้าง​จน​สิ้นซาก​ ทั้งสอง​หนทาง​ก็​เป็น​ภัยพิบัติ​อัน​ยิ่งใหญ่​แก่​สันติ​นิรันดร์​ ใน​คราวนี้​ ผู้​ที่​ไล่ล่า​ข้า​มิใช่เพียงแค่​จักรพรรดิ​แดง​ฉีเสีย​อวี๋​ แต่​สภาสวรรค์​ยัง​ได้​เคลื่อนย้าย​กำลัง​พล​ของ​ยอด​ฝีมือ​คนอื่นๆ​ อีก​ หากว่า​ข้า​ตาม​เจ้าไป​ด้วย​ก็​มีแต่​พัวพัน​ให้​เจ้าต้อง​เดือดร้อน​ อย่า​ก่อเรื่อง​วุ่นวาย​อะไร​เลย​ มุ่งหน้า​ไป​ที่วัด​ใหญ่​ฟ้าคำราม​เถอะ​ แล้ว​ลัทธิ​พุทธ​จะประกัน​ความปลอดภัย​ให้​แก่​เจ้า แต่ทว่า​…มัน​ก็​เป็น​เพียงแค่​ชั่วคราว​เท่านั้น​ ตอนนี้​พุทธ​เกษตร​ก็​กำลัง​ตก​อยู่​ใน​สภาวะ​หมิ่นเหม่​อันตราย​ หลังจากที่​แดน​ก่อกำเนิด​ทลาย​ฝ่าผนึก​ออกมา​”

แขน​เสื้อ​ของ​เขา​สะบัด​ไป​ใน​สายลม​ และ​ร่าง​ของ​เขา​ก็​เหิน​เหาะ​จากไป​

ฉิน​มู่มอง​ส่งเขา​และ​เงียบงัน​ไป​นาน​

สี่มหา​ครูบา​สวรรค์​และ​สี่มหา​ราชา​สวรรค์​แห่ง​ยุคสมัย​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ พวกเขา​ทุกคน​ล้วนแต่​เป็น​ปัจเจก​ที่​มีความ​โดดเด่น​เหนือ​ธรรมดา​ ไม่ว่า​จะเป็น​ครูบา​สวรรค์​วิชา​บู๊​ที่​ใน​สมอง​มีแต่​กล้ามเนื้อ​ หรือ​พุทธเจ้า​ท้าว​สักกะ​อัน​ดูเหมือน​จะลอย​เลื่อน​อยู่​เหนือ​โลกียวิสัย​ ต่าง​ก็​มีปัญญา​ญาณอัน​วิเศษ​เอกอุ​

เมื่อ​พุทธเจ้า​ท้าว​สักกะ​ได้​กล่าวถึง​การ​ที่​ผู้คน​แห่ง​สี่่ยุคสมัย​เข้ามา​รวมตัวกัน​ใน​แดน​ก่อกำเนิด​ นี่​ก็ได้​ทำให้​เลือด​ใน​กาย​ฉิน​มู่เย็นเฉียบ​จริงๆ​ และ​มอง​เห็นภาพ​อัน​น่าสะพรึงกลัว​ข้างหน้า​

นี่​คือ​โอกาส​อัน​เลิศ​ล้ำ​ ที่​สภาสวรรค์​นอก​โลก​จะฉวย​ใช้กำจัด​ยุคสมัย​ทั้ง​สี่!

หากว่า​สภาสวรรค์​ไม่ต้องการ​สิ้นเปลือง​กำลัง​ทหาร​และ​อิทธิพล​อำนาจ​ พวกเขา​ก็​สามารถ​นั่ง​ชมดู​ความขัดแย้ง​ภายใน​ที่จะ​เกิดขึ้น​ใน​แดน​ก่อกำเนิด​ได้​ พวกเขา​สามารถ​ปล่อย​ให้​ยุคสมัย​ทั้ง​สี่ต่อสู้​กันและกัน​จนตาย​ไป​ข้าง​หนึ่ง​ แล้ว​ค่อย​ลงมา​เก็บเกี่ยว​ผลประโยชน์​!

“ถ้าอย่างนั้น​ การ​ที่​เวท​ปิดผนึก​บน​แดน​ก่อกำเนิด​ถูก​คลาย​ออก​ไป​ นั้น​มาจาก​ความบังเอิญ​ที่​อักษร​รู​น​สนามแม่เหล็ก​ปรากฏ​ใน​มือ​ของ​ท่าน​ยาย​ซี หรือว่า​มัน​ถูก​วางแผน​เอาไว้​ล่วงหน้า​กัน​แน่​”

ฉิน​มู่พึมพำ​กับ​ตนเอง​

ใน​ยุคสมัย​ที่​ทักษะ​เท​วะ​เบ่งบาน​ การปฏิรูป​ได้​ทำให้​มรรคา​ วิชา​ และ​ทักษะ​เท​วะ​ทุกชนิด​ถูก​สร้างสรรค์​ขึ้น​มา

แม้กระทั่ง​ทักษะ​เท​วะ​ที่​สาบสูญ​ไป​ใน​ประวัติศาสตร์​ก็​ถูก​ค้นพบ​ขึ้น​มาใหม่​อีกครั้ง​

หากว่า​บุคคล​ที่​ปิดผนึก​แดน​ก่อกำเนิด​ ได้​วางเงื่อนไข​เอาไว้​บน​เวท​ปิดผนึก​ให้​มัน​คลายตัว​ออกมา​เมื่อ​แผ่น​ปฐพี​แห่ง​แดน​ก่อกำเนิด​เข้าไป​แตะต้อง​กับ​อักษร​รู​น​สนามแม่เหล็ก​ที่​ถูก​ค้นพบ​ขึ้น​มาใหม่​…ถ้าเช่นนั้น​มัน​ก็​จะกลาย​เป็นสาเหตุ​ของ​สถานการณ์​ปัจจุบัน​ใน​แดน​โบราณ​วินาศ​

อัน​ก็​หมายความว่า​บุคคล​ผู้​นั้น​ได้​วางกับดัก​นี้​เอาไว้​ตั้งแต่​ยุคสมัย​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​แล้ว​!

ทุกๆ​ คน​ ไม่ว่า​จะเป็น​ซาก​ทัพ​แสงฉาน​ โอรส​เทพ​แสงฉาน​ พระ​แม่ธรณี​ ซาก​ทัพ​จักร​พร​ดิ​ก่อตั้ง​ หรือ​แม้กระทั่ง​สันติ​นิรันดร์​ พวกเขา​ก็​ล้วน​ถูก​กวาด​เข้ามา​ไว้​ใน​กับดัก​นี้​ แม้แต่​ยี่สิบ​สรวงสวรรค์​แห่ง​พุทธ​เกษตร​ก็​ถูกต้อน​เข้ามา​ด้วย​!

การ​วางกับดัก​เอาไว้​ล่วงหน้า​หลาย​หมื่น​ปี​ เพียง​เพื่อ​ชั่วพริบตา​ที่จะ​กวาดต้อน​ทั้งหมด​ใน​ร่างแห​เดียว​นั้น​ ทั้ง​ยัง​สามารถ​สลาย​ภยันตราย​อัน​อาจจะ​เกิดขึ้น​มาในอนาคต​ได้​อีก​ แผนการ​และ​มันสมอง​เช่นนี้​เป็นสาเหตุ​ที่​ทำให้​ฉิน​มู่เลือด​ใน​กาย​เย็นเฉียบ​

สถานที่​เดียว​ที่​มิได้​อยู่​ใน​กับดัก​ ก็​คือ​หมู่บ้าน​ไร้กังวล​!

ฉิน​มู่สูด​ลมหายใจ​ลึก​ยาว​ และ​สายตา​ของ​เขา​ก็​กระจ่าง​สดใส​ขึ้น​มาก​ทุกที​ ตราบเท่าที่​หมู่บ้าน​ไร้กังวล​มิได้​อยู่​ใน​กับดัก​ สภาสวรรค์​นอก​โลก​ก็​จะยัง​ไม่ลงมือ​ใดๆ​ พวกเขา​กำลัง​รอจังหวะ​เวลา​ที่​พวกเขา​จะสามารถ​กำจัด​ตัวปัญหา​ทั้งหมด​ของ​พวกเขา​ไป​ได้​ชั่วนิรันดร์​ เมื่อ​หมู่บ้าน​ไร้กังวล​เข้ามา​ใน​กับดัก​นี้​ ก็​จะเป็นเวลา​นั้น​

หมู่บ้าน​ไร้กังวล​ จะเป็น​หัวเลี้ยวหัวต่อ​สำคัญ​ที่จะ​จุด​สันดาป​แผนการ​ทั้งหมด​

ก่อนที่​หมู่บ้าน​ไร้กังวล​จะเข้ามา​ร่วม​ผสมโรง​ สภาสวรรค์​นอก​โลก​ก็​จะเพียงแต่​ปล่อย​ให้​สี่ยุคสมัย​มีเรื่อง​ขัดแย้ง​กันเอง​ขณะที่​ตนเอง​จะรอ​อยู่​เงียบๆ​ เพื่อ​เก็บเกี่ยว​ผลประโยชน์​!

ประกาย​ตา​ของ​ฉิน​มู่สุก​สกาว​ขึ้น​ทุกที​ นี่​คือ​โอกาส​จะได้​เติบโต​!

นี่​คือ​โอกาส​อัน​ยาก​จะพบพาน​!

นี่​คือ​จุดอ่อน​เดียว​ใน​กับดัก​ที่​คน​ผู้​นั้น​วาง​เอาไว้​!

“มังกร​อ้วน​ น้องชาย​ที่​นับถือ​ พวกเรา​ไป​กัน​เถอะ​!”

ฉิน​มู่เรียก​กิเลน​มังกร​ และ​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​มา วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ยังคง​ถามขอ​อาหาร​อยู่​ใน​หมู่บ้าน​ และ​ใน​มือ​ของ​เขา​ก็​หอบ​ถือ​ชามใหญ่​ยักษ์​มาด้วย​ ใน​ชามนั้น​คือ​ข้าว​หอม​อัน​นุ่ม​ละมุน​ และ​บน​ข้าว​ก็​มีซอส​ปรุงรส​บางอย่าง​ เขา​นั่ง​อยู่​ตรง​ข้าง​กำแพง​และ​รับประทาน​มัน​พร้อม​ๆ กับ​กลุ่ม​ชาวบ้าน​

วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​รีบ​สวาปาม​อาหาร​เข้าไป​ และ​กล่าว​ขอบคุณ​ชาวบ้าน​ทั้งหลาย​ จากนั้น​เขา​ถึงค่อย​เรียก​กิเลน​วารี​มาและ​รีบ​ตาม​ไป​

“พี่ชาย​ พวกเรา​จะไป​ขอ​อาหาร​กัน​ที่ไหน​อีก​” วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ถาม

ฉิน​มู่ไม่รู้​จะหัวเราะ​หรือ​ร่ำไห้​ เขา​โบกมือ​ลา​ชาวบ้าน​ทั้งหลาย​และ​กล่าว​ “พวกเรา​จะไป​ขอ​อาหาร​ยัง​ที่พำนัก​ของ​พระ​แม่ธรณี​”

วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ปีติ​ยินดี​ “มีอะไร​อร่อย​ๆ ที่นั่น​หรือ​”

“ครึ่ง​เทพ​สารพัด​รส​!”

ฉิน​มู่หัวเราะ​ด้วย​เสียง​อัน​ดัง​ และ​เขา​ขี่​กิเลน​มังกร​ควบ​ตะบึง​ไป​ยัง​ทิศ​ไกลๆ​

กิเลน​วารี​ได้ยิน​ว่า​เขา​ต้องการ​จะไป​เข้าพบ​พระ​แม่ธรณี​ สีหน้า​ของ​เขา​ก็​ซีดเผือด​ปาน​ขี้เถ้า​ แต่ทว่า​ไม่ช้าเขา​ก็​สำเหนียก​ขึ้น​มา และ​ลิงโลด​แทบ​โดด​ถึงดวงจันทร์​ หากว่า​ครึ่ง​เทพ​พวก​นั้น​จับ​เขา​กิน​ ข้า​ก็​ไม่นับว่า​ละเมิด​สัตยาบัน​ภูติ​บดี​น้อย​ ข้า​จะกลาย​เป็นอิสระ​!

เขา​วิ่ง​ไป​อย่าง​รวดเร็ว​ และ​แม่น้ำ​สาย​ใหญ่​ก็​ปรากฏ​รองรับ​เท้า​ของ​เขา​ เขา​เหยียบ​ไป​บน​แม่น้ำ​และ​เหิน​ทะยาน​ขึ้นไป​บน​อากาศ​

อีก​ฟาก​หนึ่ง​ ใต้เท้า​ของ​กิเลน​มังกร​คือ​เพลิง​กิเลน​กลุ่ม​หนึ่ง​ พลัง​ระเบิด​ของ​เขา​น่า​ตื่นตระหนก​ และ​เขา​นั้น​ถึงกับ​เร็ว​กว่า​กิเลน​วารี​สัก​เล็กน้อย​ด้วย​ นี่​ก็​คงจะ​เป็น​เพราะ​การฝึกฝน​ของ​ชาวนา​เฒ่าใน​ช่วง​วัน​เวลา​ที่ผ่านมา​นี้​

ฉิน​มู่ให้​กิเลน​มังกร​ชะลอ​ฝีเท้า​สักหน่อย​ เพื่อ​เฝ้าสังเกต​ทักษะ​เท​วะ​ของ​กิเลน​วารี​ ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​ เขา​ก็​นำ​เอา​สมุนไพร​ออกมา​และ​หลอม​ปรุงยา​วิญญาณ​ตาม​คุณสมบัติ​ธาตุ​ของ​กิเลน​วารี​

เมื่อ​ยา​วิญญาณ​ก่อตัว​ขึ้น​มาเป็น​เม็ด​ ฉิน​มู่ก็​ให้​ครึ่ง​เทพ​ตน​นี้​ลอง​ชิมดู​ “รสชาติ​เป็น​อย่างไร​”

“อร่อย​!”

ฉิน​มู่ขบคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ จากนั้น​ก็​เปลี่ยน​ตำรับ​ยา​ เขา​หลอม​ปรุงยา​ขึ้น​มาอีก​หม้อ​ และ​ให้​กิเลน​มังกร​ชิมดู​อีก​ “อร่อย​กว่า​เดิม​!”

ฉิน​มู่ตัดสินใจ​ใช้ตำรับ​ยา​นี้​ และ​ถ่าย​ทอดมัน​ให้​แก่​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ เขา​สอน​ถึงวิธี​การหลอม​ปรุงยา​และ​กล่าว​ “หากว่า​ข้า​ไม่ได้​อยู่​ข้าง​เจ้า เจ้าก็​จะสามารถ​หลอม​ปรุงยา​วิญญาณ​ได้​ด้วย​ตนเอง​แล้ว​ละ​ เพื่อ​ที่​เขา​จะได้​ไม่หิวโหย​ แต่ทว่า​ อย่า​ให้​เขา​กิน​มาก​จน​เกินไป​ ไม่อย่างนั้น​เขา​จะอ้วน​มาก​ อ้วน​อย่าง​สุด​ๆ…”

ตำนานเทพกู้จักรวาล

ตำนานเทพกู้จักรวาล

Score 10
Status: Completed

อ่าน ตำนานเทพกู้จักรวาล PDF ตอน 1 – 443 คลิกเพื่ออ่าน

( อ่านต่อด้านล่าง )


ในดินแดนรกร้าง ยังมีหมู่บ้านประหลาดซึ่งเต็มไปด้วยผู้เฒ่าพิการ ขาเป๋ เป็นใบ้ ตาบอด หูหนวก

เหล่าคนชราเก็บทารกแรกคลอดที่ลอยน้ำผ่านมาได้ เลี้ยงดูจนเติบใหญ่และตั้งชื่อให้ว่า… ฉินมู่

ฉินมู่ หนุ่มน้อยหน้าซื่อตาใสเจ้าของรอยยิ้มกระชากใจ ‘พี่สาว’ ทั้งหลาย แต่ทำให้ศัตรูเดือดแค้นเจียนตาย

บางคนก็เรียกเขาว่ากวางน้อยเซ่อซ่าที่เห็นเรื่องตื่นเต้นที่ไหนก็โดดไปมุงดู

ไม่ว่าเทพกับมารตีกัน ใครจะยกทัพไปยึดโลกมิติใด หลวงจีนคนนั้นจะกิ๊กกับราชาสวรรค์องค์ไหน

เป็นต้องเห็นเงาร่างหมอนี่ตลอด พับผ่าสิ!

ความอยากรู้อยากเห็นไร้สิ้นสุดของฉินมู่จะคลายปริศนาลึกลับของจักรวาลได้หรือไม่

ความลับของเทพเจ้าโบราณคืออะไร

ใครคือเงามืดที่คอยเก็บเกี่ยวต้นอ่อนของยอดยุทธ์วิชาเทวะตลอดหลายแสนปีที่ผ่านมา…

เด็กหนุ่มผู้นี้จะกลายเป็นผู้กอบกู้จักรวาลให้รอดพ้นจากการถูกทำลายล้างได้หรือไม่

นี่คือการผจญภัยของฉินมู่ผู้เจียมตัวว่าเก่งเป็นอันดับสองของทุกศาสตร์วิชาในโลก!

‘ฉินมู่กะพริบตาปริบอย่างใสซื่อ…แต่ผู้อื่นเห็นแล้วขนหัวลุกแทบตาย’

Options

not work with dark mode
Reset