ชายาเคียงหทัย 342-3 เลือดย้อมปิ่นทอง

ตอนที่ 342-3 เลือดย้อมปิ่นทอง

​ ​เสิ่น​หยาง​มอง​หลิ่ว​กุ้ย​เฟย​ที่นอน​ไม่ได้​สติ​อย่าง​ไม่เต็มใจ​นัก​ ​แล้วจึง​พึมพำ​แนะนำ​ม่อ​อู๋​โยว​ไป​สอง​สาม​คำ​ ​ปล่อย​ให้​ม่อ​อู๋​โย​วจั​ดกา​รส​่​วน​ตัว​เขา​ไป​นั่ง​พัก​อยู่​ข้างๆ

​ ​“​ดูๆ​ ​แล้ว​ม่อ​อู๋​โย​วร​่ำ​เรียน​จาก​ท่าน​อาจารย์​เสิ่น​ไม่เลว​ทีเดียว​”​ ​เยี​่ย​หลี​อมยิ้ม​เอ่ย​ ​เห็นท่า​ทาง​ที่​เสิ่น​หยาง​มีต​่​อม​่​ออู​๋​โย​วก​็​รู้​ได้​ว่า​เขา​พอใจ​ต่อ​ศิษย์​ผู้​นี้​เพียงใด​ ​เสิ่น​หยาง​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ว่า​ ​“​มีพรสวรรค์​กว่า​พระ​ชายา​อยู่เล็ก​น้อย​”​ ​อันที่จริง​พรสวรรค์​ที่​เยี​่ย​หลี​มี​ก็​ถือว่า​ไม่เลว​นัก​ ​เพียงแต่​วิชาแพทย์​นี้​ต้องการ​จิตใจ​อัน​สงบ​และ​นิสัย​ที่​อดทน​ ​เยี​่ย​หลี​เป็น​ถึง​พระ​ชายา​ติ้ง​อ๋อง​มี​กิจธุระ​รัดตัว​ ​ไหน​เลย​จะ​มี​เวลา​มาตั​้ง​ใจ​ร่ำเรียน​ ​ส่วน​การสืบทอด​วิชา​จาก​อาจารย์​ยิ่ง​ไม่ต้อง​พูดถึง​ ​ครานั้น​ทำเอา​เสิ่น​หยาง​กับ​หมอ​หลิน​เสียดาย​กัน​อยู่นาน​ทีเดียว

​ ​ม่อ​เสี้ยว​อวิ​๋​นที​่​ยืน​ฟัง​อยู่​ด้าน​ข้าง​ก็​เข้าใจ​ขึ้น​มาทัน​ที​ว่า​หลิ่ว​กุ้ย​เฟย​ยัง​ไม่​ตาย​ ​ทันใดนั้น​ก็​ไม่รู้​ว่า​ใน​ใจ​ยาม​นี้​กำลังดี​ใจ​หรือ​เสียใจ​กัน​แน่​ ​เขามอง​พี่สาว​ที่นั่ง​สติ​เลื่อนลอย​อยู่​ข้างๆ​ ​แล้ว​เอ่ยปาก​ขึ้น​อย่างระมัดระวัง​ ​“​ท่าน​อาติ​้​งอ​๋​อง​ ​พระ​ชายา​…​เรื่อง​…​เรื่อง​คืนนี้​…​”

​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​เลิก​คิ้ว​ ​“​เจ้า​ยัง​อยาก​จะ​บอกว่า​เจ้า​ทำร้าย​นาง​อีก​หรือ​”

​ ​ม่อ​เสี้ยว​อวิ​๋น​ตกใจ​ ​พยักหน้า​เอ่ย​ว่า​ ​“​เป็น​ข้า​ที่​โกรธ​บันดาล​โทสะ​ขึ้น​มา​…​เสี้ยว​อวิ​๋​นขอ​ท่าน​อาติ​้​งอ​๋​อง​ลงโทษ​ด้วย​”

​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​พินิจพิเคราะห์​เขา​อย่างสนใจ​ครู่หนึ่ง​แล้วจึง​เอ่ย​ว่า​ ​“​นึกไม่ถึง​ว่า​…​ม่อ​จิ​่ง​ฉี​จะ​มีลูก​ชาย​เช่นนี้​กับ​เขา​อยู่​ด้วย​ ​นับว่า​ไม่เลว​ทีเดียว​ ​เพียงแต่​…​เหตุใด​เจ้า​จึง​ได้​หยิบ​ปิ่นทอง​ของ​องค์​หญิง​เจิน​หนิง​ไป​สังหาร​สตรี​นาง​นั้น​ได้​เล่า​”

​ ​“​ขะ​…​ข้า​…​ตอนนั้น​พลัน​…​”

​ ​“​น้องชาย​”​ ​องค์​หญิง​เจิน​หนิง​ที่​เหม่อลอย​มาต​ลอด​พลัน​เงยหน้า​ขึ้น​เอ่ย​ขัด​ม่อ​เสี้ยว​อวิ​๋น​ ​นาง​เงยหน้า​มอง​ตรง​ไป​ยัง​ม่อ​ซิว​เหยา​แล้ว​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ว่า​ ​“​ท่าน​อาติ​้​งอ​๋​อง​ ​เป็น​ข้า​ที่​ลงมือ​เอง​ ​พวก​ท่าน​อย่า​ได้​ช่วย​นาง​เลย​ ​หาก​นาง​ตาย​ไป​ข้า​ยินดี​ชดใช้​ด้วย​ชีวิต​!​”

​ ​“​เสด็จ​พี่​!​”​ ​ม่อ​เสี้ยว​อวิ​๋น​โมโห​เดือดดาล​ ​หลิ่ว​กุ้ย​เฟย​จะ​เป็น​อย่างไร​เขา​ไม่สน​ใจ​แต่แรก​แล้ว​ ​แต่​เสด็จ​พี่​ที่​แก่​กว่า​เขา​แค่​เพียง​สอง​สาม​ปี​เป็น​ผู้​ที่​เติบโต​มากับ​เขา​ ​แม้ว่า​นาง​จะ​ไม่​ฉลาดเฉลียว​และ​ไร้ความสามารถ​ ​ทว่า​ในขณะที่​พวกเขา​ถูก​เสด็จ​แม่​ทอดทิ้ง​นั้น​นาง​กลับ​ดูแลเอาใจใส่​น้องชาย​ทั้งสอง​อย่างดี​เยี่ยม

​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​ขมวดคิ้ว​อย่าง​ไม่สบอารมณ์​ ​เอ่ย​ว่า​ ​“​พอได้​แล้ว​ ​นาง​ยัง​มิใช่​พระ​ชายา​แห่ง​เป่ย​หรง​ ​ต่อให้​ตาย​ไป​เยีย​หลี​่ว​์​เหยี​่​ยก​็​ไม่​มาเรียก​ให้​พวก​เจ้า​ชดใช้​หรอก​ ​บอก​ข้ามา​ว่า​เจ้า​อยาก​จะ​ให้​นาง​ตาย​จริงๆ​ ​ใช่​หรือไม่​”​ ​สีหน้า​องค์​หญิง​เจิน​หนิง​ซีดเผือด​ ​จ้องมอง​สตรี​ชุด​ขาว​นาง​นั้น​อย่าง​ดุดัน​ ​มุม​ปาก​สั่น​ระริก​แต่กลับ​ไม่​กล่าว​คำ​ใด​ออกมา​อยู่นาน​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​เอ่ย​ขึ้น​อย่าง​ไม่ใส่ใจ​ว่า​ ​“​หาก​เจ้า​อยาก​ให้​นาง​ตาย​จริงๆ​ ​ก็​เดิน​เข้าไป​แล้ว​เอา​ปิ่นทอง​เล่ม​นั่น​ปัก​ให้​ลึก​กว่านี​้​อีก​เสีย​”

​ ​ได้ยิน​ประโยค​นี้​ของ​เขา​ ​ไม่เพียงแต่​องค์​หญิง​เจิน​หนิง​เท่านั้น​ที่​ตกใจ​จน​ตัวสั่น​ ​หลิ่ว​กุ้ย​เฟย​ที่​สลบ​อยู่​บน​พื้น​ก็​ถึงกับ​ลืมตา​โพรง​ขึ้น​มาด​้วย​ ​หันไป​มอง​ม่อ​ซิว​เหยา​ที่นั่ง​อยู่​บน​ตำแหน่ง​ประธาน​อย่าง​ไม่​อยาก​จะ​เชื่อ​ ​เดิมที​ที่​หลิ่ว​กุ้ย​เฟย​ไร้​เรี่ยวแรง​นั้น​เป็น​เพราะ​เสีย​เลือด​มาก​ ​มิได้​สลบ​ลึก​ ​ยัง​พอ​จะ​ได้ยิน​เสียง​คน​รอบข้าง​พูดคุย​กัน​อยู่​ ​ทันทีที่​ได้ยิน​คำพูด​ไร้ค​วาม​ปรานี​ของ​ม่อ​ซิว​เหยา​ก็​ทำให้​นาง​ได้สติ​ตื่นตัว​ขึ้น​มา​โดยพลัน

​ ​ม่อ​อู๋​โย​วที​่​กำลัง​คิด​หาวิ​ธี​ดึง​ปิ่น​ออก​จึง​หัน​มอง​ม่อ​ซิว​เหยา​อย่าง​จนใจ​ ​“​ท่าน​อาติ​้​งอ​๋​อง​ ​หาก​ท่าน​แทง​อีก​รอบ​นาง​คง​ไม่รอด​แน่​แล้ว​”​ ​องค์​หญิง​เจิน​หนิง​แทง​ได้​ไร้ค​วาม​ปรานี​นัก​ ​หาก​ทิ่ม​ลงมา​ลึก​อีก​เพียง​นิดเดียว​ ​หลิ่ว​กุ้ย​เฟย​คงได้​สิ้น​ชื่อ​แน่​แล้ว​ ​ดังนั้น​พวกเขา​จึง​มิก​ล้า​เคลื่อนย้าย​นาง​ ​ทำได้​เพียง​รักษา​ให้​บน​พื้น​เช่นนี้

​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​เอ่ย​อย่าง​เคร่งขรึม​ว่า​ ​“​ข้ามิ​ได้​ล้อเล่น​”

​ ​ม่อ​อู๋​โยว​แอบ​คิดในใจ​ว่า​ ​“​ข้า​เชื่อ​ว่า​ท่าน​มิได้​ล้อเล่น​ ​แต่​ยาม​นี้​อย่า​ได้​จริงจัง​เพียงนี้​ได้​หรือว่า​ ​สอน​ลูกสาว​ให้​ไป​ฆ่า​มารดา​ตนเอง​เช่นนี้​ได้​หรือ​”

​ ​“​พอได้​แล้ว​”​ ​เยี​่ย​หลี​เหลือบมอง​ม่อ​ซิว​เหยา​ให้​เขา​หุบปาก​ ​แล้ว​หันไป​เอ่ย​ตอบ​ว่า​ ​“​อู๋​โยว​ ​ยาก​มาก​เลย​หรือ​”

​ ​ม่อ​อู๋​โย​วลัง​เลค​รู่​หนึ่ง​จึง​เอ่ย​ว่า​ ​“​ไม่ยาก​ ​เพียงแต่​..​”

​ ​“​มี​อัน​ใด​ก็​พูด​มา​”​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​เอ่ย​อย่าง​ไม่สบอารมณ์​ ​ดึกดื่น​ค่อนคืน​มิ​อาจ​กลับ​ไป​นอน​กอด​สตรี​ผู้​เป็น​ที่รัก​ให้​อา​หลี​หลับ​สบาย​ ​ทำเอา​เขา​ไม่สบอารมณ์​อย่างมาก​ ​หาก​มิใช่​เห็นแก่​ว่า​พอ​มีประโยชน์​ต่อม​่อ​เสี้ยว​อวิ​๋​นกับ​เจิน​หนิง​อยู่​บ้าง​ล่ะ​ก็​ ​เขา​คง​โยน​สตรี​นาง​นี้​ไป​ไว้​ที่ไหน​สัก​แห่ง​แล้ว​ ​ใน​เมือง​หลี​แห่ง​นี้​เชื่อ​ว่า​เยีย​หลี​่ว​์​เหยี​่ย​คง​ไม่มี​ปัญญา​จะ​หา​ตัวนาง​เจอ

​ ​ม่อ​อู๋​โยว​มอง​องค์​หญิง​เจิน​หนิง​และ​ม่อ​เสี้ยว​อวิ​๋น​แล้ว​ขมวดคิ้ว​เอ่ย​ว่า​ ​“​นาง​ถูก​ทำร้าย​เฉพาะที่​ ​อีก​อย่าง​…​ดูเหมือนว่า​ครึ่ง​ปีก่อน​นาง​จะ​เพิ่ง​คลอด​บุตร​ ​หาก​ไม่​ระวัง​ล่ะ​ก็​ ​ต่อไป​คงจะ​มีลูก​มิได้​อีกแล้ว​”​ ​ในเมื่อ​นี่​เป็น​ว่าที่​พระ​ชายา​แห่ง​เป่ย​หรง​ ​เรื่อง​มีบุ​ตร​ ​จึง​เป็นเรื่อง​สำคัญ​มาก​ ​เสิ่น​หยาง​เลิก​คิ้ว​มอง​ม่อ​อู๋​โยว​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ ​“​ศิษย์​ ​วิชาแพทย์​ของ​เจ้า​ยัง​ต้อง​ฝึก​อีก​มาก​”

​ ​“​เอ๋​ ​ขอ​ท่าน​อาจารย์​โปรด​ชี้แนะ​ด้วย​”​ ​ม่อ​อู๋​โยว​ได้ยิน​อาจารย์​กล่าว​เช่นนี้​ก็​คิด​ว่า​ตัวเอง​วินิจฉัย​ผิดพลาด​ไป​ ​ใบหน้า​ปรากฏ​ความเสียใจ​เล็กน้อย

​ ​เสิ่น​หยาง​เอ่ย​ว่า​ ​“​แม่นาง​ผู้​นี้​เคย​คลอด​บุตร​เมื่อ​ครึ่ง​ปีก่อน​ที่ไหน​กัน​ ​ภายใน​สอง​ปี​มานี​้​นาง​คลอด​อย่างน้อย​สาม​ครา​แล้ว​ ​เจ้า​วางใจ​ดึง​ปิ่น​นั้น​ออก​เถิด​ ​ไม่ต้อง​สนใจ​ว่านาง​จะ​มีบุ​ตร​ไม่ได้​อีก​เพราะ​นั่น​เป็น​ชะตา​ที่​ได้​กำหนด​ไว้​ก่อน​แล้ว​ ​ต่อให้​ไม่ได้​บาดเจ็บ​ใน​ครานี​้​ ​นาง​ก็​เป็น​เยี่ยง​นี้​อยู่ดี​”​ ​เสิ่น​หยาง​มอง​หลิ่ว​กุ้ย​เฟ​ยด​้ว​ยสี​หน้าที่​เต็มไปด้วย​ความรังเกียจ​ ​เขา​ย่อม​ทราบ​ถึง​สถานะ​ของ​หลิ่ว​กุ้ย​เฟย​ ​แต่​นี่​ไม่​เพียงพอ​ที่จะ​ทำให้​เสิ่น​หยาง​รังเกียจ​นาง​ ​ทว่า​การ​ลงมือ​ฆ่า​ลูก​ของ​ตัวเอง​ทั้งที่​ยัง​มิได้​ออกมา​ลืมตา​ดู​โลก​นั้น​ ​เป็น​สิ่ง​ที่​เสิ่น​หยาง​มิ​อาจ​รับได้​ ​ฝีมือ​ด้าน​การแพทย์​ของ​เสิ่น​หยาง​โดดเด่น​ไม่​เหมือน​ผู้ใด​ ​กระทั่ง​หลิ่ว​กุ้ย​เฟ​ยดื​่ม​ยาทำ​ลาย​ครรภ์​แบบ​ใด​ก็​สามารถ​วิเคราะห์​ออกมา​ได้​ ​นาง​ดื่ม​ยาทำ​ลาย​ครรภ์​ที่​ไม่เป็นอันตราย​ต่อ​ร่างกาย​ตัวเอง​ ​ซ้ำ​ยังให้ผล​ลัพธ์​ที่​พิเศษ​บางอย่าง​ที่​ทำลาย​แค่​ครรภ์​เพียง​อย่าง​เดียว

​ ​“​ท่าน​เสิ่น​ ​ท่าน​กำลังจะ​บอกว่า​นาง​…​”​ ​ม่อ​เสี้ยว​อวิ​๋น​จ้อง​ไป​ยัง​สตรี​บน​พื้น​ ​แต่​สุดท้าย​ก็​ไม่​ถาม​อัน​ใด​ออกมา

​ ​“​นาง​ใช้​ลูกกลอน​ซ่าน​เซียง​ ​อีกทั้ง​มิใช่​เพียง​ครา​เดียว​”

​ ​ทันใดนั้น​ม่อ​เสี้ยว​อวิ​๋น​สีหน้า​พลัน​ซับซ้อน​ยาก​จะ​คาดเดา​ ​องค์​หญิง​เจิน​หนิง​เป็น​สตรีที​่​ไม่ทราบ​ว่า​สิ่ง​นั้น​คือ​อัน​ใด​ ​แต่​ม่อ​เสียว​อวิ​๋น​ถูก​หลิ่ว​กุ้ย​เฟ​ยสอน​สั่ง​มาตั​้ง​แต่​เด็ก​ ​เรื่องส่วนตัว​มากมาย​เสนาบดี​หลิ่ว​ก็​มิได้​ปิดบัง​กับ​เขา​ ​ยาลูกกลอน​ซ่าน​เซียง​นั้น​เป็น​ยาทำ​แท้ง​บุตร​ ​เรียก​ให้​ถูก​คือ​เป็น​ยาบำรุง​ความงาม​ ​ทว่า​ไม่รู้​ว่า​เป็น​ผู้ใด​ที่​ค้นพบ​ว่า​สิ่ง​นี้​ให้ผล​ที่​ไม่​คาดคิด​กับ​สตรี​ใน​ระยะ​ตั้งครรภ์​ ​สตรี​หาก​ได้​ตั้งครรภ์​แล้ว​หน้าตา​จะ​ไม่​เหมือน​ดั่ง​เก่า​ ​ยา​เช่นนี้​จึง​มี​คน​แห่​ไป​ซื้อ​กัน​มากมาย​ ​แต่​ไม่นาน​ก็​มี​คน​พบ​ว่า​สตรี​มีครรภ์​ที่​ใช้​ยานี​้​ต่าง​แท้ง​บุตร​กัน​ทุกราย​ไป​ ​พวก​ที่​ใช้​ใน​ปริมาณ​น้อย​จะ​คลอด​บุตร​ที่​ตาย​ออกมา​ ​ทว่า​ผลลัพธ์​ใน​การ​บำรุง​ใบหน้า​กลับ​ให้ผล​ได้ดี​กว่า​ยาม​ปกติ​ที่​มิได้​ตั้งครรภ์​ถึง​สิบ​เท่า​ ​มีส​ตรี​ไม่น้อย​ที่​ไม่สน​เด็ก​ใน​ครรภ์​เพราะ​ความงาม​ ​ยานี​้​จึง​ค่อยๆ​ ​กลายเป็น​ยาต​้​อง​ห้าม

​ ​สตรีที​่​สูญเสีย​บิดา​นาง​หนึ่ง​ ​ภายใน​สอง​ปี​เสีย​ครรภ์​ไป​สาม​ครา​ซึ่ง​ล้วน​ทำ​ตนเอง​ทั้งสิ้น​ ​ม่อ​เสียว​อวิ​๋น​ไม่เข้าใจ​เสด็จ​แม่​ผู้​สูงส่ง​ว่า​กำลัง​ทำ​อัน​ใด​กัน​แน่​ ​แต่​เมื่อ​เห็น​ใบหน้า​งดงาม​เนียน​ละเอียด​ของ​นาง​แล้ว​ ​ม่อ​เสี้ยว​อวิ​๋​นก​็​พลัน​พุ่งตัว​ออก​ไป​อาเจียน​ที่​ด้านนอก​ทันที

​ ​องค์​หญิง​เจิน​หนิง​แม้​จะ​ไม่รู้​ว่า​เรื่องราว​เป็น​เช่นไร​ ​แต่​เรื่อง​ที่​หลิ่ว​กุ้ย​เฟย​แท้ง​ครรภ์​ก็​เพียงพอ​ที่​ส่งผล​กระทบ​ถึง​นาง​อย่างรุนแรง​ได้​แล้ว​ ​นาง​เดิน​ไป​หยุด​อยู่​ข้าง​กาย​หลิ่ว​กุ้ย​เฟ​ยอย​่าง​ตกตะลึง​ ​ก้ม​มอง​สตรี​งดงาม​บน​พื้น​ ​องค์​หญิง​เจิน​หนิง​พลัน​รู้สึก​ว่าความ​ขุ่นเคือง​ใน​ใจ​ได้​พลุ่งพล่าน​ขึ้น​มายิ​่​งก​ว่า​เดิม​ ​“​แพศยา​!​”

ชายาเคียงหทัย

ชายาเคียงหทัย

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1-37 อ่านนิยาย

(อ่านตอนต่อไปด้านล่าง)


หลังถูกน้องสาวร่วมบิดาแทงข้างหลัง ทำให้ เยี่ยหลี คุณหนูสามแห่งจวนตระกูลเยี่ยถูกถอนหมั้นจาก ม่อจิ่งหลี ท่านอ๋องรูปงามแห่งเมืองหลวง แต่นางก็ยังมองโลกในแง่ดี หวังว่าตนจะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขไปอีกสักสองสามปี ทว่าเหตุไฉนสามวันให้หลัง ฝ่าบาทถึงได้พระราชทานสมรสให้นางอีกครั้งเล่า!

การแต่งงานครั้งนี้แม้ฉากหน้าจะดูเหมือนเป็นเรื่องที่น่ายินดีนัก แต่คนที่นางต้องอภิเษกสมรสด้วยกลับเป็น ม่อซิวเหยา ท่านอ๋องพิการไร้ประโยชน์ อีกทั้งยังมีรูปโฉมอัปลักษณ์ เล่าลือกันว่าเขาเคยผ่านการแต่งงานมาแล้วถึงสองครา ทว่าหญิงสาวทั้งสองคนที่เขาสมรสด้วยกลับต้องมีอันเป็นไปภายหลังจากการแต่งงานได้ไม่นาน

แต่ช้าก่อน…บุรุษที่แสนอ่อนโยนและเก่งกาจตรงหน้านางนี้น่ะหรือคือม่อซิวเหยา บุรุษที่กล่าวกันว่าเป็นคนน่ากลัว ไร้ค่า ไม่ได้เรื่องได้ความคนนั้น นี่คงมีอะไรที่เข้าใจผิดไปแล้วกระมัง

Options

not work with dark mode
Reset