ตอนที่ 626 กู้ชีพ (2)
Ink Stone_Fantasy
พอทุกคนเห็นรูปคลื่นที่ไหวเคลื่อนบนภาพคลื่นไฟฟ้าหัวใจไม่หยุดนั้น ก็รู้สึกอย่างกับเห็นยันต์เร่งตาย
เกิดเรื่องขึ้นกะทันหัน ทุกคนต่างไม่รู้ว่าเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้อย่างไร เดิมทีผู้ป่วยเตรียมจะออกจากโรงพยาบาลอยู่แล้ว หนังสือรับรองการออกจากโรงพยาบาลยังออกไว้ล่วงหน้าแล้ว ผู้ป่วยยังฟื้นตัวได้ไวมากด้วย ใครจะไปคิดว่าในช่วงเวลาที่ไม่สลักสำคัญเช่นนี้ดันเกิดเรื่องสำคัญแบบนี้ขึ้นได้
หัวใจห้องล่างเต้นพลิ้ว!
ตอนนี้หาสาเหตุที่หมดสติเจอแล้ว นั่นก็คือภาวะหัวใจห้องล่างเต้นพลิ้ว
ภาวะหัวใจห้องล่างเต้นผิดจังหวะชนิดสั่นพลิ้ว เรียกง่ายๆ ว่าหัวใจห้องล่างเต้นพลิ้ว เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้หัวใจหยุดเต้นและเสียชีวิตกะทันหันที่พบบ่อยที่สุด ความจริงแล้วหัวใจเป็นกล้ามเนื้อชนิดหนึ่ง บีบตัวสูบฉีดเลือดเป็นจังหวะไม่ว่างเว้น…แต่พลังงานเป็นสิ่งที่มีจำกัด ถ้าอัตราการเต้นคุณเร็ว พลังงานย่อมไม่พอ การสูบฉีดเลือดก็ย่อมทำได้ไม่มากเท่าไร เมื่อห้องหัวใจเต้นเกินสองร้อยสี่สิบครั้งต่อนาทีอย่างต่อเนื่อง รวดเร็วและสม่ำเสมอ จะเรียกว่าหัวใจห้องบนเต้นถี่ ถ้าสมมติการเต้นของห้องหัวใจเร็วและไม่คงที่ นี่จึงเรียกว่าหัวใจห้องล่างเต้นพลิ้ว อัตราการเต้นพลิ้วอยู่ระหว่างสองร้อยห้าสิบถึงหกร้อยครั้งต่อนาที
นี่เป็นตัวเลขที่น่ากลัวขนาดไหน
กู้ชีพ!
ตอนนี้เอง การกระตุ้นด้วยไฟฟ้าจึงเป็นทางเลือกเดียว แต่กลับไม่มีเครื่องกระตุ้นไฟฟ้า!
เฉินชางรีบพูดว่า “เตรียมอะมิโอดาโรน!”
พยาบาลพยักหน้าไวๆ ตอนนี้จู่ๆ เมิ่งซีก็นึกขึ้นได้ว่ามีแพทย์แผนกฉุกเฉินมากทักษะยืนอยู่ตรงนี้คนหนึ่ง
รุ่มรวยประสบการณ์ ฝีมือช่ำชอง!
ไม่นานนักเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าก็มาแล้ว เฉินชางรีบลงมือเตรียมกระตุ้นหัวใจ อู๋เผิงเห็นเฉินชางแล้วก็ถอนใจโล่งอก
ถึงยังไง…นี่ก็เฉินชางนี่นา!
กระตุ้นหัวใจครั้งแรก ไม่สำเร็จ!
เฉินชางมองอู๋เผิงครั้งหนึ่ง “อย่าหยุด CPR นะครับ!”
จากนั้นเขาจึงหันหลังไปมองพยาบาล “ฉีดอะดรีนาลีนเข็มหนึ่งครับ!”
ครอบครัวของผู้ป่วยร้องไห้จนไม่ไหวแล้ว แม่วัยสาวและลูกเคยเห็นสถานการณ์แบบนี้เสียที่ไหน ผู้ป่วย ที่อยู่เตียงติดกันก็ตกตะลึงอ้าปากค้าง ใครจะคิดว่าจู่ๆ พ่อหนุ่มที่ยังกระโดดโลดเต้นพูดคุยยิ้มแย้มเมื่อกี้จะกลายเป็นแบบนี้ นี่จะออกจากโรงพยาบาลอยู่แล้ว…
เฉินชางเริ่มกระตุ้นหัวใจครั้งที่สองทันที คราวนี้สำเร็จแล้ว!
ไม่ถึงสองนาที รูปคลื่นบนเครื่องติดตามสัญญาณชีพก็ค่อยๆ เป็นปกติ สุดท้ายตอนนี้ผู้ป่วยก็หัวใจเต้นเองได้
ในที่สุดการกู้ชีพอันอกสั่นขวัญหายก็จบลง! แต่ทุกคนไม่กล้าชะล่าใจแต่อย่างใด แต่ละคนต่างจ้องเครื่องติดตามสัญญาณชีพเขม็งด้วยกลัวว่ารูปคลื่นอันสวยงามกับชีพจรอันสมบูรณ์แบบนี้จะหายไปกะทันหัน…
ไม่แน่ว่าสำหรับแพทย์แล้ว ภาพที่สมบูรณ์แบบที่สุดก็คือจังหวะการเต้นหัวใจปกติ! ผ่านไปอีกไม่กี่นาที ในที่สุดผู้ป่วยก็อาการคงที่ ตอนนี้ทุกคนถึงถอนใจโล่งอก แต่กลับพบว่าแผ่นหลังของตนชุ่มไปด้วยเหงื่อ ไม่รู้ว่าเพราะในห้องมีฮีทเตอร์มากเกินไป หรือเพราะเมื่อครู่นี้ตื่นเต้นเกินไป
ความดันก็คงที่แล้ว อัตราการเต้นหัวใจรักษาระดับอยู่ที่หนึ่งร้อยยี่สิบครั้งต่อนาที ความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดเก้าสิบแปดเปอร์เซ็นต์
เฉินชางหันกลับไปพูดกับพยาบาลว่า “ทำ BG[1] ทีครับ”
ตอนนี้ก็ถึงเวลาวิเคราะห์สาเหตุแล้วว่าทำไมจู่ๆ ผู้ป่วยถึงหัวใจเต้นผิดจังหวะ
การกู้ชีพก็เป็นเช่นนี้ กู้ชีพก่อนค่อยรักษาโรค
ตอนนี้ผู้ป่วยรอดชีวิต อาการคงที่แล้ว ก็จำเป็นต้องหาว่าสาเหตุที่ทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะคืออะไรแล้ว
ไม่นานนักผลตรวจวิเคราะห์ก๊าซในเลือดก็ออกแล้ว ค่า pH ปกติดี อยู่ที่ 7.31 ปกติแล้วค่าจะอยู่ที่ 7.35 ถึง 7.45 แต่…ไม่ได้มีผลกระทบ การกู้ชีพครั้งนี้เสถียรแล้ว ต่อไปก็ต้องจัดการหาสาเหตุ เพราะถ้าหาสาเหตุไม่พบ ก็พูดได้ไม่เต็มปากว่าผู้ป่วยปลอดภัยอย่างแน่นอน
คราวนี้เฉินชางพูดกับพยาบาลว่า “เจาะเลือดไปเข้าแล็บทีครับ ตรวจ CBC[2] อิเล็กโทรไลต์…การทำงานของตับ ให้ห้องแล็บตรวจให้ด่วนเลยครับ”
แล้วตอนนี้เขาก็หันกลับไปยืมเครื่องตรวจฟังของอาจารย์เมิ่งมาใส่หูตัวเองทันที
อืม! มีกลิ่นหอมแฮะ…
เฉินชางวิเคราะห์เสียงหัวใจอย่างต่อเนื่อง ตรวจหาความผิดปกติแม้เพียงเล็กน้อย แต่ฟังไปฟังมาก็ปกติหมด
ทำไมคนไข้ถึงหัวใจเต้นผิดจังหวะ ทำไมหัวใจห้องล่างถึงเต้นพลิ้ว!
เฉินชางหันไปมองเก่อฮว๋าย “ผมขอดูยาที่คนไข้กินช่วงนี้หน่อยครับ”
เก่อฮว๋ายพยักหน้า ออกใบสั่งแพทย์ชุดหนึ่งทันที
เฉินชางดูแล้วมีแต่ยาที่ใช้ประจำในแผนกศัลยกรรมหัวใจ ยาพวกนี้…อย่าว่าแต่ทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะเลย มีประโยชน์ในการรักษาหัวใจเต้นผิดจังหวะซะด้วยซ้ำ!
เฉินชางเอ่ยถามต่อ “สองวันนี้ผู้ป่วยมีปฏิกิริยาผิดปกติอะไรไหมครับ”
“อย่างเช่นแน่นหน้าอก ใจสั่น…ความผิดปกติพวกนี้มีไหมครับ” เฉินชางถามภรรยาของผู้ป่วย
หญิงสาวส่ายหัว “ไม่มีค่ะ ช่วงนี้เขาพูดอยู่ตลอดว่าการผ่าตัดประสบความสำเร็จ รู้สึกดีมาก…”
ในตอนนี้เอง จู่ๆ เธอก็นึกอะไรขึ้นมาได้ “อ้อ! เมื่อวานเขาเป็นหวัดนิดหน่อยค่ะ ฉันก็ไม่ได้เห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่ ยังพูดกับหมอเก่ออยู่เลยค่ะ”
เก่อฮว๋ายพยักหน้า “ครับ ผมเห็นว่าอาการเขาไม่ร้ายแรงก็บอกไม่ให้เขาใส่ใจ ถึงยังไงตอนนี้ก็ให้น้ำเกลืออยู่นี่ครับ กินยาเป็นกอง ยังจะมีผลข้างเคียงอะไรอีก”
เฉินชางในตอนนี้เหมือนกลายเป็นหัวหน้า ยืนคนเดียวตรงนั้น พยาบาลน้อยและหมอน้อยล้อมรอบอยู่ตรงกลาง แม้ผู้ป่วยจะตกตะลึงว่าทำไมไม่เคยเห็นหมอคนนี้มาก่อน แต่ว่า…
หมอคนนี้ดันช่วยชีวิตสามีของตนไว้ เขาเป็นใครอย่าสนเลย มีความสามารถก็เป็นหมอที่ดี!
ความจริงตอนนี้หมอปริญญาเอกปีสองและปีสามก็อยู่ในวอร์ด ทุกคนต่างฟังอาการป่วยของผู้ป่วย ช่วยครุ่นคิดไม่หยุด!
แต่บางครั้งสมองของหมอฉุกเฉินกับหมอสาขาอื่นก็ต่างกันจริงๆ
ผู้ป่วยฉุกเฉินไม่ว่าเคสแบบไหนก็มีทั้งนั้น เทียบกันแล้วหมอเฉพาะทางมีความเก่งเฉพาะทางยิ่งกว่า
จู่ๆ เฉินชางก็หน้าเปลี่ยนสี “จะใช่กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบรึเปล่าครับ”
ประโยคเดียวทำให้ทุกคนอึ้งไป เป็นหวัดก็ห้ามดูเบาเด็ดขาดเลย! ถ้าเป็นโรคร้ายแรงอย่างกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบก็อันตรายเสียแล้ว แต่เสียงหัวใจก็ปกติดี มิหนำซ้ำยังเพิ่งเป็นหวัดได้หนึ่งวัน คงไม่ถึงกับกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหรอกมั้ง
เมิ่งซีเอ่ย “ให้แล็บตรวจเอคโค่[3] ขึ้นมาหน่อยมั้ย”
เฉินชางนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งแล้วจึงพยักหน้า “ครับ ตัดชอยส์หน่อยดีกว่า”
เพราะเคสพิเศษของผู้ป่วย อาจจะต้องเลื่อนการผ่าตัดในคืนนี้เป็นพรุ่งนี้เสียแล้ว ไม่อย่างนั้นก็ย้ายผู้ป่วยไปสังเกตอาการที่ห้องไอซียู
ตอนนี้เอง เฉินชางพลันก้มลงไปเห็นยาที่อยู่บนโต๊ะ เขาหน้าเปลี่ยนสีในทันใด!
“เขากินยาแก้หวัดเหรอครับ”
ภรรยาพยักหน้า “ค่ะ เขาบอกว่าหมอไม่สั่งยาให้เขา ก็ให้ฉันไปซื้อยากแก้หวัดข้างนอกมาหน่อย”
“ฉันคิดว่ายาแก้หวัดก็ไม่มีอะไร เลยซื้อมานิดหน่อย”
เฉินชางหน้าเปลี่ยนสีทันที เปิดลิ้นชักเอายาออกมา
ยาแก้หวัดยี่ห้อก่านคัง! ยาแก้หวัดขาวดำ! พาราเซตามอล!
เฉินชางเห็นก็อึ้งไปทันที ไม่แน่ว่าหาสาเหตุเจอแล้ว
เฉินชางถอนหายใจ “เขากินยาแก้หวัดเยอะมากรึเปล่าครับ”
ภรรยาพยักหน้า “ใช่ค่ะ สมัยอยู่บ้านหลังเก่า เป็นหวัดทีก็จะกินยาแก้หวัดพวกนี้ กินน้อยแล้วไม่มีประโยชน์เลยค่ะ”
เฉินชางหันไปพูดกับพยาบาล “ตรวจความเข้มข้นของพาราเซตามอลในเลือดด่วนครับ”
พยาบาลพยักหน้า เจาะเลือดแล้วรีบร้อนออกไปเลย
ในช่วงที่รอ จู่ๆ ผู้ป่วยก็ฟื้นขึ้นมา
เขาจ้องมองคนกลุ่มใหญ่กลุ่มนี้แล้วอึ้งไปทันที “ผมหลับไปแล้วเหรอ”
“หมอ ขอโทษจริงๆ ครับ กินยาแก้หวัดแล้วก็หลับไปเลย…เอ๊ะ? ไม่ใช่สิ ผมเป็นอะไรไป”
ชายหนุ่มเห็นว่าบนร่างตนมีสายไฟกองโตจึงตะลึงไปทันที
เฉินชางจ้องชายคนนี้แล้วเอ่ยถามว่า “คุณกินยาแก้หวัดไปเท่าไหร่ครับ”
ชายหนุ่มไอแค่กๆ “กินยาขาวดำไปสองเม็ด แล้วก็พาราสองเม็ด ก่านคังเม็ดหนึ่ง…”
เฉินชางหมดคำพูด “นี่คุณกินข้าวเหรอครับ”
ชายหนุ่มส่ายหัว “ผมกินประจำ กินจนดื้อยาแล้ว”
เฉินชางอดส่ายหัวไม่ได้ “เมื่อกี้คุณหัวใจเต้นพลิ้วหมดสติไป เกือบเอาชีวิตไม่รอดแล้ว!”
ชายหนุ่มงุนงงทันที “ตะ…ตอนนี้ผมก็สบายดีอยู่ไม่ใช่เหรอครับ ก็แค่มึนหัวนิดหน่อย ใจสั่น…”
คนที่อยู่รอบๆ ก็มองดูเฉินชาง ไม่ค่อยเข้าใจ
เก่อฮว๋ายพูด “หมอเฉิน จะตรวจเอคโค่อยู่ไหมครับ หมอแผนกโรคหัวใจก็มาแล้ว”
เฉินชางส่ายหัว “ไม่ตรวจแล้วครับ รอดูความเข้มข้นของยาในเลือด”
ความเข้มข้นของยาในเลือดผลออกไว ไม่นานนักก็โทรมาแล้ว วินิจฉัยได้ถูกต้อง ภาวะพิษจากยาพาราเซตามอล!
คราวนี้ทุกคนต่างตะลึงงัน จ้องเฉินชางหน้าตื่นตระหนก
แบบนี้ก็ได้เหรอ นี่ยังวินิจฉัยออกมาได้ด้วยเหรอ
ผู้ป่วยถูกห้องฟอกเลือดส่งไปฟอกเลือดแล้ว ปัญหาไม่ได้ใหญ่โต
แต่ไม่ว่าหมอที่ขึ้นมาจากแผนกโรคหัวใจ อู๋เผิงที่มาจากแผนกฉุกเฉิน หรือแม้กระทั่งคนที่อยู่รอบๆ ก็ต่างเบิกตากว้าง
ขนาดหมอห้องฟอกเลือดยังเอ่ยว่า “นี่ยังวินิจฉัยได้ จะมหัศจรรย์เกินไปแล้ว!”
ใช่แล้ว ทุกคนต่างจ้องเฉินชางด้วยสายตาเคารพบูชา ทำให้เขาค่อนข้างเขิน…
หลังจากกลับมา หมอดีกรีปริญญาเอกเบอร์สามยังจ้องเฉินชางไม่เลิก “หมอเฉิน สมองคุณตกลงมันหน้าตาเป็นยังไงกันแน่”
“นั่นสิ! ผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์ของพาราเซตามอลคุณยังรู้!”
“คุณท่องคู่มือยาหมดเลยเหรอ”
เฉินชางยิ้ม
ด้านเมิ่งซีก็มองเฉินชางอย่างดีอกดีใจ “ยอดเยี่ยม! เรื่องนี้ยังทำได้!”
เฉินชางอดพูดไม่ได้ว่า “อาจารย์สอนมาดีครับ!”
คราวนี้เมิ่งซีคุมไม่อยู่ ด้านหมอดีกรีปริญญาเอกเบอร์สามยังพากันชูนิ้วกลาง
“หมอเฉิน นี่จะประจบกันเกินไปมั้ย!”
“นั่นสิ ไม่ได้ประจบกันจนถึงขั้น…”
เมิ่งซีถลึงตาใส่ทุกคน “ทำไม เขาเก่งแล้วไม่ใช่นักเรียนฉันเหรอ”
ทุกคนยิ้มเจื่อนๆ อย่างห้ามไม่ได้ “ครับๆๆ…เป็นเพราะหัวหน้าเมิ่งเก่งทั้งนั้นเลยครับ!”
[ติ๊ง! ค่าความรู้สึกดีของเมิ่งซี +10!]
เฉินชางเผยยิ้ม
[1] การตรวจวิเคราะห์ก๊าซในเลือด (blood gas analysis)
[2] การตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (complete blood count)
[3] ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูง