หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรักตอนพิเศษ 64-1 ค่ำคืนอันงดงาม พบหน้าลูกเขยเวิง (2)

ตอนพิเศษ 64-1 ค่ำคืนอันงดงาม พบหน้าลูกเขยเวิง (2)

ตอนพิเศษ 64-1 ค่ำคืนอันงดงาม พบหน้าลูกเขยเวิง (2)

ระหว่างทางกลับ ชิงสุ่ยเจินเหรินโมโหมาก

ตามหลักเหตุผลแล้ว เจ้าตำหนักจะอยู่กับใครไม่เกี่ยวอันใดกับเขา หนำซ้ำเจ้าตำหนักยังไม่ได้แต่งภรรยา ต่อให้ดึกดื่นนัดพบกับใครตามลำพังก็ไม่ใช่เรื่องผิดประเพณีวิถีแต่อย่างใด แต่เหตุใดเขาถึงรู้สึกไม่พอใจเล่า

หลังจากชิงสุ่ยเจินเหรินกลับไปแล้ว ใต้เท้าเจ้าตำหนักหันไปมองผู้พิพากษาชุยด้วยสายตาดุเย็น “เล่นพิเรนท์ สนุกมากไหม”

ผู้พิพากษาชุยเหลือบตามองฟ้า

เพียงแต่ก่อนที่ชิงสุ่ยเจินเหรินจะไปได้บอกสิ่งที่ควรจะบอกกับผู้พิพากษาชุยแล้ว และผู้พิพากษาชุยก็ได้บอกกับใต้เท้าเจ้าตำหนักแล้วเช่นกัน

ใต้เท้าเจ้าตำหนักเลิกคิ้ว “ยังมีเรื่องราวเบื้องหลังเช่นนี้ด้วยหรือ” ของที่ตามหามานานปี สุดท้ายเงื่อนงำอยู่ข้างกายนี้เอง ไม่รู้จริงๆ ว่าควรโกรธหรือควรดีใจ

เฉียวเวยเวยกินอิ่มดื่มพอก็ไม่มีอะไรต่างไปจากครั้งก่อนๆ นางพิงซบอยู่กับอกใต้เท้าเจ้าตำหนักแล้วหลับไป

ใต้เท้าเจ้าตำหนักจับตัวนางขึ้นมา นางก็ทิ้งตัวกลับลงมาอีกครั้ง

ใต้เท้าเจ้าตำหนักถอนหายใจด้วยความจนใจ อุ้มนางกลับสำนักเชียนหลันไป

จีเสี่ยวซิวใช้ข้ออ้างว่าจะออกไปเที่ยวเล่นในการไปหาเถิงเสอที่ปลอมเป็นมังเขียวน้อยที่หลังเขา

ก่อนหน้านี้ที่ไปหาเถิงเสอล้วนเป็นเพราะสำนักเชียนหลันต้องการตามหามังกรหนึ่งตัว ส่วนเฉียวเวยเวยก็ไม่สะดวกจะเปิดเผยตัวตน ถึงได้เกิดแผนหาตัวตายตัวแทนขึ้นมา เวลานี้ฐานะของสำนักเชียนหลันมั่นคงดีแล้ว จะมีมังกรตัวนี้อยู่หรือไม่ก็ไม่ได้ส่งผลใดๆ อีก

แต่เถิงเสอไม่อยากย้ายกลับไปยังนรกภูมิที่ไม่มีวันไม่มีคืนอย่างยมโลกอีก จึงยังคงคอยดูดซับปราณมังกรแท้จากเฉียวเวยเวยทุกสามวันห้าวันเพื่อรักษารูปลักษณ์มังกรเขียวเอาไว้ และกินอยู่ที่สำนักเชียนหลันต่อไป

ตอนจีเสี่ยวซิวไปหามัน มันกำลังกินกุ้งทะเลตัวเล็กที่ทั้งสดทั้งฉ่ำอยู่หนึ่งกะละมัง

เถิงเสอสัมผัสถึงความเคลื่อนไหวของจีเสี่ยวซิวมาได้แต่ไกล กระทั่งจะแปลงร่างก็ยังเกียจคร้าน นอนแผ่หลาอยู่บนสนามหญ้าข้างสระน้ำ หางงูท่อนใหญ่แช่อยู่ในบ่อน้ำที่เย็นยะเยือก ช่างแสนสุขยิ่งนัก

จีเสี่ยวซิวเดินเข้าไปบอกว่า “เถิงเสอ เจ้ารู้จักดินเทพธิดาหนี่ว์วาหรือไม่”

เถิงเสอไม่สนใจเขา

จีเสี่ยวซิวจับหางงูของมันดึงขึ้นมา ถามด้วยน้ำเสียงดุดันว่า “หากเจ้าไม่บอกข้า ข้าจะตัดปราณมังกรของเจ้าเสีย หากไร้ซึ่งปราณมังกร ข้าจะดูสิว่าเจ้าจะเอาอะไรมาปลอมตัวเป็นมังกรเขียว!”

เดิมทีเถิงเสอคิดจะต่อต้านขัดขืนสักนิด แต่พอฟังถึงตอนท้ายเขาก็รีบเปลี่ยนท่าทีเป็นว่าง่าย

โบราณกล่าวไว้ดีนัก จากมัธยัสถ์ไปฟุ่มเฟือยนั้นง่าย จากฟุ่มเฟือยไปมัธยัสถ์นั้นยาก หลังจากได้ดื่มด่ำกับชีวิตอันแสนสบายในสำนักเชียนหลันแล้ว เขาไม่อยากกลับไปยังนรกภูมิในแดนยมโลกอีกเลยจริงๆ

ยิ่งไปกว่านั้นเดิมทีดินเทพธิดาหนี่ว์วาอยู่ที่ใดเขาก็รู้อยู่ แน่นอนว่าอย่างไรเขาก็มีความผิดติดตัว เขาไม่สามารถเอ่ยวาจาได้อย่างคนทั่วไปแล้ว เขาจึงใช้หางวาดภาพนกเก้าหัวลงบนพื้น

คิ้วงามของจีเสี่ยวซิวพลันขมวดมุ่น “กุ่ยเชอ?”

เถิงเสอพยักหน้า

กุ่ยเชอหรือมีอีกชื่อว่านกเก้าหัว เป็นนกปีศาจประเภทหนึ่งที่ดุร้ายอย่างยิ่ง เมื่อตอนที่เถิงเสอถูกขับออกจากตำหนักเทพนั้น มันเริ่มต้นด้วยการท่องไปยังแดนทั้งห้าเพื่อหาประสบการณ์ก่อน ตอนท่องไปยังแดนปีศาจนั้นมันบังเอิญเจอกับนกเก้าหัว แล้วไม่รู้เกิดอะไรขึ้นไปมีเรื่องต่อสู้กับนกตัวนั้นเข้า

โบราณกล่าวไว้ได้ดีนัก มังกรผงาดหรือจะสู้งูดิน เถิงเสอมีฐานะสูงส่งแข็งแกร่ง แต่ถึงอย่างไรก็สูญเสียข้อได้เปรียบไปแล้ว เมื่อมาอยู่ในถิ่นฐานของกุ่ยเชอจึงตกเป็นรองอย่างรวดเร็ว

กุ่ยเชอค้นตัวเถิงเสออยู่เป็นครึ่งค่อนวันก็ไม่พบของที่มีประโยชน์ จึงนำเอาดินเทพธิดาหนี่ว์วาที่พอมีไอปราณของเทพอยู่บ้างไป

แน่นอนว่าตัวกุ่ยเชอไม่รู้ว่านั่นคือดินของเทพหนี่ว์วา คิดเพียงว่าจะสร้างรังขึ้นบนดินนี้ การบำเพ็ญตนของตนน่าจะเร็วขึ้นได้

ทุกวันนี้กุ่ยเชอถือว่าดินก้อนนั้นเป็นของมีค่า หากคิดจะแย่งชิงมาจากมือกุ่ยเชอน่ากลัวว่าคงไม่ใช่เรื่องง่าย

ทว่าเวลานี้มีชิงสุ่ยเจินเหรินแล้ว ชิงสุ่ยเจินเหรินร้อนใจยิ่งกว่าใต้เท้าเจ้าตำหนักเสียอีก เขาจะต้องคิดทำทุกวิถีทางเพื่อเอาดินเทพธิดาหนี่ว์วามาไว้ในมือให้ได้เป็นแน่

แล้วก็เป็นเช่นกันจริงๆ พอใต้เท้าเจ้าตำหนักให้ผู้พิพากษาชุยไปบอกที่อยู่ของดินเทพธิดาหนี่ว์วากับชิงสุ่ยเจินเหริน ชิงสุ่ยเจินเหรินก็แทบจะบอกผู้พิพากษาชุยทันทีอย่างไม่มีลังเลว่าเรื่องนี้ให้เป็นหน้าที่ของเขาเอง

ดินเทพธิดาหนี่ว์วาอยู่ในแดนปีศาจ หนทางยาวไกล คงไม่ได้พบหน้าบุตรสาวเสียหลายวัน ชิงสุ่ยเจินเหรินกลัวว่าพอตนไม่อยู่บ้าน ทั้งคุณชายและผู้ฝึกตนที่มาสู่ขอถึงบ้านจะลักพาตัวบุตรสาวของตนไป จึงคิดจะพาบุตรสาวไปด้วย แต่ก็มาได้ยินว่าราชาปีศาจมีนิสัยเจ้าชู้ ก็นึกกลัวว่าหากราชาปีศาจได้เห็นรูปลักษณ์ของบุตรสาวตนแล้วจะลอบนึกพิศวาสในบุตรสาวตนขึ้นมา

หลังจากใคร่ครวญอย่างถี่ถ้วนแล้ว ชิงสุ่ยเจินเหรินจึงให้เฉียวเวยเวยอยู่ที่นี่ แต่เขาเรียกจีเสี่ยวซิวมาสั่งการโดยไม่สนใจว่าจีเสี่ยวซิวจะฟังเข้าใจหรือไม่ “…เจ้าจะต้องคอยตามติดเวยเวยตลอดเวลานะรู้ไหม นางไปที่ใดเจ้าก็ต้องไปที่นั่น อย่าให้นางอยู่ตามลำพังกับศิษย์พี่ศิษย์น้องเหล่านั้นของเจ้าเด็ดขาด…”

การเดินทางไปตามหาดินเทพธิดาหนี่ว์วาที่แดนปีศาจของชิงสุ่ยเจินเหรินนั้นราบรื่นจนน่าประหลาด เขายังไม่ทันทำอะไรเลย ราชาปีศาจก็เอาดินเทพธิดาหนี่ว์วามาประเคนให้เขาแล้ว

ราชาปีศาจราวกับคาดเดาจุดประสงค์ของเขาเอาไว้อยู่แล้ว เอาดินเทพธิดาหนี่ว์วามายื่นให้ตรงหน้าชิงสุ่ยเจินเหรินโดยไม่พูดอะไรสักคำ

ชิงสุ่ยเจินเหรินสงสัยว่าจะเป็นแผนลวง!

ราชาปีศาจที่มีผมยาวสยายสีแดงเพลิง อาภรณ์หรูหรางดงามบนตัวเป็นสีแดงเพลิงตลอดร่างจึงคลี่ยิ้มกว้างพลางบอกว่า “ก่อนหน้านี้ไม่รู้ถึงฐานะของท่านเจินเหรินกับธิดาของท่าน จึงล่วงเกินไปบ้าง ข้าขออภัยท่านเจินเหรินไว้ ณ ที่นี้ นี่คือดินเทพธิดาหนี่ว์วาที่ข้าใช้สมบัติในบ้านไปแลกมาจากมือกุ่ยเชอ ขอท่านเจินเหรินอย่าได้รังเกียจ”

กุ่ยเชอเป็นปีศาจนก ขอเพียงเป็นของในแดนปีศาจล้วนอยู่ในความดูแลของราชาปีศาจทั้งสิ้น การที่ราชาปีศาจนำของจากกุ่ยเชอมาได้นั่นไม่ใช่เรื่องแปลก ที่น่าแปลกคือเขารู้ได้อย่างไรว่าตนต้องการของสิ่งนี้

นัยน์ตาชิงสุ่ยเจินเหรินมีความระแวดระวังปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว

หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก

หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก

Score 10
Status: Completed
นิยายแปลไทยเรื่อง : หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก ผู้เขียน : เพียนฟางฟาง (偏方方) แนะนำเรื่องย่อ เมื่อหมอสาวยุคปัจจุบันต้องทะลุมิติมาอยู่ในยุคโบราณแถมพ่วงด้วยลูกแฝดอีกสอง ทำขนม ดักสัตว์ ทำไร่ ทำทุกอย่างที่ได้เงิน! เฉียวเวย เด็กกำพร้าไร้ญาติขาดมิตรจู่ๆ ก็ทะลุมิติมายังยุคโบราณที่ไม่รู้จัก นอกจากจะมาอาศัยร่างคนอื่นอยู่แล้ว ร่างเดิมนี้ยังมีลูกแฝดอีกสองชีวิตให้ต้องเลี้ยงดู! นางที่ไร้ซึ่งความทรงจำใดๆ ในโลกใบใหม่แต่พราะทักษะติดตัวสมัยยังต้องดิ้นรนในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าทำให้ชีวิตไม่ลำบากเกินไปนัก ทำขนม ดักสัตว์ ปลูกพืช รักษาคน จากนี้นางจะเลี้ยงลูกๆ ให้เติบใหญ่ด้วยมือของนางเอง! เจ้าซาลาเปาน้อยจูงมือบุรุษใบหน้าเคร่งขรึมเข้ามา "ท่านแม่ ท่านลุงบอกว่าเขาเป็นพ่อของข้า" เฉียวเวยยิ้มละไม "ลูกรัก บอกพ่อเจ้าหน่อย ว่าต้องทำเช่นไรถึงจะพิสูจน์ว่าเป็นพ่อของเจ้าได้" เจ้าซาลาเปาน้อยเปิดสมุดทองคำ พูดอย่างชื่อๆ ว่า "ข้อที่หนึ่งร้อยหนึ่งของ 'กฎครอบครัวเฉียว' หลอกลวงเด็กสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะมีโทษตัดอวัยวะสืบพันธุ์ ท่านลุง หากท่านเป็นพ่อของข้าจริงๆแล้วล่ะก็..." โดยไม่รอให้เจ้าซาลาเปน้อยจะพูดจบ ปลายนิ้วอันย็นเฉียบของชายคนนั้นก็บีบคางของเฉียวเวย เผยให้เห็นรอยยิ้มที่เย็นชาและเป็นอันตราย "หากข้าจำไม่ผิด คืนนั้น เหมือนเจ้าจะเป็นคนบังคับขืนใจข้า!"

Options

not work with dark mode
Reset