บทที่ 463 พี่สะใภ้หายไป
บทที่ 463 พี่สะใภ้หายไป
การสนทนาได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ดังนั้นเซี่ยจิ่งเยว่ไม่มีอะไรต้องอายอีกต่อไป
เขาพูดว่า “ไม่กี่วันก่อนพี่ทะเลาะกับพี่สะใภ้ของเธอ และหล่อนก็…หล่อนก็กลับไปบ้านพ่อแม่ตัวเอง ต่อมาพี่ไปที่บ้านพ่อตาแม่ยายเพื่อตามหา แต่พวกเขาบอกว่าหล่อนออกไปหางานทำตั้งแต่หลายวันก่อนแล้ว”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ เซี่ยชิงหยวนก็ขมวดคิ้ว “พี่สะใภ้ไม่เคยมาหาฉันเลยนะ”
แม้ว่าเธอกับเสิ่นอี้โจวเพิ่งกลับมาเมื่อวานนี้ ถ้ากงเหลียนซินมาหาก็ต้องเจอกับป้าอู๋และคนเฝ้าประตูสิ ซึ่งคนเหล่านั้นจะบอกเธออย่างแน่นอน
ครอบครัวฝั่งกงเหลียนซินไม่เหมือนพวกตระกูลจาง พวกเขาทุกคนซื่อสัตย์และมีเหตุผล จึงเป็นไปไม่ได้ที่ตระกูลกงจะจงใจหลอกลวงเซี่ยจิ่งเยว่ หรือแอบทำอะไรกับกงเหลียนซิน
ดังนั้นจึงเป็นไปได้มากที่กงเหลียนซินจะออกไปด้วยตัวเองจริง ๆ
เมื่อเซี่ยจิ่งเยว่ได้ยินสิ่งนี้เขาก็ตกใจมาก “ถ้างั้นพี่สะใภ้ของเธอจะไปไหนได้ล่ะ?”
เซี่ยชิงหยวนกลอกตาและถามกลับ “พี่กับพี่สะใภ้ทะเลาะกันเรื่องอะไร?”
การที่กงเหลียนซินออกไปหางานทำข้างนอกอาจมีอะไรเกี่ยวข้องด้วยก็ได้
ตั้งแต่กงเหลียนซินแต่งงานเข้าตระกูลเซี่ย ความสัมพันธ์ของสองสามีภรรยาก็รักกันมากมาโดยตลอด เธอไม่เคยเห็นพวกเขาทะเลาะกันจนหน้าดำหน้าแดงมาก่อน และครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่พวกเขาทะเลาะกันอย่างจริงจัง
ซึ่งดูเหมือนว่าการทะเลาะกันคงจะรุนแรงมากจนกงเหลียนซินกลับไปบ้านพ่อแม่และจากไปโดยไม่บอกลาเพื่อทำงาน
เมื่อเซี่ยจิ่งเยว่ได้ยินคำถามนี้ เสียงของเขาในโทรศัพท์ก็เงียบลง
เมื่อรู้ว่าการปกปิดไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องบอกทุกอย่างกับเซี่ยชิงหยวน “ในช่วงตรุษจีน พ่อของเราพูดเกี่ยวกับการแยกครอบครัวใช่ไหมล่ะ? อันที่จริงก่อนที่เซี่ยจิ่งเฉินจะจากไป เขาก็พูดถึงเรื่องนี้ไปแล้ว โดยบอกว่าเขาจะดูแลบ้านเอง แล้วให้พี่กับเหลียนซินออกไปอยู่ข้างนอกกันเองได้ แต่…พี่เห็นว่าพ่อกับแม่ก็แก่มากแล้ว ถ้าพี่พาซือเหยียนและซือถงไปด้วย พี่รู้สึกว่าตัวเองทำไม่ได้ พี่ก็เลย…”
ขณะที่พูด เสียงของเขาเบาลงเรื่อย ๆ อย่างรู้สึกผิด
เซี่ยชิงหยวนพูดเสริมว่า “ดังนั้นพอพี่สะใภ้ของฉันพูดถึงเรื่องการย้ายไปอยู่ในเมืองหลายครั้งแต่พี่ก็ปฏิเสธอยู่เรื่อย ๆ สุดท้ายพวกพี่ก็เลยทะเลาะกันเพราะเรื่องนี้ใช่ไหม?”
เซี่ยจิงเยว่ตอบด้วยน้ำเสียงสลด “ใช่…”
เขาเสริมทันที “อย่าบอกแม่เรื่องนี้นะ แม่ยังคิดอยู่ว่าเป็นเพราะแม่ยายป่วย ดังนั้นพี่สะใภ้ของเธอจึงต้องกลับไปดูแล…”
เซี่ยชิงหยวนอดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วหลังจากได้ยิน แล้วพูดว่า “พี่ใหญ่ ไม่ใช่ว่าฉันเคยบอกพี่ไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าพี่ต้องเป็นคนเข้มแข็งกว่าเดิมน่ะ? พี่คิดว่าจะสามารถซ่อนมันต่อไปได้นานแค่ไหนกันหะ? และนี่มันก็นานแล้วนะที่พี่สะใภ้ไม่ตอบกลับอะไรมาเลย แล้วแบบนี้พี่จะบอกแม่ต่อไปว่ายังไงอีก?”
เซี่ยจิ่งเยว่รู้ว่าตัวเองผิด เขาอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ก่อนจะพูดว่า “พี่ก็เลยอยากขอความช่วยเหลือจากเธอหน่อยนี่ไง”
เขารู้ว่ากงเหลียนซินไม่ได้วางแผนแม้แต่น้อยในการพึ่งพาเซี่ยชิงหยวน ดังนั้นเขาจึงเดาได้อยู่บ้างว่ากงเหลียนซินน่าจะไม่ได้ไปหาน้องสาว แต่เขาไม่มีทางเลือกจริง ๆ จึงมาขอความช่วยเหลือจากเธอ นี่เป็นความคิดสุดท้ายของเขา ซึ่งเขาหวังว่ากงเหลียนซินจะเปลี่ยนใจในภายหลังและไปขออยู่กับเซี่ยชิงหยวน
เซี่ยชิงหยวนถอนหายใจ “พี่ใหญ่ พี่คิดว่าพี่สะใภ้ไม่สามารถทำอะไรได้ด้วยตัวเองจริง ๆ เหรอ?”
“เรื่องนี้เป็นเรื่องภายในครอบครัวของสามีภรรยา พี่สะใภ้ต้องการแยกครอบครัว ซึ่งทั้งพ่อและพี่รองก็เห็นด้วย ส่วนแม่ก็ไม่ได้บังคับให้พวกพี่ต้องอยู่ด้วยกันที่บ้าน แล้วทำไมพี่ถึงไม่คุยกับพี่สะใภ้กันให้ดีตั้งแต่แรกล่ะ?”
เซี่ยไป่เหิงกำลังจะต้องไปโรงเรียนในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ แต่เซี่ยจิ่งเยว่ยังมีชีวิตอยู่อย่างยากจน ดังนั้นกงเหลียนซินจึงวิตกกังวลเป็นธรรมดา
แต่นี่เป็นเรื่องของพี่ใหญ่และพี่สะใภ้ เธอไม่สามารถชักชวนให้พวกเขาแยกจากกันเข้าเมืองได้ ถ้าหวังผิงรู้เรื่องนี้เธอจะถูกตำหนิอีกครั้งแน่
ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถช่วยเหลือในเรื่องนี้ได้จริง ๆ
เซี่ยจิ่งเยว่หน้าแดงกับสิ่งที่เซี่ยชิงหยวนพูดและกำลังจะร้องไห้ “แล้วพี่ควรทำยังไงดี? ถ้าพี่สะใภ้ของคุณไม่กลับมา แบบนี้พี่ก็ไม่สามารถขอโทษได้ด้วยซ้ำ”
เซี่ยชิงหยวนอดไม่ได้ที่จะช่วยพูดให้กงเหลียนซิน “แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าพี่สะใภ้กลับมา? พี่จะเปลี่ยนใจเมื่อพี่เขากลับมาไหม? และถ้าพี่ยังทำเหมือนเดิมเมื่อเธอกลับมา เธอก็คงจะออกไปอีกครั้งทันทีนั่นแหละ”
เมื่อเธอพูดแบบนี้ หญิงสาวรู้สึกมีอารมณ์รุนแรงเด็กในท้องจึงขยับตัวและเตะเธอ
เซี่ยชิงหยวนรีบเอามือตบเบา ๆ บริเวณที่ถูกเตะเพื่อแสดงการปลอบใจ
เซี่ยจิ่งเยว่ตื่นตระหนกมาก “น้องสาว พี่ผิดไปแล้ว”
เซี่ยจิ่งเยว่ดีกับเซี่ยชิงหยวนมากตั้งแต่เธอยังเป็นเด็ก และเธอก็ไม่สามารถเมินเขาได้จริง ๆ จึงพูดว่า “ถ้างั้นวันนี้พี่ก็ควรไปที่บ้านพี่สะใภ้อีกรอบ แล้วถามกับคนที่มักจะใกล้ชิดกับเธอซะ คนพวกนั้นน่าจะรู้ว่าเธอไปอยู่ที่ไหน แล้วเดี๋ยวฉันจะขอให้อี้โจวให้ใครสักคนช่วยสืบให้อีกแรงเอง เพื่อดูว่ามีข่าวเกี่ยวกับพี่สะใภ้บ้างไหม”
เซี่ยจิ่งเยว่ขอบคุณทันที “ขอบคุณนะน้องสาว”
เซี่ยชิงหยวนมองไปที่เพดานและรู้สึกอ่อนแรง “ไม่จำเป็นต้องขอบคุณฉันหรอก”
หลังจากนั้นเธอก็โทรหาเสิ่นอี้โจวอีกครั้งและบอกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้
เสิ่นอี้โจวพูดทันที “เดี๋ยวผมจะขอให้ใครสักคนสังเกตผู้คนที่ขึ้นรถประจำทางหรือรถไฟในช่วงนี้ให้นะ เพื่อดูว่ามีใครเห็นพี่สะใภ้ไหม”
เซี่ยชิงหยวนวางสายโทรศัพท์แล้วทรุดตัวลงบนโซฟาด้วยความรู้สึกเหนื่อยล้า
ก่อนที่จะพักผ่อนได้สักพัก ป้าอู๋ก็เดินเข้ามาหา “คุณผู้หญิงคะ คุณเผ่ยมาหาค่ะ”
เซี่ยชิงหยวนพยายามลุกขึ้นจากโซฟา “หืม?”
……………………………………………