เด็กม.ปลายสายม็อบอย่างผมจะกลายเป็นสายเรียลได้ไหมถ้าเป็นนักผจญภัย 44 โปรดงดการชักชวนเชิงศาสนาภายในพื้นที่มหาวิทยาลัย

ตอนที่ 44 โปรดงดการชักชวนเชิงศาสนาภายในพื้นที่มหาวิทยาลัย

บทที่ 2 ตอนที่ 18 

 

    วันต่อมาหลังเลิกเรียน พวกเรามายังมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในโตเกียวเพื่อทำการรายงานแก่ผู้ร้องขอว่าเควสเสร็จสิ้นแล้ว

    ตามปกติเควสจะจบลงได้เพียงแค่ทำการส่งรายงานหรือสิ่งของที่ต้องการแก่ทางกิลล์ แต่สำหรับเควสจำพวกนี้ที่มีความเป็นความตายของคนมาเกี่ยวข้อง ถือว่าเป็นธรรมเนียมที่จะจบเรื่องด้วยการรายงานแก่ผู้ร้องขอโดยตรง

    มีหลายกรณีที่ผู้ร้องขอไม่พอใจกับเพียงแค่รายงานทั่วไปจากทางกิลล์ แต่จะพอใจหากนักผจญภัยที่เป็นผู้พบศพมารายงานโดยตรงแทน

 

「ว้าว~ นี่น่ะเหรอมหาวิทยาลัย~ แบบว่าทุกคนดูดีและก็เป็นผู้ใหญ่จังเลยส์น้า~」

 

    อันนาที่ผ่านประตูทางเข้า-ออกหลักไป ทำการมองไปรอบๆแล้วส่งเสียงอุทานออกมา

    มหาวิทยาลัยที่เพิ่งเคยมาเยี่ยมเยี่ยนเป็นครั้งแรก ดูจะมีความเป็นอิสระและความซับซ้อนแตกต่างไปจากโรงเรียนมัธยมปลาย

    นักศึกษามหาวิทยาลัยที่อยูรอบๆพวกเราต่างสวมชุดและจัดทรงผมที่ดูสะอาดและมีสไตล์ ถึงแม้ว่าจะอายุมากกว่าพวกเราแค่ไม่กี่ปีแต่ท่าทางล้วนดูแล้วมีความสงบ

    เมื่อตอนที่นักเรียนม.ต้นได้เห็นนักเรียนม.ปลายแล้วรู้สึกว่าพวกนั้นดูมีความเป็นผู้ใหญ่กว่า แต่จากมุมมองของนักเรียนม.ปลายแล้ว นักศึกษามหาวิทยาลัยดูจะเป็นผู้ใหญ่มากต่างไปราวกับคนละโลก

    …..แต่ทว่า พอได้มาเป็นนักเรียนม.ปลายแล้วกลับมารู้ตัวว่าภายในนั้นก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไรไปมากมาย พอตอนเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยก็อาจจะรู้สึกเช่นกันว่าไม่ได้เป็นผู้ใหญ่มากขนาดนั้น

 

「…..อาโน รุ่นพี่ ไม่ใช่ว่าพวกเราถูกมองกันอยู่หรอกเหรอคะ?」

 

    การปรากฏตัวของพวกเราที่มาในชุดนักเรียนม.ปลายดูจะดึงดูดความสนใจแก่คนรอบๆ ได้รับสายตาอยากรู้อยากเห็นจากเหล่านักศึกษามหาวิทยาลัยมาตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว

    ไม่สิ นี่มันไม่ใช่ ที่เด่นมันคือรูปร่างหน้าตาของอันนากับแฟชั่นของโอริเบะต่างหาก

    ขณะที่พวกเรากำลังรู้สึกไม่ค่อยสบายใจอยู่นั้น ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงน้ำพุใกล้กับประตูหลักก็เดินเข้ามาใกล้ทางนี้

 

「อาโน หรือว่าจะเป็นคนที่รับคำร้อง คาโน่ซังรึเปล่าครับ?」

 

    คนที่ส่งเสียงทักมาคือชายหนุ่มหน้าตาอ่อนโยนอายุประมาณ 20

    อันนาที่น่าจะรู้ถึงตัวตนของชายหนุ่มนั้นทันทีจึงตอบไป

 

「อะ ค่ะ! หรือว่าจะเป็นอาโอกิซังรึเปล่าคะ?」

「ครับ อาโอกิ เซยะครับ ที่ตกลงรับคำร้องนี่ไปต้องขอบคุณมากจริงๆครับ」

 

    หลังพูดจบ อาโอกิซังก็โค้งศรีษะให้

 

「ตรงนี้คงจะไม่เหมาะ ถ้ายังไงตอนนี้ไปที่ห้องชมรมก่อนเถอะครับ」

「อะ ค่ะ」

 

    อาโอกิซังนำทาง พาไปยังห้องของเซอร์เคิล(circle)

    ห้องชมรมดูเล็กกว่าที่คาดไว้ มีโต๊ะอยู่ตรงกลางกินพื้นที่ไปมาก ที่ผนังเองก็มีของหลายอย่างเต็มไปหมด แค่ 5 – 6 คนอยู่ภายในก็รู้สึกว่าแน่นแล้ว

    พอพูดถึงชมรมของมหาวิทยาลัยแล้วก็ให้ความรู้สึกว่าต้องหรูหรากว่าของม.ปลาย เพราะงั้นเลยประหลาดใจที่เห็นว่ามันดูแย่กว่าที่คาดเอาไว้มาก

    แต่ว่าตัวห้องชมรมที่เป็นแบบนั้นก็เพียงพอแล้วสำหรับอันนา เธอมองดูไปรอบๆห้องด้วยแววตาเป็นประกาย

 

「รุ่นพี่รุ่นพี่! ห้องชมรมล่ะ ห้องชมรม! อิย๊า แคบมากจนเดินไม่ค่อยได้เลย นี่มันรู้สึกเหมือนเป็นห้องชมรมของเซอร์เคิลเล็กๆเลยส์ล่ะ~!」

「ด-เดี๋ยวเถอะ!」

 

    เด็กคนนี้ พูดอะไรหยาบคายจริง!

    ด้วยกันกับโอริเบะเข้าไปทำให้อันนาก้มหัว นี่หล่อนคิดจะทำเรื่องบ้าๆเพื่อให้พวกแม่ๆอับอายกันรึไง!

    อาโอกิซังที่เห็นพวกเราเป็นแบบนั้นก็ยิ้มแห้งๆให้แล้วพูด

 

「ไม่หรอก ขอโทษด้วย เราก็แค่เซอร์เคิลเล็กๆที่มีกันไม่กี่คนเท่านั้นเอง ชมรมนักผจญภัยจะมีห้องที่ใหญ่กว่าและคนเยอะกว่าน่ะ」

「อะ อย่างงั้นเหรอครับ…..」

 

    ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจความแตกต่างระหว่างชมรมกับเซอร์เคิลซักเท่าไหร่ ก็เลยตอบกลับไปได้แค่นั้น

 

「แล้ว…..ร่างของโชโกะ พบแล้วสินะครับ」

「อะ ค่ะ ทางนี้เป็นเอกสารยืนยันตัวตนของผู้ตายค่ะ」

 

    พอพูดไป อันนาก็ยื่นใบรับรองที่ออกโดยทางกิลล์ให้

    เมื่อได้รับไป อาโอกิซังก็โค้งศรีษะให้

 

「ขอบคุณมากครับ…..อย่างที่คิด โชโกะเสียชีวิตแล้วจริงๆสินะ…..」

 

    อาโอกิซังพูดด้วยความเศร้า ผมลังเลว่าจะถามคำถามไปดีไหมแต่ก็พูดออกไป

 

「…..อาโน เป็นอะไรกันกับซาโต้ โชโกะซังเหรอครับ…..」

「กับเธอแล้ว เป็นแฟนกันน่ะครับ」

「งั้นเหรอครับ…..」

 

    ผมกับอันนานิ่งเงียบ ไม่รู้จะพูดอะไรกับอาโอกิซังที่สูญเสียคนรักและมีน้ำตาไหลอยู่ตรงหางตา

    ในตอนนั้นเอง โอริเบะที่อยู่เงียบๆ มองสำรวจไปรอบๆตั้งแต่เข้าห้องชมรมมา จู่ๆก็พูดขึ้น

 

「…..ที่นี่เป็น เซอร์เคิลนักผจญภัยเหรอคะ?」

「เอ๋?」

 

    อาโอกิซังผงะให้กับคำถามที่จู่ๆก็มา

 

「เมื่อครู่นี้…..ได้ยินว่าห้องของชมรมนักผจญภัยจะกว้างขวางกว่า แล้วก็ยังมีเสบียงสำหรับนักผจญภัยวางกองอยู่ตรงผนังนั่นด้วย」

 

    หลังจากพูดก็มองไปดูตรงที่โอริเบะก็ชี้นิ้วไป ที่ตรงนั้นมีอะไรบางอย่างที่ดูเหมือนเป็นเสื้อเกราะโผล่ยื่นออกมาจากลังกระดาษ

    เธอนี่ หาเก่งจริงๆ…..

 

「เ-เอ…..ครับ เราเป็นเซอร์เคิลนักผจญภัย ไม่เหมือนกับชมรมนักผจญภัยแบบจริงๆจังๆ เป็นแค่กลุ่มคนไม่กี่คนที่ต้องการทำเรื่องสนุกกันเท่านั้น…..นั่นแหละครับ」

「อย่างงี้นี่เอง…..กับแฟนแล้วได้ลงเขาวงกตกันบ่อยไหมคะ?」

「ครับ สาเหตุที่พวกเราเริ่มคบกันก็เพราะผมเป็นคนช่วยสอนเธอ การ์ดที่เธอใช้อยู่ดั้งเดิมแล้วก็เป็นของผมที่ให้เช่าไป มันก็เลยเป็นเรื่องธรรมชาติ…..」

 

    พอได้ยินมาแบบนั้น ผมก็「จริงดิ! มีวิธีที่จะได้แฟนมาแบบนั้นด้วยเรอะ! สงสัยผมเองจะต้องไปมหาวิทยาลัยด้วยซะแล้ว」แม้จะตกใจแต่ก็รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างติดค้างอยู่ในใจ

 

「เห! ได้รับความไว้ใจเพื่อให้คำแนะนำแก่รุ่นน้องและสามารถให้เช่าการ์ดได้ด้วย สุดยอดไปเลยค่ะ!」

 

    โอริเบะ พูดด้วยน้ำเสียงหวานแหววเสียงดังแบบที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน พร้อมด้วยรอยยิ้มชวนหลงไหล

   ในขณะที่ผมกับอันนากำลังเกิดอาการช็อค อาโอกิซังก็แสดงอาการเขินอายแต่ก็ดูไม่ดีใจนัก

 

「ไม่หรอก เรื่องนั้น…..ก็นะ ถึงยังไงทางนี่ก็ยังเป็น 2 ดาวอยู่นั่นแหละ」

 

    หืม? 2 ดาว…..?

    ตอนนั้นเองที่ผมเข้าใจถึงตัวตนแท้จริงของความรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยที่มีต่ออาโอกิซัง

    โอริเบะเองก็หยุดท่าทางประจบประแจง แล้วตัดเปลี่ยนเป็นสีหน้าแสดงความสงสัยอย่างรวดเร็ว

 

「2 ดาว…..? อาโน ต้องขอเสียมารยาทแต่ว่า…..ไม่ได้ไปทำการค้นหาซาโต้ โชโกะซังด้วยตัวเองเหรอคะ?」

「! น-นั่นมัน…..」

 

    ด้วยคำพูดของโอริเบะ ทำเอาอาโอกิพูดไม่ออก

    ในตอนนั้นผมเองก็รู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของความรู้สึกไม่สบายใจ

    นั่นล่ะ ตัวเขาเองก็เป็นนักผจญภัย แถมยังเป็นนักผจญภัย 2 ดาวอีกต่างหาก มันจะไม่แปลกเลยถ้าจะไปค้นหาแฟนด้วยมือของตัวเอง ไม่สิ เป็นเรื่องธรรมชาติมากกว่า ไอ้การที่ไปทำคำร้องเพื่อการค้นหาต่างหากที่จะเป็นอะไรที่ผิดธรรมชาติ

    บรรยากาศตึงเครียดเริ่มเข้าปกคลุมพื้นที่

    ในตอนนั้นเองเกิดเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น

 

「ฮึ~บ อาเร๊ะ!? แขกเหรอ?」

 

    ที่พูดขณะเข้ามาในห้องก็คือหนุ่มหล่อในแบบ Johnnys…..

 

「อาเร๊ะ! คิทาคาว่าคุง!?」

「…..อะ! อาโอกิ, ซัง?」

 

    ตัวจริงของชายหนุ่มที่กำลังจ้องผมด้วยความตกใจก็คือคนที่ได้ทำการแลกเปลี่ยนการ์ดกันเมื่อวันนั้น นักผจญภัยที่ถูกตามจีบอยู่หน้าสถานี…..อาโอกิซังล่ะ

 

「…..เอ๋ อาโอกิเหรอ!」

 

    ด้วยความตกใจ ทำการมองเปรียบเทียบอาโอกิซังทั้ง 2 คน

    พอได้มองเทียบดูแล้ว ก็สังเกตุได้ถึงความหล่อที่แตกต่างกัน ดูเหมือนว่าโครงหน้าจะมีบางอย่างที่คล้ายๆกันอยู่

    หรือว่า…..?

 

「อะ ขอทำการแนะนำให้รู้จัก นี่คือพี่ชาย อาโอกิ มิโนรุครับ」

「ยินดีที่ได้รู้จัก! แหม ไม่เจอกันนานเลยนะคิทาคาว่าคุง」

「ม-ไม่เจอกันนานเช่นกันครับ」

 

    พอพูดไปเช่นนั้นก็ทำการจับมือกับมิโนรุซึ่งยื่นมืออกมาพร้อมรอยยิ้มสดใสบนใบหน้า

    จากนั้นเขาก็มากระซิบข้างหู

 

「…..อิย๊า เป็นห่วงแทบแย่เลย นั่นไง มันเกิดอะไรขึ้นกับเขาวงกตใช้ม้า? ผมเองพอรู้สึกตัวอีกทีก็ล้มคว่ำอยู่ที่ดันเจี้ยนมาร์ทแล้ว แถมถูกสอบสวนอีก…..คิทากาว่าคุงก็ด้วยใช่ไหม?」

「อา ครับ งั้นเหรอ…..อาโอกิซังเองก็ลงสำรวจอยู่ด้วยในวันนั้นสินะ」

「ใช่ใช่…..จริงๆแล้วนั่น นายเป็นคนทำเหรอ?」

「ไม่มีทาง!」

 

    ผมทำหน้าตาตกใจแล้วส่ายหัว ทางเขานิ่งแล้วมองมาอยู่ครู่หนึ่งราวกับกำลังสังเกตุ ในที่สุด 「ก็นั่นสินะ!」ก็หัวเราะแล้วหันหน้าไป

 

「แล้ว นี่มารวมตัวเรื่องอะไรกัน?」

「อา นั่นไง เกี่ยวกับเควสค้นหาโชโกะ」

 

    พอได้ยินคำพูดอึกอักของเซยะซัง ใบหน้าของมิโนรุซังก็ตึงเครียดขึ้นทันที

 

「อา…..งั้นเหรอ…..เรื่องในครั้งนี้ต้องขอขอบคุณมากครับ」

「ไม่หรอก…..」

 

    ขณะที่ส่ายหน้าอยู่ก็จำขึ้นมาได้

    ใช่แล้ว มิโนรุซังเองก็น่าจะเป็นนักผจญภัยที่มี 3 ดาวไม่ก็มากกว่า…..

 

「…..จะว่าไปแล้ว มิโนรุซังเองก็เป็นนักผจญภัย 3 ดาวใช่ไหมครับ ทำไมถึงต้องทำคำร้องให้ค้นหาโชโกะซังด้วย? ถ้าขอร้องพี่ชายก็ไม่จำเป็นต้องเสียค่าคำร้องเลยนี่ครับ?」

「หืม? อา งั้นเหรอ เพราะงั้นเลยสงสัยสินะ เหตุผลก็คือผมเป็นคนที่บอกให้น้องชายหยุดตามหาเอง ก็แบบ มันอันตรายใช่ไหมล่ะ?」

「อันตราย?」

「อา ก็แบบว่า โชโกะจังที่เริ่มอาชีพมานานปีกว่าและมีการ์ดแรงค์ D ที่พัฒนาแล้วอย่างดีกลับมาหายตัวไปใช่ไหม? ถ้างั้นมันก็ต้องเกิดอะไรบางอย่างขึ้นแน่ๆ แล้วก็ยังมีคนจำนวนหนึ่งที่สูญหายไปในเขาวงกตแรงค์ F อย่างแปลกๆในช่วงนี้อีก เพราะงั้นก็เลยบอกห้ามไม่ให้ไป เพราะว่าเป็นน้องชายแท้ๆล่ะนะ」

「นั่นมันก็…..ใช่อยู่ แต่ว่า…..」

「…………………………」

 

    เซยะซังก้มหน้าลงด้วยสีหน้าเศร้าหมอง ในขณะที่มิโนรุซังตอบกลับมาเรียบๆ

    …..อันที่จริง ความเห็นของมิโนรุซังมันก็ถูกต้อง มีความสุขุมสมกับที่เป็น 3 ดาว ในแง่ของการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงบางทีแล้วอาจจะมีความเฉลียวฉลาดมากกว่าผมซะอีก

    แต่ว่า เธอที่เป็นรุ่นน้องและเป็นแฟนสาวของน้องชายตัวเองกำลังตกอยู่ในอันตราย ทำแบบนั้นมันจะไม่ใจแข็งไปหน่อยเหรอ

    อีกทั้ง ในตอนนี้เกิดความสงสัยเกี่ยวกับเรื่องที่ตัวเขาไปอยู่ในเขาวงกตแห่งเดียวกันกับผมในวันนั้นด้วย

    ก็รู้ดีอยู่หรอกว่าเป็นเรื่องไม่ดีที่จะมาหวาดระแวงกัน แต่ว่าแม้แต่การแลกเปลี่ยนดราโกเน็ตกับไลแคนโทรปนั่นก็ยังดูน่าสงสัย

    …..แต่ทว่า ทีนี้ก็เข้าใจแล้วว่าทำไมเซยะซังถึงได้ทำคำร้องขอ

    ถ้าถูกพี่ชายที่มีฝีมือดีกว่าตัวเองให้เหตุผลเพื่อหยุดไว้ แล้วตัวคนพี่ก็ยังพึ่งพาไม่ได้ เพราะงั้นจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องส่งคำร้องขอ

 

「คือว่า ต้องขอโทษที่พูดอะไรแปลกๆออกไปด้วยครับ」

「ไม่หรอกครับ…..」

 

    พวกเราทั้ง 3 คนต่างก้มศรีษะให้ ทางเซยะซังเองดูจะยังมีอะไรติดอยู่ในใจแต่ก็ยกโทษให้พวกเราง่ายๆ

    วันนี้ก็กลับเลยละกัน…..

 

「ถ้างั้นแล้ว ต้องขอตัวเพียงแค่นี้ละกันครับ」

「อา…..ที่อุตส่าห์มาในวันนี้ต้องขอขอบคุณมากครับ」

「ไม่หรอกครับ」

 

    เดินออกจากห้องที่ภายในมีบรรยากาศละเอียดอ่อน

    ขณะที่เดินผ่านประตูหลักไปด้วยความเงียบ จู่ๆโอริเบะก็พูดขึ้นมา

 

「เซอร์เคิลนั่น…..ดูจะมีความเกี่ยวข้องกับสมาคมพระแม่ดาราอยู่ล่ะนะ」

「เอ๋ ทำไมล่ะ?」

 

    อันนาหันไปมองโอริเบะด้วยความตกใจ

 

「ได้สังเกตุเห็นภาพวาดที่อยู่ตรงผนังรึเปล่าล่ะ?」

 

    …..ภาพวาด? มีของแบบนั้นอยู่ด้วยเหรอ? มันดูรกรุงรังจนไม่ทันได้สังเกตุเลย

    แต่ว่าอันนาที่ได้มองไปรอบๆห้องดูจะนึกขึ้นมาได้

 

「อ่อ~ เหมือนจะมีอะไรแบบนั้นอยู่ด้วยนะ ภาพของคนยักษ์ที่ตัวใหญ่ยิ่งกว่าภูเขา…..ใช่รึเปล่า? ดูราคาถูกแล้วก็แปลกๆชอบกล」

「อา ภาพนั้นแหละ」

 

    ขณะที่พูด โอริเบะก็โชว์หน้าจอของสมาร์ทโฟนให้ดู

    ในนั้นคือภาพที่แสดงให้เห็นหญิงงามร่างเปลือยที่ตัวใหญ่กว่าภูเขา มีคนมากมายพร้อมปีกสีดำกำลังบินอยู่รอบๆเธอ…..บางทีคงจะเป็นเทวดาตกสวรรค์

    ดูเหมือนจะเป็นภาพเกี่ยวกับทางศาสนาอะไรบางอย่างแต่….. เป็นภาพที่โด่งดังจนสามารถค้นหาได้ง่ายๆเลยเหรอ?

 

「นี่คือภาพสีน้ำมันที่มักมีข่าวลือว่าขายโดยสมาคมพระแม่ดารา ตัวสมาคมพระแม่ดาราอ้างว่านักบุญเผือกคนนั้นเป็นลูกครึ่งที่เกิดมาจากการ์ดเทวดาตกสวรรค์กับแม่ที่เป็นมนุษย์ ก็ไม่รู้ว่าจริงไหม แต่พูดอีกอย่างคือเป็นเนฟิลิมของยุคปัจจุบันนี้แหละ」

 

    เนฟิลิม คือยักษ์ที่ถือกำเนิดจากมนุษย์และกริกอริ กลุ่มของเทวดาตกสวรรค์ที่ปรากฏในพันธสัญญาเดิม( Old Testament)

    กริกอริ(Grigori) คือกลุ่มของเทวดาที่มีความหมายดั้งเดิมคือ『ผู้เฝ้ามอง』มีตำนานที่น่าเศร้าว่าพวกเขาลงมายังโลกก็เพื่อสั่งสอนอารยธรรม แต่เพราะว่าทั้งกลุ่มล้วนแล้วแต่เป็นผู้ชาย ซึ่งก็เหมือนกับนักเรียนจากโรงเรียนชายล้วน พวกเขาจึงถูกล่อลวงโดยหญิงสาวสวยชาวมนุษย์

    เหล่ากริกอริที่ได้รับรู้เกี่ยวกับความต้องการทางเพศและร่างกายของหญิงสาว ได้ทำการเผย『ความลับแห่งจักรวาล』ซึ่งพระเจ้าได้สั่งห้ามมิให้เปิดเผย…..สั่งสอนความรู้ที่ไม่ดีมากมาย แพร่ความเสื่อมโทรมไปทั่วโลก แล้วยังให้กำเนิดบุตรระหว่างเทวดาตกสวรรค์และมนุษย์, เนฟิลิมขึ้นมาอีกด้วย

    เหล่าเนฟิลิมคือสัตว์ประหลาดที่มีรูปโฉมงดงาม มีความสูงถึง 1,350 ม. มีนิสัยดุร้าย กินอาหารทุกอย่างที่สามารถหาได้แม้แต่กินพวกเดียวกันเอง

    ผลลัพธ์ พระเจ้ารับรู้ถึงสถานการณ์นี้ โกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมากแล้ว「อา ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องรีเซ็ตแล้ว!」ทำให้เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่พัดพาทุกสิ่งบนโลก ยกเว้นไว้แค่มนุษย์และสัตว์บางส่วน

    นี่ก็คือ มหาน้ำท่วมของโนอาห์อันโด่งดัง

 

    แต่ว่า…..นักบุญเผือกคนนั้น ไม่ยักกะรู้ว่ามีการตั้งค่าว่าเป็นลูกครึ่งเทวดาตกสวรรค์กับมนุษย์ด้วย

    มันก็เป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้ว เพราะไม่เคยได้ยินเรื่องของการเกิดลูกครึ่งระหว่างการ์ดกับมนุษย์หรือว่าสัตว์ไหนเลย

    มีมาสเตอร์อยู่ทั่วโลกที่ทำเรื่องลากมกกับการ์ดสาวสวยหรือหนุ่มหล่อ แต่ก็ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่จะมีลูก เพราะงั้นมันจึงไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จะมีลูกด้วยกันกับการ์ด

    พูดอีกอย่างคือ การอ้างของสมาคมพระแม่ดาราเป็นเรื่องโกหก แต่ก็สงสัยอยู่ว่าทำไมถึงต้องเลือกเป็นเนฟิลิมที่เป็นลูกครึ่งเทวดาตกสวรรค์กับมนุษย์ แทนที่จะเป็นพระเมสสิยาห์อย่างพระคริสต์

 

「เจ้าภาพวาดเนฟิลิมอันนี้ ดูเหมือนสมาคมพระแม่ดาราจะคอยส่งเสริมให้ทำการซื้อ ก็นะ เป็นเรื่องปกติของพวกลัทธิอยู่แล้ว พวกของกดดันอะไรนี่ เห็นว่าราคาแค่ชิ้นเดียวก็ปาไปหลายแสนแล้ว」

「เอ๋ แบบนี้มันรีดไถกันชัดๆเลย」

 

    รู้สึกผิดหวัง คงต้องเลิกเป็นแฟนของนักบุญจังซะแล้ว

 

「แต่ถึงอย่างนั้น เหมือนว่าจำนวนของกลุ่มที่มีความเกี่ยวพันกับสมาคมพระแม่ดาราจะค่อยๆเพิ่มมากขึ้น อย่างพวกเซอร์เคิลนักผจญภัยภายในมหาวิทยาลัย」

「เอ๋ ทำไมส์กันล่ะ?」

「คำตอบนั่นดูเหมือนว่าหากเป็นอะไรที่เกี่ยวข้องกับเขาวงกตแล้ว จะสามารถรับการสนับสนุนอย่างล้นหลามจากสมาคมพระแม่ดารา ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมการแลกเปลี่ยนซื้อขายการ์ดและอุปกรณ์เวทมนตร์ รวมไปถึงการอบรมและบรรยายเด็กใหม่ที่ยังไม่คุ้นชิน ดูจะทำอยู่หลายอย่าง」

 

    …..อย่างงี้นี่เอง

    สถานที่ที่สามารถทำการแลกเปลี่ยนการ์ดได้อย่างอุ่นใจ นับว่าเป็นอะไรที่นักผจญภัยต่างก็ใฝ่หา

    ถ้าหากว่าสามารถได้เส้นสายเหล่านั้นมา ก็ไม่แปลกที่จะซื้อภาพวาดมาซัก 1 – 2 รูปโดยถือซะว่าเป็นบัตรสมาชิก

    …..แต่ว่า ไม่รู้เลยว่าเซอร์เคิลที่ซาโต้ โชโกะซังอยู่นั้น จะมีความเกี่ยวข้องกับสมาคมพระแม่ดาราด้วย

    บางที…..ถ้าหากว่าบางที

    ผู้ใช้หมาล่าเนื้ออาศัยสมาคมพระแม่ดารา ถ้าแบบนั้นแล้วไม่ใช่ว่าสามารถเข้าถึงรายชื่อของเซอร์เคิลนักผจญภัยที่เข้าร่วมงานแลกเปลี่ยนการ์ด หรือการอบรมเด็กใหม่ได้ง่ายๆหรอกเหรอ?

    เข้าใกล้เซอร์เคิลนักผจญภัยภายใต้การพรางตัวของการแลกเปลี่ยนการ์ด เพื่อค้นหาเหยื่อที่เหมาะๆ…..

    แถมยังสามารถรวบรวมการ์ดเกรมลินได้อีก ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

    เซอร์เคิลนักผจญภัยที่เต็มไปด้วยผู้คนที่ต้องการความสนุก ดูจะสามารถจัดการได้โดยมีความเสี่ยงต่ำที่จะถูกตอบโต้กลับ

    แล้วก็ พี่น้องอาโอกิ ยังมีจุดที่น่าสงสัยอยู่มากเกินกว่าจะพูดได้ว่าเป็นสีขาวล้วน

    …..หรือว่านี่จะคิดมากเกินไปเอง?

    การตั้งธงสมมติฐานมันจะไปขัดขวางการสืบสวน

    แต่ถึงจะคิดแบบนั้น พอถูกรวมเข้ากับความไม่น่าไว้ใจของลัทธิ ข้อสงสัยต่อสมาคมพระแม่ดาราก็ยังคงติดค้างอยู่ราวกับหนามทิ่มภายในจิตใจ

 

 

 

【Tips】เนฟิลิม(Nephilim)

    เนฟิลิมคือยักษ์ลูกผสมที่เกิดระหว่างเทวดาตกสวรรค์และมนุษย์ ในสมาคมพระแม่ดารา นักบุญของพวกเขาคือลูกผสมจากผู้สงสารของเขาวงกต(=การ์ด) กับมนุษย์

    ทว่าจนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีการยืนยันถึงกรณีของเด็กที่เกิดจาการ์ดและมนุษย์เลย

    เนื่องด้วยธรรมชาติของการ์ดที่มีหน้าตาดีและไม่สามารถขัดคำสั่งมาสเตอร์ได้ มันจึงมีมาสเตอร์ที่ไปมีเพศสัมพันธ์กับการ์ดอยู่อย่างไม่จบสิ้น แต่ถึงแม้ปัจจุบันจะผ่านมาแล้วเกือบ 20 ปีหลังจากเขาวงกตได้ปรากฏขึ้น ก็ยังไม่มีกรณีที่มีเด็กถือกำเนิดขึ้นมา จึงว่ากันว่าเด็กไม่สามารถถือกำเนิดจากการ์ดได้

 

เด็กม.ปลายสายม็อบอย่างผมจะกลายเป็นสายเรียลได้ไหมถ้าเป็นนักผจญภัย

เด็กม.ปลายสายม็อบอย่างผมจะกลายเป็นสายเรียลได้ไหมถ้าเป็นนักผจญภัย

Score 10
Status: Completed
ณ ช่วงเวลาหนึ่ง ในโลกคู่ขนานของญี่ปุ่น จู่ๆ เขาวงกตได้ปรากฏขึ้น ที่ซึ่งมอนสเตอร์โผล่ออกมา ในช่วงแรกเริ่มนั้นเขาวงกตไม่ได้ต่างอะไรไปจากภัยพิบัติ แต่สถานการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไปด้วยทรัพยากรที่เขาวงกตผลิต และตัวตนของ 'การ์ด' ที่ตกจากมอนสเตอร์ กลายเป็นช่วงแห่งการกอบโกย การ์ดมอนสเตอร์ที่สามารถอัญเชิญมอนสเตอร์ออกมาได้ดั่งใจนึก เหล่านักผจญภัยที่ใช้พลังของการ์ดเพื่อพิชิตเขาวงกต ถ่ายทอดสถานการณ์เหล่านั้นด้วยดันเจี้ยนTV, โคลอสเซียมที่มอนสเตอร์ต่อสู้กัน..... สิ่งเหล่านี้กระตุ้นความสนใจในตัวผู้คน แล้วก่อนที่จะรู้ตัวนักผจญภัยก็กลายเป็นอาชีพที่ผู้คนใฝ่ฝันจะเป็น คิทากาว่า・อุทามาโร่ เด็กม.ปลายสายม็อบ เห็นเพื่อนที่น่าจะเป็นสายม็อบเดียวกัน หลังจากที่เป็นนักผจญภัยแล้วกลับถีบตัวไปอยู่ในกลุ่มท็อบได้ จึงตัดสินใจที่จะเป็นนักผจญภัยด้วยตัวเอง อุทามาโร่ เพื่อที่จะได้แรร์การ์ดไปอวดทุกคนได้จึงเดิมพันชีวิตกับกาชาสุดบ้าระห่ำราคา 1 ล้านเยน ทว่า---?

Options

not work with dark mode
Reset