กองยานเคลื่อนที่ต่อต้านโจรสลัดอิสระออกจากระบบดาววินดาสและไปถึงแนวหน้าด้วยประตูทาง แม้ว่ามันเป็นบริเวณห่างไกล มันไม่ได้ต่างจากที่ที่ผมเจอมีมี่กับเอลม่า
“ที่นี่มันต่างกันยังไงเหรอท่านลอร์ด?”
ที่ห้องนักบินกฤษณะ คูกิถามตอนเธอนั่งที่นั่งรองนักบิน
เพราะเราเข้าหาขอบโลก เราเตรียมการออกศึกฉุกเฉินระหว่างบัวดำยังเดินทางเร็วกว่าแสง
สำหรับตอนนี้ เราจะเข้าขอบโลกซึ่งอธิบายได้ว่าเป็นบริเวณห่างไกลจากจักรวรรดิสุดๆ และเลยที่นี่ไปก็จะเป็นอวกาศที่ยังไม่ได้สำรวจ ที่นี่จริงๆแล้วไม่ได้ใกล้ชายแดนประเทศเพื่อนบ้านแม้ว่ามันอยู่บนขอบดินแดนจักรวรรดิ พูดอีกอย่าง……”
“พูดอีกอย่าง?”
“แดนกันดาร”
“อ่ะฮ่าฮ่า…… ตรงดีจัง”
มีมี่หัวเราะอย่างขมขื่นหลังได้ยินผมอธิบาย
อืม ที่นี่มันเหมือนบ้านนอกห่างไกลจริงๆที่มีอะไรให้ดูน้อยสุดๆถ้ามันมี
ตอนนี้ มันไม่ได้สำคัญอะไรเลยทางกลยุทธ์ และไม่มีทรัพยากรพิเศษที่ถูกเจออยู่ข้างใน พูดอีกอย่างนั่นก็หมายถึงไม่ได้มีดาวเคราะห์ที่เหมาะให้คนอาศัยอยู่ ยกเว้นว่ามีเหตุผลพิเศษเหมือนขาดดาวเคราะห์อยู่อาศัยในอนาคตอันใกล้ ระบบดาวนี้ ที่ผมเชื่อว่าเรียกว่าระบบดาวโวสโต๊ก จะเป็นระบบดาวบ้านนอกสุดไกลง่วงๆเหงาๆ
อืม เท่าที่ผมบอกได้จากข้อมูลระบบดาวบนจอ มันดูเหมือนไม่มีทรัพยากรมีค่าที่หาได้จากที่นี่เลยสักนิด อย่างไรก็ตาม มันไม่เหมือนว่าไม่มีทรัพยากรเลย มันแค่ทรัพยากรพวกนั้นมันมีทั่วไปที่พวกเขาหาได้จากทุกที่ที่อื่น ดังนั้นมันไม่ได้เป็นที่แข่งกันจะเอาในแง่ของความต้องการ ในอนาคตเมื่อในที่สุดจักรวรรดิได้ตัดสินใจจะพัฒนาขอบโลกอย่างตั้งใจสุดๆ ที่นี่จะทำหน้าที่เป็นจุดส่งต่อ
“จริงๆแล้วระบบดาวประเภทนี้เป็นพื้นที่ล่าโจรสลัดสำหรับทหารรับจ้างแบบเรานะ”
“อย่างนั้นเหรอ?”
“เพราะมันไม่ใกล้กับพรมแดน จำนวนคุณภาพกองประจำการจักรวรรดิไม่ค่อยจะดีเอาซะเลย นั่นทำไมโจรสลัดจะเจอว่ามันง่ายที่จะทำงานกันแถวนี้ มันเป็นแนวทางทั่วไปสำหรับโจรสลัดที่จะใช้ระบบดาวที่ยังไม่คิดเกินตัวเหมือนที่นี่เป็นฐานปฏิบัติบัติการและทำให้ความปลอดภัยของระบบดาวข้างเคียงแย่ลง”
“อย่างนี้นี่เอง”
คูกิฟังผมอธิบายด้วยความสนใจมากมาย อย่างไรก็ตาม ที่แบบนี้ก็ไม่สะดวกสำหรับทหารรับจ้างเพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่จะให้ยานคนนั้น ของเต็มพร้อมใช้หมดทุกสิ่งและอยู่ในสภาพดีสุดในระบบดาวเช่นแบบนี้ แต่มันยังเป็นหนึ่งในพรมแดนของประเทศอื่น ดังนั้นมีกองกำลังกองทัพจักรวรรดิอยู่เยอะ และมีอาวุธ, กระสุน, และสถานที่บำรุงรักษายานกองทัพอยู่เหลือๆ แต่ในระบบดาวบ้านนอกแท้ๆเหมือนที่นี่ พื้นที่แบบนั้นหายากสุดๆจนเกินไป
อืม ในกรณีเรา เรายังมีบัวดำที่ไม่ได้มีปัญหาในการบำรุงรักษากฤษณะระยะสั้น
อย่างไรก็ตาม ปัญหาก็ยังมีกับมดสิงโต ยานแม่ที่สามารถขนยานขนาดกลางเป็นส่วนหนึ่งของขนาดยานที่เรียกว่ายานเมือง
เพราะยานขนาดกลางส่วนใหญ่พวกมันใหญ่เท่ายานพิฆาตกองทัพจักรวรรดิหรือเล็กเท่ายานลาดตระเวนกองทัพจักรวรรดิ
ทหารรับจ้างที่สามารถใช้งานยานเมืองที่ว่าเป็นหน่วยททหารรับจ้างใหญ่มากที่ปรกติมียานขนาดกลางและเล็กอย่างน้อยผสมกันเป็นสิบลำ แต่จำนวนที่เรามีมันก็เยอะแล้วที่จะมากเกินเอาชนะสำหรับเราที่ทำงานด้วยยานเล็กลำนึงและยานขนาดกลางลำนึง
“ระบบดาวแนวหน้าเป็นที่ที่ไม่มีอะไรหาเจอได้เหรอ?”
“โอ้ ไม่หรอก ปรกติมันไม่ได้เป็นแบบนั้นจริงๆ”
“อย่างนั้นเหรอคะ?”
ผมตอบคำถามคูกิและมีมี่ตามมาด้วยคำถามของเธอเอง
“ฉันพูดอย่างมั่นใจไม่ได้เพราะฉันยังไม่ได้เห็นเป้าหมายด้วยตัวเอง แต่มันควรมีสถานที่สำหรับกองยานขนาดนี้ให้เทียบท่า และทหารรับจ้างจะรวมกันในที่แบบนั้นไม่นานนี้แหละ เพราะมันปลอดภัย และเมื่อนั่นเกิดขึ้น ทหารรับจ้างและนักผจญภัยที่ต้องการดูบริเวณที่ยังไม่ได้ถูกสำรวจก็จะมารวมกัน และตามมา พ่อค้าแม่ค้ามากขึ้นก็จะเข้ามาชิงโอกาสกับเหล่าทหารรับจ้างและนักผจญภัยพวกนั้นแหละ”
“เข้าใจแล้ว พื้นฐานแล้วนั่นเป็นเหตุการณ์ที่โคโลนีค้าขายสร้างขึ้นมาถูกมั้ยคะ?”
“ก็ใช่ แต่มันน่าจะยังไม่เสร็จดีในกรณีนี้น่ะนะ”
“แต่พ่อค้าแม้ค้าจะทำตัวยังไงถ้าโคโลนีค้าขายยังไม่เสร็จดีล่ะ?”
“พวกเขาน่าจะใช้ ‘ไอ้นั่น’ แหละ แต่มันจะน่าสนใจมากกว่าที่พวกเธอจะเห็นมันเข้าจริงๆเอง ฉันแน่ใจว่าเธอจะตกใจ”
ผมไม่ได้เห็น 『ไอ้นั่น』ของกองทัพจักรวรรดิเวอร์ชันจักรวรรดิกรากันเองเลย ดังนั้นผมตั้งตารอเห็นมันเองด้วย
กองยานรีบเข้าไปในเส้นทางอวกาศขั้นสูงสุดอีกครั้งตอนเราคุยกัน เราจะมุ่งหน้าไประบบดาวที่พูดถึงนั่นต่อไป และเพราะมันจะใช้เวลาสั้นๆไปที่นั่นผ่านเส้นทางอวกาศขั้นสูงสุด เราแค่รอข้างในกฤษณะแบบบนี้
ระหว่างนั้นมีมี่และคูกิดูเหมือนตัดสินใจเรียนการใช้ระบบรองด้วยกัน ผมแค่ฟังสองคนปรึกษากันเงียบๆจากข้างๆ
มีส่วนที่ผมเสริมและอธิบายเพิ่มได้ละเอียดมากกว่า แต่มันสำคัญที่จะเรียนอะไรแบบนั้นด้วยตัวเอง ยกเว้นว่าพวกเธอเรียนบางอย่างที่ผิดๆชัดเจน มันดีกว่าที่จะฟังเงียบๆ
แม้อย่างนั้น มีมี่กับคูกิดูเหมือนสนิทกันดี ซึ่งนั่นดีที่สุดแล้ว ตอนแรกมีมี่ระวังตัวข้างสาวอื่น ผมเลยกังวล แต่ตัดสินจากที่ผมเห็นตอนนี้ พวกเธอดูเหมือนดีกันมากแล้ว
อย่างน้อยในสายตาของผมนั้นผมคิดว่ามันจำเป็นที่จะต้องคอยดูความสัมพันธ์ระหว่างสองคนนี้…… แต่เมย์ที่ขับบัวดำจากห้องบังคับการติดต่อผม
『นายท่าน เรากำลังจะถึงระบบดาวเป้าหมายแล้วค่ะ』
“รับทราบ ฉันไม่คิดว่าเราจะเจออะไรเหมือนสิ่งมีชีวิตผลึก แต่ยกระดับการป้องกันกันไว้ก่อน และได้โปรดแจ้งเอลม่าด้วย”
『รับทราบ』
การสื่อสารจากเมย์ถูกตัด ไม่นานหลังจากนั้น ผมได้รับการแจ้งจากบัวดำและออกจากเส้นทางอวกาศขั้นสูงสุดกลับไปอวกาศปรกติ
“ในที่สุดเราก็มาถึง ไม่ได้ดูเหมือนมีอันตรายอะไรระหว่างเวลานี้”
ผมใช้งานเครื่องต้นทางและดูข้อมูลที่จับโดยเซ็นเซอร์บัว
สำหรับเวลานี้มันดูเหมือนไม่มีการเตือนการโจมตีหรืออะไรแบบนั้นถูกแจ้ง เมย์สามารถวิเคราะห์เนื้อหาของการสื่อสารเร็วกว่าแสงที่ถูกจับได้โดยเซ็นเซอร์อวกาศรองและตัดสินใจได้ดีจนพึ่งพาได้มากกว่า แต่ทำแบบนั้นมันไกลจากมนุษย์แบบผม
กองยานจัดระเบียบใหม่ ใช้หน่วยขับครส.จังหวะเดียวกัน และเดินทางเป็นกลุ่มก้อนไปหาตรงกลางระบบดาวโดยครส.
“ภายในอุโมงค์ห้วงอวกาศขั้นสูงสุดมันมั่วซั่วและไม่น่ามองแต่ภาพระหว่างเดินทางความเร็วแสงมันน่าสนใจนะคะ หรือมันค่อนข้างสวยเลยล่ะใช่มะ”
ตัวผมส่วนตัวก็คิดว่าภาพที่เหล่าดวงดาวทั้งหลายไหลเป็นเส้นแสงมันก็สวยงาม
การแหวกว่ายไปในทะเลดาวเส้นแสงแบบนี้ทำให้คนหนึ่งรู้สึกอิสระอย่างยอดเยี่ยม
“เอ๋? หนูคิดว่าข้างในอุโมงค์ห้วงอวกาศขั้นสูงสุดก็ค่อนข้างสวยอยู่นะ”
“การรับรู้ภาพหนูมันไม่ตรงร่องนะบางครั้งอ่ะมีมี่”
“มมมุ โหดอ่ะ”
มีมี่แสดงสีหน้าสลดและพองแก้มใส่ผม
อืม สามัญสำนึกพื้นฐานของมีมี่มันไม่เป็นไร แต่รสนิยมศิลปะหรือรสนิยมภาพสวยมันแปลกไปนิดๆ
“อุ้ย มันดูเหมือนเรากำลังจะถึงเป้าหมายแล้ว เอาล่ะพวกเธอ สมาธิ”
“เพิ่งเปลี่ยนเรื่องใช่มะฮิโระซามะ……? เราจะเก็บเรื่องนี้ไปคุยทีหลังนะ”
“ได้จ้า ถ้าพี่ยังจำได้น่ะนะ”
ผมคิดว่าเธอจะตกใจโดยอะไรที่เรากำลังจะเห็นและเธอจะลืมประเด็นแบบนี้ ถ้ามันไม่ได้เป็นแบบนั้น ผมจะซวย
สู้ๆ จักรวรรดิกรากัน
ได้โปรดให้เราเห็นบางอย่างอึ้งทึ่งไปเลย
“เลิกใช้งานหน่วยขับครส.ใน 5, 4, 3, 2, 1 ……ตอนนี้ค่ะ”
ภาพที่ถูกส่งกลับมาจากเซ็นเซอร์นอกบัวดำเปลี่ยน ณ เวลาเดียวกันที่มีมี่นับจบ ยานเปลี่ยนจากการเดินทางครส.สู่การเดินทางปรกติ ดาวเปลี่ยนจากเส้นแสงสู่จุดอีกครั้ง
“โว่ว นั่นอะไรเนี่ย?”
“มันใหญ่…… ใช่ป่ะล่ะ?”
หลังยืนยันว่าเรากลับมาเดินทางปรกติแล้ว ภาพที่ถูกจับโดยเซ็นเซอร์นอกของบัวเปลี่ยนหลายครั้งจนในที่สุด มันฉายภาพของวัตถุขนาดยักษ์บนจอหลัก
มันเป็นยานหางแฝดขนาดยักษ์ ผมไม่ได้ค้นคว้ามากมายเกี่ยวกับยานอวกาศประเภทนี้ผมเลยบอกไม่ได้ว่ามันผลิตจากที่ไหนเมื่อมองผ่านๆ แต่แน่นอนว่ามันเหมือนทุกอย่างที่ผมคาดไว้ และจากนั้นมากกว่านั้นอีกหน่อย มันไม่ได้ดูเหมือนยานใหม่เลยแม้แต่น้อย อย่างน้อยในแง่หน้าตาภายนอกและตัวถังมันให้เห็นอายุชัดเจน
“ยานใหญ่บ้าบอแบบนั้นเรียกว่ายานแม่เสบียงกองทัพ มันเหมือนฐานเคลื่อนที่ที่ขนเสบียง, อุปกรณ์, และกองกำลังได้บานเบอะ แล้วก็มันยังพร้อมเติมเสบียงและบำรุงรักษายานอวกาศหลายขนาด จากยานขนาดเล็กถึงยานประจันบานขนาดใหญ่”
แม้ว่ามันขนาดยักษ์จนไร้สาระ มันยังสามารถเดินทางได้ทั้งแบบข้ามจักรวาลและครส.
แต่เพราะมันใหญ่มาก มันชาร์จกันเป็นระบบดาวหนึ่งเลย
“มันใหญ่กว่ายานโคโลนีที่เราเห็นกลับไปในระบบดาวโคแมตอีกอ่ะ”
“ใช่ อืม พวกเขามียานโคโลนีประมาณห้าลำเต็มด้วยคนกลับไปตอนนั้น ในแง่ของจำนวนคนยานพวกนั้นเลยยังมีมากกว่า”
“หนูสงสัยจังว่าคนอยู่ในยานนั้นได้กี่คน……”
มีมี่เห็นยานโคโลนีมาก่อนแล้ว ดังนั้นเธอไม่ได้ตกใจอะไรมากมายโดยยานแม่เสบียง แต่คูกิประทับใจเต็มที่แค่ที่มันใหญ่ไร้สาระขนาดไหน
ปากน่ารักๆของเธอค้างในความตกใจ
“เราน่าจะอยู่ในยานนั้นสักพัก พี่หวังว่าเดียวหนูก็ชินเร็วนะ”
“ค่ะ”
ถ้าอย่างนั้น ชื่อของยานแม่คือ 『มิหวาดหวั่น』
เราจะค้างในนั้นสักพัก ผมหวังว่าลูกเรือเราชินกับการอยู่ข้างในอย่างเร็ว
แปลโดย: wayuwayu
tipme : tipme.in.th/wayuwayutl
patreon (Ebook): patreon.com/wayuwayu
ได้โปรดโดเนทเพื่อสนับสนุนผู้แปล ด้วยการช่วยเหลือของท่านจะทำให้แปลต่อไปได้เรื่อยๆ ขอบคุณครับ
ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: http://linktr.ee/wayuwayu