บทที่ 609 การต่อสู้ครั้งแรก
บทที่ 609 การต่อสู้ครั้งแรก
รอยแยกแผ่ขยายออกจากจุดที่ซ่งชิงชี้ไปทั่วทั้งสี่ทิศ!
วิญญาณหอกเถี่ยนิวอดไม่ได้ที่จะปรากฏออกมาจากง้าวมังกรครามแปดแดนร้าง เด็กน้อยหน้าจิ้มลิ้มตอนนี้เต็มไปด้วยความโกรธแค้นจ้องมองไปที่ซ่งชิง ริมฝีปากสีชมพูเผยอออกส่งเสียงหยาบคายดังกึกก้อง “เจ้าบ้านี่ เจ้าเป็นอันใดรึ! จะต่อสู้ก็ต่อสู้เสียไยต้องมาทุบตีข้า!”
เอ่ยจบเถี่ยนิวก็คว้าง้าวมังกรครามแปดแดนร้างในฉับพลัน ฝ่ายลู่หยวนก็คลายมือออก ปลายเท้าแตะพื้นแผ่วเบาก่อนก็หายวับไปจากจุดเดิม
ซ่งชิงขมวดคิ้ว การหายตัวไปอย่างฉับพลันของลู่หยวนทำให้เขาสัมผัสไม่ได้ถึงพลังปราณอีกต่อไป
“ระบบ ตรวจสอบร่องรอยของลู่หยวน” ซ่งชิงสั่งระบบในใจ
[ตอนนี้ท่านอยู่ในอาณาเขตของเกาะสังหารเซียน ถูกจำกัดด้วยกฎพิเศษจึงไม่สามารถใช้การตรวจสอบใด ๆ ได้!]
ซ่งชิงขมวดคิ้วแสดงสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อย
ตั้งแต่มาถึงเกาะสังหารเซียน ดูเหมือนระบบนั้นจะถูกจำกัดไปมาก ทำให้ไม่อาจใช้งานได้หลายอย่าง
ยังไม่ทันที่ซ่งชิงจะเคลื่อนไหว เถี่ยนิวก็ยังคงจับง้าวมังกรครามแปดแดนร้างอยู่ ในขณะที่ลู่หยวนหายตัวไป วั่งไฉก็แยกตัวออกจากลู่หยวนแล้วเข้าสิงสู่ในง้าวมังกรครามแปดแดนร้างทันที
รอยแยกที่เกิดขึ้นถูกเกล็ดมังกรซ้อนทับกันเป็นชั้น ๆ ผสานรอยแยกทั้งหมดเข้าด้วยกัน!
เมื่อได้รับการสนับสนุนจากจักรพรรดิมังกรเจินหลง ง้าวมังกรครามแปดแดนร้างก็พุ่งสูงขึ้นอีกหนึ่งระดับในทันที!
เถี่ยนิวถือง้าวกระแทกอย่างรุนแรงทำให้ลมปราณที่ห่อหุ้มซ่งชิงสั่นสะเทือนในพริบตา เถี่ยนิวยื่นมือเล็ก ๆ สีชมพูออกมาแล้วง้าวยาวราวกับเกล็ดมังกรก็โจมตีอย่างต่อเนื่องพุ่งเข้าหาซ่งชิง!
“เหอะ หลงตัวเองนัก!”
ซ่งชิงหัวเราะเสียงเย็นยะเยือกจากนั้นก็หมุนข้อมือ รอบปลายนิ้วมีอักขระอาคมสามตัวปรากฏขึ้นก่อนจะม้วนเก็บเข้าหากันอย่างรวดเร็ว ยึดง้าวมังกรครามแปดแดนร้างที่โจมตีอย่างบ้าคลั่งนั้นไว้!
ปัง!
ราวกับว่าง้าวมังกรครามแปดแดนร้างชนเข้ากับบางสิ่งจึงทำให้ต้องหยุดชะงักลง
ซ่งชิงลอยอยู่กลางอากาศ สีหน้าสงบนิ่ง มือขวาคว่ำลงอักขระก็พันรอบเอาไว้ ไม่ว่าเถี่ยนิวจะใช้ปราณอันใดอีกก็ไม่สามารถขยับง้าวมังกรครามแปดแดนร้างในมือได้แม้แต่น้อย
“โธ่! นี่มันเรื่องอะไรกัน!”
เสียงหยาบคายของเถี่ยนิวดังออกมาจากร่างกายอันอวบอิ่มสีชมพูทันใดนั้นจิตสังหารก็ปรากฏขึ้นระหว่างคิ้วทั้งสองของเขา
เถี่ยนิวปล่อยมือทั้งสองออก ทันใดนั้นร่างทั้งร่างก็หายวับไป เพียงพริบตาเดียวก็กลายเป็นง้าวยาวเล่มหนึ่งแล้ววั่งไฉที่เกาะบนหอกนั้นก็พุ่งออกไปด้วยความรุนแรง!
มุมปากของซ่งชิงแสดงรอยยิ้มดูถูกจากนั้นก็หุบลงทันที “ข้าไม่อยากจะเสียเวลาอยู่กับเจ้า!”
เอ่ยจบ ซ่งชิงก็กระชับมือขวาเป็นกำปั้น ปราณที่ไม่ใช่ของซ่งชิงก็ระเบิดออกมา ภายใต้พลังปราณอันยิ่งใหญ่นี้ง้าวมังกรครามแปดแดนร้างก็ระเบิดออกในฉับพลัน!
ง้าวที่ประกอบรวมด้วยวิญญาณของเถี่ยนิวและวั่งไฉก็โผล่ออกมาจากอากาศ ทว่าเมื่อเผชิญกับพลังอันยิ่งใหญ่เช่นนี้ก็แตกสลายลงในพริบตา!
อึก!
เถี่ยนิวและวั่งไฉต่างมีลมปราณถดถอย ที่มุมปากของทั้งสองมีโลหิตไหลออกมา ทั้งคู่ถูกปราบปรามลงทันที!
และในเวลานี้ซ่งชิงก็ได้จับกุมพวกเขาไว้เรียบร้อยแล้ว!
ทั้งสองรวบรวมพลังปราณทั้งหมดที่เหลืออยู่เพื่อรับมือกับอีกฝ่าย ทว่ากลับเห็นคมกระบี่จากด้านข้างพุ่งเข้ามาหมายจะสังหารซ่งชิง!
ซ่งชิงหันเหความสนใจไปทางนั้น แล้วมวลอากาศรอบกายก็ปั่นป่วนจนหยุดยั้งของผู้มาเยือนไว้ได้
ในขณะนั้นด้านหลังของซ่งชิงก็มีเสียงหนึ่งแว่วมาอย่างแผ่วเบา “เหอะ ซ่งชิง เหตุใดไม่เล็งเป้ามายังบุตรศักดิ์สิทธิ์เช่นข้าเล่า”
ลู่หยวนถือกระบี่เทวะผนึกสวรรค์ทะลุผ่านอากาศอันว่างเปล่าข้างหลังของซ่งชิงออกมาแล้วก็พุ่งแทงลงมาอย่างรวดเร็ว
มวลอากาศโดยรอบแตกสลายเป็นเสี่ยง ๆ ทันทีจากการโจมตีเพียงครั้งเดียว และปราณมหาศาลระเบิดออกมาจากมือของลู่หยวน
เวลานั้นซ่งชิงเองก็ตกใจ เขาหลบไปด้านข้าง แล้วแสงสีขาวก็กะพริบที่มือซ้าย ก่อนที่กระบี่ยาวจึงปรากฏขึ้นและเข้าปะทะกับลู่หยวนทันที
ชิ้ง!
เสียงกังวานดังขึ้น กระบี่ทั้งสองฟาดฟันกัน พลังปราณที่แตกต่างกันของทั้งคู่แผ่กระจายไปทั่วทุกสารทิศ
ครืน!
มวลอากาศรอบ ๆ เริ่มบิดเบี้ยวและแตกสลาย แรงสั่นสะเทือนแผ่กระจายออกไปเหมือนคลื่นยักษ์ พลังปราณอันยิ่งใหญ่ราวกับโลกทั้งใบกำลังพังทลายแผ่ปกคลุมไปทั่วเกาะสังหารเซียน!
น่านน้ำสีดำรอบ ๆ เกาะสังหารเซียนเดือดพล่านในทันที เกาะทั้งเกาะจมดิ่งลงอย่างรวดเร็วท่ามกลางคลื่นโหม
สรรพชีวิตบนเกาะต่างตื่นตระหนกตก ไม่ใช่แค่เพราะเกาะกำลังจะจมลง แต่เพราะพวกเขารู้สึกถึงพลังปราณอันยิ่งใหญ่ที่กดทับพวกเขาเอาไว้ และเป็นปราณที่พวกเขาไม่อาจต่อต้านได้
ภายใต้พลังปราณนี้ พวกเขาไม่สามารถขยับเขยื้อนได้แม้แต่น้อย ราวกับว่าเทพผู้สร้างแห่งโลกนี้กำลังปรากฏตัวขึ้นและกดขี่บังคับให้พวกเขาต้องก้มตัวลงคารวะ!
แม้แต่กู้ชิงหรันและฮ่วนซิงไป๋ก็ยังต้องพึ่งพาเทพศัสตราในมือของตนและแม้กระทั่งพลังปราณที่ผู้อื่นมอบให้เพื่อให้ตนเองยังคงยืนอยู่ได้ ส่วนสิ่งมีชีวิตทั้งหลายได้หมอบศิโรราบไปนานแล้ว
เมื่อเวลาผ่านไป ลู่หยวนและซ่งชิงยังคงต่อสู้กันอยู่บนเวหา
เห็นได้ชัดว่าทั้งสองยังไม่ได้ใช้พลังปราณอันแข็งแกร่งที่สุดของตนเอง ทั้งคู่ยังคงกำลังชิงเหลี่ยมกันอยู่
บนท้องฟ้า ลู่หยวนถือกระบี่ยืนอยู่ห่างจากซ่งชิงเพียงหนึ่งก้าวเท่านั้น ในเวลานี้มุมปากของเขายกยิ้มและเข้าใจดีถึงจุดประสงค์ในการมาที่นี่ของตนแล้ว
ระบบของซ่งชิงนี้อาจถูกควบคุมโดยสถานที่แห่งนี้อยู่ก็เป็นได้ ไม่เช่นนั้น ในตอนที่ลู่หยวนพุ่งเข้ามาจู่โจม ซ่งชิงคงจะไม่มีทีท่าตั้งตัวไม่ทันเช่นนั้น
เหอะ! ช่างน่าสนใจ สถานที่แห่งนี้กลับสามารถจำกัดการมีอยู่ของระบบได้
ตามหลักแล้ว ระบบซึ่งเป็นข้อผิดพลาดของโลกเช่นนี้ ก็ควรอยู่เหนือโลกนี้ไปอีกขั้น ไม่ว่าโลกนี้จะเป็นอย่างไรก็ไม่สามารถจำกัดการมีอยู่ของระบบได้ แต่ในตอนนี้ไม่ใช่แค่ระบบของลู่หยวนเท่านั้นที่ถูกจำกัด แต่ของซ่งชิงเองก็เป็นเช่นเดียวกัน
และ…
ดวงตาของลู่หยวนหรี่ลงเล็กน้อย
เขารู้ดีว่าเมื่อครู่ที่ซ่งชิงต่อสู้กับตนนั้น มีหลายสิ่งที่หลุดออกมาโดยไม่ตั้งใจ ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ซ่งชิงจะสามารถมีได้
พลังปราณนี้แฝงตัวอยู่และทรงพลังราวกับโอบกอดทุกสิ่ง แผ่รังสีปราณลงมายังโลก
คล้ายกับ…
มุมปากของลู่หยวนมีรอยยิ้มบาง ๆ พร้อมกับเอ่ยออกไปอย่างแผ่วเบา “ปราณแห่งวิถีสวรรค์ เจ้าได้มันมาแล้วรึ?”
ดูเหมือนซ่งชิงจะคาดไม่ถึงว่าลู่หยวนจะเอ่ยเช่นนี้จึงชะงักไปทันที แต่ในไม่ช้าใบหน้าก็เผยรอยยิ้ม “ลู่หยวน ข้าบอกแล้วไม่ใช่หรือว่าข้าคือบุตรแห่งวิถีสวรรค์ หรือเจ้าไม่เข้าใจ ปราณแห่งวิถีสวรรค์เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น หากข้าปรารถนา แผ่นดินหยวนหงแห่งนี้ก็จะกลายเป็นของข้าได้ในชั่วพริบตา”
“อย่างนั้นหรือ”
ลู่หยวนหัวเราะเยาะ “แค่ทหารชั้นต่ำที่หลุดออกมาจากน่านน้ำ คิดว่าตนเองยิ่งใหญ่แค่ไหนกัน!?”
“ถึงเป็นแค่ทหารชั้นต่ำนั้นก็ยังสามารถเอาชีวิตเจ้าได้!!”
กระบี่ในมือซ่งชิงเปล่งประกายออกมาในฉับพลัน รังสีแห่งวิถีสวรรค์อันหาใดเปรียบได้แผ่ขยายไปทั่วแล้วก็ตรงเข้าปะทะใส่ลู่หยวนจนต้องถอยถอยออกไป ร่างของเขาแยกตัวออกเป็นเงาดำหลายสิบเงาแต่ละร่างถือกระบี่ยาวพุ่งเข้าโจมตีลู่หยวนอย่างพร้อมเพรียงกัน!