ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลกบทที่ 426 เตรียมการ

บทที่ 426 เตรียมการ

บทที่ 426 เตรียมการ

บทที่ 426 เตรียมการ

กลุ่มคนจากหน่วยรักษาการณ์ที่ได้รับคำสั่งจากทั้งหวังปิงและหนิวเอ้อพลันรายล้อมกันเข้ามาลงมือ แม้พวกเขาจะไม่ได้แข็งแกร่ง แต่ด้วยคนจำนวนมากและการฝึกซ้อมประสานความร่วมมือเป็นหมู่คณะ ถึงไม่อาจสังหารทหารส่วนตัวของกัวจื่อหมิงได้ ทว่าก็ไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้ทำอะไรตามใจชอบ

หน่วยรักษาการณ์ดึงกลุ่มทหารส่วนตัวถอยห่างไป พวกหนิวเอ้อจึงมีโอกาสได้ถอยฉากหลบเลี่ยง เจ้าชิ่งและเหยียนหมิงที่ได้รับบาดเจ็บหนักถูกส่งตัวไปพบอาจารย์ปรุงยาหลี่เพื่อรักษาตัว ส่วนคนอื่นที่เหลือต่างมองกลุ่มทหารส่วนตัวซึ่งถูกหน่วยรักษาการณ์ปิดล้อมเอาไว้ ก่อนจะแสดงท่าทีวางใจกันออกมา

“เอายังไงต่อ?” หนิวเอ้อเอ่ยถาม

หวังปิงขมวดคิ้วขณะมองสถานการณ์ตรงหน้า

หากที่ปรึกษาใช้กำลังของกลุ่มคนบุกเข้ามายังหมู่บ้าน พวกเขาสามารถอ้างสิทธิ์อันชอบธรรมหยุดพวกที่ปรึกษาเอาไว้ได้ กระทั่งสามารถตอบโต้อีกฝ่ายตามกระบวนการกฎหมายของบ้านเมือง ทว่าสถานการณ์ตอนนี้ไม่ใช่ พวกเขาเป็นฝ่ายตอบรับคำท้าประลองของอีกฝ่าย และสุดท้ายจบลงด้วยการสั่งให้หน่วยรักษาการณ์เข้าปิดล้อมเล่นงานกลุ่มคนที่ที่ปรึกษานำพามา หากเรื่องนี้บานปลาย ผู้ต้องรับผิดชอบก็เป็นพวกเขา อาจกระทั่งลุกลามถึงอู๋ฝานด้วยก็เป็นไปได้

และถึงพวกเขาอยากจัดการพวกที่ปรึกษาก็ไม่อาจทำได้ วันนี้อีกฝ่ายนำคนแข็งแกร่งยิ่งกว่ากลุ่มเมื่อวานมา หน่วยรักษาการณ์ของพวกเขาขาดผู้นำที่สามารถเป็นแนวหน้า อีกทั้งความสามารถทางการต่อสู้ของพวกเขายังไม่ได้โดดเด่นถึงขนาดนั้น แม้ตอนนี้จะสามารถต้านรับเอาไว้ได้ แต่หากคิดเอาชนะยังไม่ใช่เรื่องง่าย

เมื่อคิดได้ดังนั้น หวังปิงจึงตะโกนเสียงดังไปทางที่ปรึกษา “ใต้เท้าที่ปรึกษา! พวกเราแพ้ในการประลองแล้ว แต่คนของพวกท่านกลับไม่ยอมเลิกลงมือกับคนของพวกเรา การกระทำนั้นเห็นชัดว่าต้องการรุกไล่สังหาร นี่ใช่ต้องการความตายของพวกเราหรือไม่?!”

ในถ้อยคำของหวังปิงเผยร่องรอยการข่มขู่ จนทำให้ที่ปรึกษาที่ยังคงนิ่งเฉยรับชมเรื่องราวต้องขมวดคิ้ว

เขาที่ดูการต่อสู้มาโดยตลอดยังต้องยอมรับว่าทหารส่วนตัวของอู๋ฝานมีฝีมือ รวมถึงหน่วยรักษาการณ์ของหมู่บ้านเร้นลับก็แข็งแกร่งกว่าที่เคยคิดไว้ แม้ทางฝั่งของเขาจะได้เปรียบ แต่หากบีบบังคับกันจนถึงขั้นน้ำบ่อไม่ยุ่งกับน้ำคลองขึ้นมา สถานการณ์ทางฝั่งเขาก็ใช่ว่าจะสู้ดี อย่างน้อยก็ต้องมีคนตายหรือบาดเจ็บปางตาย

จุดประสงค์การมาเยือนครั้งนี้มีสองประการ หนึ่งคือกอบกู้หน้าตาจากความพ่ายแพ้เมื่อวาน และมันก็สำเร็จเรียบร้อยแล้ว อีกเรื่องหนึ่งคือทำภารกิจที่กัวจื่อหมิงมอบหมาย นั่นคือการเดินทางมาหมู่บ้านเร้นลับเพื่อจับตัวสัตว์เลี้ยงล้ำค่า

แม้จะนึกเสียดายที่ไม่อาจสังหารทหารส่วนตัวของอู๋ฝาน แต่ผลลัพธ์ตอนนี้ก็ยังพอรับได้ ยิ่งไปกว่านั้นภารกิจหลักยังมีความสำคัญยิ่งกว่า หากต้องรุกไล่เอาเป็นเอาตายกันขึ้นมา ทหารส่วนตัวของกัวจื่อหมิงที่เขาพามาด้วยต้องมีทั้งบาดเจ็บและล้มตาย และหากอู๋ฝานที่เป็นผู้นำของกลุ่มคนทราบเรื่อง เมื่อนั้นเรื่องราวจะลุกลามใหญ่โต

หลังคิดได้ดังนั้น ที่ปรึกษาจึงตะโกนเสียงดังบอกคนที่ตนเองพามา “หยุด!”

ฝั่งหวังปิงที่เห็นจึงตะโกนบอกหน่วยรักษาการณ์ให้หยุดเช่นเดียวกัน ทั้งสองฝ่ายยามนี้ยืนเผชิญหน้าพลางจ้องตากัน พื้นที่ซึ่งเคยเกิดการต่อสู้เต็มไปด้วยเสียงโอดโอยของหน่วยรักษาการณ์ที่ได้รับบาดเจ็บ

ที่ปรึกษาขี่ม้าขึ้นมาพร้อมหันไปบอกพวกหนิวเอ้อ “พวกเราต้องการเข้าหมู่บ้านเพื่อมาเยี่ยมชม หากพวกเจ้ายังขัดขวาง…”

หลังกล่าวถึงตรงนี้ ที่ปรึกษาก็หันไปสำรวจมองรอบด้านก่อนจะเอ่ยด้วยสีหน้าถือดีวางตัวสูงส่ง “หากจำเป็นต้องสั่งสอนกันอีกครั้งข้าก็จะทำ!”

ข่มขู่!

ทุกคนในที่นี้ต่างได้ยินคำขู่จากปากของที่ปรึกษาอย่างชัดเจน พวกหนิวเอ้อในยามนี้ยิ่งโกรธแค้น หากไม่ใช่เพราะหวังปิงห้ามเอาไว้ พวกเขาคงทุ่มเทสุดกำลังรุกไล่เอาชีวิตคนเหล่านี้

หวังปิงจึงตอบที่ปรึกษา “อยากเข้าก็เข้าไป พวกเราไม่ห้าม”

“หวังปิง!”

“ไม่ได้! จะให้พวกมันเข้าไปไม่ได้!”

พวกหนิวเอ้อต่างร้องออกมาเป็นเสียงเดียว เพราะพวกเขายังคงจำคำพูดของอู๋ฝานได้ดี ว่าหากไร้ซึ่งการอนุญาตจากอีกฝ่าย ก็ไม่อนุญาตให้ใครก็ตามเข้าหมู่บ้าน

“ข้าจะเป็นคนรับผิดชอบเรื่องนี้เอง เมื่อใดนายท่านกลับมาข้าจะเป็นคนรายงานและขออภัยด้วยตัวเอง” หวังปิงบอกกับพวกหนิวเอ้อ

เมื่อเห็นหวังปิงยอมถึงขนาดนี้ พวกหนิวเอ้อก็ไม่อาจทำอะไรอื่นได้อีก

“ฮ่า ฮ่า ค่อยคุยกันรู้เรื่องหน่อย!” ที่ปรึกษาหัวเราะเสียงดัง “พวกเราไป!”

ภายใต้สายตาโกรธแค้นของพวกหนิวเอ้อและหน่วยรักษาการณ์ ที่ปรึกษาก็นำกลุ่มคนเดินทางเข้าหมู่บ้าน

“เสี่ยวลิ่ว ฝีเท้าเจ้าว่องไวกว่าใคร ติดตามไปคอยจับตามองเอาไว้ ครั้งนี้พวกมันลงมือหนักเพื่อที่จะเข้ามายังหมู่บ้าน ดังนั้นจะต้องมีแผนการอะไรแน่ คอยมองไว้อย่าให้คลาดสายตา” หลังพวกที่ปรึกษาเข้าหมู่บ้านไปกันแล้ว หวังปิงจึงเอ่ยบอกเจิ้งเสี่ยวลิ่ว

เจิ้งเสี่ยวลิ่วไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาทหารประจำตัวของอู๋ฝาน แต่ร่างกายค่อนข้างปราดเปรียวและรวดเร็วที่สุด ดังนั้นจึงได้รับบาดเจ็บน้อยกว่าใครจากการต่อสู้เมื่อครู่

เจิ้งเสี่ยวลิ่วชะงักไปเล็กน้อยในตอนที่ได้ยินคำพูดของหวังปิง แต่ไม่ช้าก็ตอบรับ “ได้”

“เดี๋ยว!” หลังเห็นเจิ้งเสี่ยวลิ่วกำลังจะตามไป หวังปิงกลับรีบเรียกเอาไว้อีกครั้ง “ระวังด้วย อย่าเข้าไปใกล้พวกมันและเน้นความปลอดภัยของตนเองเป็นหลัก!”

“ข้ารู้ตัวเองดี” เจิ้งเสี่ยวลิ่วตอบรับ

หนิวเอ้อมองเจิ้งเสี่ยวลิ่วตามเข้าไปยังหมู่บ้าน ก่อนจะหันไปถามหวังปิงด้วยท่าทีขุ่นเคือง “เจ้ากำลังทำอะไรกันแน่? นายท่านย้ำนักย้ำหนาก่อนออกเดินทางว่าต้องไม่ปล่อยให้ใครเข้าหมู่บ้าน ทำไมตอนนี้ปล่อยพวกมันเข้าไป?”

“แล้วหยุดพวกนั้นไว้ได้รึไง?” หวังปิงย้อนถามหนิวเอ้อ

หนิวเอ้อสะอึกเก็บคำพูดลงคอ สุดท้ายจึงค่อยตอบกลับมา “ต่อให้หยุดไม่ได้ก็ต้องหยุด ต่อให้พวกเราตายก็ควรต้องทำตามคำสั่งของนายท่าน!”

“ข้าเองก็อยากทำตามคำสั่งของนายท่าน แต่พวกมันแข็งแกร่งขนาดไหนเจ้าเองก็รู้แล้ว ต่อให้พวกเราทุกคนตายที่นี่ก็เอาชนะไม่ได้ สุดท้ายพวกมันก็จะเข้าหมู่บ้านไปอยู่ดี” หวังปิงตอบกลับ

หนิวเอ้อทราบดีว่าที่หวังปิงพูดเป็นความจริงทุกประการ เพียงแต่ไม่อาจยอมรับได้ตอนที่ต้องทนมองกลุ่มคนเข้าหมู่บ้านไป

“เหมือนว่าข้ากลัวตาย” หนิวเอ้อตอบกลับ

“ข้าเองก็ไม่ได้กลัว!” หวังปิงตอบรับเสียงดัง “แต่ตายเพียงเพราะหยุดคนพวกนี้เข้าหมู่บ้านงั้นหรือ? หลังสังหารพวกเราหมด พวกมันก็ยังเข้าหมู่บ้านได้อยู่ดี”

หนิวเอ้อไม่ตอบกลับมาอีก

หวังปิงลดเสียงลงก่อนจะกล่าวต่อ “ตอนนี้พวกเราปล่อยพวกมันเข้าไป แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกมันจะได้ออกจากที่นี่อย่างสงบ หากพวกมันเข้าไปมือเปล่า ตอนกลับออกไปก็ต้องมือเปล่าเช่นกัน เพราะหากคิดนำอะไรไปจากที่นี่ ถึงตอนนั้นพวกเราจะไม่หลีกทางให้พวกมันอีกแน่!”

“เจ้าหมายความว่าอะไร? บอกเองไม่ใช่หรือว่าพวกเราเอาชนะพวกมันไม่ได้น่ะ?” หนิวเอ้อมองหน้าหวังปิงด้วยความสงสัย

“เมื่อครู่ไม่อาจเอาชนะพวกมันเพราะพวกเราไม่รู้ว่าศัตรูแข็งแกร่งแค่ไหน อีกทั้งยังขาดการเตรียมรับมือที่ดี” หวังปิงตอบกลับ “แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว ทั้งหมู่บ้านมีทางเข้าออกแค่ตรงนี้ หากพวกมันต้องการออกไปก็ต้องผ่านที่นี่ พวกเราจะเตรียมคันธนูและลูกธนูเอาไว้ให้พร้อม รวมถึงติดตั้งกับดักเอาไว้เสียตั้งแต่ตอนนี้ อุบายใดใช้งานได้พวกเราก็จะใช้ ข้าไม่เชื่อว่าพวกมันจะรอดกันไปได้!”

เมื่อได้ยินคำของหวังปิง หนิวเอ้อจึงเผยดวงตาเป็นประกายขึ้นมา

ยิ่งพูดก็ยิ่งถูก กลุ่มที่ปรึกษาเข้าไปด้านในหมู่บ้านแล้ว ตอนนี้จึงเป็นช่วงเวลาให้พวกเขาเตรียมการใช่หรือไม่? ต่อให้กลุ่มคนเหล่านั้นแข็งแกร่งแค่ไหน แต่หากเจอห่าฝนลูกธนูเล่นงานก็ยากจะเอาชีวิตรอด ยังไม่กล่าวถึงกับดักทั้งหลายที่รอคอยเล่นงาน

“พัวะ!”

หนิวเอ้อตบลงที่ไหล่ของหวังปิงอย่างแรง “ความคิดเจ้าดีไม่น้อย จนความคิดของข้ากลายเป็นก้อนหิน!”

ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก

ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก

Score 10
Status: Completed
เรื่องย่อ : อู๋ฝาน ชายหนุ่มผู้มีดวงเทพอับโชคที่ทำอะไรก็โชคร้ายไปซะทุกอย่าง ชนิดที่ว่า ระหว่างเขาขนย้ายก้อนอิฐเกิดอุบัติเหตุบนทางเท้า คนคุมงานก่อสร้างจึงไล่เขาออก ตอนเป็นพนักงานในห้าง เขาช่วยเด็กไว้ แต่พ่อกับแม่เด็กก็คิดว่าเขาทำเด็กกลัวจนร้องไห้ ผลลัพธ์คือถูกไล่ออก ช่วงที่เป็นบริกรในภัตตาคาร พ่อครัวทำอาหารผิดสูตร แต่ลูกค้าคิดว่าเขาเสิร์ฟอาหารผิดจาน สุดท้ายเด็กเสิร์ฟเช่นตัวเขาสุดท้ายก็ถูกไล่ออกจากความผิดที่ไม่ได้ก่อ แต่… จู่ ๆ ในวันหนึ่งเขากลับได้รับแหวนที่สามารถเดินทางไปยังโลกอื่นได้ โดยในโลกนี้เขายังสามารถใช้ทักษะ วิชา ไอเทม หรือแม้กระทั่งนำสิ่งของไปสู่ความเป็นจริง

Options

not work with dark mode
Reset