ตอนที่ 707 รู้เห็นเป็นตา
แต่ตอนนี้แน่นอนว่าหุ้นสามสิบเอ็ดเปอร์เซ็นต์นั้นไม่ใช่เป้าหมายท้ายสุดของหลินซูหย่า
“ใครมีหุ้นของทีมออโรร่าอีก” หลินซูหย่ามองไปทางชายหนุ่ม
“พี่ซูหย่า ตอนนี้ยังพูดได้ไม่เต็มปาก แต่ตอนที่ทีมออโรร่ายังเป็นของทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อ เฮ่อสยงลูกชายคนโตของเฮ่อติ้งคุนเหมือนจะมีหุ้นอยู่บ้างนะครับ” ชายหนุ่มครุ่นคิดสักพักแล้วพูดขึ้น
สิ้นเสียงชายหนุ่ม หลินซูหย่าแสยะยิ้มขึ้น ถ้าเป็นเฮ่อสยงล่ะก็ ยังพอจะคุยง่ายหน่อย
“ฉันเข้าใจแล้ว นายไปทำธุระของนายต่อเถอะ” หลินซูหย่าพูดขึ้น
“ได้ครับพี่ซูหย่า ถ้ามีธุระอะไรโทรหาผมได้เลย” ชายหนุ่มพูดจบก็หันหลังเดินออกจากออฟฟิศไป
หลินซูหย่าหยิบมือถือขึ้นมา ค้นหาสักพักแล้วกดโทรออก
“ใครครับ?” เสียงเฮ่อสยงดังขึ้นจากปลายสาย
“อ้อ คุณลุง หนูเองค่ะ” หลินซูหย่าหัวเราะขึ้นเบาๆ
“หลิน…หลินซูหย่าเหรอ?”
เฮ่อสยงจำเสียงหลินซูหย่าได้ น้ำเสียงฟังดูแล้วค่อนข้างจะตะลึง เพราะไม่คิดเลยว่าหลินซูหย่าจะโทรหาเขา
“หลินซูหย่า เธอโทรหาฉันช่างน่าประหลาดใจจริงๆ คำว่าคุณลุงเนี่ย ฉันไม่กล้ารับไว้หรอกนะ” เสียงหัวเราะอันเยือกเย็นของเฮ่อสยงดังขึ้นจากปลายสาย
“แหม่คุณลุงก็พูดไป ลุงเป็นลุงของหนู ไม่มีทางเปลี่ยนไปหรอกค่ะ” หลินซูหย่าพูดขึ้น
“หลินซูหย่า เธอกับพี่สาวเธอหลินเยียนก็พอๆ กันแหละ ยังทำให้พวกเราเดือดร้อนไม่พออีกเหรอ!” เฮ่อสยงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงโมโห
“คุณลุง หนูไม่เหมือนพี่สาวหนูหรอกนะคะ หนูรู้ว่าพี่สาวทำไม่ถูก ทำให้ลุงกับพี่หมิงไข่เดือดร้อน แต่ตอนนี้ทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อก็สลายตัวไปแล้ว มาเปลี่ยนชื่อเป็นทีมออโรร่า…คุณลุง ครั้งนี้หนูมาช่วยคุณลุงค่ะ” หลินซูหย่าพูดขึ้น
“ช่วยฉันเหรอ?” น้ำเสียงเฮ่อสยงแลดูประหลาดใจ
“คุณลุง หนูขอพูดตรงๆ แล้วกันนะคะ อยากขอถามว่า คุณลุงมีหุ้นของทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อไหมคะ ซึ่งก็คือทีมออโรร่าในตอนนี้น่ะค่ะ” หลินซูหย่าพูดอย่างตรงไปตรงมา
“ฉันก็ต้องมีอยู่แล้วสิ เธอ…ถามทำไมเหรอ?” น้ำเสียงเฮ่อสยงเริ่มระแวงและสงสัยมากขึ้น
“คุณลุง หนูพูดตรงๆ นะคะ ทีมรถแข่งของหนูในตอนนี้ได้เข้าซื้อหุ้นของทีมออโรร่าส่วนหนึ่ง ถ้าคุณลุงยอมมอบหุ้นส่วนของลุงให้หนู งั้นหนูก็จะเป็นหุ้นส่วนรายใหญ่ของทีมออโรร่า…ซึ่งจะบงการได้อย่างเต็มที่” หลินซูหย่าพูดขึ้น
ได้ยินที่หลินซูหย่าพูดแล้ว เฮ่อสยงหัวเราะขึ้นมา “หลินซูหย่า สมองเธอไม่ปกติหรือฉันบ้าไปแล้ว? อยากชิงหุ้นจากมือฉัน เธอฝันไปเถอะ!”
เมื่อเผชิญกับน้ำเสียงไม่เป็นมิตรของเฮ่อสยง หลินซูหย่าไม่รีบลนแต่อย่างไร เธอหัวเราะขึ้นเบาๆ พลันพูดขึ้น “คุณลุงไม่ต้องระแวงหนูหรอกนะคะ หนูบอกแล้ว หนูไม่เหมือนพี่สาวหนู คุณลุงแค่โอนหุ้นของลุงให้หนู หนูให้ราคาสองเท่า นอกจากนั้น หนูจะให้คุณลุงเป็นคนรับผิดชอบทีมออโรร่า ถึงตอนนั้นหนูจะบริหารทีมออโรร่ากับคุณลุงเอง ในทีมออโรร่านั้น นอกจากหนูแล้วคุณลุงก็เป็นคนที่มีอำนาจรองลงมาเลยค่ะ”
หลังจากหลินซูหย่าพูดจบ เฮ่อสยงที่อยู่ปลายสายไม่พูดไม่จา
สำหรับหลินซูหย่าแล้ว ต่อให้เฮ่อสยงปฎิเสธ เธอก็ยังหาทางอื่นเข้าซื้อหุ้นได้เหมือนกัน
ผ่านไปประมาณสิบกว่าวิ เฮ่อสยงถึงเอ่ยปากพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสงสัย “หลินซูหย่า เธอล้อเล่นกับฉันอยู่เหรอ เธอจะใจดีขนาดนั้นเชียวรึ?!”
ซื้อหุ้นในราคาสองเท่า อีกทั้งให้เขาเป็นผู้รับผิดชอบทีมออโรร่า…แบบนี้หลินซูหย่าจะได้ผลประโยชน์ยังไงกัน?!
“คุณลุงบอกหนูก่อนว่าลุงมีหุ้นเท่าไหร่คะ?” หลินซูหย่าถามขึ้น
“ยี่สิบเปอร์เซ็นต์” เฮ่อสยงตอบ
ได้ยินเช่นนั้นแล้ว แววตาหลินซูหย่าเปล่งประกายขึ้น
ตอนที่ 708 หลิงเย่ว์
“คุณลุง เอาแบบนี้ดีกว่าค่ะ…ถ้าลุงว่างก็มาที่บริษัทหนู พวกเรามาคุยรายละเอียดอีกที ถ้าคุณลุงไม่เชื่อ เราทำสัญญากันก่อนก็ได้ค่ะ” หลินซูหย่าพูดขึ้นด้วยเสียงเบา
ถ้าเฮ่อสยงยอม งั้นทีมออโรร่าก็จะอยู่ในกำมือของเธอโดยสิ้นเชิง เธอเองก็อยากรู้ว่าหลินเยียนจะทำอะไรภายในกำมือของเธอได้บ้าง
“หลินซูหย่าเธอพูดจริงหรือล้อเล่นอยู่ ฉันไม่ได้มีเวลามาเล่นกับเธอหรอกนะ!” เฮ่อสยงพูดขึ้น
“คุณลุง สิ่งที่หนูพูดนั้นไม่สำคัญ ที่สำคัญคือสัญญา…ใช่ไหมคะ” หลินซูหย่าหัวเราะ
ผ่านไปครู่หนึ่ง เสียงเฮ่อสยงดังขึ้น “ส่งที่อยู่มาให้ฉัน ฉันจะไปดูสักหน่อย”
ผ่านไปประมาณสองชั่วโมง ณ ออฟฟิศหลินซูหย่า เฮ่อสยงมองดูสัญญาสองชุดที่ลงนามกันเป็นที่เรียบร้อยด้วยสายตาเหลือเชื่อ
“พ่อ ผมบอกแล้วว่าซูหย่าไม่เหมือนยัยสถุลนั่นหรอก!” เฮ่อหมิงไข่ที่อยู่ข้างๆ พูดขึ้นด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวเล็กน้อย
“ซูหย่า ลุงมองเธอผิดไปเอง” เฮ่อสยงพูดกับหลินซูหย่า
หลินซูหย่าส่ายหน้า “ไม่หรอกค่ะคุณลุง พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกันนี่หน่า”
เฮ่อสยงมองไปยังเอกสารสัญญา หลังจากโอนหุ้นแล้ว หลินซูหย่าจะเป็นหุ้นส่วนรายใหญ่ที่สุดของทีมออโรร่า ถึงตอนนั้นเธอก็จะกลายเป็นเจ้าของ อยากจะทำอะไร คุณท่านเฮ่อติ้งคุนก็ไม่มีสิทธิ์ขวางเธอไว้!
……
คฤหาสน์เมฆ
ขณะที่หลินเยียนกำลังเล่นกับแมวอยู่ มีเสียงดังขึ้นจากด้านนอก
“คุณหลินเยียน อยู่ไหมครับ”
ได้ยินเสียงนั้น หลินเยียนชะงักไปเล็กน้อย นี่มันเสียงซิงเฉิน
ทันใดนั้น หลินเยียนลุกขึ้นใส่รองเท้าแตะแล้วเปิดประตูห้องออก
ซิงเฉินกำลังยืนอยู่หน้าประตูด้วยรอยยิ้มอันเบิกบาน
“ซิงเฉิน ทำไมเหรอ” หลินเยียนมองไปยังซิงเฉินด้วยความประหลาดใจ
“คุณหลินเยียน ผมมาขอบคุณคุณน่ะครับ…แล้วก็มีอีกคนที่คุณหลินเยียนต้องรู้จักสักหน่อยน่ะครับ” ซิงเฉินพูดขึ้น
สิ้นเสียงซิงเฉิน หญิงสาวเดินออกมาจากข้างๆ
หญิงสาวสวมอยู่ในชุดทำงานสีขาว ผมดำยาวยันช่วงเอว สีหน้าเรียบนิ่งเย็นชา บุคลิกดูไม่ธรรมดาเช่นกัน
หลินเยียนมองไปทางหญิงสาวด้วยสีหน้าสงสัย เธอไม่รู้จักหญิงสาวคนนี้ แล้วก็ไม่เคยเจอหน้าเหมือนกัน
“พี่…พี่สะใภ้…”
หญิงสาวมองไปทางหลินเยียน สีหน้าที่เย็นชาในตอนแรกปรากฏความชมพูขึ้นเล็กน้อย
หลินเยียนงงกับคำว่าพี่สะใภ้ของหญิงสาว อย่าบอกว่านี่คือหญิงสาวที่ชื่อหลิงเย่ว์นะ?
“คุณหลินเยียน คนนี้คือ…”
ซิงเฉินมองไปทางหลินเยียน เพิ่งจะแนะนำ แต่หญิงสาวกลับมองไปทางซิงเฉินด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย “ฉันเอง”
ซิงเฉินเกาหัวแล้วพูดขึ้น “ก็ได้ งั้นเธอพูดเอง”
“พี่สะใภ้สวัสดีค่ะ…ฉันชื่อหลิงเย่ว์…เป็นลูกน้องของพี่อวี้” ผ่านไปสักพัก หลิงเย่ว์มองไปทางหลินเยียนแล้วพูดขึ้น
“สวัสดีค่ะๆ” หลินเยียนรีบต้อนเข้าไปจับมือของหญิงสาว
เธอเดาได้ไม่ผิด คนที่ซิงเฉินพามาคือหลิงเย่ว์จริงด้วย
ไม่น่าล่ะ ซิงเฉินถึงรักเดียวใจเดียวกับหญิงสาวที่ชื่อหลิงเย่ว์ขนาดนี้ เธอหน้าตาดี อีกทั้งมีบุคลิกน่าเกรงขาม ออร่าจับมาก ถือว่าเป็นนางฟ้าเย็นชาที่ไม่ได้เข้าหากันได้ง่ายๆ เลยล่ะ
“พี่สะใภ้…ขอบคุณนะคะ พี่เป็นผู้มีบุญคุณกับฉัน” หลิงเย่ว์มองมาทางเธอด้วยสีหน้าเห่อแดงขึ้นอีกครั้ง
“เอ่อ คุณหลินเยียน คืองี้นะครับ หลิงเย่ว์ไม่เคยขอบคุณใคร แล้วก็ไม่เคยเรียกใครว่าพี่สะใภ้ด้วย ไม่ค่อยมีเพื่อนเท่าไหร่ ดังนั้นครั้งแรกอาจจะเขินๆ หน่อย…” ซิงเฉินอธิบายอย่างเก้อๆ กังๆ
“ซิงเฉิน นาย…หุบปาก!” ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย