หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรักตอนพิเศษ 52-2 เวยเวยกลายร่าง

ตอนพิเศษ 52-2 เวยเวยกลายร่าง

ตอนพิเศษ 52-2 เวยเวยกลายร่าง

ผู้พิทักษ์ใหญ่คลี่ยิ้ม เอ่ยตอบอย่างเข้าใจความนัย “ชิงสุ่ยเจินเหรินโปรดวางใจ พวกเราจะอยู่ที่แดนปีศาจ ตามหาร่องรอยของจอมมารต่อเอง”

ชิงสุ่ยเจินเหรินตอบอย่างซาบซึ้งใจ “ขอบคุณผู้พิทักษ์ทั้งสองคนอย่างยิ่ง”

จีเสี่ยวซิวกอดเฉียวเวยเวยไว้ “ข้าจะไปด้วย! ข้าจะไปด้วย!”

ผู้พิทักษ์ใหญ่ว่าเสียงเข้ม “เสี่ยวซิว อย่าวุ่นวาย!”

ไม่วุ่นวายไม่ได้สิ ใช้หัวแม่เท้าคิดยังเดาออกเลยว่าชิงสุ่ยเจินเหรินจะพาเฉียวเวยเวยไปพบใคร

สิ่งที่จำเป็นสำหรับการสร้างร่างจริงร่างใหม่ นอกจากโลหิตมังกรมารแล้ว ก็ยังเหลือไม้พันหงสากับดินของเทพธิดาหนี่ว์วาที่ยังไม่ได้มาไว้ในมือ หากเขาจำไม่ผิด ไม้พันหงสาดูเหมือนจะอยู่ในมือของยอดเซียน

ก่อนหน้านี้เขาไม่มีโอกาสเข้าใกล้ยอดเซียน ยามนี้หมอนถูกยื่นมาให้ตอนจะนอนพอดี เขาไม่ไปก็โง่สิ!

ยิ่งไปกว่านั้น เขาก็อยากรู้สาเหตุที่เฉียวเวยเวยไม่ยอมโตเหมือนกัน

หลังจากร้องไห้ โวยวาย บอกว่าจะผูกคอตาย จีเสี่ยวซิวก็ถูกชิงสุ่ยเจินเหรินพาไปด้วยในที่สุด

ยอดเซียนกับจอมมารเป็นอริกัน ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่ค่อยอยากจะยอมรับเฉียวเวยเวยมากเท่าไร

ระหว่างเดินทางไปหายอดเซียน ชิงสุ่ยเจินเหรินจึงสั่งสอนสารพัดวิธีประจบเอาใจยอดเซียนให้เฉียวเวยเวยฟังไม่หยุด “…อาจารย์ลุงของเจ้าเป็นคนดีมาก หน้าตาเขาอาจจะดูดุมาก แต่ความจริงแล้วรักพ่อที่สุด เขาจะรักเจ้ามากเช่นกัน อาจารย์ลุงของเจ้าชอบดื่มสุราดอกกุ้ยฮวาของตำหนักปี้สยามากที่สุด ขอเพียงเจ้าเอาสุราดอกกุ้ยฮวาไปให้ อาจารย์ลุงของเจ้าจะต้องเบิกบานใจมากอย่างแน่นอน”

จีเสี่ยวซิวเบ้ปาก นี่ยังจะเรียกตนเองว่าเป็นศิษย์น้องเล็กที่ยอดเซียนรักที่สุดได้อีกหรือ อยู่กับยอดเซียนมานับหมื่นปี แต่ยังไม่รู้อีกว่าสิ่งที่ยอดเซียนอยากได้จนน้ำลายไหลหาใช่สุราดอกกุ้ยฮวา แต่เป็นคนบ่มสุราดอกกุ้ยฮวาต่างหาก

ชิงสุ่ยเจินเหรินพาเด็กน้อยทั้งสองคนไปที่ตำหนักปี้สยา

เทพธิดาปี้สยาต้อนรับทั้งสองคนอย่างกระตือรือร้น

“เด็กสองคนนี้เป็นลูกของเจ้าหรือ ไหนว่ามีลูกสาวคนเดียวอย่างไรเล่า” เทพธิดาปี้สยามองตุ๊กตาหยกแกะสลักน้อยทั้งสองคนแล้วถามอย่างนึกเอ็นดู

ชิงสุ่ยเจินเหรินอธิบายว่า “เวยเวยเป็นลูก ส่วนเสี่ยวซิวเป็นลูกศิษย์ของสำนักเชียนหลัน”

เทพธิดาปี้สยาบีบแก้มของตุ๊กตาน้อยทั้งสองคน นุ่มนิ่มเหมือนเต้าหู้นิ่ม จับแล้วรู้สึกดีนักเชียว

เทพธิดาปี้สยายิ้มอย่างชอบอกชอบใจ

“วันนี้ข้ามา…เพราะอยากขอซื้อสุราดอกกุ้ยฮวาจากท่านเทพธิดาสักหน่อย” ชิงสุ่ยเจินเหรินอธิบายจุดประสงค์อย่างเกรงอกเกรงใจ

เทพธิดาปี้สยายิ้มอย่างอ่อนโยน “เจ้ารู้กฎใช่หรือไม่”

ชิงสุ่ยเจินเหรินพยักหน้า

เทพธิดาปี้สยาสะบัดแขนเสื้อกว้าง กระดานหมากวิจิตรงดงามอันหนึ่งปรากฏขึ้นมาบนโต๊ะหิน “หากชนะข้า สุราดอกกุ้ยฮวาข้าจะไม่คิดเงินสักอีแปะ แต่หากเจ้าแพ้ สักหยดก็ไม่มอบให้เจ้า”

เทพธิดาปี้สยาเลื่องชื่อว่าเป็นคนบ้าหมากล้อมแห่งแดนเซียน คนบ้าหมากล้อมที่ว่านี้มีความหมายอยู่สองนัย หนึ่งคือหลงใหลคลั่งใคล้หมากล้อม สองคือโง่เง่าเรื่องหมากล้อมไม่มีใครเกิน

คนที่เดินหมากสู้นางไม่ได้มีอยู่ไม่มาก แต่ปกติแล้วกลับมีเซียนไม่กี่ตนที่เคยชนะนาง เพราะผู้ใดที่ชนะ นางจะมอบสุราดอกกุ้ยฮวาให้เซียนผู้นั้นหนึ่งไห หากให้กล่าวกันตามตรงสุราดอกกุ้ยฮวาของนางรสชาติสุดจะทน

ชิงสุ่ยเจินเหรินสามารถเอาชนะนางได้อย่างง่ายดายยิ่ง แต่การจะเอาชนะโดยที่ทำให้นางสนุกไปด้วยต่างหากที่ต้องใช้สมองสักหน่อย

“ใครใช้ให้ยามเจ้าสนุกจะยกให้ข้าสองไหเล่า”

“ท่านเซียนพูดอะไรหรือ” เทพธิดาปี้สยาฟังไม่ชัด

ชิงสุ่ยเจินเหรินยิ้มละไมตอบว่า “ไม่มีอันใด กำลังคิดว่าจะเอาชนะเจ้าอย่างไรดี”

เทพธิดาปี้สยาเลิกคิ้วอย่างหยิ่งยโส “ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็ต้องระวังหน่อยแล้ว ฝีมือการเดินหมากของข้า ทั่วทั้งแดนเซียนไร้คู่ต่อกร”

ทั้งสองคนเดินหมากกันอย่างสนุกสนาน

เฉียวเวยเวยกับจีเสี่ยวซิวออกไปที่สวนดอกไม้น้อย ระหว่างที่ทั้งสองคนเล่นกัน จีเสี่ยวซิวก็กวาดสายตามองรอบด้านอย่างซุกซน แล้วคว้ามือของเฉียวเวยเวย “ตามข้ามา!”

หนึ่งชั่วยามให้หลัง ชิงสุ่ยเจินเหรินก็เอาชนะเทพธิดาปี้สยาได้อย่างหวุดหวิด

การเดินหมากกับนักดวลหมากฝีมือยอดแย่โดยต้องทำให้อีกฝ่ายรู้สึกเมามันจากการดวลอย่างถึงพริกถึงขิงช่างเหน็ดเหนื่อยสมองเสียเหลือเกิน สมองของชิงสุ่ยเจินเหรินถูกรีดเค้นจนเหือดแห้ง

เทพธิดาปี้สยาตบโต๊ะ “สนุกมาก! ข้าไม่เจอคนที่ยืนหยัดสู้กับข้าได้นานถึงเพียงนี้มานานแล้ว! เห็นแก่ฝีมือการเดินหมากอันยอดเยี่ยมของเจ้า ข้าจะมอบให้เจ้าสองไห!”

“…” ชีวิตช่างลำบากนัก!

หลังจากนั้นชิงสุ่ยเจินเหรินก็พาเด็กน้อยสองคนมุ่งหน้าไปที่ตำหนักเซียน โดยที่เฉียวเวยเวยหิ้วสุราดอกกุ้ยฮวาไหหนึ่งไว้กับตัว

เมื่อชิงสุ่ยเจินเหรินใช้เคล็ดวิชาพาพวกเขามาถึงเรือนของยอดเซียน ก็พบว่าประตูใหญ่ของเรือนปิดสนิท พลังระดับยอดเซียนไม่มีทางไม่ทราบว่าพวกเขามาเยือน คำอธิบายเดียวก็คือยอดเซียนไม่อยากพบหน้าพวกเขา

ชิงสุ่ยเจินเหรินกระแอม แล้วเอ่ยกับประตูใหญ่ที่ปิดสนิทว่า “ศิษย์พี่ ข้าพาเวยเวยมาพบท่าน”

ยอดเซียนที่อยู่ในห้องแค่นเสียงดังหึ

ชิงสุ่ยเจินเหรินผลักประตูใหญ่เปิดออกแล้วบอกเฉียวเวยเวยว่า “เวยเวย ถือสุราดอกกุ้ยฮวาเข้าไปมอบให้อาจารย์ลุงของเจ้าสิ”

เฉียวเวยเวยเดินเข้าไปอย่างเชื่อฟัง นางเดินเข้าไปในห้องโถงใหญ่ ยอดเซียนนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่หันหน้ามาทางนี้พอดี แต่ยอดเซียนกลับไม่ชายตาแลเฉียวเวยเวยสักหน เขาเอาแต่เปิดตำราเซียนในมือ

เฉียวเวยเวยหันไปมองยอดเซียนตาปริบๆ แต่ยอดเซียนก็ยังไม่สนใจนาง

เฉียวเวยเวยจึงเขย่งปลายเท้าวางสุราดอกกุ้ยฮวาไว้ในอ้อมแขนของเขา แต่ยอดเซียนก็ยังแค่นเสียงหยันออกมาทางจมูก แม่สาวน้อยตัวกระจิ๊ด อย่าคิดว่าสุราไหสองไหจะติดสินบนยอดเซียนผู้นี้ได้! ยอดเซียนผู้นี้ไม่มีวันยอมรับเจ้าเด็ดขาด!

แต่แล้วเฉียวเวยเวยก็เปิดถุงเฉียนคุน แล้วหยิบผ้าสีชมพูสีสันสดสวยผืนหนึ่งวางไว้บนโต๊ะ

ยอดเซียนเหลือบปลายหางตามอง ทันใดนั้นเขาก็เกือบจะพลัดตกเก้าอี้!

ผ้าไหมน้ำแข็งที่สอดแทรกประกายแสงอัสดง ทั่วทั้งแดนเซียนมีเพียงผู้เดียวที่ครอบครอง นั่นก็คือเทพธิดาปี้สยา

นี่…นี่ นี่ นี่….นี่มันเอี๊ยมตัวในของเทพธิดาปี้สยามิใช่หรือ!

เฉียวเวยเวยล้วงถุงเฉียนคุนต่อ

ผ้าผูกผมของเทพธิดาปี้สยา

ผ้าคล้องแขนของเทพธิดาปี้สยา

สายคาดเอวของเทพธิดาปี้สยา

ผ้ารองระดูของเทพธิดาปี้สยา…

ยอดเซียนเบิกตาโต แม่สาวน้อยตัวกระจิ๊ดคนนี้ขโมยมาแม้กระทั่งผ้ารองระดูของเทพธิดาปี้สยาได้อย่างไรกัน!

จีเสี่ยวซิว “…”

ข้าบอกให้เจ้าเอามาแค่ผ้าผูกผมเส้นนั้น เหตุใดเจ้าหยิบมามากขนาดนี้กันเล่า…

ยอดเซียนรีบกวาดสิ่งของบนโต๊ะเข้าไปเก็บในอกเสื้อเป็นพัลวัน

ชิงสุ่ยเจินเหรินรู้ดีว่าอาศัยสุราดอกกุ้ยฮวาสองไหคงไม่มากพอจะโน้มน้าวศิษย์พี่ของตนเอง แต่อย่างน้อยให้ศิษย์พี่มองเห็นความจริงใจของเวยเวยก่อนก็ดี ส่วนเรื่องการยอมรับเวยเวย ค่อยเป็นค่อยไปก็ได้

เมื่อชิงสุ่ยเจินเหรินพาจีเสี่ยวซิวก้าวเข้ามาในห้องโถงใหญ่ ข้าวของบนโต๊ะก็หายไปหมดไม่เหลือสักชิ้นแล้ว

ทว่ายอดเซียนที่แต่เดิมสมควรหน้าบึ้งตึงถมึงทึง เวลานี้กลับยิ้มจนตาหยี รอยยิ้มนั่นไม่ใช่รอยยิ้มเสแสร้งอย่างแน่นอน แต่เป็นรอยยิ้มที่ออกมาจากภายในจิตใจ “หลานสาวตัวน้อยที่รัก เที่ยงวันนี้อยากกินอะไรดี”

ชิงสุ่ยเจินเหริน “…”

เขาพลาดสิ่งใดไปใช่หรือไม่

หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก

หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก

Score 10
Status: Completed
นิยายแปลไทยเรื่อง : หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก ผู้เขียน : เพียนฟางฟาง (偏方方) แนะนำเรื่องย่อ เมื่อหมอสาวยุคปัจจุบันต้องทะลุมิติมาอยู่ในยุคโบราณแถมพ่วงด้วยลูกแฝดอีกสอง ทำขนม ดักสัตว์ ทำไร่ ทำทุกอย่างที่ได้เงิน! เฉียวเวย เด็กกำพร้าไร้ญาติขาดมิตรจู่ๆ ก็ทะลุมิติมายังยุคโบราณที่ไม่รู้จัก นอกจากจะมาอาศัยร่างคนอื่นอยู่แล้ว ร่างเดิมนี้ยังมีลูกแฝดอีกสองชีวิตให้ต้องเลี้ยงดู! นางที่ไร้ซึ่งความทรงจำใดๆ ในโลกใบใหม่แต่พราะทักษะติดตัวสมัยยังต้องดิ้นรนในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าทำให้ชีวิตไม่ลำบากเกินไปนัก ทำขนม ดักสัตว์ ปลูกพืช รักษาคน จากนี้นางจะเลี้ยงลูกๆ ให้เติบใหญ่ด้วยมือของนางเอง! เจ้าซาลาเปาน้อยจูงมือบุรุษใบหน้าเคร่งขรึมเข้ามา "ท่านแม่ ท่านลุงบอกว่าเขาเป็นพ่อของข้า" เฉียวเวยยิ้มละไม "ลูกรัก บอกพ่อเจ้าหน่อย ว่าต้องทำเช่นไรถึงจะพิสูจน์ว่าเป็นพ่อของเจ้าได้" เจ้าซาลาเปาน้อยเปิดสมุดทองคำ พูดอย่างชื่อๆ ว่า "ข้อที่หนึ่งร้อยหนึ่งของ 'กฎครอบครัวเฉียว' หลอกลวงเด็กสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะมีโทษตัดอวัยวะสืบพันธุ์ ท่านลุง หากท่านเป็นพ่อของข้าจริงๆแล้วล่ะก็..." โดยไม่รอให้เจ้าซาลาเปน้อยจะพูดจบ ปลายนิ้วอันย็นเฉียบของชายคนนั้นก็บีบคางของเฉียวเวย เผยให้เห็นรอยยิ้มที่เย็นชาและเป็นอันตราย "หากข้าจำไม่ผิด คืนนั้น เหมือนเจ้าจะเป็นคนบังคับขืนใจข้า!"

Options

not work with dark mode
Reset