ชายาเคียงหทัย 342-2 เลือดย้อมปิ่นทอง

ตอนที่ 342-2 เลือดย้อมปิ่นทอง

​ ​เยี​่ย​หลี​อมยิ้ม​เลิก​คิ้ว​ขึ้น​ ​มิได้​เห็นด้วย​หรือ​แย้ง​อัน​ใด​กับ​การ​วิจารณ์​ของ​ม่อ​ซิว​เหยา​ ​แม้ว่า​หาก​พูดถึง​เรื่อง​หน้าตา​แล้ว​ ​สตรี​ชุด​ขาว​นาง​นั้น​จะ​ด้อย​กว่า​เยี​่ย​หลี​อยู่​ขั้น​หนึ่ง​ ​แต่กระนั้น​ก็​ไม่ได้​แย่​ไป​กว่า​กัน​สัก​เท่าไร​ ​แต่​บน​ตัวนาง​กลับ​มีกลิ่น​อาย​ประหลาด​ที่​ดึงดูด​ผู้คน​ ​ต่าง​กับ​เยี​่ย​หลี​ที่​สง่างาม​และ​สูงส่ง​ ​ทว่า​นาง​กลับ​สั่น​ไหว​ความปรารถนา​ส่วนลึก​ใน​จิตใจ​ของ​บุรุษ​ได้​อย่างง่ายดาย​ชัดเจน​ ​จุด​นี้​ ​เกรง​ว่า​แม้​ใน​ยาม​ที่​ใบหน้า​ของ​ซู​จุ้ย​เตี​๋​ยกับ​หลิ่ว​กุ้ย​เฟ​ยอยู​่​ใน​ช่วง​งาม​สะพรั่ง​ที่สุด​ก็​ยัง​สู้​มิได้​ ​ดู​แค่​สีหน้าท่าทาง​ของ​บรรดา​แขกเหรื่อ​ใน​ตำหนัก​เมื่อ​ครู่​ก็​รู้​แล้ว

​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​ขมวดคิ้ว​เล็กน้อย​ ​“​สตรี​นาง​นั้น​ค่อนข้าง​แปลกประหลาด​ ​อา​หลี​อย่า​ได้​เข้าใกล้​นาง​มาก​นัก​”

​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​เห็น​สตรี​งดงาม​มา​ไม่รู้​ตั้ง​เท่าใด​ต่อ​เท่าใด​ ​เหตุใด​จะ​ไม่รู้​ว่า​สตรี​ใน​ชุด​ขาว​นาง​นั้น​มี​แรงดึงดูด​ผู้คน​อย่างน​ประหลาด​ ​ช่าง​น่าเสียดาย​ที่​แรงดึงดูด​เช่นนี้​แทบจะ​ไร้ผล​ต่อม​่อ​ซิว​เหยา​ที่​มี​จิตใจ​มั่นคง​เป็น​อย่างยิ่ง​ ​กระทั่ง​ก่อให้เกิด​แรง​ต่อต้าน​ ​ยิ่ง​ทำ​ก็​ยิ่ง​เสีย​ ​เยี​่ย​หลี​รีบ​อมยิ้ม​พยักหน้า​เอ่ย​ว่า​ ​“​ข้า​รู้​ว่า​ชาว​ซาง​หมาง​จะ​ลง​เขา​มา​ในเวลานี้​…​ห่าง​กับ​คราก​่อน​เจ็ดสิบ​กว่า​ปี​ได้​แล้ว​กระมัง​”

​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​ยิ้ม​เย็น​เอ่ย​ว่า​ ​“​สิบ​ปีก่อน​สถานการณ์​ของ​ใต้​หล้า​ไม่ชัด​เจน​ ​พวกเขา​ไม่มี​ผู้รู้​ที่จะ​ทำนายทายทัก​ ​จึง​ย่อม​ต้อง​รอดู​สถานการณ์​ต่อไป​ก่อน​ ​บอกว่า​จะ​ลง​เขา​มาทุก​ๆ​ ​หกสิบ​ปี​ ​เป็น​เพียง​การหลอก​ลวง​ผู้คน​ก็​เท่านั้น​ ​เอา​เข้า​จริง​สามสี​่​ครั้งก่อน​หน้า​นั้น​จะ​แม่นยำ​เพียงนั้น​เชียว​หรือ​ ​ยาม​ต้า​ฉู่​สถาปนา​แคว้น​ ​พวกเขา​มาป​รากฏ​ตัว​ใน​รัชสมัย​ฮ่องเต้​ไท่​จง​มา​ขึ้น​ครองอำนาจ​พอดี​ ​แต่​เหตุใด​จึง​ไม่​มาร​่วม​สู้รบ​ไป​กับ​ฮ่องเต้​พระองค์​แรก​เสีย​เล่า​ ​อีกทั้ง​ท่าน​ยาย​ท่าน​นั้น​ของ​เหลย​เจิ​้น​ถิง​ ​ล้วน​มา​ใน​โอกาส​ที่​ดีกัน​ทั้งนั้น​”

​ ​เยี​่ย​หลี​พลัน​เข้าใจ​ ​หาก​การปรากฏ​ของ​ทายาท​ชาว​ซาง​หมาง​ใน​ทุก​รอบ​หกสิบ​ปี​จะ​พอดิบพอดี​เช่นนั้น​ล่ะ​ก็​ ​นาง​คงได้​คิด​ว่า​ชาวเขา​ซาง​หมาง​เป็น​ผู้​มี​ความสามารถ​หยั่งรู้​ ​และ​เป็นตัวแทน​สวรรค์​ใน​การคัดเลือก​ประมุข​แห่ง​ใต้​หล้า​เข้า​จริงๆ

​ ​“​ถึงอย่างไร​ชื่อเสียง​ของ​ชาว​ซาง​หมาง​ก็​นับว่า​ไม่เลว​”​ ​มีชื่อเสียง​ด้าน​การ​เลือก​ประมุข​แห่ง​ใต้​หล้า​ ​คนที​่​ถูก​เลือก​ก็​หมายความว่า​เป็น​ผู้​ที่​น่า​วางใจ​ได้​ ​มิน่าเล่า​สีหน้า​ของ​ทุกคน​ที่นั่ง​อยู่​จึง​ประหลาด​นัก​ ​ครานี​้​เยี​่ย​หลีก​ลับ​เชื่อได้​ว่านี​่​มิใช่​แผนการ​ของ​เหลย​เจิ​้น​ถิง

​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​เอ่ย​เหยียดหยาม​ขึ้น​ว่า​ ​“​เลือก​ราชา​แห่ง​ใต้​หล้า​หรือ​ ​หาก​ข้า​อยาก​จะ​ได้​ไม่ว่า​ผู้ใด​ก็​ขวาง​ข้ามิ​ได้​ ​ต้อง​ให้​ชาว​ซาง​หมาง​เช่น​นาง​มา​เลือก​ข้า​ด้วย​หรือ​”

​ ​เยี​่ย​หลี​แย้มยิ้ม​ ​“​ข้า​รู้ดี​ว่า​ท่าน​อ๋อง​ของ​เรา​จิตใจ​แน่วแน่​เด็ดเดี่ยว​ ​ไม่ต้อง​พึ่งพา​สตรี​เพื่อ​ช่วงชิง​ใต้​หล้า​มา​”​ ​นาง​มอง​ใบหน้า​ของ​เขา​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​หาก​มิใช่​ว่า​อยู่​ท่ามกลาง​ธารกำนัล​มากมาย​เช่นนี้​ล่ะ​ก็​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​เกรง​ว่า​คงได้​โผ​เข้า​กอด​นาง​ไป​แล้ว

​ ​“​ฮือ​ออ​”​ ​ม่อ​เสียว​เป่า​ที่​ถูกจับ​อุ้งมือ​น้อย​ทั้งสอง​ไว้​แน่น​จน​ขยับ​ไป​ไหน​มิได้​มาโดยตลอด​ดิ้น​ขลุกขลัก​ขึ้น​มา​อย่าง​ไม่พอใจ​ ​แต่​ม่อ​ซิว​เหยา​กลับ​ยัด​อาหาร​ใส่​ปาก​ให้​อย่างไร​้​ความปรานี​ ​ม่อ​เสียว​เป่า​ที่​อ้า​ปาก​ฟ้อง​มิได้​จึง​ได้​แต่​เบิกตา​โต​มอง​ท่าน​แม่​ด้วย​ความน้อย​อก​น้อยใจ​ ​น่าเสียดาย​นัก​ที่​เยี​่ย​หลีก​ลับ​มองว่า​ท่าทาง​นี้​เหมือนกับ​บิดา​กำลัง​อุ้ม​ลูกชาย​พลาง​ช่วย​ป้อน​อาหาร​ให้​เท่านั้น​ ​แม้ว่า​จะ​ไม่​ค่อย​อ่อนโยน​เท่าใด​นัก​ก็ตาม​ ​เยี​่ย​หลี​รู้สึก​ว่าการ​ฟาดฟัน​เป็น​ปรปักษ์​กัน​อยู่​ตลอดเวลา​ของ​สอง​พ่อ​ลูกคู่​นี้​มิใช่​เรื่อง​ดี​เท่าไร​นัก​ ​จึง​ไม่​ไปร​บก​วน​ช่วงเวลา​สาน​สัมพันธ์กัน​ระหว่าง​พวกเขา

​ ​“​ขาด​ใคร​ไป​คน​หนึ่ง​ใช่​หรือไม่​”​ ​เยี​่ย​หลี​จ้องมอง​ไป​ด้านล่าง​อย่าง​ใช้​ความคิด​ ​นาง​รู้สึก​เหมือนว่า​ขาด​อัน​ใด​ไปมา​ตั้งแต่​เมื่อ​ครู่​ ​เพียงแต่​สตรี​ชุด​ขาว​ชาว​ซาง​หมาง​นาง​นั้น​เข้ามา​ขัด​เสียก่อน​ ​จึง​ทำให้​นาง​ไม่ทัน​ได้​สนใจ​เรื่อง​นี้​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​กวาดสายตา​มอง​ลง​ไป​ยัง​ด้านล่าง​ ​อันที่จริง​แขกเหรื่อ​มากมาย​เพียงนี้​ ​แค่​บน​หอ​ทัศนา​นี้​ก็​มี​กว่า​พัน​คน​แล้ว​ ​จะ​มี​ใคร​เกิน​มา​หรือ​ขาด​ใคร​ไป​ก็​ยาก​ที่จะ​รู้​ได้

​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​ขมวดคิ้ว​ครุ่นคิด​ครู่หนึ่ง​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ ​“​ม่อ​เสี้ยว​อวิ​๋​นกับ​เจิน​หนิง​มิได้​มา​”​ ​สอง​คน​นี้​แม้​จะ​มิได้​มีอำนาจ​ที่แท้​จริง​ ​แต่​ใน​ทาง​ความหมาย​แล้ว​กลับ​มีความสำคัญ​อย่างมาก​ ​อย่างไร​เสีย​ก็​เป็น​องค์​ชาย​กับ​องค์​หญิง​แห่ง​ต้า​ฉู่​ ​ซ้ำ​ยัง​ยอมจำนน​ให้​ฉู่​จิง​กลับคืน​มา​เป็น​ของ​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​ ​ไม่ว่า​อย่างไร​ขอ​เพียง​ทั้งสอง​ไม่​ก่อ​กบฏ​ขึ้น​ ​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​ก็​จะ​ดูแล​เลี้ยงดู​พวกเขา​อย่างดี

​ ​เยี​่ย​หลี​มอง​ไป​ยัง​ที่นั่ง​สอง​ที่​อันว่าง​เปล่า​ ​ใน​หัว​พลัน​ประมวล​เร็ว​รี่​มอง​ไป​ยัง​ข้าง​กาย​เยีย​หลี​่ว​์​เหยี​่ย​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ ​“​หลิ่ว​กุ้ย​เฟ​ยมิ​ได้มา​!​”

​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​ไม่ใส่ใจ​ ​“​แม้นาง​จะ​เป็น​ว่าที่​พระ​ชายา​ของ​เยีย​หลี​่ว​์​เหยี​่ย​ในนาม​ ​แต่​ขอ​เพียงแค่​นาง​ยัง​มิได้​เข้า​พิธี​อภิเษก​ก็​จะ​ยัง​มิใช่​พระ​ชายา​ของ​เป่ย​หร​งอ​๋​อง​ ​ซ้ำ​ยัง​ไม่มี​ลำดับ​ศักดิ์​ใน​วงศ์ตระกูล​ที่​เชิดหน้าชูตา​ได้​ ​ไม่​มาก​็​มิใช่​เรื่อง​แปลก​อัน​ใด​”

​ ​เยี​่ย​หลี​ส่ายหน้า​เอ่ย​ว่า​ ​“​จาก​นิสัย​เย่อหยิ่ง​และ​มั่นอกมั่นใจ​ของ​นาง​แล้ว​ ​ไม่น่า​จะ​คิด​ว่า​ตน​ไม่คู่ควร​ที่จะ​มาร​่ว​มงา​นนี​้​”​ ​คน​อย่าง​หลิ่ว​กุ้ย​เฟย​ ​เกรง​ว่า​ต่อให้​เหยียบ​ถูก​ดิน​โคลน​ก็​ยัง​จะ​คิด​ว่า​ตัวเอง​เป็นสาว​งาม​สูงส่ง​ที่สุด​ใน​ใต้​หล้า​อยู่ดี​ ​เหตุใดจึ​จะข​ไม่​มาร​่ว​มงาน​เพราะ​คิด​ว่า​ตน​ไม่มี​สิทธิ์​ได้​เล่า​ ​นาง​ขมวดคิ้ว​เล็กน้อย​เอ่ย​ว่า​ ​“​หาก​มิใช่​เช่นนี้​ ​แล้ว​นาง​ไป​ไหน​เสีย​ ​จะ​เกี่ยวกับ​ฉาง​ซิ่ง​อ๋อง​และ​องค์​หญิง​เจิน​หนิง​หรือไม่​”

​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​เอ่ย​ว่า​ ​“​ต่อให้​เป็น​เช่นนั้น​ ​อา​หลีก​็​มิต​้​อง​เป็นห่วง​พวกเขา​หรอก​ ​ม่อ​เซียว​อวิ​๋​นกับ​เจิน​หนิง​มี​คน​ปกป้อง​อยู่​ข้าง​กาย​ ​ต่อให้​เกิดเรื่อง​ขึ้น​อย่างไร​เสีย​ก็​มิได้​เกิด​กับ​พวกเขา​”​ ​เยี​่ย​หลี​จนปัญญา​ ​ทำได้​เพียง​กด​ความกังวล​ใน​ใจ​ไว้​รอ​ให้​งานเลี้ยง​จบ​ลง​ค่อย​ว่า​กัน​ใหม่

​ ​ยาม​เมื่อ​งานเลี้ยง​จบ​ลง​ก็​เป็นเวลา​ใกล้​ยาม​จื่อ[1]แล้ว​ ​เยี​่ย​หลีกั​บม​่อ​ซิว​เหยา​ย่อม​พาม​่อ​ตัว​น้อย​กลับ​จวน​ไป​ก่อน​ใคร​ ​เรื่อง​ต่อจากนั้น​ย่อม​มี​คน​มา​จัดการ​ให้​ ​แต่​ไม่​คิด​เลย​ว่า​เพิ่งจะ​กลับ​ถึง​ตำหนัก​ จั​๋​วจิ​้​งก​็​เข้ามา​รายงาน​ว่า​ ​“​ท่าน​อ๋อง​ ​พระ​ชายา​ ​เกิดเรื่อง​ขึ้นกับ​ทาง​องค์​หญิง​เจิน​หนิง​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ​เยี​่ย​หลีกั​บม​่อ​ซิว​เหยา​จัดการ​พาม​่อ​ตัว​น้อย​เข้านอน​เรียบร้อย​จึง​ตาม​ไป​ที่​จวน​ฉาง​ซิ่ง

​ ​พอ​ถึงที่​จวน​ฉาง​ซิ่ง​ ​แค่​ดูก​็​รู้​ว่า​เพิ่ง​เกิดเรื่อง​ขึ้น​จริงๆ​ จั​๋​วจิ​้​งมิ​ได้​กล่าวเกินจริง​แม้แต่น้อย​ ​องค์​หญิง​เจิน​หนิง​นั่ง​อยู่​ใน​ห้องโถง​ใหญ่​อย่าง​อกสั่นขวัญแขวน​ ​บน​พื้น​ข้างๆ​ ​มี​รอย​เลือด​ที่​เกือบ​แห้ง​กรัง​เจิ่ง​นอง​อยู่​ ​องค์​หญิง​เจิน​หนิง​ที่​กังวล​เรื่อง​ใบหน้า​ของ​ตน​มาโดยตลอด​ ​มิ​เคย​ลืม​ที่จะ​สวม​ผ้า​ปิดหน้า​เอาไว้​ต่อหน้า​คนนอก​เลย​สัก​ครา​ ​มายา​มนี​้​กลับ​ผมเผ้า​กระเซอะกระเซิง​ ​เผย​ใบหน้า​ที่​มี​แผลฉกรรจ์​ต่อหน้า​ผู้คน​โดย​ไร้​การ​ปกปิด​ ​มีส​ตรี​ชุด​ขาว​นาง​หนึ่ง​นอน​อยู่​ไม่​ไกล​กัน​นั้น​ ​บริเวณ​ท้อง​มี​ปิ่นทอง​ปัก​อยู่​ ​อาภรณ์​สีขาว​ถูก​โลหิต​แดงฉาน​อาบ​ย้อม​จน​ชุ่ม​ ​เสิ่น​หยาง​กับ​ม่อ​อู๋​โยว​ไม่รู้​ว่า​เข้ามา​นั่ง​ตรวจดู​ตั้งแต่​เมื่อใด​ ​พอ​เยี​่ย​หลี​เห็น​ใบหน้า​ของ​สตรี​นาง​นั้น​ก็​เห็น​ว่า​เป็น​หลิ่ว​กุ้ย​เฟย​จริงๆ

​ ​เยี​่ย​หลี​ถอนใจ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​ไม่ต้อง​ถาม​ก็​รู้​ว่า​เกิดเรื่อง​อัน​ใด​ขึ้น​ ​นาง​มอง​ม่อ​เสี้ยว​อวิ​๋​นที​่​ยืน​อยู่​อีก​ด้าน​ ​ม่อ​เสี้ยว​อวิ​๋น​สีหน้า​ซีดเผือด​ ​มือ​ที่​ตก​อยู่​ข้าง​ลำตัว​กำ​เข้าหา​กัน​แน่น​ ​เอ่ย​อย่าง​เคร่งขรึม​ว่า​ ​“​พระ​ชายา​ ​เป็น​ข้า​ที่​วู่วาม​ทำร้าย​พระ​ชายา​เป่ย​หรง​ ​ขอพระ​ชายา​โปรด​จง​ลงโทษ​ด้วย​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ​ม่อ​เสี้ยว​อวิ​๋น​ผ่าน​ร้อน​ผ่าน​หนาว​มามาก​มาย​ตลอด​หลาย​ปี​มานี​้​ ​เขา​เข้าใจ​ถึง​ความอบอุ่น​เย็นชา​ของ​มนุษย์​เป็น​อย่างดี​ ​หาก​หลิ่ว​กุ้ย​เฟย​ได้​เป็น​พระ​ชายา​ที่​เจ็ด​แห่ง​เป่ย​หรง​ขึ้น​มา​จริงๆ​ ​ถูก​พวกเขา​ทำร้าย​เข้า​เยีย​หลี​่ว​์​เหยี​่ย​จะ​ต้อง​เอาเรื่อง​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​เป็นแน่​ ​วิธี​ที่จะ​สยบ​เรื่องราว​ได้ดี​ที่สุด​ของ​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​ก็​คือ​การนำ​ตัว​เขา​ส่งมอบ​ให้​ ​ซ้ำ​ยัง​ได้​ถือโอกาส​กำจัด​องค์​ชาย​ต้า​ฉู่​อย่าง​เขา​ไป​ด้วย​ ​เรียก​ได้​ว่ายิง​ปืน​นัด​เดียว​ได้​นก​สอง​ตัว

​ ​เยี​่ย​หลี​ส่ายหน้า​ ​ดึง​ม่อ​ซิว​เหยา​มานั​่ง​ข้างๆ​ ​แล้ว​เอ่ย​ถาม​ว่า​ ​“​เหตุใด​ท่าน​อาจารย์​เสิ่น​จึง​อยู่​ที่นี่​ได้​ ​แผล​นาง​เป็น​เช่นไร​บ้าง​หรือ​”

​ ​เสิ่น​หยาง​กรอก​ตา​อย่าง​ไม่สบอารมณ์​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ ​“​พองาน​เลี้ยง​เลิก​ ​ข้า​กำลังจะ​กลับ​ ​แต่​ระหว่างทาง​กลับ​ถูก​เจ้า​เด็ก​คน​นี้​พามา​ที่นี่​”​ ​ม่อ​อู๋​โยว​เงยหน้า​มอง​เยี​่ย​หลี​แล้ว​ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ ​“​ข้า​กับ​ท่าน​อาจารย์​ผ่านหน้า​จวน​ฉาง​ซิ่ง​แล้ว​เจอ​กับ​ฉาง​ซิ่ง​อ๋อง​พอดี​ ​พระ​ชายา​วางใจ​เถิด​ ​ฝีมือ​ด้าน​การแพทย์​ของ​ท่าน​อาจารย์​ล้ำเลิศ​ ​ไม่มีปัญหา​ใด​แน่นอน​”

​ ​เสิ่น​หยาง​ถลึงตา​ใส่​ม่อ​อู๋​โยว​ไป​ที​หนึ่ง​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ ​“​ไม่มีปัญหา​อัน​ใด​กัน​ ​บาดเจ็บ​ที่​ตำแหน่ง​นี้​ ​ต่อให้​ข้ามี​ฝีมือ​การแพทย์​เยี่ยมยอด​กว่านี​้​แล้ว​จะ​มีประโยชน์​อัน​ใด​”​ ​ชาย​หญิง​แตกต่าง​ ​บาดเจ็บ​บริเวณ​ท้อง​เช่นนี้​เสิ่น​หยาง​ไร้​หนทาง​ช่วย​ได้​ ​แม้​จะ​บอกว่า​เขา​มี​จรรยาบรรณ​เพียงใด​ ​แต่​สถานะ​เช่น​หลิ่ว​กุ้ย​เฟ​ยก​ลับ​ช่วย​ได้​ยาก​นัก​ ​ม่อ​อู๋​โยว​ไม่​กลัว​ว่า​จะ​ถูก​เขา​ถลึงตา​ใส่​อีก​ ​ยิ้ม​ตาหยี​เอ่ย​ว่า​ ​“​เช่นนั้น​ท่าน​อาจารย์​ก็​ชี้แนะ​ศิษย์​เสียหน่อย​ ​ศิษย์​จะ​ลงมือ​รักษา​เอง​ ​ดี​หรือไม่​เจ้า​คะ​”

[1] ​ยาม​จื่อ​ ​เวลา​ ​23.00​ ​น.​–​ ​01.00​ ​น.

ชายาเคียงหทัย

ชายาเคียงหทัย

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1-37 อ่านนิยาย

(อ่านตอนต่อไปด้านล่าง)


หลังถูกน้องสาวร่วมบิดาแทงข้างหลัง ทำให้ เยี่ยหลี คุณหนูสามแห่งจวนตระกูลเยี่ยถูกถอนหมั้นจาก ม่อจิ่งหลี ท่านอ๋องรูปงามแห่งเมืองหลวง แต่นางก็ยังมองโลกในแง่ดี หวังว่าตนจะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขไปอีกสักสองสามปี ทว่าเหตุไฉนสามวันให้หลัง ฝ่าบาทถึงได้พระราชทานสมรสให้นางอีกครั้งเล่า!

การแต่งงานครั้งนี้แม้ฉากหน้าจะดูเหมือนเป็นเรื่องที่น่ายินดีนัก แต่คนที่นางต้องอภิเษกสมรสด้วยกลับเป็น ม่อซิวเหยา ท่านอ๋องพิการไร้ประโยชน์ อีกทั้งยังมีรูปโฉมอัปลักษณ์ เล่าลือกันว่าเขาเคยผ่านการแต่งงานมาแล้วถึงสองครา ทว่าหญิงสาวทั้งสองคนที่เขาสมรสด้วยกลับต้องมีอันเป็นไปภายหลังจากการแต่งงานได้ไม่นาน

แต่ช้าก่อน…บุรุษที่แสนอ่อนโยนและเก่งกาจตรงหน้านางนี้น่ะหรือคือม่อซิวเหยา บุรุษที่กล่าวกันว่าเป็นคนน่ากลัว ไร้ค่า ไม่ได้เรื่องได้ความคนนั้น นี่คงมีอะไรที่เข้าใจผิดไปแล้วกระมัง

Options

not work with dark mode
Reset