ตอนพิเศษ 51-2 มังกรน้อยผู้สูญเสียการควบคุม พี่ซิวมาแล้ว
บุรุษสูงหนึ่งเมตรเก้าสิบเซนติเมตรเกาะต้นไม้ใหญ่เหมือนกับหมีอู๋เหว่ย[1] ร่ำไห้น้ำหูน้ำตาไหลพราก อย่างไม่รักษามาดสักนิด
หลิงจือ “…”
เด็กสาวรากปราณสวรรค์ “…”
หลิงจือรู้ว่าจะปล่อยให้เฉียวเวยเวยพ่นไฟต่อไปไม่ได้ หลิงจือพยายามจะเข้าใกล้นาง แต่เข้าไปใกล้เพียงนิดเดียว เพลิงมังกรร้อนผ่าวก็พ่นใส่!
โชคยังดีที่หลิงจือสวมเกราะมังกรของเฉียวเวยเวยอยู่ ไม่เช่นนั้นผู้ฝึกตนพลังขั้นรากฐานเช่นนางคงถูกเพลิงมังกรสายนี้เผาทั้งเป็นกลายเป็นศพดำเกรียมไปแล้ว
มังกรมารน้อยสูญเสียการควบคุมอย่างสมบูรณ์ เด็กสาวรากปราณสวรรค์บังคับปราณปีศาจที่บริสุทธิ์ที่สุดในฟ้าดินมาสร้างข่ายอาคม พยายามจะขังมังกรมารน้อยเอาไว้
หลิงจือสัมผัสปราณปีศาจของนางไม่ได้ แต่ราชาปีศาจตกตะลึงอย่างยิ่ง “ปราณปีศาจกับปราณมารแข็งแกร่งเหลือเกิน! สาวน้อยคนนี้…”
ในที่สุดมังกรมารน้อยก็ถูกขังอยู่ในข่ายอาคมของเด็กสาวรากปราณสวรรค์ เพลิงมังกรทั้งหมดที่นางพ่นออกมากำลังแผดเผาร่างของนางเอง
“เจ้าทำเช่นนี้เดี๋ยวเวยเวยก็ตายกันพอดี!” หลิงจือพุ่งเข้าไปขัดขวางเด็กสาวรากปราณสวรรค์
เด็กสาวรากปราณสวรรค์ถูกนางขัดขวาง พลังก็สะท้อนกลับมาอย่างรุนแรงจนถอยหลังไปหนึ่งก้าว นางถลึงตาใส่หลิงจืออย่างเย็นชาแล้วบอกว่า “จะทำร้ายนางได้อย่างไรกัน เจ้าสิ่งนั้นพ่นออกมาจากในร่างของนางไม่ใช่หรือ นางทนมันไม่ได้หรือไร”
หลิงจือโต้อย่างโกรธจัด “นั่นเป็นเพลิงมังกรที่นางพ่นออกมาเพราะทรมาน! เจ้าขังนางไว้ในเพลิงมังกร ไม่ใช่นางจะยิ่งทรมานกว่าเดิมหรือ”
เด็กสาวรากปราณสวรรค์เถียงเสียงเกรี้ยวกราด “แล้วจะให้นางสบาย แต่พวกเราทุกคนตายหรือไร”
หลิงจือสะอึก แต่ไม่นานนางก็เอ่ยเสียงอ่อนลง “หากนางทรมานจนถึงระดับหนึ่งก็คงจะร่างระเบิดตาย เจ้าไปเถิด ข้าจะเฝ้านางเอง”
“อาศัยพลังระดับเจ้าน่ะหรือ ช้าเร็วก็คงถูกเผาตาย!” เด็กสาวรากปราณสวรรค์ขยับมือทำสัญลักษณ์อีกหน นางบังคับปราณปีศาจรอบด้าน แต่หนนี้นางขังมังกรมารน้อยไว้ด้านในไม่ได้อีกแล้ว
มังกรมารน้อยขัดขืนตามสัญชาตญาณ นางพ่นเพลิงมังกรสายหนึ่งใส่เด็กสาวรากปราณสวรรค์
ราชาปีศาจเรียกข่ายอาคมชั้นหนึ่งออกมาทันที เขาปกป้องเด็กสาวรากปราณสวรรค์จากการถูกเผาตายได้อย่างหวุดหวิด
เด็กสาวรากปราณสวรรค์ยืนนิ่งอึ้ง
มังกรมารน้อยสูญเสียการควบคุมมากขึ้นทุกที เพลิงมังกรเผาทำลายป่าหมดทั้งผืน แล้วเริ่มลามไปยังภูเขาใกล้เคียง
ในตอนนี้เองลำแสงที่ดูราวกับทางช้างเผือกก็พลันร่วงมาจากขอบฟ้า มือดุจหยกสลักข้างหนึ่งดึงตัวมังกรมารน้อยไปอย่างแผ่วเบา
เพียงชั่วพริบตาเดียวมังกรมารน้อยก็หายไป!
หลิงจือตกตะลึง “เวยเวย!”
มังกรมารน้อยถูกใต้เท้าเจ้าตำหนักพาเข้าไปในแดนยมโลก เขาใช้กิเลนเพลิงแบกนางมุ่งหน้าไปยังแม่น้ำลืมเลือน ระหว่างทางมังกรมารน้อยยังพ่นเปลวเพลิงออกมาไม่หยุด ใต้เท้าเจ้าตำหนักจึงล้วงเพลิงปีศาจหมื่นพิภพออกมา
เปลวเพลิงของมังกรมารน้อยสำหรับผู้อื่นเป็นดั่งฝันร้าย แต่สำหรับเพลิงปีศาจหมื่นพิภพมันคือยาบำรุงชั้นเลิศ เพลิงปีศาจหมื่นพิภพดูดซับเพลิงมังกรของมังกรมารน้อยอย่างตะกละตะกลาม
แต่การใช้เพลิงปีศาจหมื่นพิภพดูดซับเพลิงมังกรเป็นเพียงทางแก้เฉพาะหน้าเท่านั้น หากอยากแก้ถึงต้นตอต้องไปที่แม่น้ำลืมเลือน
กิเลนเพลิงแบกใต้เท้าเจ้าตำหนักกับมังกรมารน้อยมาถึงริมแม่น้ำลืมเลือน
ผู้พิพากษาชุยเร่งรีบตามมาจนเหงื่อไหลเปียกโชก หากว่าเขาเหงื่อไหลได้ล่ะก็นะ “ใต้เท้า!”
ใต้เท้าเจ้าตำหนักขานอืมตอบอย่างเฉยชา เขาอุ้มมังกรมารน้อยที่ยังคงพ่นไฟอยู่เช่นเดิมขึ้นมา เมื่อมีเพลิงปีศาจหมื่นพิภพอยู่ด้วย เพลิงมังกรจึงไม่ตกต้องร่างกายเขาแม้แต่น้อย พวกมันถูกเพลิงปีศาจหมื่นพิภพดูดซับไปจนหมด
เพลิงมังกรทำร้ายเจ้าตำหนักไม่ได้ก็จริง แต่แม่น้ำลืมเลือนแห่งนี้….
ผู้พิพากษาชุยมองใต้เท้าของตนเองอย่างเป็นห่วง
ใต้เท้าเจ้าตำหนักยืนอยู่ริมแม่น้ำ เขาวางมังกรมารน้อยลงในน้ำอย่างอ่อนโยน
แต่มังกรมารน้อยกลับไม่ยอมลงน้ำ!
กรงเล็บน้อยเกาะเสื้อของใต้เท้าเจ้าตำหนักอย่างเหนียวแน่น
ใต้เท้าเจ้าตำหนักจึงบอกว่า “ใครใช้ให้เจ้าตะกละเช่นนั้น ผลปีศาจนั่นยังไม่เท่าไร มันมีสรรพคุณเท่ากับเมล็ดโพธิ์ร้อยพันเมล็ดเท่านั้น แต่น้ำนมศิลาของจอมปีศาจ มารดาเจ้าดื่มเข้าไปหยดเดียวยังทนรับไม่ไหว แต่เจ้ากลับดื่มลงไปถึงสามหยด!”
มังกรมารน้อยหน้าจ๋อยสนิท
ใต้เท้าเจ้าตำหนักได้ยินเสียงสะอื้นของนางก็ใจอ่อนยวบ น้ำเสียงนุ่มนวลลงเล็กน้อย “แม่น้ำลืมเลือนแห่งนี้สลายปราณปนเปื้อนในร่างเจ้าได้ เด็กดี ลงไปแช่ครู่เดียว ข้าก็ดึงเจ้าขึ้นมาแล้ว”
มังกรมารน้อยไม่เอา!
สภาพของนางตอนนี้เหมือนเด็กน้อยชาวมนุษย์ที่ไข้ขึ้นสูง ถึงแม้ว่าจะทรมานอย่างยิ่ง ทั้งเศร้าหมองแล้วก็หวาดกลัวมาก แต่ก็ยังเอาแต่ใจ ไม่ยอมเชื่อฟังคำพูดของผู้ใหญ่สักเท่าไร
ใต้เท้าเจ้าตำหนักถอนหายใจอย่างจนปัญญาแล้วอุ้มนางเดินลงแม่น้ำลืมเลือนอย่างช้าๆ
ผู้พิพากษาชุยหน้าถอดสีทันที “ใต้เท้า! ท่านลงไปในแม่น้ำลืมเลือนไม่ได้นะ!”
แม่น้ำลืมเลือนเป็นสถานที่อันหนักอึ้งที่สุด หนาวเย็นที่สุดและเย็นยะเยือกที่สุดในแดนยมโลก มีวิญญาณหลงทางและวิญญาณเร่ร่อนนับไม่ถ้วนทอดกายดับสูญอยู่ในสถานที่แห่งนี้ วิญญาณที่ไม่ต้องการกลับชาติไปเกิดใหม่ สูญสิ้นกายเนื้อแต่ยังเหลือดวงวิญญาณเหล่านั้นต่างแอบหนีมายังที่แห่งนี้
เพราะหากกลายเป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำลืมเลือนก็จะตัดขาดจากสังสารวัฏชั่วนิรันดร์
น้ำของแม่น้ำลืมเลือนทำให้ทุกสิ่งในแดนยมโลกสูญสิ้นได้ แม้ใต้เท้าเจ้าตำหนักเป็นตัวตนที่พิเศษอย่างยิ่ง แต่ต่อให้เขาเก่งกาจอีกเท่าใดก็เป็นเพียงเสี้ยววิญญาณที่แหว่งวิ่นดวงหนึ่ง
หากวิญญาณที่เหลือเพียงเศษเสี้ยวก้าวลงไปในแม่น้ำแห่งนี้ก็เป็นไปได้ว่าจะถูกกัดกร่อน
มังกรมารน้อยกะพริบดวงตาที่น้ำตาเอ่อคลอมองใต้เท้าเจ้าตำหนัก แววตาของนางดูเจ็บปวดทรมานและเศร้าสร้อย
ใต้เท้าเจ้าตำหนักกอดนางแน่น เขาก้าวลงไปในแม่น้ำลืมเลือนอย่างเด็ดเดี่ยว
แม่น้ำเย็นเฉียบจนถึงกระดูก มันทิ่มแทงร่างกายของใต้เท้าเจ้าตำหนักประหนึ่งคมดาบ เขาสัมผัสได้ว่าดวงวิญญาณที่ขาดแหว่งของตนเองถูกพลังงานของแม่น้ำลืมเลือนฉีกทึ้ง กัดกร่อนและกลืนกิน
แต่มังกรน้อยในอ้อมแขนของเขาเริ่มสงบลงแล้ว น้ำอันเย็นเฉียบทำให้มังกรมารน้อยรู้สึกสบายไปทั้งตัว มังกรมารน้อยเกาะอยู่ในอ้อมแขนของเขาอย่างสบายตัวพลางกวัดแกว่งหางที่อยู่ใต้น้ำอย่างเกียจคร้าน
[1]หมีอู๋เหว่ย คือหมีโคอาล่า