หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรักตอนพิเศษ 51-1 มังกรน้อยผู้สูญเสียการควบคุม พี่ซิวมาแล้ว

ตอนพิเศษ 51-1 มังกรน้อยผู้สูญเสียการควบคุม พี่ซิวมาแล้ว

ตอนพิเศษ 51-1 มังกรน้อยผู้สูญเสียการควบคุม พี่ซิวมาแล้ว

เขามังกรเป็นสัญลักษณ์การโตเต็มวัยของเผ่ามังกร เมื่อลูกมังกรตัวหนึ่งเริ่มมีเขามังกรงอกออกมานั่นหมายความว่ามันเริ่มเติบใหญ่แล้ว

แต่เขามังกรไม่ได้งอกออกมาสมบูรณ์ภายในหนเดียวหรือภายในเวลาวันสองวัน มันก็เหมือนกับฟันของเผ่ามนุษย์ ต้องผ่านกระบวนการอันยาวนานและยากจะทนเสียก่อน เพียงแต่ว่ากระบวนการงอกของเขามังกรยาวนานยิ่งกว่าและสุดจะทนมากกว่าอยู่บ้าง

จากการสังเกตของเผ่ามาร นับตั้งแต่มังกรมารตัวหนึ่งรู้สึกเจ็บบนศีรษะจนกระทั่งเขามังกรงอกออกมาอย่างสมบูรณ์ อย่างสั้นที่สุดก็ต้องใช้เวลาหลายสิบปี อย่างมากที่สุดก็ยาวนานนับร้อยปี

“เวยเวยต้องทนเจ็บนานถึงเพียงนั้นเชียวหรือ” หลิงจือถามอย่างลนลาน

หลังจากเด็กสาวรากปราณสวรรค์รู้ชาติกำเนิดของเฉียวเวยเวย นางก็เคยไปหาตำราเกี่ยวกับเผ่ามังกรจากหอตำราลับของสำนักเชียนหลันมาอ่าน นางนึกถึงสิ่งที่บันทึกไว้ในตำรา จากนั้นก็ส่ายหน้าอย่างฉงน “ปกตินางกลัวเจ็บมากใช่หรือไม่”

“เหตุใดจึงถามเช่นนั้น” หลิงจือถามอย่างงงงวย

เฉียวเวยเวยเริ่มเกาศีรษะอีกแล้ว

เด็กสาวรากปราณสวรรค์มองนางแล้วบอกว่า “ตำราเขียนไว้ว่ายามเขามังกรงอกจะเจ็บๆ คันๆ เพียงนิดเดียว แต่ดูท่าทางเหมือนนางจะทรมานมาก หากไม่ใช่ว่านางใจเสาะมาก…”

หลิงจือเอ่ยขัดนางอย่างไม่ต้องหยุดคิด “เวยเวยไม่ใจเสาะนะ!”

“ถ้าเช่นนั้นความเจ็บปวดของนางก็มากผิดปกติ…” เด็กสาวรากปราณสวรรค์ขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ “เมื่อครู่นางกินสิ่งใดเข้าไป”

“เรื่องนี้ควรถามเจ้าไม่ใช่หรือ ตอนเจ้ามาถึงข้าเพิ่งตื่น เจ้าบอกว่าเจ้าเห็นเวยเวยก่อน”

“ข้า…” เด็กสาวรากปราณสวรรค์สะอึกไปครู่หนึ่ง

เฉียวเวยเวยเริ่มถีบขาน้อยๆ อย่างทรมาน

หลิงจือสับสนจนทำอันใดไม่ถูก “ตอนนี้จะทำอย่างไรดีเล่า”

แต่แล้วจู่ๆ เด็กสาวรากปราณสวรรค์ก็ขมวดคิ้ว “แย่แล้ว พวกเขามาแล้ว! รีบหนีเร็ว!”

หลิงจืออุ้มเฉียวเวยเวยขึ้นมา ตั้งใจว่าจะหนีไปพร้อมกับเด็กสาวรากปราณสวรรค์แต่น่าเสียดายที่สายไปก้าวหนึ่ง

จิ้งจอกเพลิงไล่ตามมาทันแล้ว มันว่องไวอย่างน่าเหลือเชื่อ มันดูเหมือนอสนีบาตสีแดงเส้นหนึ่ง เพียงชั่วพริบตาก็ขวางทางหนีของพวกนางเอาไว้ ปีศาจกับอสูรพูดภาษามนุษย์ได้เฉพาะยามที่แปลงกายเป็นมนุษย์เท่านั้น จิ้งจอกเพลิงจึงแปลงกายเป็นมนุษย์ทันที

อินทรีแดงสองหางกับเฉียวเวยเวยก็แปลงกายบ่อยเช่นกัน แต่ทั้งสองอาศัยอยู่ในเผ่ามนุษย์มานานเกินไป จึงเข้าใจดีว่าเวลากลายร่างต้องเสกเสื้อผ้าสักชุดมาให้ตนเองด้วย แต่จิ้งจอกเพลิงไม่เหมือนพวกเขา

เขายืนเปลือยอล่างฉ่างอย่างสง่าผ่าเผย ยืดอกเชิดหน้าอยู่เบื้องหน้าบรรดาแม่นางน้อยเช่นนั้น

เฉียวเวยเวยมัวแต่เกาศีรษะอยู่จึงไม่ทันสนใจเขา แต่หลิงจือกับเด็กสาวรากปราณสวรรค์เห็นทุกส่วนไม่ขาดตกสักส่วนเดียว แม่นางน้อยทั้งสองไฉนจะเคยเห็นภาพอันมิอาจบรรยายได้เช่นนี้ พวกนางกรีดร้องว้ายทีหนึ่งแล้วยกมือขึ้นปิดตาทันใด!

ราชาปีศาจดันคิดว่าเรือนร่างอันองอาจผึ่งผายของตนทำให้ผู้ฝึกตนขั้นรากฐานต่ำต้อยสองคนนี้หวาดผวา เขาจึงเท้าสะเอวหัวเราะวะฮ่าฮ่าฮ่า!

สิ่งที่ควรบอกสักหน่อยก็คือคลื่นพลังงานยามราชาปีศาจกลายร่างดันไปกระตุ้นถูกเฉียวเวยเวยเข้า จนทำให้เฉียวเวยเวยส่งเสียงดังปุ้งกลายร่างตามไปด้วย

มังกรมารน้อยกลิ้งลงมาที่พื้น พลังงานมหาศาลในร่างมังกรมารน้อยเหมือนธารลาวาไหลพลุ่งพล่านอยู่ในหน้าอกของนาง เมื่อความร้อนในร่างมังกรมารน้อยไร้ที่ระบาย นางจึงอ้าปากอย่างทรมานแล้วพ่นเพลิงมังกรสายหนึ่งออกมาอย่างกะทันหัน

สิ่งที่บังเอิญก็คือราชาปีศาจดันยืนอยู่ที่ปากทางออกของเพลิงมังกรพอดิบพอดี

ราชาปีศาจผู้ที่พริบตาก่อนหน้านี้ยังแหงนหน้าหัวเราะเย้ยฟ้าดังวะฮ่าฮ่าฮ่า! อยู่ พริบตาต่อมากลับจมอยู่ในทะเลเพลิงที่กินวงกว้างประหนึ่งมหาสมุทร

เส้นขนทั่วร่างของราชาปีศาจลุกติดไฟ ‘นกหั่วเลี่ย’ อันแสนภาคภูมิใจของเขากลายเป็นนกไฟลุกไปแล้วจริงๆ

พ่นเพลิงมังกรเพียงหนเดียวยังไม่มากพอจะคลายความทรมานของมังกรมารน้อย นางอยากจะพ่นเพลิงมังกรออกมายิ่งนัก เพลิงมังกรสายแล้วสายเล่าจึงถูกพ่นออกมาจากปากของนางไม่หยุด ผืนป่าอันชุ่มชื้นกลายเป็นทะเลเพลิงผืนหนึ่งอย่างรวดเร็ว

ราชาปีศาจเป็นปีศาจธาตุไฟ เขามีความสามารถในการอยู่กับเปลวเพลิงและการควบคุมเปลวเพลิงมาตั้งแต่เกิด หากไม่ใช่เพราะเหตุนั้น เขาจะทำให้เพลิงปีศาจหมื่นพิภพยอมรับว่าเขาเป็นนายได้อย่างไรกัน

แน่นอนว่าเจ้าตัวจ้อยน่าตายตัวนั้นดันมีจิตวิญญาณขึ้นมาเมื่อหลายพันปีก่อน หลังจากนั้นมันก็หนีหายไป…

แต่ไม่ว่าอย่างไรราชาปีศาจก็ไม่กลัวไฟ ทว่าเวลานี้เขาถูกเพลิงมังกรของมังกรมารน้อยเผาจนอยากจะร้องไห้หาบิดามารดาแล้ว!

เขากุมก้นเผ่นแผล็วขึ้นไปบนต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง จากนั้นจึงใช้อาวุธปีศาจรักษาพลังงานวารีในต้นไม้ต้นนี้ไว้ ทว่าแม้จะทำเช่นนี้แล้วเขาก็ยังรู้สึกว่าก้นของตนเองกำลังถูกย่างจนเกรียม

โอ้ย!

หางของเขาถูกเพลิงมังกรเผาไปแล้ว!

มังกรมารน้อยควบคุมตนเองไม่ได้ เพลิงมังกรยังถูกพ่นออกมาอย่างต่อเนื่อง เด็กสาวรากปราณสวรรค์กับหลิงจือพยายามดึงพลังปราณน้ำจากทั่วทุกสารทิศมา แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็มิอาจดับเพลิงมังกรได้

หากเป็นเช่นนี้ต่อไป พวกนางทุกคนคงถูกเผาตายทั้งเป็น

ราชาปีศาจเกาะกรงเล็บสี่ข้างกับต้นไม้ใหญ่แล้วเอ่ยอย่างร้อนรน “เฮ้ย! พวกเจ้ารีบหยุดนางสิ! หากเผาต่อไป แดนปีศาจของข้าคงได้จบสิ้นกัน!”

ฮือๆ! เขาลำบากมากนะกว่าจะได้เป็นราชาปีศาจ

ยังไม่ทันได้เสพสุขสักเท่าไร ดินแดนก็จะล่มจมเสียแล้ว!

หากรู้ก่อนว่าจะเป็นเช่นนี้เขาคงไม่หาเรื่องมังกรน้อยตัวนี้หรอก ไม่เพียงแต่ผลปีศาจหายเกลี้ยง น้ำนมศิลาของจอมปีศาจก็ไม่เหลือหลอ แม้แต่แดนปีศาจของเขา แดนปีศาจของเขา…ก็กำลังจะถูกทำลายในชั่วพริบตาด้วย!

ฮือๆ! ฮือๆ! ฮือๆ!

หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก

หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก

Score 10
Status: Completed
นิยายแปลไทยเรื่อง : หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก ผู้เขียน : เพียนฟางฟาง (偏方方) แนะนำเรื่องย่อ เมื่อหมอสาวยุคปัจจุบันต้องทะลุมิติมาอยู่ในยุคโบราณแถมพ่วงด้วยลูกแฝดอีกสอง ทำขนม ดักสัตว์ ทำไร่ ทำทุกอย่างที่ได้เงิน! เฉียวเวย เด็กกำพร้าไร้ญาติขาดมิตรจู่ๆ ก็ทะลุมิติมายังยุคโบราณที่ไม่รู้จัก นอกจากจะมาอาศัยร่างคนอื่นอยู่แล้ว ร่างเดิมนี้ยังมีลูกแฝดอีกสองชีวิตให้ต้องเลี้ยงดู! นางที่ไร้ซึ่งความทรงจำใดๆ ในโลกใบใหม่แต่พราะทักษะติดตัวสมัยยังต้องดิ้นรนในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าทำให้ชีวิตไม่ลำบากเกินไปนัก ทำขนม ดักสัตว์ ปลูกพืช รักษาคน จากนี้นางจะเลี้ยงลูกๆ ให้เติบใหญ่ด้วยมือของนางเอง! เจ้าซาลาเปาน้อยจูงมือบุรุษใบหน้าเคร่งขรึมเข้ามา "ท่านแม่ ท่านลุงบอกว่าเขาเป็นพ่อของข้า" เฉียวเวยยิ้มละไม "ลูกรัก บอกพ่อเจ้าหน่อย ว่าต้องทำเช่นไรถึงจะพิสูจน์ว่าเป็นพ่อของเจ้าได้" เจ้าซาลาเปาน้อยเปิดสมุดทองคำ พูดอย่างชื่อๆ ว่า "ข้อที่หนึ่งร้อยหนึ่งของ 'กฎครอบครัวเฉียว' หลอกลวงเด็กสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะมีโทษตัดอวัยวะสืบพันธุ์ ท่านลุง หากท่านเป็นพ่อของข้าจริงๆแล้วล่ะก็..." โดยไม่รอให้เจ้าซาลาเปน้อยจะพูดจบ ปลายนิ้วอันย็นเฉียบของชายคนนั้นก็บีบคางของเฉียวเวย เผยให้เห็นรอยยิ้มที่เย็นชาและเป็นอันตราย "หากข้าจำไม่ผิด คืนนั้น เหมือนเจ้าจะเป็นคนบังคับขืนใจข้า!"

Options

not work with dark mode
Reset