หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรักตอนพิเศษ 50-1 ปล้นราชาปีศาจให้หมดตัว จะเติบใหญ่แล้ว

ตอนพิเศษ 50-1 ปล้นราชาปีศาจให้หมดตัว จะเติบใหญ่แล้ว

ตอนพิเศษ 50-1 ปล้นราชาปีศาจให้หมดตัว จะเติบใหญ่แล้ว

เฉียวเวยเวยตื่นเพราะกระเพาะร้องหิวโหย นางลืมตาแล้วกะพริบตาปริบๆ นางลืมไปแล้วว่าโรงเตี๊ยมเมื่อวานหน้าตาเป็นเช่นไร ด้วยเหตุนี้นางจึงไม่รู้ว่านางถูกจับย้ายที่แล้ว

นางเหลือบตามอง แม้จีเสี่ยวซิวจะไม่อยู่ แต่หลิงจือยังอยู่

นางลุกขึ้นมานั่งแล้วเขย่าหัวไหล่ของหลิงจือ “หลิงจือ ข้าหิว”

หลิงจือยังคงหลับใหล

เฉียวเวยเวยปีนข้ามร่างของนางแล้วไถลตัวลงจากเตียง นางเหยียบฝ่าเท้าเปลือยเปล่าลงบนแผ่นหินที่วาววับจนมองเห็นเงาคนด้านบน

ที่แห่งนี้เป็นห้องที่ฝังอัญมณีสีแดงไว้เต็มไปหมดแห่งหนึ่ง บนเสาสลักลวดลายซับซ้อนงามวิจิตร มันทั้งโอ่โถงและสว่างไสว ข้อด้อยเพียงอย่างเดียวก็คือไม่มีอาหาร

เฉียวเวยเวยเขย่งปลายเท้าคว้ากาน้ำชาบนโต๊ะ แต่ภายในกาน้ำชากลับมีแต่สุรา เฉียวเวยเวยดื่มไปคำเดียวก็เผ็ดจนต้องแลบลิ้น เฉียวเวยเวยเบ้ปากน้อยๆ ของตนแล้ววางกาน้ำชากลับไปที่เดิม หลังจากนั้นนางก็ก้าวขาสั้นๆ ไปทางประตูห้อง

แต่ประตูห้องปิดอยู่ มือจับประตูก็อยู่สูงเล็กน้อย

เฉียวเวยเวยกระโดด แต่นางเริ่มอ้วนแล้ว พอกระโดดทีหนึ่งก้อนเนื้อน้อยๆ ทั่วร่างก็พลิ้วเป็นระลอกคลื่น

“โอ๊ะ! โอ๊ะ!”

กระโดดอยู่ครึ่งวัน ในที่สุดก็คว้ามือจับประตูเอาไว้ได้ นางห้อยอยู่บนมือจับทั้งตัว ขาน้อยๆ ถีบประตูบานด้านข้างแล้วอาศัยแรงถีบเปิดประตู เฉียวเวยเวยกระโดดลงมาที่พื้น หลังจากนั้นนางก็เห็นว่านอกประตูมีสัตว์อสูรผีซิว[1]เขาเดียวหน้าตาดุร้ายตัวหนึ่งยืนเฝ้าอยู่

ภายในตำหนักอีกหลังหนึ่งที่แลดูคล้ายเมฆที่มีเปลวเพลิงแผดเผา ท่านราชาปีศาจผู้มีเรือนร่างงามไร้ที่ติและดวงหน้าหล่อเหลากำลังถือสุราองุ่นจากโลกมนุษย์ นอนทอดกายอย่างสบายอุราอยู่บนเก้าอี้หินอัคคีที่ปูด้วยพรมหนังเสือแผ่นบาง

โฉมงามเรือนร่างอรชรสามนาง นางหนึ่งกำลังทุบขาให้เขา นางหนึ่งกำลังบีบนวดหัวไหล่ให้เขา ส่วนอีกนางหนึ่งคอยพัดให้เขาพลางรินสุราเลิศรสให้เป็นระยะ

ทั้งสามนางล้วนเป็นปีศาจจิ้งจอก หลังจากจำแลงร่างเป็นมนุษย์ล้วนงามเลิศล้ำเหลือจะพรรณนา เพียงแต่เมื่อเทียบกับท่านราชาปีศาจตนนี้ พวกนางก็ยังรูปโฉมด้อยกว่าสองส่วน

หญิงงามที่ทุบท่อนขาอยู่เอ่ยเสียงหวาน “ท่านราชา ได้ยินว่าท่านจับมังกรน้อยมาได้ตัวหนึ่ง จริงหรือไม่เพคะ”

ราชาปีศาจดื่มสุราเลิศรสคำหนึ่งแล้วตอบอย่างเกียจคร้าน “แน่นอนย่อมจริงสิ”

หญิงงามที่ทุบท่อนขาอยู่เอ่ยต่อ “ข้าได้ยินมาว่า…มันเป็นมังกรมารตนหนึ่ง หากกินเม็ดเน่ยตันของมังกรมาร พี่น้องทั้งหลายก็จะบรรลุเป็นเซียน ฝ่าบาท…มิสู้ควักเม็ดเน่ยตันของมังกรน้อยตนนั้นออกมาให้พวกเรากินดีหรือไม่เพคะ”

คำพูดโลภโมโทสันเช่นนี้มีแต่สนมรักของราชาปีศาจจึงจะกล้าพูด หากปีศาจตนอื่นลองหมายตามังกรน้อยดูสิ ราชาปีศาจคงลากพวกมันออกไปเลี้ยงสัตว์ปีศาจแล้ว

ราชาปีศาจมองนางด้วยรอยยิ้มที่แลไม่คล้ายรอยยิ้ม เขาเชยคางนางขึ้นมาแล้วเอ่ยเสียงเบา “คนงาม มังกรน้อยตัวนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งกับข้า เจ้าหมายตาผู้ใดก็ได้แต่ไม่ใช่มัน”

“ข้าไม่หมายตานาง ผู้อื่นจะไม่หมายตานางเช่นนั้นหรือ” หญิงงามที่ทุบขาให้ราชาปีศาจอยู่ปรายตามองพี่น้องที่อยู่ด้านข้างอย่างมีเลศนัย ทั้งสองล้วนถลึงตาใส่นางอย่างดูแคลน ฝ่ายนางก็กลอกตาคืนกลับไปให้ “แต่ท่านราชา หากนางหนีออกไปเองจะทำเช่นไรเล่า”

ราชาปีศาจยิ้ม “จะเป็นไปได้เช่นไร ข้าให้สัตว์อสูรผีซิวเขาเดียวเฝ้านางไว้แล้ว”

สัตว์อสูรผีซิวเขาเดียวไม่ใช่สัตว์เทพก็จริง แต่มันก็ครอบครองพลังระดับบรรลุญาณ ลูกมังกรที่ยังไม่ทันมีเขามังกรงอกออกมาตัวหนึ่งย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของสัตว์อสูรผีซิวเขาเดียวอย่างแน่นอน!

เบื้องหน้าประตูห้องที่ทอประกายวาววับ เฉียวเวยเวยนั่งอยู่บนพื้น มือข้างหนึ่งถือเขาข้างหนึ่ง ขณะที่มืออีกข้างหนึ่งลูบหน้าท้องกลมดิก แล้วเรอออกมาเบาๆ

“ท่านราชา พวกเรากินมังกรน้อยไม่ได้ แต่น่าจะกินผลปีศาจได้อยู่กระมัง พวกเราไม่ได้เลื่อนขั้นพลังมานานแล้วนะเพคะ” หญิงงามที่บีบนวดหัวไหล่อยู่เอ่ยเสียงหวาน

ผลปีศาจเป็นผลไม้ประหลาดชนิดหนึ่งที่เติบโตได้ในแดนปีศาจเท่านั้น ผลของมันบรรจุพลังปราณอัคคีไว้เต็มเปี่ยม มีสรรพคุณดีกว่าเมล็ดของต้นโพธิ์สิบเท่า ร้อยเท่าหรือมากกว่านั้น เพียงแต่ว่าผลปีศาจนี้ได้มาไม่ง่าย จำเป็นต้องใช้พลังปราณจากเพลิงปีศาจหมื่นพิภพหล่อเลี้ยง มันจึงจะติดผลออกมาสักลูกทุกๆ ห้าร้อยปี

ในอดีตสวรรค์คิดจะใช้ลูกท้อสวรรค์ของเจ้าแม่หวังหมู่กับผลโสมของเซียนเจิ้นหยวนจื่อมาแลก ราชาปีศาจยังไม่ยินยอม

ลูกท้อสวรรค์กิ๊กก๊อกกับผลโสมกิ๊กก๊อกพวกนั้นมีสรรพคุณสู้ผลปีศาจของเขาได้หรือ

นับตั้งแต่เพลิงปีศาจหมื่นพิภพหายไป ต้นผลไม้ปีศาจก็ไม่ออกผลใหม่มาหลายพันปีแล้ว มันเหลือผลไม้อยู่เพียงไม่กี่สิบผล กินหมดไปผลหนึ่งก็น้อยลงไปผลหนึ่ง แม้แต่ตัวราชาปีศาจเองยังตัดใจกินเองไม่ลง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการประทานพวกมันให้สนมเหล่านี้

แต่พอปีศาจน้อยนางนี้เอ่ยถึง ราชาปีศาจก็เริ่มรู้สึกตะกละขึ้นมาแล้ว

ไม่ได้กินมาหลายร้อยปีแล้ว ไม่อย่างนั้น…กินสักผลดีหรือไม่นะ

เฉียวเวยเวยยังกินไม่อิ่ม หลังเดินออกมาจากห้อง นางก็มาถึงสวนผลไม้ขนาดเล็กแห่งหนึ่ง ด้านนอกสวนผลไม้กางข่ายอาคมไว้ แต่เฉียวเวยเวยกลับเดินทะลุเข้าไปได้อย่างไม่มีอุปสรรคแต่อย่างใด

ด้านในมีต้นผลไม้ปลูกอยู่เพียงต้นเดียว

“ยากจนนักเชียว” เฉียวเวยเวยว่า

เฉียวเวยเวยปีนขึ้นไปบนต้นไม้ แล้วนั่งลงบนกิ่งไม้ที่ดูแข็งแรงกิ่งหนึ่ง เสร็จแล้วก็เด็ดผลไม้ที่หน้าตาคล้ายกับลูกท้อลงมาหนึ่งผล

ผลไม้รสชาติหวานๆ เปรี้ยวๆ เหมือนลูกท้อแต่รสชาติเข้มข้นกว่าลูกท้อนิดหน่อย รสชาติเปรี้ยวอมหวาน เฉียวเวยเวยชอบมาก นางกินรวดเดียวไปสิบเจ็ดถึงสิบแปดผล

สนมคนงามทั้งหลายเห็นราชาปีศาจไม่ยอมมอบให้ทั้งมังกรน้อย ทั้งผลปีศาจก็กรุ่นโกรธอยู่ในใจ

หญิงงามคนที่คอยพัดให้โถมทั้งตัวเข้าไปในอ้อมแขนของราปีศาจ “ท่านราชา ดีเลวท่านก็น่าจะให้อะไรดีๆ กับพวกข้าบ้างสิเพคะ ท่านทนเห็นพวกเราสามพี่น้องติดอยู่ที่ขั้นอมตะกับขั้นบรรลุญาณตลอดไปได้หรือเพคะ”

ราชาปีศาจทำเสียงชิชะ “ข้าไม่ได้พูดเช่นนั้นเสียหน่อย ข้าจะทนเห็นพวกเจ้าไม่เลื่อนขั้นได้อย่างไรเล่า”

หญิงงามผู้ถือพัดเอ่ยอย่างเศร้าสร้อย “ถ้าเช่นนั้นท่านมอบน้ำนมศิลาของจอมปีศาจให้พวกเราพี่น้องดื่มสักหน่อยสิเจ้าคะ”

พูดเสียราวกับว่าน้ำนมศิลาของจอมปีศาจด้อยกว่าเม็ดเน่ยตันของมังกรน้อยกับผลปีศาจเสียอย่างนั้น! นั่นน่ะคือสมบัติล้ำค่าที่แท้จริงของแดนปีศาจเชียวนะ!

หมื่นปีถึงจะถือกำเนิดมาสักหยด!

ตราบจนบัดนี้ก็มีเพียงสามหยดเท่านั้น!

เขาก็อยากดื่มเหมือนกัน!

แต่ข่ายอาคมนั่นเป็นสิ่งที่จอมปีศาจกางไว้ตอนยังมีชีวิต หากเขายังไม่บรรลุถึงขั้นจอมปีศาจ เขาไม่มีวันเข้าไปได้

แต่อีกไม่นานก็จะถึงวันนั้นแล้ว ขอเพียงเขาผสานเพลิงปีศาจหมื่นพิภพเข้ากับตัวเองสำเร็จ พลังที่เขามีในปัจจุบันก็น่าจะทำลายข่ายอาคมที่จอมปีศาจทิ้งไว้ในอดีตได้สำเร็จ

หลังจากนั้นเมื่อเขาดื่มน้ำนมศิลาของจอมปีศาจ เขาก็จะหลุดพ้นจากกายาของเซียนปีศาจ บรรลุเป็นเทพตนหนึ่ง เทพที่ยอดเซียนกับจอมมารสู้ไม่ได้!

เฉียวเวยเวยกินอาหารมาหลายอย่างแล้ว ดื่มน้ำมาก็หลายอย่างแล้ว นางเตร็ดเตร่มาถึงถ้ำศิลาว่างเปล่าแห่งหนึ่ง ภายในถ้ำศิลามีเพียงหอยมือเสือตัวเล็กลอยอยู่ตัวเดียว

ภายในหอยมือเสือมีบางสิ่งสีขาวน้ำนมนอนนิ่งอยู่ด้านใน

“เอ๋…นมหรือ”

เฉียวเวยเวยกลายเป็นเด็กเสพติดนมตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว นางรีบเอื้อมมือออกไปยกหอยมือเสือตัวจ้อย ทว่ายกตั้งนานก็ยังไม่ขยับ นางจึงก้มลงไปแลบลิ้นน้อยๆ เลีย ‘น้ำนม’ หวานหอมเข้าไปในปากทีละหยดแทน

หลังจากเลียจนหมด นางก็ทำปากจ๊อบแจ๊บแล้วเรอออกมาเบาๆ อีกหน

[1]ผีซิว สัตว์ในตำนานของจีนลำตัวคล้ายเสือ หัวและหางเหมือนมังกร มีปีกคู่หนึ่งตรงหัวไหล่ อาจมีเขาเดียวหรือสองเขา

หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก

หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก

Score 10
Status: Completed
นิยายแปลไทยเรื่อง : หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก ผู้เขียน : เพียนฟางฟาง (偏方方) แนะนำเรื่องย่อ เมื่อหมอสาวยุคปัจจุบันต้องทะลุมิติมาอยู่ในยุคโบราณแถมพ่วงด้วยลูกแฝดอีกสอง ทำขนม ดักสัตว์ ทำไร่ ทำทุกอย่างที่ได้เงิน! เฉียวเวย เด็กกำพร้าไร้ญาติขาดมิตรจู่ๆ ก็ทะลุมิติมายังยุคโบราณที่ไม่รู้จัก นอกจากจะมาอาศัยร่างคนอื่นอยู่แล้ว ร่างเดิมนี้ยังมีลูกแฝดอีกสองชีวิตให้ต้องเลี้ยงดู! นางที่ไร้ซึ่งความทรงจำใดๆ ในโลกใบใหม่แต่พราะทักษะติดตัวสมัยยังต้องดิ้นรนในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าทำให้ชีวิตไม่ลำบากเกินไปนัก ทำขนม ดักสัตว์ ปลูกพืช รักษาคน จากนี้นางจะเลี้ยงลูกๆ ให้เติบใหญ่ด้วยมือของนางเอง! เจ้าซาลาเปาน้อยจูงมือบุรุษใบหน้าเคร่งขรึมเข้ามา "ท่านแม่ ท่านลุงบอกว่าเขาเป็นพ่อของข้า" เฉียวเวยยิ้มละไม "ลูกรัก บอกพ่อเจ้าหน่อย ว่าต้องทำเช่นไรถึงจะพิสูจน์ว่าเป็นพ่อของเจ้าได้" เจ้าซาลาเปาน้อยเปิดสมุดทองคำ พูดอย่างชื่อๆ ว่า "ข้อที่หนึ่งร้อยหนึ่งของ 'กฎครอบครัวเฉียว' หลอกลวงเด็กสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะมีโทษตัดอวัยวะสืบพันธุ์ ท่านลุง หากท่านเป็นพ่อของข้าจริงๆแล้วล่ะก็..." โดยไม่รอให้เจ้าซาลาเปน้อยจะพูดจบ ปลายนิ้วอันย็นเฉียบของชายคนนั้นก็บีบคางของเฉียวเวย เผยให้เห็นรอยยิ้มที่เย็นชาและเป็นอันตราย "หากข้าจำไม่ผิด คืนนั้น เหมือนเจ้าจะเป็นคนบังคับขืนใจข้า!"

Options

not work with dark mode
Reset