“…ต้องขอโทษด้วยจริงๆ นะ”
ตอนนี้ เป็นครั้งแรกตลอด 8 ปีที่เราอยู่ด้วยกันมาเลย ที่ฉันคุกเข่าลงกราบขอโทษโยมิอยู่
ดูๆ ไป เหมือนสามีขอโทษภรรยาที่จับได้ว่าเขาไปมีชู้มาเลยแฮะ
……นี่! ว่าใครเป็นคู่สามีภรรยากันน่ะ!!
…ไม่สิ ไม่ใช่แบบนั้น
จนถึงตอนนี้ ฉันไม่เคยบอกใครเลยว่าตัวเองเคยได้ไปพูดคุยกับท่านอิซึสึมา
ท่านจอมมารก็ด้วย โยมิก็ด้วย
เพราะเหตุผลบางอย่าง โยมิก็รู้เรื่องนี้ได้ซะงั้น
…รู้ได้ยังไงน่ะ?
ไม่สิ ไม่ใช่ว่าฉันพยายามปิดบังหรอกนะ… ถึงอย่างนั้น ฉันเองก็ไม่มั่นใจเท่าไหร่
…เดี๋ยวก่อน โยมิเพิ่งหลับไปจนถึงตอนนี้นี่นา
หมายความว่า ท่านอิซึสึแทรกแซงจิตของโยมิแล้วสินะ!? นึกว่าท่านอิซึสึจะแทรกแซงโยมิที่เป็นมนุษย์ไม่ได้ซะอีก!
…ในตอนนี้ ในฐานะคนมีบาปในใจอย่างฉัน ฉันเลยไม่มีตัวเลือกอื่นนอกจากรอจนกว่าจะถูกลงโทษในความผิดของตัวเอง
แล้ว คำตัดสินที่ออกมาก็คือ ―――
“…เออ คือ ลีน เราไม่ได้โกรธเธอเลยนะ เธอรู้ใช่มั้ย?”
“…ฮะ จริงๆ เหรอ?”
“อื้อ จริงๆ… นั่นสิ ขอโทษนะที่ถามเธอแบบแง่ร้ายไปหน่อยน่ะ”
อ๊า~… เด็กคนนี้เป็นนางฟ้าจริงๆ สินะ!
ทำไมเธอถึงยกโทษให้คนใจบาปอย่างฉันง่ายๆ แบบนี้ล่ะ…!
“กลับกันเลย ฉันสงสัยมากกว่าว่าทำไมลีนถึงต้องลงไปคุกเข่าแบบนั้นด้วยล่ะ… มันไม่ใช่เรื่องที่เราต้องโกรธเธอเลยนี่นา?”
…
……นั่นมัน ก็จริงสินะ
‘การได้ไปพูดคุยกับเทพ’ เป็นเรื่องลี้ลับ เพราะงั้นก็ไม่แปลกเลยที่เราจะไม่เอามาพูดนี่นะ นอกจากว่าจะต้องการเป็นที่สนใจน่ะ
อีกอย่าง 80% ของการพบกันระหว่างฉันกับท่านอิซึสึก็เป็นปาร์ตี้น้ำชาซะด้วยสิ
งั้น แล้วทำไมฉันถึงลงไปคุกเข่าลงกราบตามอัตโนมัติซะงั้นล่ะเนี่ย……
อ๊ะ
“เออ… คือ… ที่ฉันซ่อนเรื่องจาก โยมิน่ะ… ฉันเลย รู้สึกผิด… ขอโทษนะ”
“เอ๊ะ? เราคิดว่าทุกคนก็ต้องมีเรื่องที่ปิดบังเอาไว้ไม่ใช่เหรอ? เราไม่คิดว่านั่นเป็นเรื่องที่ลีนต้องรู้สึกผิดเลยนะ”
ฉันคิดว่าเธอเหมือนนางฟ้า แต่เหมือนเธอจะเป็นนางฟ้าจริงๆ สินะ
อ่า เธอสว่างเกินไปจนฉันมองตรงๆ ไม่ได้เลย
แต่ถ้างั้นก็ลำบากตอนเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอน่ะสิ
“ข- เข้าใจแล้ว ขอบใจนะ โยมิ… จ- จริงสิ! แสดงว่าโยมิเองก็ถูกท่านอิซึสึแทรกแซงจิตได้แล้วสินะ?”
“อื้อ ท่านบอกว่าใช้เวลาตั้ง 8 ปีกว่าจะเชื่อมต่อได้สำเร็จน่ะ ละก็ ได้ชิมขนมอร่อยๆ เพียบเลยล่ะ”
เอาขนมมาล่อโยมิของฉันแบบนี้ สมกับเป็นสิ่งที่ท่านเทพผู้ชั่วร้ายจะทำเลยค่ะ
“แล้วก็ ท่านถามว่าเราอยากจะเป็นผู้ติดตามของท่านหรือเปล่า เราก็ตอบท่านว่าเราจะขอเป็นในอีก 2-3 ปีน่ะ แล้วก็ เรื่องของมีอา… มนต์เสน่ห์ของพี่สาวเราเนี่ย ท่านช่วยไม่ให้ข้อมูลของเรารั่วไหลออกไปด้วยน่ะ”
……ว่าไงนะ?
“…แบบนี้เอง ท่านอิซึสึได้แทรกแซงจิตมาหาทั้งโยมิทั้งลีนกันแล้วอย่างนั้นสินะ… ท่านเป็นเทพเช่นไรกันนะ… เอาเถิด ท่านได่ให้การชี้แนะกับเราเป็นอย่างดีมาโดยตลอด ต่างจากเทพธิดามิซารี่ ฉะนั้นก็หาได้จำเป็นต้องกังวลกับเรื่องนั้นไม่…”
พอฉันเอาเรื่องนี้มาบอกกับท่านจอมมาร ท่านก็เอามือกุมหน้าผากทันทีเลย
จะว่าไป เรื่องที่ฉันเป็นผู้กลับชาติมาเกิดที่ต่างโลกนี่ ฉันเก็บเป็นความลับไว้ดีกว่า
ผลกระทบจากเรื่องนี้มันมากเกินไปหน่อยน่ะ
“อีกทั้ง ท่านปรารถนาจะให้โยมิเป็นผู้ติดตามของเทพชั่วร้าย และรับการคุ้มครองแห่งเทพอย่างนั้นฤๅ? นี่เป็นเรื่องที่เราต้องการให้ท่านปรึกษากับเราเสียก่อนแท้ๆ… แล้ว เรื่องที่เจ้าว่ามานั้น? ท่านได้ช่วยจัดการป้องกันข้อมูลของโยมิไม่ให้รั่วไหลไปหามีอาด้วยอย่างนั้นฤ?”
“ค่ะ ท่านบอกมาแบบนั้น เห็นบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ”
“ก็เป็นไปดั่งตามที่คาดการณ์ล่ะนะ… เช่นนั้น ดูท่าเราคงจำเป็นต้องขอขอบคุณท่านอย่างสุดซึ้งเสียหน่อยแล้วสิ”
ถึงฉันเองก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ก็เถอะ แต่ท่านจอมมารเองก็ตอบสนองกับท่านอิซึสึอย่างไม่ค่อยเคารพเท่าไหร่เลยนะเนี่ย
นี่ท่านเป็นผู้ติดตามเป็นคนเดียวจริงๆ เหรอคะ?
“เช่นนั้น กลับมาเข้าที่ประเด็นหลักกันเสียดีกว่า… โยมิ เจ้า ต้องการจะจัดการเช่นไรกับมีอาอย่างนั้นฤ?”
“อยากจัดการยังไง… งั้นเหรอคะ?”
มีอา
เพราะเมื่อตอนนั้นฉันจัดการฆ่าพวกลำดับต่ำๆ ใน 12 อัครสาวกทิ้งไป 3 คน ยัยนั่นก็เลยเลื่อนลำดับขึ้นมาเป็นลำดับที่ 8 แทน
แล้วก็ จากที่โยมิบอก เหมือนยัยนั่นจะเป็นพี่สาวของเธอด้วยสินะ?
“เราขอถามเจ้าอีกครั้งหนึ่ง… นางคนนั้นเป็นพี่สาวของเจ้าจริงๆ ใช่หรือไม่?”
“ค่ะ ถึงจะเพิ่งได้เห็นหน้านั่นเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี แต่เราคิดว่าเราจำหน้านั่นได้ไม่ผิดแน่ค่ะ”
…ก็ หน้าของพวกเธอก็มีบางส่วนคล้ายกันอยู่นะ ผมก็สีเดียวกัน
แต่ก็นะ โยมิน่ะน่ารักกว่าเยอะ
“…ทำไมโยมิต้องเกิดตามหลังจากหญิงชั่วพรรค์นั้นด้วยนะ พันธุกรรมมันเกิดผ่าเหล่าขึ้นมาหรือไง?”
“เราเองก็คิดเห็นแบบนั้นเช่นกัน”
อะไรแบบนั้นนั่นแหละ หน้าของยัยนั่นมีโครงหน้าที่ดี มีบางส่วนที่ทำให้รู้สึกพวกเด็กมหาลัยเลย
ฉันต้องยอมรับเลยว่าครั้งนึง ฉันคิดว่ายัยนั่นสวยก็จริง แต่นั่นก็เพราะหน้าของยัยนั่นมีบางส่วนที่ทำให้นึกถึงโยมิก็เท่านั้นเอง
“เราตัดสินใจได้แล้วค่ะว่าเราต้องการจะจัดการยังไง เราอยากฆ่าเธอด้วยมือของตัวเองค่ะ”
“…อย่างนั้นฤ ทว่า ตัวเจ้าเข้าใจดีแล้วใช่ไหม? สิ่งที่เจ้าเพิ่งเอ่ยนั้น หมายความถึงว่าเจ้าจะต้องลงมือสังหารครอบครัวสายเลือดเดียวกันด้วยตัวเจ้าเอง เจ้าเข้าใจถึงเรื่องนี้ดีแล้วใช่ไหม?”
“ผู้หญิงคนนั้นน่ะ สำหรับเราแล้ว ยัยนั่นก็เป็นแค่คนแปลกหน้าที่มีความสัมพันธ์กันทางสายเลือดก็เท่านั้นค่ะถ้าจะใช้คำว่าครอบครัวหรืออะไรแบบนั้นกับยัยคนพรรค์นั้นล่ะก็ ลีนยังใกล้เคียงกับคำนั้นกว่ากันหลายเท่าเลยด้วยซ้ำไปค่ะ”
“คือ เจ้าอย่าพูดแบบนั้นเลยจะเป็นการดีกว่านะ จงดูเสีย บัดนี้ สติของลีนได้หลุดล่องลอยไปถึงไหนต่อไหนแล้ว”
“เอ๋?”
ค- ครอบครัว!?
ฉ- ฉ- ฉันกับโยมิเหรอ!?
ป- เป็นแบบนั้นเหรอ บางที แบบนั้น…
“เออ คือ… ลีน รังเกียจงั้นเหรอ? เราน่ะ คือ… บางทีก็เคยคิดว่าลีนเหมือนเป็นฝาแฝดกันเลยน่ะ…”
“……ฉันไม่ได้รังเกียจเลยนะ ออกจะดีใจด้วยซ้ำ”
ขอโทษด้วยค่ะที่เผลอเข้าใจผิดไปในทางนั้นซะได้
ขอโทษด้วยค่ะที่เผลอคิดถึงเรื่องคู่แต่งงานหรืออะไรแบบนั้น
“ง- งั้นก็ ดีแล้วล่ะ… กลับเข้าเรื่องเลยนะ มีอาน่ะ ทำเรื่องเอาไว้เยอะตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว… ที่หมู่บ้าน เธอน่ะทำตัวเหมือนเป็นราชินีของที่นั่นเลย เพราะเกิดมามีหน้าตารูปร่างสวย ไม่ใช่แค่พ่อแม่ แต่คนทั้งหมู๋บ้านก็เอ็นดูเธอกันหมด เราที่เกิดตามมาทีหลังที่ดูหน้าตางั้นๆ เทียบพี่สาวตัวเองไม่ได้ ผู้คนเลยทำเหมือนว่าเราเป็นตัวปัญหาน่ะ …รวมทั้งพ่อกับแม่ด้วย”
เอาล่ะ มาฆ่าพวกมันทิ้งให้เหี้ยนเลยดีกว่า
กล้าดีนี่ที่มาบอกว่าโยมิของฉันหน้าตางั้นๆ น่ะ
เดี๋ยวฉันจะตั๊นหน้าพวกมันเรียงตัว เอาให้หน้ามันอุบาทจนทุเรศที่สุดในโลก ก่อนจะฆ่าพวกมันซะให้หมดเลย
…อีกอย่าง
“(…ถึงอย่างนั้นนะคะ ท่านจอมมาร ไม่ว่าจะมองว่าหน้าของมีอาดูสวยยังไง โยมิเองก็สวยพอกันเลยไม่ใช่เหรอคะ? ทำไมพวกคนถึงได้เอาอกเอาใจแต่ยัยนั่นล่ะคะเนี่ย?)”
“(เรื่องนั้น คงเป็นเพราะโภชนาการนั่นแล การที่มีอาได้เติบโตขึ้นมาโดยได้รับความเอ็นดูประคบประหงมจากคนในหมู่บ้าน การที่นางได้เติบโตขึ้นมาแล้วสวยวันสวยคืน ก็อาจมาจากการได้ทานวัตถุดิบดีๆ ภายในหมู่บ้านมาก็เป็นได้ ในทางกลับกัน โยมิที่เกิดมาทีหลังกลับไม่ได้รับการเอาใจใส่เท่ามีอา นางจึงได้ดูผอมซูบจนหน้าตาอันสวยงามของตนเองดูด้อยลงไปอย่างไรเล่า)”
อย่างนี้นี่เอง เอาล่ะ มาฆ่าพวกมันทิ้งให้เหี้ยนเลยดีกว่า
ทำเรื่องโหดร้ายขนาดนั้นกับโยมิของฉันแบบนี้ ฉันจะเอาความตายไปตอบแทนให้พวกแกแน่
เตรียมอดตายกันให้หมดหมู่บ้านได้เลย
“ลีน หยุดทำหน้าตาชั่วร้ายเช่นนั้นเสีย… ฉะนั้นแล้ว โยมิเอ๋ย เราหาได้มีปัญหากับเรื่องที่เจ้าจะสังหารมีอาแต่อย่างใด แต่เจ้ามีแผนจะจัดการอย่างไรกับเหล่าพี่น้องเผ่ามารที่ตกอยู่ใต้มนต์เสน่ห์ที่ล้อมรอบตัวนางอยู่อย่างนั้นฤ? เราหวังว่าเจ้าคงมิได้คิดจะละทิ้งพวกเขาหรอกนะ?”
“ไม่มีทางหรอกค่ะ ก็ เรามีเวทเสริมแกร่งทางกายภาพด้วยนะคะ”
“อ้า เป็นเช่นนั้นเอง เข้าใจแล้ว หากเจ้าใช้สิ่งนั้นแล้วล่ะก็ เจ้าจะสามารถหยุดการเคลื่อนไหวของพวกนั้นเอาไว้ได้พักหนึ่งเลย”
พอมาคิดดูดีๆ แล้ว ถ้าเกิดเราจะส่งโยมิไปลุยคนเดียวคงจะเป็นการดีกว่าในทางกลยุทธ์สินะ
…ถึงจะหงุดหงิดนิดหน่อยที่ฉันไม่ได้ฆ่ามีอา มนุษย์ผู้หญิงคนเดียวที่ฉันทำหลุดมือไปโดยไม่ได้ตั้งใจ ด้วยมือตัวเอง …แต่ก็อย่างว่าแหละ ครั้งนี้ยกหัวยัยนั่นให้โยมิจัดการเองดีกว่า
“หากเจ้าจะจัดการทำมันแล้วล่ะก็ ยิ่งเร็วก็ยิ่งดี เพลาเช้าตรู่วันรุ่งขึ้นนี่เลย เจ้าตกลงฤไม่?”
“ได้เลยค่ะ ให้เป็นหน้าที่ของเราเอง”
TN: นี่ขนาดลีนยังอยู่ในฝั่ง ‘เพื่อนสนิทของฉันน่ารักสุดๆ’ อยู่เลยนะเนี่ย เหอะๆ