บทที่ 596 ออกเดินทาง
บทที่ 596 ออกเดินทาง
พริบตาเดียวก็เข้าสู่เช้าวันใหม่
ทุกคนต่างตื่นแต่เช้า ส่วนลู่หยวนก็ออกจากตำหนักดังเช่นทุกครั้ง แต่กลับไม่รีบร้อนอันใด
ถึงแม้เขาจะรู้สึกว่าฮ่วนซิงไป๋จะต้องฝึกกระบี่สังหารเซียนได้ภายในหนึ่งวัน แต่ก็คาดว่าคงยังไม่สำเร็จในตอนนี้
อีกราวหนึ่งชั่วยามจะถึงเวลานัดหมาย
เหล่าคนตระกูลลู่ต่างมารวมตัวกันกับคนของแดนมัชฌิมอยู่ที่ลานกว้าง
ลานอันกว้างใหญ่มีคนราวสามสิบชีวิตยืนอยู่
ผู้คนเหล่านี้ยืนบ้าง นั่งบ้าง บางคนก็นั่งสมาธิเงียบ ๆ บางคนก็จับกลุ่มเสวนากัน
เซียวเทียนสวมชุดดำนั่งสมาธิฝึกตนในมุมหนึ่ง
ทันทีที่ลู่หยวนมาถึงลานกว้าง ลู่ต้าชุยก็ปรากฏกายพร้อมกระบี่ยาวที่ตีขึ้นใหม่
“คุณชาย! ตีเสร็จแล้วขอรับ!”
ลู่ต้าชุยตื่นเต้นมาก เขารีบเดินไปส่งกระบี่พร้อมทั้งค้อมกายแสดงความเคารต่อลู่หยวน
ชายหนุ่มเห็นว่ากระบี่ยาวถูกห่อหุ้มด้วยหนังสัตว์ชนิดหนึ่ง ลวดลายบนหนังชนิดนั้นปรากฏเป็นรูปมังกรหมุนวน คล้ายกับหนังมังกรจริง ๆ!
ลู่ต้าชุยสัมผัสได้ถึงสายตาของลู่หยวน จึงกล่าวว่า “คุณชาย นี่คือหนังมังกรที่ข้าหาได้เมื่อคืน ถึงแม้จะเก่ามากแล้ว แต่ก็เหมาะแก่การห่อคลุมกระบี่เล่มนี้ยิ่ง”
ลู่หยวนยื่นมือรับกระบี่มา ฝ่ายลู่ต้าชุยก็ยิ้มแย้มแล้วเอ่ยต่อว่า “วัสดุที่คุณชายมอบให้นั้นวิเศษมาก กระบี่เล่มนี้ก็ถือว่าพอใช้ได้ เพราะสามารถทนทานต่อปราณอันยิ่งใหญ่ได้ แต่โดยรวมแล้ว กระบี่เล่มนี้ยังขาดความยิ่งใหญ่ เมื่อวัสดุหลอมรวมเป็นกระบี่แล้ว ความเหี้ยมโหดของเผ่ามังกรก็ปรากฏออกมาอย่างไม่อาจยับยั้งได้!”
“หากดึงกระบี่เล่มนี้ออกเป็นเวลานาน อาจจะส่งผลเสียต่อผู้ใช้ก็เป็นได้ขอรับ!”
จนถึงตอนนี้ลู่ต้าชุยยังไม่วายสรรเสริญลู่หยวนอีก
“แน่นอนว่าหากคุณชายใช้กระบี่เล่มนี้ย่อมไม่ต้องคำนึงถึงผลเสียเหล่านั้น ดังนั้น ในเมื่อผู้อื่นเป็นผู้ใช้ จึงต้องใช้หนังมังกรห่อคลุมเอาไว้เพื่อระงับความเกรี้ยวกราดของมันขอรับ”
ลู่หยวนพยักหน้ารับ “เจ้าทำได้ดีมาก ข้าจะตกรางวัลให้!”
ริมฝีปากลู่ต้าชุยยกขึ้น เขาก้มคำนับพร้อมทั้งกล่าวว่า “ขอบพระคุณคุณชายสำหรับรางวัล! เชิญคุณชายลองชักกระบี่ดูก่อน!”
“ไม่ต้องลองชักกระบี่ออกมาหรอก”
ลู่หยวนเคลื่อนกายมาอยู่ข้าง ๆ เซียวเทียน
และเซียวเทียนก็รู้สึกได้ถึงความเคลื่อนไหวในอากาศข้าง ๆ ตนเอง เขาลืมตาขึ้นช้า ๆ ก็พบว่าลู่หยวนอยู่ตรงหน้า
“ท่านบุตรศักดิ์สิทธิ์”
เซียวเทียนลุกขึ้น เมื่อกำลังจะยกมือคำนับก็เห็นลู่หยวนโยนของชิ้นหนึ่งเข้ามา เขาจึงเผลอรับไปโดยไม่ทันตั้งตัว
เมื่อรับมาแล้วจิตเทวะของเซียวเทียนก็ได้ยินเสียงคำรามของมังกรที่ดังกระหึ่มก้องฟ้า!
ราวกับเซียวเทียนได้เห็นมังกรเจินหลงตัวมหึมาที่ครอบคลุมไปทั่วทั้งแผ่นดินหยวนหงปรากฏอยู่ตรงหน้า
เพียงมังกรเจินหลงตัวนั้นหายใจเข้าออกครั้งหนึ่งก็เป็นหายนะของทั่วทั้งโลก!
ดวงตาสีแดงโลหิตคู่นั้นเปิดออก เซียวเทียนที่ยืนอยู่ตรงหน้ามังกรเจินหลง นั้นราวกับมดตัวเล็กจ้อย
แต่เมื่อเซียวเทียนจับด้ามกระบี่ ทันใดนั้นร่างกายของเขาก็หายวับไป ปรากฏบนหลังมังกรยักษ์ในทันที เขาจะต้องต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ไปกับมังกรตัวนั้น!
“ชักกระบี่!”
เสียงของลู่หยวนกระชากสติของเซียวเทียนให้หวนคืน!
เซียวเทียนรีบตั้งสติ มือที่กำด้ามกระบี่นั้นออกแรงในฉับพลัน จากนั้นก็ได้ยินเสียงกระบี่ครวญก้องประสานกับเสียงคำรามของมังกรผู้ยิ่งใหญ่ ในที่สุด กระบี่เล่มยักษ์ค่อย ๆ ถูกชักออกจากฝักซึ่งทำจากหนังมังกร!
“ครืน!…”
ฟ้าดินถึงกับสั่นสะเทือน!
เซียวเทียนถือกระบี่ยืนนิ่ง เบื้องหลังของเขามีร่างมังกรเจินหลงปรากฏขึ้น ท้องฟ้าก็มืดลง เมฆดำกดตัวตามมา
เกล็ดมังกรที่หัวใจของเซียวเทียนเริ่มเปลี่ยนแปลงไป
ลู่หยวนผู้ที่มีดวงตาวิเศษอยู่ในระดับสูงสุดย่อมมองออกในบัดดล
สิ่งที่เห็นคือของสีดำสิ่งหนึ่งกำลังค่อย ๆ กลืนกินเกล็ดมังกรของเซียวเทียน อยู่ ไม่นานนัก มันก็กลืนกินเกล็ดมังกรจนหมดสิ้น!
และในยามนั้นเอง เซียวเทียนก็เกิดการเปลี่ยนแปลงที่กล่าวได้ว่าพลิกฟ้าคว่ำดิน ลมปราณทั้งมวลในร่างของเขามลายหายไปสิ้น กลับกลายมาเป็นลมปราณของกระบี่นี้แทน
แรงกดดันอันมหาศาลแผ่กระจายไปทั่วตระกูลลู่
“ปล่อยให้กระบี่เล่มนี้กลืนกิน สมแล้วที่เป็นบุตรแห่งโชคชะตา เป็นการเดิมพันที่ยิ่งใหญ่นัก!”
นับตั้งแต่สิ่งของสีดำนั้นกลืนกินเกล็ดมังกรไป นั่นหมายความว่า เซียวเทียนได้ตกลงเป็นพันธมิตรกับกระบี่เล่มนี้ นอกจากนั้น เซียวเทียนยังสามารถใช้กระบี่เล่มนี้คว้าพลังอันแสนยิ่งใหญ่ได้ ทว่าตัวเขาเองก็ถูกกระบี่เล่มนี้กัดกร่อนเช่นกัน!
หากเป็นคนธรรมดา อาจจะกลายเป็นทาสแห่งกระบี่ในเวลาไม่นานหลังจากที่ถูกกระบี่นี้กลืนกิน แต่ลู่หยวนกลับไม่เป็นห่วงเซียวเทียนเลย
เพราะว่าตอนนี้ ค่าชะตาของเซียวเทียนยังคงพุ่งสูงไม่หยุด! ถึงขนาดที่ว่าเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว!
เซียวเทียนเก็บกระบี่เข้าฝัก ลมปราณอันยิ่งใหญ่ก็หายไปในบัดดล
จากนั้นชายหนุ่มจึงเงยหน้าขึ้น บนใบหน้าซีกซ้ายของเซียวเทียนในเวลานี้ มีลายเส้นสีดำปรากฏอยู่ถ้วนทั่วกลายเป็นรูปร่างคล้ายมังกร
ส่วนดวงตาซ้ายของเขานั้น กลายเป็นสีแดงมีขีดตั้งตรง ราวกับดวงตาของมังกร!
นี่คือการนำครึ่งหนึ่งของร่างกายมาแลกเป็นการเดิมพัน!
“ขอบพระคุณบุตรศักดิ์สิทธิ์!”
เสียงของเซียวเทียนทุ้มต่ำแต่หนักแน่น!
ลู่หยวนยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ไม่เป็นไร”
เขากลับยิ่งชื่นชมเซียวเทียนมากขึ้นไปอีก ชายผู้นี้ยอมทุ่มเทแม้กระทั่งร่างกายของตนเองเลยงั้นหรือ!
อย่างไรก็ดี ในเมื่อจะไปเกาะสังหารเซียน ควรมีพลังมากขึ้นกว่านี้อีกสักหน่อย มิเช่นนั้นก็คงได้เป็นเพียงเบี้ยล่าง และอย่างมากที่สุดเขาก็อยู่รอดได้ด้วยการพึ่งพาสถานะของตนเองในฐานะบุตรแห่งโชคชะตา
หลังเกิดเรื่องราวเมื่อครู่ก็มีคลื่นลมแรงพัดกระหน่ำเข้ามาแผ่ปกคลุมไปทั่ว ตระกูลลู่ทันที!
ทุกคนต่างก็ให้ความสนใจกับปรากฏการณ์ประหลาดครั้งนี้ จึงหันไปมองเป็นตาเดียว!
ลำแสงสีทองพุ่งทะลุออกจากที่แห่งหนึ่งของตระกูลลู่ ตรงขึ้นไปยังหมู่เมฆ!
ลมปราณอันยิ่งใหญ่แผ่กระจายออกไป ทำให้เมฆหมอกสีดำจากการชักกระบี่ของเซียวเทียนจางหายไป และกลายเป็นสีทองไปทั่วท้องฟ้า!
จากนั้นลำแสงสีทองค่อย ๆ หายไป กลายเป็นร่างของชายคนหนึ่งที่เหยียบยืนอยู่กลางอากาศ เบื้องหน้าของเขามีกระบี่ยาวเล่มหนึ่งวางขวางอยู่
“ที่นี่… กระบี่เล่มนี้…”
ผู้ที่เหยียบยืนบนอากาศพึมพำเบา ๆ จากนั้นก็ยื่นมือขวาออกไป แล้วก็กำด้ามกระบี่
“ตูม!”
ปราณสังหารอันประหลาดระเบิดออก ราวกับจะทำให้ทั้งโลกจมดิ่งสู่ความตาย!
บุคคลนี้ก็คือฮ่วนซิงไป๋!
“ก่อนข้าจับกระบี่เล่มนี้ ไม่มีเซียนคนใดกล้าตั้งตนอยู่ได้!”
ฮ่วนซิงไป๋แผดเสียง กระบี่ยาวก็ฟันขึ้นข้างบน ปราณกระบี่พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ผ่านชั้นเมฆไปทั้งหมด!
กลุ่มเมฆที่รวมกันอยู่ถูกฟันกระจายออกเป็นสองส่วน ปราณกระบี่แผ่ซ่านบนท้องฟ้า เป็นเวลาเนิ่นนานกว่าจะหายไป
ลู่หยวนมองเห็นทุกสิ่งนี้ด้วยตาของตนเอง
“ทางฮ่วนซิงไป๋ก็เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้พร้อมออกเดินทางได้”
ลู่หยวนพยักหน้า จากนั้นก็สั่งให้ทุกคนในลานกว้างออกเดินทาง
ทุกคนต่างลุกขึ้นยืนเรียงแถวกันอย่างเป็นระเบียบ
ลู่เทียนเฟิงและผู้อื่นก็มายืนอยู่ข้าง ๆ ลู่หยวน
ฮ่วนซิงไป๋เก็บกระบี่สังหารเซียน แล้วกระโดดลงมายืนข้าง ๆ ลู่หยวน ก่อนจะยกมือคำนับ กลั้นเสียงหัวเราะไว้ไม่อยู่ “ขอบพระคุณบุตรศักดิ์สิทธิ์มาก!”
ลู่หยวนเอ่ยเสียงทุ้มตอบว่า “เตรียมตัวให้พร้อม และออกเดินทางได้เลย!”
“รับทราบ!”
กลุ่มคนสวมเสื้อคลุมสีดำจำนวนหนึ่งออกเดินทางโดยมีลู่หยวนและฮ่วนซิงไป๋นำทางมุ่งหน้าไปยังดินแดนเกาะสังหารเซียน!
ขณะที่ลู่หยวนเพิ่งออกเดินทาง ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของเขาในแดนมัชฌิมต่างก็มารวมตัวอยู่ในห้องโถงประชุมใหญ่ของตระกูลเสวียน!
เสวียนเทียนชวนนั่งลงบนเก้าอี้หลัก มีสีหน้าเคร่งขรึม
“ทุกท่าน บุตรศักดิ์สิทธิ์ได้ออกเดินทางไปแล้ว เราทั้งหลายก็ควรเคลื่อนไหวเช่นกัน!”