บทที่ 1235 กลับไปซะ อย่าอยู่ให้ขายขี้หน้าชาวบ้านเขาเลย
บทที่ 1235 กลับไปซะ อย่าอยู่ให้ขายขี้หน้าชาวบ้านเขาเลย
“เขียน!” ต้วนจื่อหมิงไม่พูดให้มากความ
หลี่เจี้ยนจวินไม่กล้าเอ่ยอะไรอีก
เขารู้จักนิสัยของรัฐมนตรีต้วนเป็นอย่างดี
อย่าเห็นว่าเขาเป็นกันเองเชียว เวลาโกรธขึ้นมาก็น่ากลัวไม่น้อย
สุดท้ายก็เขียนลงไปตามใจอยาก
แค่บอกว่าจำผิดเอาก็ได้ เรื่องแค่นี้ไม่เป็นไรหรอก
แต่เมื่อทั้งสองไม่ยอมเขียนเสียที รัฐมนตรีต้วนจึงยิ่งโกรธมากกว่าเก่า
“เขียนเวลา สถานที่ คนที่อยู่แถวนั้น และสถานการณ์ให้ชัดเจน เรื่องง่าย ๆ แค่นี้ยังต้องให้สอนอีกหรือ?”
เมื่อท่าทางโง่เง่าของหลี่เจี้ยนจวิน รัฐมนตรีต้วนได้แต่สงสัยว่าตนทำถูกแล้วใช่ไหมที่พาคนคนนี้มา
ที่เจ้าตัวมาได้เพราะเส้นสายของครอบครัว มาเอาประสบการณ์ และไม่สร้างปัญหาต่อประเทศก็พอ
แต่ตอนนี้เหมือนจะไม่ใช่
ไม่เคยเห็นไอ้พวกทำทุกอย่างเพียงเพราะลุ่มหลงผู้หญิงมาก่อนเลย
แล้วถ้าอู๋เมิ่งหลานส่งสาวงามที่เป็นศัตรูกับตัวเอง ไม่อยากจินตนาการเลยว่าหลี่เจี้ยนจวินจะทำอะไรกันแน่
สีหน้าของรัฐมนตรีต้วนเคร่งขรึมมากขึ้น
ฝั่งอู๋เมิ่งหลานที่ไม่รู้สถานการณ์คนทั้งสามได้แต่ดีใจที่จะขับไล่ซูเสี่ยวเถียนออกไปได้
ตู้อวี่กั๋วและหลี่เจี้ยนจวินยืนนิ่งไม่ไหวติง
หญิงสาวร้อนใจที่ไม่เห็นพวกเขาเริ่มเขียน
จากนั้นหลี่เจี้ยนจวินจึงตัดสินใจลงมือทำ
มาจนถึงขั้นนี้แล้ว เรื่องอื่นค่อยว่ากัน
รัฐมนตรีต้วนคงไม่โกรธไปตลอดชีวิตใช่ไหมล่ะ?
เยี่ยม เรายังมีโอกาสขอโทษอยู่
ส่วนตู้อวี่กั๋วไม่กล้า
ถ้าผิดขึ้นมาจะทำยังไง?
แต่พอเห็นหลี่เจี้ยนจวินลงมือโดยไม่ลังเล จู่ ๆ ก็รู้สึกถึงทางเลือกอื่น
เขาตัดสินใจทันที
มือวางปากกา แล้วเงยหน้ามองรัฐมนตรีต้วน
คนเป็นหัวหน้ากำลังมองชายทั้งสอง
ฝ่ายนั้นดูประหลาดใจที่เห็นตู้อวี่กั๋ววางปากกา
ไม่น่าใช่หรอกมั้ง
แต่ไม่นานก็เข้าใจความหมาย
เป็นเรื่องลำบากใจสินะ
คนแบบนี้ไม่ควรเก็บเอาไว้ ไม่รู้ภายหลังจะสร้างเรื่องอะไรอีก
“ผมขอโทษครับ ผมโกหก ที่จริงผมไม่เห็นเลยว่าใครผลักอู๋เมิ่งหลาน”
ตู้อวี่กั๋วยอมรับผิด
จริงใจมากจนรัฐมนตรีสัมผัสได้ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจ
ส่วนอีกสองคนที่เหลือก็ตกใจ
รัฐมนตรีต้วนฟึดฟัด “ทำไมต้องโกหกล่ะ?”
ตู้อวี่กั๋วเหลือบมองหญิงสาว แล้วเอ่ยเขิน ๆ “ผมชอบอู๋เมิ่งหลานครับ อยากช่วยเพราะเธอน่าสงสารน่ะ”
ตู้อวี่กั๋วระมัดระวังการพูดมากและควบคุมน้ำเสียงไว้อย่างดี
แค่ประโยคเดียวก็รับรู้ถึงความรู้สึกหนุ่มสาว เป็นเรื่องธรรมดา
และการทำเรื่องไม่สมควรก็ปกติด้วย
รัฐมนตรีต้วนนิ่งไปครู่
หลี่เจี้ยนจวินเขียนด้วยความโมโห แทบเป็นลมกับสิ่งที่ได้ยิน
ตู้อวี่กั๋วช่างกล้า พูดออกมาได้ยังไง?
เพิ่งจะมาพูดเอาตอนนี้คิดจะแย่งของของเขาไปหรือ?
“ตู้อวี่กั๋ว แกนี่มันน่ารังเกียจจริง ๆ”
หลี่เจี้ยนจวินวางมือได้ก็พุ่งเข้าใส่ทันที
เข้าใจแล้วว่าทำไมถึงออกหน้าเป็นพยานให้
ความคิดหลี่เจี้ยนจวินถูกเปิดเผยแล้ว
ไอ้คนที่หลงผู้หญิงสุด ๆ คือเจ้าโง่หลี่เจี้ยนจวินคนนี้เลย
พ่อมันก็ฉลาดแท้ ๆ ทำไมถึงมีลูกโง่ ๆ แบบนี้ออกมา?
‘โง่บรมจริง ๆ หลังจากนี้อย่าพาไปต่างประเทศให้ชาวบ้านเขาขายขี้หน้าจะดีกว่า’
กลับไปเมื่อไรต้องคุยกับพ่อของหลี่เจี้ยนจวินแล้ว
ถ้าไม่สั่งสอนให้ดี ในอนาคตคงจะตายเพราะความโง่ตัวเองแน่
โง่ไม่พอยังบ้าผู้หญิงอีก ไม่ได้มีประโยชน์อะไรเสียเลย
ตู้อวี่กั๋วหาทางไม่ให้รัฐมนตรีต้วนหมายตาตัวเองกำลังโดนหลี่เจี้ยนจวินพุ่งเข้าใส่
แน่นอนว่าตนไม่ยอมแพ้ทันที
ทั้งสองจึงเริ่มสู้กัน
“หยุด!” รัฐมนตรีต้วนตวาดลั่น “พวกคุณสองคนกลับห้องไปซะ พรุ่งนี้ฉันจะส่งกลับจีนทันที”
กู่ไม่กลับแล้ว เรื่องอื่นไว้กลับไปค่อยว่ากัน
เหนื่อยเหลือเกิน
เพิ่งจะเป็นหัวหน้าพาคณะผู้แทนเดินทางมาครั้งแรกก็เจอแต่อะไรไม่รู้
งานไม่เหนื่อย แต่เหนื่อยเรื่องหยุมหยิมอื่น ๆ นี่แหละ
จู่ ๆ ก็นึกถึงซูเสี่ยวเถียนขึ้นมา
ถ้าทุกคนเป็นแบบนั้นได้บ้างก็คงดี
เด็กคนนี้ทำให้เขาประหยัดความเป็นห่วงไปได้เยอะ ไม่รู้เป็นลูกบ้านไหน
อู๋เมิ่งหลานปฏิเสธทันควัน
สองคนนี้เป็นตายร้ายดียังไงเธอไม่สน ต้องเอาตัวเองก่อน
และจะดีมากถ้าพาซูเสี่ยวเถียนกลับไปด้วย
เดิมทีอู๋เมิ่งหลานไม่ใช่คนฉลาด
คิดอะไรง่ายดาย ต่อให้ตู้อวี่กั๋วไม่เห็น ยังไงหลี่เจี้ยนจวินก็ต้องเห็นใช่ไหม?
เธอเชื่อมั่นในฝีมือคนทำมาก ๆ จะเป็นใครไปไม่ได้อยู่แล้วนอกจากเด็กนั่นที่คิดมาแทนที่
รัฐมนตรีต้วนเพิ่งนึกถึงอู๋เมิ่งหลานได้
เขามองไปที่ขาเธอ ดูเหมือนต้องส่งกลับด้วย
กลับ ๆ ไปซะจะได้ไม่ต้องเหนื่อยกังวล
“พรุ่งนี้คุณก็กลับไปด้วยซะ ปัญหาที่เกิดขึ้นไว้ว่ากันตอนถึงจีน”
หญิงสาวตกใจมาก
“คุณทำแบบนี้ไม่ได้นะ ฉันไม่ได้ทะเลาะด้วยสักหน่อย ทำไมต้องกลับก่อน?” ดวงตากลมโตมีน้ำตาคลออยู่ ดูเสียใจเป็นอย่างยิ่ง