เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]บทที่ 1233 เกิดเรื่อง

บทที่ 1233 เกิดเรื่อง

บทที่ 1233 เกิดเรื่อง

บทที่ 1233 เกิดเรื่อง

“แบบนี้ก็ได้ค่ะผู้อาวุโส ฉันว่าใช้ได้แล้ว!”

คราวแรกเฟิงอวี้ซูพูดเฉย ๆ แต่กลับกลายเป็นว่าชุดเหมาะกับเด็กสาวมาก กอปรกับเสี่ยวเถียนเป็นคนสวยอยู่แล้ว เขาจึงไม่ได้พูดอะไรมากอีก

บุคลิกนางแบบและเสื้อผ้าเข้ากันได้อย่างลงตัว แถมฝีมือการผลิตทำให้มันสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นไปอีก จนสามารถจินตนาการถึงความงามอันไร้ขอบเขตได้

ในตอนนั้นคนที่ยืนมองได้เข้ามาล้อมซูเสี่ยวเถียนเอาไว้

ก่อนขึ้นเวทีเธอขัดเขินไม่น้อย

แต่หลังจากนั้นก็ค่อย ๆ สงบลง

เธอไม่ใช่นางแบบมืออาชีพ ถึงจะเสียเปรียบแต่บางครั้งก็เป็นข้อดีได้เหมือนกัน

เพราะไม่เข้าใจเดินแบบแฟชั่น แต่เมื่อใช้ไอเดียของตัวเองก็ได้แสดงความงามของมันออกมาได้สมบูรณ์แบบ

หลาย ๆ คนไม่เคยเห็นชุดโบราณของจริงมาก่อน แต่รู้สึกว่าชุดนี้สวยงามมาก ๆ

เมื่อได้เห็นซูเสี่ยวเถียนอยู่ท่ามกลางสายตาผู้คน อู๋เมิ่งหลานไม่ชอบใจเลยสักนิด

หากเท้าไม่แพลงเสียก่อนตำแหน่งนั้นคงจะเป็นของตน

จนเธอเริ่มสงสัยแล้วว่าหรือจะโดนรังแกจริง ๆ

ยิ่งคิดเท่าไรก็ยิ่งรู้สึกเป็นไปได้มากเท่านั้น

ต้องโดนผลักจนล้มแน่ ๆ

จากนั้นก็มองไปยังคนบนเวที

มันแน่ ๆ ต้องเป็นนังสารเลวนั่นแน่ ๆ

ถ้าไม่ใช่มัน แล้วใครจะทำร้ายเราได้อีก

อู๋เมิ่งหลานเดินกะโผลกกะเผลกไปหารัฐมนตรีต้วน

อู๋เมิ่งหลานนี่บ้าเกินไปแล้ว

ไม่รู้ว่าทำไมถึงโดนทำร้ายไม่พอ ยังไม่รู้อีกว่าใครทำ แล้วคิดได้ยังไงว่าซูเสี่ยวเถียนคิดจะทำร้าย?

อีกฝ่ายนึกว่าตัวเองเป็นใครกัน?

ทำไมซูเสี่ยวเถียนต้องทำแบบนั้นด้วย?

“อู๋เมิ่งหลาน ผมเข้าใจความรู้สึกคุณนะ แต่ไม่ว่ายังไงคุณจะมากล่าวหาเพื่อนไม่ได้!” รัฐมนตรีต้วนเอ่ยด้วยความไม่ชอบใจ

หญิงสาวรู้สึกเดือดขึ้นมา แต่เมื่อพิจารณาถึงสถานะของเขา ตนจึงทำได้แค่อดทน

“ต้องเป็นซูเสี่ยวเถียนอยู่แล้วค่ะ ไม่มีใครนอกจากมันแน่ ๆ ฉันคงไม่เดิน ๆ อยู่แล้วล้มเองใช่ไหมล่ะ?”

เธอเป็นนางแบบนะ ฝึกเดินมาแท้ ๆ จะไปล้มเองได้ยังไง?

“ฉันรู้สึกได้ว่ามีคนผลักฉันจากด้านหลังค่ะ”

“คุณต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่คุณพูดนะ ถ้ารู้สึกว่าโดนผลักหรือเห็นว่าโดนผลักกันแน่?”

อู๋เมิ่งหลานอารมณ์ไม่ดีหนักกว่าเก่า รู้สึกได้ว่ารัฐมนตรีต้วนกำลังปกป้องซูเสี่ยวเถียน

“ฉันรู้ว่าคุณดีกับซูเสี่ยวเถียน แต่จะเมินเฉยความปลอดภัยของชีวิตคนอื่นไม่ได้หรือเปล่าคะ?”

“ตอบคำถามฉันมาก่อน” ความอดทนของรัฐมนตรีต้วนกำลังจะหมดลง

ถ้ารู้ว่าซูเสี่ยวเถียนเดินแบบได้ดีขนาดนี้ เขาจะพาอู๋เมิ่งหลานมาถ่วงแข้งถ่วงขาไปทำไม?

ตอนนี้จึงทำได้แค่อดทนคุยด้วยต่อไป

อู๋เมิ่งหลานจ้องมองด้วยสายตากล่าวหาราวกับว่าเขาเป็นพวกไม่ใส่ใจความรู้สึกผู้หญิง

“คุณเป็นหัวหน้าของคณะผู้แทนนะ ควรปฏิบัติต่อสมาชิกทุกคนอย่างเท่าเทียมสิ

รัฐมนตรีต้วน “…”

ก็อยากทำอยู่นะ แต่ตัวเองทำได้เหมือนเขาหรือเปล่าล่ะ?

อย่าหาว่าเข้าข้างซูเสี่ยวเถียนเลย และถึงจะเข้าข้างจริงแต่ก็เป็นเรื่องที่สมควรแล้วนี่ เพราะเด็กคนนั้นทำงานในส่วนของสามสี่คนด้วยซ้ำ

นอกจากซูเสี่ยวเถียน มีใครทำได้อีกไหมล่ะ?

มีแต่อู๋เมิ่งหลานนี่แหละที่เป็นปัญหา งานการก็ไม่ทำ

“เข้าใจอะไรฉันผิดไปหรือเปล่า? ฉันปฏิบัติต่อทุกคนเท่าเทียมอยู่แล้วนะ”

“ถ้าทำแบบนั้นจริงคุณก็ควรจัดการซูเสี่ยวเถียนไม่ใช่หรือไง?” อู๋เมิ่งหลานโวยวาย

คงเพราะเกิดความเคลื่อนไหวทางฝั่งนี้จึงดึงดูดความสนใจของคนโดยรอบ นอกจากคณะผู้แทนจีนก็ยังมีคณะผู้แทนอื่น ๆ มองมาด้วย

รัฐมนตรีต้วนจ้องมองหญิงสาว

ตัวปัญหาจริง ๆ กำลังทำให้ประเทศขายหน้าอยู่นะ

พอนึกถึงซูเสี่ยวเถียนที่พยายามปกป้องผลประโยชน์ของชาติกับคนตรงหน้าแล้วนั้น เขารู้สึกถึงช่องว่างที่ห่างไกลกันเหลือเกิน

สมองอู๋เมิ่งหลานมีแต่เรื่องคนอื่นจึงไม่คิดทำประโยชน์อะไร และไม่ได้ให้ความสำคัญกับเกียรติยศของประเทศชาติเลยด้วย

เขาตัดสินใจว่ากลับไปเมื่อไรจะรายงานเรื่องนี้เสีย และจะเป็นการดีหากไม่พาอู๋เมิ่งหลานมาอีก

อู๋เมิ่งหลานไม่รู้ว่าเลยว่ารัฐมนตรีต้วนได้คิดวิธีจัดการเธอไว้แล้ว

ตอนนี้ยังเอาแต่คิดว่าจะต้องจัดการซูเสี่ยวเถียนให้สิ้นซาก

ซูเสี่ยวเถียนเป็นคนที่น่ารังเกียจจริง ๆ

คิดจะหาเรื่องอยู่เรื่อย

“ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรต้องมีหลักฐานนะ ถ้าแสดงให้ฉันเห็นว่าซูเสี่ยวเถียนเป็นคนลงมือจริง ๆ ไม่อย่างนั้นฉันจะถือว่าคุณกล่าวหาผู้อื่น”

สีหน้าของรัฐมนตรีต้วนดำทะมึนยิ่ง

“รบกวนดูสถานการณ์ด้วย”

อู๋เมิ่งหลานยิ่งไม่อยากทำ เพราะรู้สึกว่ารัฐมนตรีต้วนคิดจะเก็บเงียบเรื่องนี้เอาไว้

ตอนนี้คนเยอะมาก ไหนจะกลุ่มนักท่องเที่ยวอีก ต้องจัดการก่อนกลับไปโรงแรม ไม่อย่างนั้นลำบากแน่

“ถ้าคุณไม่สามารถจัดการตามขั้นตอนได้ งั้นก็อธิบายมาค่ะ ฉันน่ะ…”

หญิงสาวมองไปรอบ ๆ ราวกับตั้งใจ

รัฐมนตรีต้วนไม่คิดว่าจะโดนข่มขู่เช่นนี้

ไม่เข้าใจสถานการณ์เลยหรือไง มันแย่กว่าที่คิดอีกนะ

“ฉันพูดไปแล้ว ถ้าพิสูจน์ไม่ได้ก็อย่ามาพูดจามั่วซั่ว”

เขากัดฟันแน่น

หญิงสาวไม่พอใจหนักกว่าเก่า ก็บอกไปแล้วไงว่าโดนผลักจากข้างหลัง จะไปมองเห็นได้ยังไง?

กำลังปกป้องซูเสี่ยวเถียนสินะ

“หัวหน้าครับ ผมขอเป็นพยานต่อให้อู๋เมิ่งหลานได้ไหมครับ”

จู่ ๆ ก็มีคนผู้หนึ่งเอ่ยขึ้น

ทั้งอู๋เมิ่งหลานและรัฐมนตรีต่างแปลกใจ

ซูเสี่ยวเถียนอยู่ในสายตาเขาทั้งวันเลยนะ แต่จู่ ๆ ก็มีคนออกตัวเป็นพยานให้

ถ้าแบบนั้นก็สมควรพิจารณาใหม่อีกครั้ง

“ตู้อวี่กั๋ว คุณแน่ใจนะ?”

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

Score 10
Status: Completed
เรื่องย่อ ซูเสี่ยวเถียนผู้มีชีวิตล้มลุกคลุกคลานได้ย้อนเวลามายังยุค 70 แล้วเกิดใหม่ในร่างเดิมครั้งเมื่ออายุ 7 ขวบ ผู้ซึ่งถูกล้อมรอบไปด้วยพี่ชายสุดคลั่งรักเก้าคน โดยการทะลุมิติในครั้งนี้มีระบบวิเศษติดตัวมาด้วย คือ ‘ระบบอ่านหนังสือ’ ซึ่งมาพร้อมกับห้องสมุดส่วนตัว เธอสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าไม่มีปัญหาใดที่หนังสือไม่อาจแก้ไขได้ แต่หากแก้ไขไม่ได้ล่ะ? ก็อ่านหนังสือเพิ่มอีกสักสองเล่มแล้วกัน! หากว่ายังไม่พอก็อ่านเพิ่มอีกสักหลายเล่มหน่อย เธอไม่เพียงแต่อ่านมันคนเดียวเท่านั้น แต่ยังโน้มน้าวพี่ชายสุดแสบทั้งเก้าให้อ่านหนังสือกับเธออีกด้วย ทั้งยังชักชวนให้ผู้เป็นบิดาและมารดาให้มาอ่านหนังสือด้วย แม้แต่คุณปู่และคุณย่าก็ไม่อาจรอดพ้นไปได้! เมื่อทำภารกิจสำเร็จ จะได้รับรางวัลเป็นของตอบแทน ยิ่งทำภารกิจสำเร็จมากเท่าไร ก็จะได้รางวัลมากขึ้นเท่านั้น! ความรู้ที่เพิ่มมากขึ้นจากการอ่านหนังสือจะทำให้เส้นทางชีวิตของเธอไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

Options

not work with dark mode
Reset