สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้ายบทที่ 952 มลทินของสกุลโม่

บทที่ 952 มลทินของสกุลโม่

บทที่ 952 มลทินของสกุลโม่

บทที่ 952 มลทินของสกุลโม่

เมื่อพิจารณาจากร่องรอยในที่เกิดเหตุ เขาก็นึกภาพการฉุดกระชากดึงดันระหว่างสิงเจียซือกับคนผู้นั้นได้ ชายหนุ่มนั่งยอง ๆ มองรอยเท้าบนพื้นแล้วกล่าวว่า “เจ้าไม่ได้จำผิด ตอนนั้นเจ้าหนีไปได้แล้ว หลังจากนั้นจึงถูกคนลากกลับมา จัดฉากว่าเจ้าฆ่าคนขึ้น มีผู้อื่นที่เป็นฆาตกรตัวจริง เขาลากเจ้ามาเกี่ยวข้องเพียงเพื่อหาแพะรับบาปสักคน”

“ใต้เท้า ท่านมองออกแล้วหรือ?”

“อืม เพียงแต่ไร้หลักฐาน อีกทั้งยังไม่มีเบาะแสเกี่ยวกับมือสังหารตัวจริง คนผู้นี้ทำความสะอาดที่เกิดเหตุได้ยอดเยี่ยมนัก กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ เขาเข้าใจเรื่องเหล่านี้ดี ดังนั้นจึงจัดเตรียมสถานนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม”

ลู่ฉาวอวี่ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวต่อไป “เพียงแต่มีสิ่งหนึ่งที่เปิดโปงเขา เขารู้ความเคลื่อนไหวของพวกเจ้าเป็นอย่างดี ผู้ติดตามของเจ้าท้องเสีย เขาไปดักซุ่มที่นั่นล่วงหน้าและโจมตีได้สำเร็จ นี่แสดงให้เห็นว่าอาการท้องเสียของผู้ติดตามเจ้าไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพียงแต่มีคนทำบางอย่างกับเขา ดังนั้น คนผู้นี้จะต้องเคยติดต่อกับผู้ติดตามของเจ้า เจ้าลองคิดดูเถอะว่าผู้ติดตามของเจ้าได้กินของหรือดื่มน้ำที่เจ้าไม่ได้กินหรือไม่?”

“มีเจ้าค่ะ” สิงเจียซือเอ่ย “เมื่อเช้ากินซาลาเปากับผักดอง ผู้ติดตามของข้ากินมากเกินไปจึงคอแห้ง ทันทีที่เข้ามาในภัตตาคาร เสี่ยวเอ้อร์ก็รินน้ำให้เขา”

“เสี่ยวเอ้อร์…” ลู่ฉาวอวี่เอ่ย “รวบรวมคนของภัตตาคารทั้งหมดมาประเดี๋ยวนี้ เจ้าจะได้ชี้ตัวว่าเมื่อครู่นี้เจ้าพูดคุยกับผู้ใดบ้าง”

สิงเจียซือและลู่ฉาวอวี่ตรวจสอบคนในภัตตาคาร

“ไม่มีเสี่ยวเอ้อร์ผู้นั้น”

“เจ้ายืนยันอีกครั้งให้แน่ใจเถอะ”

“ไม่มีอย่างแน่นอน เสี่ยวเอ้อร์ผู้นั้นตัวสูงยิ่ง ตอนนั้นข้าจึงมองเขาสองสามครั้ง พลางคิดว่าเขาสูงและหน้าตาหล่อเหลาเพียงนั้น เหตุใดจึงมาเป็นเสี่ยวเอ้อร์ได้”

“เถ้าแก่” ลู่ฉาวอวี่จ้องมองเขา “ว่ามา ยังมีผู้ใดไม่ได้มาอีกหรือไม่?”

“ทุกคนมาแล้วขอรับ พวกเขาล้วนอยู่ที่นี่หมดแล้วขอรับ!” เถ้าแก่เอ่ย

“ยังมีอีกผู้หนึ่งไม่ได้มา” คนงานคนหนึ่งเอ่ยขึ้น “พี่ใหญ่หลี่ป่วย หลายวันมานี้กิจการภัตตาคารของเราไปได้ดี พวกเราขาดแคลนคน ญาติผู้พี่ของเขาจึงมาทำงานแทน”

“ถูก ๆ มีคนงานชั่วคราวผู้หนึ่งจริง ๆ เพียงแต่เขามาชั่วคราวเท่านั้น คงจะกลับบ้านไปก่อนแล้ว”

“ผู้ใดก็ได้ ไปนำตัวคนงานชั่วคราวผู้นั้นมา”

จากเบาะแสที่ได้รับจากเถ้าแก่และคนอื่น ๆ ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาจึงพบคนงานแซ่หลี่ อีกทั้งยังได้รู้จากคนงานแซ่หลี่ว่าญาติผู้พี่ของเขาเป็นคนงานชั่วคราว บัดนี้ราวกับหินที่จมลงไปในมหาสมุทร หาคนผู้นี้ไม่พบแม้แต่น้อย ทำได้เพียงกลับมารายงานมือเปล่า

ลู่ฉาวอวี่เอ่ย “คนผู้นี้เฉลียวฉลาดยิ่ง เขารู้ว่าสิ่งที่ตนทำไม่อาจปิดบังไว้ได้ ดังนั้นจึงใช้เจ้าดึงความสนใจ เพื่อให้ตนได้มีเวลาหลบหนี”

“ใต้เท้า หากคนผู้นั้นคิดจะหลบหนี คงจะต้องเปลี่ยนรูปโฉมอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ลักษณะของคนผู้นั้นชัดเจนมาก หนึ่งคือเขาสูงกว่าผู้ใหญ่ทั่วไปครึ่งศีรษะ สองคือเท้าของเขาบิดเข้าข้างในเล็กน้อย ท่าเดินของเขาจึงแปลก ๆ เขาปกปิดรูปโฉมของตัวเองได้ แต่ไม่อาจปกปิดลักษณะเหล่านี้ได้”

“ตามหาคนผู้นี้ตามเบาะแสที่ได้จากแม่นางสิงประเดี๋ยวนี้”

“ขอรับ”

ลู่ฉาวอวี่เอ่ย “ข้าจะให้คนไปส่งเจ้า”

“ใต้เท้า ท่านไม่ตรวจสอบอีกครั้งหรือเจ้าคะ?” สิงเจียซือเอ่ย

“ผู้ติดตามของเจ้าก็ไม่ได้ตัวเตี้ยเช่นกัน คนผู้นั้นโจมตีจากทางด้านหลัง ประการแรกเขาต้องสูงพอ ประการที่สองเขาต้องทำให้ผู้ติดตามของเจ้าคลายความระมัดระวังลง ดังนั้นผู้ติดตามของเจ้าจึงไม่ได้เตรียมพร้อมต่อการจู่โจม ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ ผู้ที่จะทำให้คลายความระวังตัวมากที่สุดย่อมเป็นคนงานหรือเถ้าแก่ อีกอย่าง คนผู้นี้ยังจัดฉากให้ดูเหมือนว่าเจ้าฆ่าคน ทว่าเมื่อตัดสินจากบาดแผลของผู้ตายแล้ว ไม่ว่าเจ้าจะแทงเขาจากตำแหน่งใดก็เป็นไปไม่ได้ที่บาดแผลจะมีมุมเช่นนั้น จึงเป็นไปไม่ได้ที่เจ้าจะเป็นฆาตกร”

“ขอบคุณใต้เท้า เช่นนั้นข้า…”

“ข้าจะให้คนส่งเจ้ากลับไป ผู้ติดตามผู้นั้นของเจ้าก็ส่งกลับไปฝังศพเถอะ คดีข้าจะเปิดพิจารณาเอง หากเจ้าอยากดู รอข้าเปิดพิจารณาคดีแล้วถึงตอนนั้นเจ้าแค่มาก็พอ”

“ขอบคุณใต้เท้า”

หลังจากสิงเจียซือไปแล้ว ผู้ใต้บังคับบัญชาที่อยู่ข้าง ๆ ก็เอ่ยขึ้น “ใต้เท้า ปกติถึงแม้ท่านจะแน่ใจว่าอีกฝ่ายไม่ใช่ฆาตกร ขอเพียงเป็นผู้ต้องสงสัยก็จะไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายเดินเพ่นพ่านไปมา วันนี้เหตุใดท่านปล่อยแม่นางท่านนั้นออกไปเร็วนักขอรับ?”

“ตอนนี้ระบุตัวมือสังหารได้แล้ว ปล่อยให้นางตัวสั่นอยู่ที่นี่มีประโยชน์อะไรกัน” ลู่ฉาวอวี่เอ่ย “ยิ่งกว่านั้น ผู้ติดตามเฒ่าผู้นั้นตายอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรม นางกำลังอารมณ์ไม่ดี ข้าก็แค่ปล่อยให้นางกลับบ้านไปปรับอารมณ์เร็วขึ้นหน่อยเท่านั้น”

“ใต้เท้ารักหยกถนอมบุปผาเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใดหรือขอรับ?”

“เจ้าคนไม่มีตา แม่นางท่านนั้นเป็นสหายของใต้เท้า แต่ไหนแต่ไรใต้เท้าก็ให้ความสำคัญต่อสหายเช่นนี้” ผู้ใต้บังคับบัญชาอีกคนเอ่ยขึ้น

ในเมื่อระบุมือสังหารได้แล้ว ย่อมไม่จำเป็นต้องรั้งอยู่ที่นี่อีกต่อไป

ลู่ฉาวอวี่นำคนของเขาออกมา อีกทั้งคนของเขายังแบกศพหนึ่งมาด้วย

“เจ้าคนชั่วช้าผู้นี้ในที่สุดก็ตายแล้ว” ชาวบ้านที่ผ่านไปผ่านมาเห็นหน้าของผู้ตาย ต่างก็ก่นด่าสาปแช่ง

“ผู้ใดทำกันแน่? ผู้ใดกำจัดภัยพิบัติเพื่อราษฎร?”

ลู่ฉาวอวี่เลือกผู้ใต้บังคับบัญชามาผู้หนึ่ง ให้เขาไปตรวจสอบตัวตนของผู้ตาย และเรื่องเลวร้ายที่อีกฝ่ายทำในช่วงนี้โดยละเอียด

ไม่นานนัก ลูกน้องของเขาก็กลับมาพร้อมข้อมูลของคนผู้นั้น

“ใต้เท้า คนผู้นี้น่ารังเกียจยิ่งนัก” ผู้ใต้บังคับบัญชาเอ่ย “เขาไม่ใช่พ่อค้าแต่อย่างใด หากแต่เป็นทาสรับใช้ที่ดูแลจวนของฮูหยินโม่”

ลู่ฉาวอวี่หันกลับไปมองคนของตน “เจ้าว่าอย่างไรนะ?”

“คนผู้นั้นเป็นทาสรับใช้ เดิมทีก็ไม่ใช่พ่อค้าอะไร เขาเพียงแค่แกล้งเป็นพ่อค้าเพื่อข่มเหงสตรีเท่านั้น” ผู้ใต้บังคับบัญชาเอ่ย “วันนี้ข้าน้อยไปตรวจสอบคนผู้นี้ กรมอาญาก็กำลังตรวจสอบคนผู้นี้เช่นกัน หากไม่มีอะไรผิดพลาด อีกไม่นาน กรมอาญาทางนั้นจะต้องมาขอคนที่นี่อย่างแน่นอน”

ลู่ฉาวอวี่นวดหว่างคิ้วตนเอง

“บังเอิญเพียงนี้เชียวหรือ?”

ปรากฏว่าคดีที่เขากำลังตรวจสอบ มีผู้ตายคือทาสรับใช้ที่กรมอาญากำลังตามหาผู้นั้นหรือ?

หากทาสรับใช้ตายแล้ว เช่นนั้นคดีของสกุลโม่จะตรวจสอบอย่างไร?

หากโยนความผิดทั้งหมดให้ทาส ทั่วแผ่นดินคงกล่าวว่าสกุลโม่นั้นน่ารังเกียจ ไม่แน่ว่าพวกเขาอาจเป็นคนฆ่าทาสผู้นั้น เช่นนี้สกุลโม่ย่อมไม่อาจลบล้างมลทินของตนได้อีกต่อไป

“ใต้เท้า คงไม่ได้มีคนจงใจขุดหลุมพรางกระมัง! เห็นได้ชัดว่าฝ่าบาทไม่ต้องการให้สกุลลู่เกี่ยวข้องกับคดีของสกุลโม่ ถึงแม้ท่านอ๋องไม่ได้กล่าวอย่างชัดเจน ทว่าก็ชัดเจนว่าจะไม่ยุ่งในคดีนี้ บัดนี้ท่านกลับพบทาสรับใช้ผู้นั้นที่นี่ เช่นนั้นในสายตาผู้อื่น บางทีอาจเป็นสกุลลู่กำลังขจัดอุปสรรคให้กับสกุลโม่นะขอรับ”

“เอาละ” ลู่ฉาวอวี่เอ่ย “เรื่องที่เจ้านึกได้ ข้าจะไม่กระจ่างหรือ? อย่างไรเสียคนผู้นั้นก็ตายไปแล้ว ทั้งยังเกิดอยู่ในเขตปกครองของข้า ข้าจะเมินเฉยได้หรือ? หากกรมอาญาต้องการคน เช่นนั้นก็ส่งศพไปเถอะ ส่วนรายละเอียด เพียงแค่บอกพวกเขา รอจับมือสังหารได้แล้ว ส่งไปที่กรมอาญาให้พิจารณาคดี”

“ข้าน้อยเข้าใจแล้วขอรับ” ผู้ใต้บังคับบัญชาถอยออกไป

————————————-

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

Score 10
Status: Completed
ใครกล้าทำร้ายวายร้ายตัวน้อยทั้งสอง ภรรยาตัวร้ายอย่างข้าไม่ปล่อยไว้แน่

Options

not work with dark mode
Reset