ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLDบทที่ 333 เหล่าผู้ฝึกตนหัวกะทิถูกส่งมาปฏิบัติภารกิจ

บทที่ 333 เหล่าผู้ฝึกตนหัวกะทิถูกส่งมาปฏิบัติภารกิจ

พอ​ปู้​ฟางได้ยิน​สิ่งที่​ระบบ​พูด​ เขา​ก็​มีสีหน้า​ประหลาดใจ​ทันที​ เขา​ต้อง​เอา​เปลวเพลิง​อัคนี​แห่ง​สวรรค์​และ​ปฐพี​มาให้ได้​ และ​ใช้กระทะ​กลุ่ม​ดาว​เต่าดำ​ทำอาหาร​ที่​ชื่อว่า​พระ​กระโดด​กำแพง​ เพื่อ​ล้าง​พิษ​ภายใน​กาย​ของ​เซียว​เห​มิงอ​อก​ไป​

แต่​เขา​ยัง​ไม่รู้​ชื่อ​พิษ​ที่อยู่​ใน​กาย​เซียว​เห​มิงด้วยซ้ำ​ แล้ว​พระ​กระโดด​กำแพง​จะรักษา​อีก​ฝ่าย​ให้​หาย​ได้​จริงๆ​ น่ะ​หรือ​

ปู้​ฟางเคลือบแคลง​เรื่อง​นี้​เป็นอันมาก​ แต่​หลังจากที่​ได้​เห็น​วัตถุดิบ​ใน​การ​ทำ​พระ​กระโดด​กำแพง​แล้ว​ ชายหนุ่ม​ก็​หาย​สงสัย​ไป​โข​ เนื่องจาก​วัตถุดิบ​ที่​ใช้ทำ​พระ​กระโดด​กำแพง​นั้น​ล้วน​ไม่ธรรมดา​ทั้งสิ้น​ นอกจากนี้​ยัง​ต้อง​ใช้หนึ่ง​ใน​อุปกรณ์​พ่อครัว​เทพ​อย่าง​กระทะ​กลุ่ม​ดาว​เต่าดำ​ใน​การ​ทำ​เท่านั้น​ ดังนั้น​อาหาร​จาน​นี้​จึงน่าจะ​ทำให้​เซียว​เห​มิงหาย​จาก​อาการป่วย​ได้​จริงๆ​

ส่วน​เหตุผล​ที่​อาหาร​จาน​นี้​น่าจะ​รักษา​เซียว​เห​มิงได้​น่ะ​หรือ​… ใคร​มัน​จะไป​สน​กัน​เล่า​ว่า​เพราะอะไร​ใคร​จะสน​ว่า​มัน​คือ​พิษ​ชนิด​ใด​ ตราบใดที่​พระ​กระโดด​กำแพง​ทำให้​เซียว​เห​มิงหาย​ได้​ เรื่อง​อื่น​ก็​ไม่สำคัญ​แล้ว​

แต่​ทั้งหมด​นี้​ก็​เป็น​เพียง​การ​คาดเดา​และ​การอนุมาน​ของ​ปู้​ฟางเท่านั้น​ ส่วน​ความจริง​จะเป็น​อย่างไร​นั้น​เขา​ไม่รู้​เลย​จริงๆ​

“เจ้ารอ​ให้​ข้า​กลับมา​ก่อน​ หลังจาก​กลับมา​ข้า​อาจ​มีหนทาง​ช่วย​เซียว​เห​มิงก็​เป็นได้​… แต่​ตอนนี้​ข้า​ไม่มีวิธี​รักษา​บิดา​ของ​เจ้าจริงๆ​” ปู้​ฟางมอง​หน้าเซียว​เสี่ยว​หลง​พลาง​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​สงบนิ่ง​

หลังจาก​ได้ยิน​สิ่งที่​ปู้​ฟางพูด​ เซียว​เสี่ยว​หลง​ก็​เหม่อ​ไป​ชั่วขณะ​ จากนั้น​ความตื่นเต้น​ดีใจ​ก็​ค่อยๆ​ ปรากฏ​ขึ้น​บน​ใน​หน้า​หลังจากที่​คิดได้​ว่า​ปู้​ฟางหมายความว่า​อย่างไร​

‘เขา​เพิ่ง​บอก​ใช่ไหม​ว่า​อาจจะ​ช่วย​พ่อ​ข้า​ได้​ นี่​มัน​เรื่องจริง​หรือ​ฝัน​ไป​กัน​แน่​’

ปู้​ฟางไม่ได้​สนใจ​เซียว​เสี่ยว​หลง​อีก​ เขา​หันหลัง​เดิน​กลับ​เข้าครัว​ไป​ หลังจาก​ฝึกซ้อม​ทักษะ​การ​ใช้มีด​และ​การแกะสลัก​อยู่​สักพัก​ ชายหนุ่ม​ก็​กลับ​เข้า​ห้อง​ของ​ตนเอง​

เขา​เริ่ม​เตรียม​วัตถุดิบ​และ​เครื่องปรุง​ที่​ต้อง​ใช้ระหว่าง​การ​เดิน​ทางใน​ดินแดน​แสน​ภูผา​

….

ยามค่ำคืน​นั้น​เงียบสงัด​และ​สงบนิ่ง​เสมอ​

เมือง​ประจิม​เร้นลับ​ตั้ง​ตระหง่าน​อยู่​บน​พื้น​ที่ราบลุ่ม​ทาง​ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ​ เหมือน​ยักษ์​ใหญ่​ที่​คอย​ปกป้อง​ทั้ง​แผ่น​ฟ้าและ​ผืนดิน​ เมือง​นี้​ให้​บรรยากาศ​ที่​ยิ่งใหญ่​ไม่มีที่​สิ้นสุด​ หาก​มอง​ท้องฟ้า​จาก​ภายใน​ตัวเมือง​ จะเห็น​แนว​เทือกเขา​สูงไร้​ขอบเขต​ที่​ปกคลุม​ไป​ด้วย​เมฆหมอก​อยู่​ไกลๆ​

เกวียน​เล่ม​หนึ่ง​ที่​ลาก​โดย​อสูร​เวท​ม้ากำลัง​ส่ายไปส่ายมา​อยู่​บน​ถนน​ที่​มุ่งหน้า​ไป​ยัง​เทือกเขา​นั้น​ เกวียน​เล่ม​ดังกล่าว​เคลื่อนที่​ไป​ตาม​ถนน​ ทิ้ง​ฝุ่นตลบ​เอาไว้​ตาม​ทาง​

หลังจาก​เคลื่อนที่​ไป​ข้างหน้า​อยู่​นาน​ เกวียน​เล่ม​นั้น​ก็​ค่อยๆ​ ช้าลง​ ม่าน​ภายใน​เกวียน​ถูก​เปิด​ จากนั้น​ใบหน้า​หล่อ​เหล่า​ทว่า​ไร้​ซึ่งอารมณ์​ก็​ปรากฏ​ตรง​หน้าต่าง​เกวียน​ ร่าง​สูงโปร่ง​ของ​ปู้​ฟางค่อยๆ​ ก้าว​ลง​จาก​เกวียน​ พร้อมด้วย​หุ่นเชิด​ตัว​ใหญ่​ยักษ์​ที่​เดินตาม​เขา​ต้อยๆ​

คนขับ​เกวียน​มอง​นักเดินทาง​คู่​ประหลาด​พลาง​สูบ​ใบ​ยาสูบ​ไป​ด้วย​ จากนั้น​ก็​เอ่ย​กับ​ปู้​ฟาง “เจ้าหนุ่ม​ นี่แหละ​ทางเข้า​ดินแดน​แสน​ภูผา​ ข้า​ส่งเจ้าได้​แค่​นี้แหละ​นะ​

“ดินแดน​แสน​ภูผา​นี้​น่ากลัว​นัก​ มีอสูร​เวท​กิน​คน​อยู่​นับไม่ถ้วน​เชียว​ หาก​เจ้าตั้งใจ​จะสำรวจ​คนเดียว​ เจ้าจะต้อง​ระวังตัว​ให้​มาก​” คนขับ​เกวียน​กล่าวเตือน​อีก​ฝ่าย​ด้วย​ความหวังดี​

พอ​พูด​เตือน​ปู้​ฟางเสร็จ​เขา​ก็​พลัน​ส่ายหน้า​ นี่​คือ​เด็ก​อีก​คน​แล้ว​ที่​อยากได้​ขุมสมบัติ​ที่อยู่​ใน​ดินแดน​แสน​ภูผา​จน​ต้อง​มาสำรวจ​

หาก​สามารถ​รอดชีวิต​กลับมา​พร้อม​ทรัพย์สมบัติ​สัก​ชิ้น​สอง​ชิ้น​ คงจะ​ใช้ชีวิต​ทั้ง​ชีวิต​ต่อไป​ได้​โดย​ไม่ต้อง​เป็นกังวล​เรื่อง​เงิน​เรื่อง​ทอง​เลย​ทีเดียว​

คนหนุ่ม​คน​สาว​มากมาย​เดินทาง​มาที่​ดินแดน​แสน​ภูผา​แห่ง​นี้​เพื่อ​ล่า​สมบัติ​ แต่​มีเพียง​ไม่กี่​คน​เท่านั้น​ที่​กลับ​ออกมา​ได้​แบบ​ยัง​มีชีวิต​อยู่​

เหตุการณ์​คลื่น​อสูร​เกิดขึ้น​เป็นประจำ​ที่​พื้น​ที่ราบลุ่ม​แห่ง​ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ​ และ​ต้นตอ​ของ​มัน​ก็​มาจาก​ดินแดน​แสน​ภูผา​แห่ง​นี้​ เรียก​ได้​ว่า​เป็น​ภัยธรรมชาติ​รูปแบบ​หนึ่ง​เลย​ทีเดียว​

“คน​สมัยนี้​ยอม​เอาชีวิต​ไป​ทิ้ง​เพื่อ​ทรัพย์สิน​เงินทอง​กัน​เสีย​หมด​” คนขับ​เกวียน​ยังคง​สูบ​ใบ​ยาสูบ​ต่อ​ ก่อน​ไอ​ออกมา​อย่าง​รุนแรง​ เขา​บังคับ​อสูร​เวท​ม้าให้​หันหลัง​กลับ​ภายใต้​สายตา​ของ​ปู้​ฟางที่​กำลัง​จับจ้อง​มา

ปู้​ฟางสวม​ชุด​คลุม​ยาว​ มัด​ผม​เอาไว้​ด้วย​เชือด​กำมะหยี่​ ผิว​ของ​เขา​ขาวผ่อง​ ใบหน้า​นิ่ง​สุขุม​ เขา​ยืน​อยู่​เบื้องหน้า​ดินแดน​แสน​ภูผา​ที่​ดู​ทั้ง​น่าพิศวง​และ​น่าหดหู่​ไป​ในเวลาเดียวกัน​ สถานที่​ตรงหน้า​ดูเหมือน​หลุมดำ​ร้ายกาจ​ที่​พร้อม​จะดูด​คน​เข้าไป​ทั้งตัว​ได้​ทุกเมื่อ​

ทางเข้า​ปกคลุม​ไป​ด้วย​พืชพันธุ์​มีพิษ​หนาแน่น​

ปู้​ฟางแตะ​ตัว​เจ้าขาว​จากนั้น​ก็​ผ่อน​ลมหายใจ​เบา​ๆ เขา​ก้าว​ขาออก​ไป​ข้างหน้า​ ถือเป็น​การเปิดฉาก​การ​เดิน​ทางใน​ดินแดน​แสน​ภูผา​

ดวงตา​จักรกล​ของ​เจ้าขาว​กะพริบ​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ก่อนที่​ร่าง​ของ​มัน​จะเดินตาม​ปู้​ฟางเข้าไป​ยัง​หุบเขา​

ใน​การ​มาเยือน​ดินแดน​แสน​ภูผา​ครั้งนี้​ ปู้​ฟางไม่ได้​เอา​เจ้าขาว​ร่าง​จำลอง​มา แต่​พา​เจ้าขาว​ตัวจริง​ซึ่งเก่งกาจ​กว่า​หลาย​เท่าตัว​มาแทน​

ดู​จาก​การ​จัดการ​ของ​ระบบ​แล้ว​ เขา​รู้ดี​ว่า​ภาร​กิจการ​เก็บ​เปลวเพลิง​อัคนี​แห่ง​สวรรค์​และ​ปฐพี​ใน​ครั้งนี้​ย่อม​ไม่ใช่เรื่อง​ง่าย​อย่าง​แน่นอน​ มิเช่นนั้น​ปู้​ฟางคง​ไม่ได้รับอนุญาต​ให้​นำ​เจ้าขาว​ตัวจริง​มาด้วย​

คู่หู​คน​และ​หุ่นเชิด​เดิน​เข้าไป​ยัง​ความ​มืดมิด​ตรง​ทางเข้า​ของ​หุบเขา​ เทือกเขา​เบื้องหน้า​นั้น​กว้างใหญ่​สุดลูกหูลูกตา​ ทางเข้า​ที่พวกเขา​เลือก​นั้น​เป็น​ทางเข้า​ที่ใกล้​กับ​เมือง​ประจิม​เร้นลับ​มาก​ที่สุด​

ทันทีที่​เข้า​ป่า​ไป​ ปู้​ฟางก็​รู้สึก​เย็น​สันหลัง​วาบ​กับ​ความกว้างใหญ่​ไร้​ขอบเขต​ของ​สถานที่​แห่ง​นี้​ แม้จะยัง​ไม่ถึงฤดูหนาว​ แต่​อุณหภูมิ​ใน​บริเวณ​นี้​กลับ​ใกล้​จุดเยือกแข็ง​

…..

ณ เมือง​ชายแดน​กว้างใหญ่​

องครักษ์​โลหิต​ที่​นั่งขัดสมาธิ​อยู่​รู้สึก​เหมือน​ร่าง​ทั้ง​ร่าง​กำลัง​สั่นสะท้าน​ มีกระแส​บางอย่าง​พุ่ง​เข้า​ชน​ร่าง​ของ​เขา​ องครักษ์​ลืมตา​ขึ้น​ แล้วก็​ต้อง​พบ​กับ​ภาพ​ที่​ไม่อยาก​จะเชื่อ​สายตา​ตนเอง​ หอคอย​สีดำ​ขนาดใหญ่​ที่​เขา​กำลัง​ปกป้อง​อยู่​ บัดนี้​กลับ​สั่นสะเทือน​ไป​หมด​

“นี่​มัน​…”

ตอนที่​องครักษ์​โลหิต​กำลัง​พยายาม​สงบสติอารมณ์​อยู่​นั้น​ เขา​ก็​เห็น​หอคอย​สีดำ​พุ่ง​ขึ้นไป​ใน​อากาศ​ จากนั้น​ร่าง​งดงาม​ก็​เหาะ​ออกจาก​หอคอย​

ด้านหลัง​ร่าง​ระหง​ปรากฏ​ร่าง​อี​กร่าง​ที่​ถูก​ปกป้อง​ไว้​ด้วย​พลัง​ปราณ​สีดำ​สนิท​ ทั้ง​ยัง​เลือนราง​มาก​เสีย​จน​ไม่มีใคร​เห็น​ใบหน้า​ของ​คน​ผู้​นั้น​ได้​อย่าง​ชัดเจน​ แต่​หาก​ดู​จาก​รูปร่าง​แล้ว​ ก็​ย่อม​บอก​ได้​ว่า​เป็น​ร่าง​ของ​ผู้ชาย​แน่นอน​

หอคอย​สีดำ​หมุน​วน​อยู่​ใน​ท้องฟ้า​สอง​สามรอบ​ ก่อน​จะหด​ตัวเล็ก​ลง​แล้ว​ตกลง​บน​มือ​ของ​มหา​พรต​

มหา​พรต​โค้ง​คำนับ​ชาย​ที่​ทั้ง​ร่าง​ปกคลุม​ไป​ด้วย​พลัง​ปราณ​สีดำ​ ชาย​ผู้​นั้น​พยักหน้า​ให้​มหา​พรต​ ก่อน​จะหันมา​มอง​องครักษ์​โลหิต​ที่​กำลัง​จ้อง​เขา​ไม่วางตา​

ร่าง​ของ​องครักษ์​โลหิต​สั่นสะท้าน​ไป​หมด​ รู้สึก​เหมือน​เลือด​ทุก​หยด​ใน​กาย​กำลังจะ​ทะลัก​ออกจาก​ร่าง​ทันทีที่​ประสาน​สายตา​กับ​ชาย​ตรงหน้า​

“ท่า​น.​.. ท่า​น.​.. ผู้นำ​ลัทธิ​”

ม่านตา​ของ​องครักษ์​โลหิต​หด​แคบ​ เขา​ทั้ง​กลัว​ทั้ง​ดีใจ​ไป​ในเวลาเดียวกัน​เมื่อ​เอ่ย​คารวะ​ผู้นำ​ลัทธิ​

ท่าน​ผู้นำ​ลัทธิ​เก็บตัว​ฝึก​พลัง​ปราณ​สำเร็จ​แล้ว​หรือ​ ใน​เมื่อ​ท่าน​กลับ​ออก​มาสู่โลก​ปัจจุบัน​อีกครั้ง​หลังจาก​ผ่าน​ไป​นานแสนนาน​ แปล​ว่า​แผน​การฟื้น​คืน​ความยิ่งใหญ่​ของ​ลัทธิ​อสุรา​จะต้อง​สำเร็จ​อย่าง​แน่นอน​ เมื่อ​กลับมา​ผงาด​ได้​อีกครั้ง​ ลัทธิ​อสุรา​จะปกครอง​สำนัก​น้อย​ใหญ่​ทั้งหมด​ใน​ดินแดน​ทางใต้​ให้​ใช้ชีวิต​อยู่​ใต้​ความกลัว​ตลอดไป​

“ไป​กัน​เถิด​ ข้า​อยาก​หลอม​แก่น​วิญญาณ​ใน​ลูกโลก​วิญญาณ​ล่วงลับ​และ​วงแหวน​ปราณ​ผสาน​วิญญาณ​เสียหน่อย​ ดังนั้น​เรา​จึงต้อง​ไปหา​ขุม​พลัง​ที่​แก่กล้า​ ขุม​พลัง​นี้​สำคัญ​มาก​ เรา​ต้อง​ครอบครอง​มัน​ให้ได้​ ห้าม​ผิดพลาด​โดย​เด็ดขาด​ ข้า​รอ​มาหลายปีดีดัก​ก็​เพื่อให้​มัน​อุบัติ​ขึ้น​อีกครั้ง​” ผู้นำ​ลัทธิ​อสุรา​พูด​ก่อน​จะเปลี่ยน​ร่าง​ตนเอง​ให้​กลายเป็น​พลัง​ปราณ​สีดำ​ แล้ว​พุ่ง​หาย​ไป​ใน​อากาศ​ไกลโพ้น​

ดวงตา​ของ​มหา​พรต​ที่ซ่อน​ไว้​เบื้องหลัง​หน้ากาก​สั่น​ไหว​ เท้า​ขาว​ใสเหมือน​หยก​ของ​นาง​เหยียบ​ไป​บน​อากาศ​ ก่อน​ติดตาม​ผู้นำ​ลัทธิ​ไป​ ร่าง​ของ​ทั้งคู่​หาย​ไป​ใน​ความ​มืดมิด​ยามค่ำคืน​

องครักษ์​โลหิต​ลุกขึ้น​ยืน​พลาง​มอง​ไป​รอบ​ๆ เขา​จ้อง​ไป​ที่​พื้นดิน​ว่างเปล่า​ซึ่งเคย​มีหอคอย​สีดำ​ตั้ง​ตระหง่าน​อยู่​ ใน​เมื่อ​หอคอย​หาย​ไป​แล้ว​ แปล​ว่า​เขา​ก็​ไม่จำเป็นต้อง​อารักขา​อะไร​อีก​ ถึงเวลา​ที่​เขา​จะได้​ไป​เข้า​ร่วมกับ​องครักษ์​โลหิต​คนอื่นๆ​ ใน​การ​ออก​ศึกสงคราม​เสียที​

เมื่อ​ลัทธิ​อสุรา​กลับมา​ยิ่งใหญ่​อีกครั้ง​ ทั่ว​ทั้ง​ผืน​แผ่นดิน​ของ​ดินแดน​ทางใต้​จะต้อง​กลายเป็น​ลูกไก่​ใน​กำมือ​พวกเขา​

….

ณ สำนัก​เมฆาขาว​

โครงร่าง​ของ​อาคาร​วิจิตร​นับไม่ถ้วน​ตั้ง​ตระหง่าน​อยู่​ภายใน​ม่าน​เมฆสีขาว​มัว​ ตึก​เหล่านี้​ถูก​สร้าง​อย่าง​เป็นระเบียบ​ ทั้งหมด​ปกคลุม​เอาไว้​ด้วย​ทะเล​เมฆสีขาว​ ดู​ราวกับ​เป็นแดน​สุขาวดี​ใน​ตำนาน​ ตรงกลาง​มีสระน้ำ​ขนาดเล็ก​ที่​มีศาลา​มากมาย​รายล้อม​อยู่​

ด้านบน​สระน้ำ​ที่​มีหมอก​ปกคลุม​มีเรือ​ลำ​เล็ก​อยู่​ลำ​หนึ่ง​ที่​เห็น​ได้​รางๆ​ ผ่าน​ม่าน​หมอก​ขาว​ ชาย​คน​หนึ่ง​กำลัง​นั่ง​อยู่​บน​เรือ​ลำ​นั้น​

ชาย​ผู้​นั้น​กำลัง​ตกปลา​ใน​สระ​อย่าง​สบายอารมณ์​ เสียง​น้ำ​แผ่วเบา​สะท้อน​ไป​ทั่ว​บริเวณ​ เบ็ด​ของ​เขา​สั่น​เป็นระยะ​เมื่อ​ปลา​มากิน​เหยื่อ​ เบ็ด​ที่​สั่นสะเทือน​ทำให้​ผิวน้ำ​ราบเรียบ​กระเพื่อม​เป็น​วง​

ไป๋​จ่าน​เหาะ​มาหยุด​อยู่​ข้าง​สระน้ำ​ ดวงตา​มอง​ไป​ยัง​เรือ​น้อย​ที่อยู่​กลาง​สระ​

“ท่าน​เจ้าสำนัก​ขอรับ​… เรา​ได้รับ​จดหมาย​ลับ​จาก​สำนัก​ความลับ​แห่ง​สวรรค์​ขอรับ​”

สีหน้า​ของ​ไป๋​จ่าน​จริงจัง​เป็นอันมาก​ เนื่องจาก​สำนัก​ความลับ​แห่ง​สวรรค์​นั้น​จัด​ได้​ว่า​เป็น​สำนัก​ที่​ลึกลับ​ที่สุด​ใน​ดินแดน​ทางใต้​แห่ง​นี้​ ทุก​สำนัก​ต่าง​ให้​ความเคารพ​พวกเขา​ไม่น้อย​

จดหมาย​ลับ​ที่​สำนัก​ความลับ​แห่ง​สวรรค์​ส่งมา ย่อม​เป็น​เรื่องสำคัญ​มาก​อย่าง​แน่นอน​

จ๋อม​!

เรือ​ซึ่งไร้​ลม​ส่งเคลื่อน​ที่มา​หยุด​อยู่​ข้าง​ตลิ่ง​ทันที​

ชาย​วัยกลางคน​ใน​ชุด​กันฝน​ที่​ทำ​จาก​ฟางและ​หมวก​ไม้ไผ่​ก้าว​ออกจาก​เรือ​อย่าง​ไม่รีบร้อน​ บน​หลัง​มีตะกร้า​ใส่ปลา​ที่จับ​มาได้​อยู่​ เขา​มอง​ไป๋​จ่าน​ด้วย​ใบหน้า​เปื้อน​ยิ้ม​

“จดหมาย​ลับ​ที่​ส่งมาจาก​สำนัก​ความลับ​แห่ง​สวรรค์​หรือ​ ใน​นั้น​เขียน​เรื่อง​ลัทธิ​อสุรา​เอาไว้​หรือไม่​”

เจ้าสำนัก​เลิกคิ้ว​ขึ้น​พลาง​เอ่ย​ถามไป๋​จ่าน​ด้วย​น้ำเสียง​ตกใจ​

ไป๋​จ่าน​ย่อม​ไม่รู้​ว่า​ใน​จดหมาย​เขียน​เรื่อง​อะไร​ไว้​ เขา​เพียง​นำ​จดหมาย​มาส่งให้​ถึงมือ​เจ้าสำนัก​เท่านั้น​

เจ้าสำนัก​วาง​ตะกร้า​ใส่ปลา​ลง​แล้ว​เช็ดน้ำ​ออกจาก​มือ​ ก่อน​จะรับ​จดหมาย​มาจาก​ไป๋​จ่าน​ เขา​ค่อยๆ​ อ่าน​จดหมาย​จาก​สำนัก​ความลับ​แห่ง​สวรรค์​อย่าง​ตั้งใจ​ทุก​ตัวอักษร​

ทันทีที่​อ่าน​จบ​ จดหมาย​ก็​พลัน​เปลี่ยนเป็น​เปลวเพลิง​สีฟ้าแล้ว​กลายเป็น​เศษขี้เถ้า​ไป​ใน​พริบตา​

“ดูเหมือนว่า​ข้า​จะต้อง​ออกเดินทาง​เสียหน่อย​…” หลังจาก​อ่าน​จดหมาย​จบ​เจ้าสำนัก​ก็​หัวเราะ​อย่าง​รื่นเริง​ เสียงหัวเราะ​ของ​เขา​สะท้อน​ก้อง​ไป​ทั้ง​สำนัก​เมฆาขาว​

ไป๋​จ่าน​งุนงง​กับ​สิ่งที่​เกิดขึ้น​เป็นอันมาก​ แต่​เขา​ก็​ไม่ได้​อยู่​ใน​จุด​ที่จะ​ตั้งคำถาม​กับ​เจ้าสำนัก​ได้​ จึงทำ​เพียง​เดินตาม​อีก​ฝ่าย​ไป​เท่านั้น​

….

บรรยากาศ​ภายใน​สำนัก​ที่​ทรงอิทธิพล​ต่างๆ​ ของ​ดินแดน​ทางใต้​หนักอึ้ง​ขึ้น​มาทันที​ภายใน​เวลา​อัน​สั้น​

ผู้ฝึก​ตน​ระดับ​หัวกะทิ​ของ​แต่ละ​สำนัก​ถูก​ส่งออก​ไป​ปฏิบัติภารกิจ​อย่าง​เร่งด่วน​ ทำให้​บรรดา​ศิษย์​ใน​สำนัก​ต่าง​พา​กัน​เกา​ศีรษะ​ด้วย​ความ​ฉงน​ ผู้​ที่​ถูก​ส่งไป​ปฏิบัติภารกิจ​ใน​ครั้งนี้​ล้วน​ยืน​อยู่​บน​จุดสูงสุด​ของ​ดินแดน​ทางใต้​ด้วยกัน​ทั้งสิ้น​ ทุกครั้งที่​พวกเขา​ออกโรง​ มัก​เกิด​เหตุการณ์​พลิกแผ่นดิน​ขึ้น​เสมอ​ ดังนั้น​ต้นตอ​ที่​ทำให้​พวกเขา​ต้อง​ออกมา​ลงมือ​เอง​ใน​ครั้งนี้​ย่อม​เป็น​เรื่องสำคัญ​ยิ่งยวด​อย่าง​แน่​นอ​น.​..

ณ ทางเข้า​ดินแดน​แสน​ภูผา​ ร่าง​สูงโปร่ง​กำลัง​มุ่งหน้า​เข้าสู่​เทือกเขา​ส่วนลึก​ โดย​ไม่ได้​รับรู้​ถึงความปั่นป่วน​ภายใน​สำนัก​น้อย​ใหญ่​แต่อย่างใด​

ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD

ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 200 อ่านนิยาย
( อ่านต่อข้างล่าง )


ในโลกแฟนตาซีมีผู้ฝึกยุทธสามารถแยกภูเขาและลำธารด้วยคลื่นพลังที่แผ่ออกมาจากฝ่ามือ และทำลายแม่น้ำได้จากลูกเตะ มีร้านอาหารเล็กๆตั้งอยู่

เป็นที่ๆมีพลังแห่งชีวิตนับไม่ถ้วนที่อยู่ภายใน

ที่นี่ท่านจะได้ลิ้มรสข้าวผัดที่ทำมาจากไข่ของนกฟินิกส์และข้าวเลือดมังกร

ที่นี่ท่านสามารถดื่มเหล้าแรงที่ทำมาจากผลสีชาดและน้ำจากน้ำพุแห่งชีวิต

ที่นั่นท่านสามารถลิ้มรสเนื้อย่างของวัวระดับเก้าที่โรยพริกไทยดำ

อะไรนะ? อยากจะลักพาตัวพ่อครัว? นี่ไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะมีสัตว์แห่งเทพระดับสิบ เฮลฮาวน์เฝ้าอยู่ที่ทางเข้า

พ่อครัวยังมีหุ่นยนต์ที่ฆ่านักฆ่าระดับเก้าด้วยมือข้าเดียว และยังมีกลุ่มผู้หญิงที่บ้าคลั่งหิวโหยที่จะต้องเอาชนะให้ได้


 

Options

not work with dark mode
Reset