บทที่ 1227 ได้รับการปรับปรุง
Content Warning: มีเนื้อหาเหยียดสีผิว, ความคิดตัวละครมีความรุนแรง
บทที่ 1227 ได้รับการปรับปรุง
ชายชราทำงานอยู่กับผ้ามาตลอดชีวิต แค่มองก็รู้ถึงคุณภาพของมัน
ผ้าผืนนี้ดัดแปลงมาจากกระบวนการผลิตของผ้ายกซ่ง
ในฐานะหนึ่งในสี่ผ้าปักที่มีชื่อเสียงของราชวงศ์ซ่ง ความงามของมันไม่ใช่สิ่งที่น่าสงสัย แต่ข้อบกพร่องเองก็เห็นได้ชัด
นั่นคือสวยงามเกินกว่าจะใช้ได้จริง
ผ้ายกซ่งคือผ้าที่รุ่นต่อมาได้เลียนแบบการทอผ้าหลากสีสันที่ถักทอในสมัยราชวงศ์ซ่งจนกลายมาเป็นดั่งปัจจุบัน
ความพิเศษของมันคือรูปดอกไม้อันซับซ้อน ในรูปวงกลมหรือลวดลายอื่น ๆ ที่เป็นลวดลายธรรมดาจะใส่ลายมังกร กิเลน ดอกไม้และตัวอักษร รูปแบบส่วนใหญ่จะเป็นดอกไม้ประดับ และข้อความ กราฟิกส่วนใหญ่จะจัดเรียงเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสและสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน แลดูวิจิตรยิ่ง
ผ้ายกซ่งเป็นผ้าที่งดงาม เรียบง่าย สีสันและลวดลายชัดเจน ไม่เหมาะกับการทำเสื้อผ้า ส่วนใหญ่จะนำไปทำเป็นเครื่องแต่งกาย ผ้าบุกล่อง เย็บตัวอักษร รูปเล่มหนังสือ และอีกหลายอย่าง
ซึ่งผ้ายกซ่งที่ได้รับการปรับปรุงแล้วได้เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้สอยมากขึ้น
ไม่รู้จะพัฒนาดีได้ขนาดไหน แต่จากที่ดูเฟิงอวี้ซูรู้สึกว่าผ้านี้เหมาะจะนำมาใส่มาก
เอามาทำเป็นกระโปรงหม่าเมี่ยนอาจดีกว่าใช้ผ้าไหมและผ้าซาตินธรรมดาทำเสียอีก
และอาจเป็นชุดที่สวยที่สุดที่เคยทำในชีวิตเลยก็ว่าได้
ชายชราตื่นเต้นจนมือสั่น ถึงกับคิดว่าอยากจะนำเสนอความงดงามของผ้าชิ้นนี้ให้ทุกคนได้ทราบทั่วกันถึงความงดงามของผ้าจีน!
“ผมต้องการผู้ช่วยครับ”
เฟิงอวี้ซูมองต้วนจื่อหมิง
รัฐมนตรีต้วนตกใจไม่น้อย
ปกติผู้อาวุโสเฟิงไม่เคยขอลูกมือมาก่อนเลย แล้วเราจะไปหาจากที่ไหน?
อาจมีอู๋เมิ่งหลานที่ทำเป็นคนเดียวด้วยซ้ำ
แต่เขาไม่เชื่อใจเธอเท่าไร!
แม้ระหว่างตรวจสอบจะไม่เจอความผิดปกติ แต่เขาไม่เชื่อใจจริง ๆ
ไม่อยากมอบงานสำคัญแบบนี้ให้เลย แค่นิดเดียวก็ไม่เอา!
รัฐมนตรีต้วนทำสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“ผมหมายถึงให้เสี่ยวเถียนมาเป็นลูกมือช่วยผม!”
เฟิงอวี้ซูรีบไขความเข้าใจผิดทันที
เขาไม่สนใจคนอื่น ถ้าไม่ใช่มืออาชีพ เรื่องก็มีแต่จะยุ่งยากขึ้นเท่านั้น
รัฐมนตรีต้วนลังเลเล็กน้อยแต่ก็ยอมตกลง
หลังจากฝ่ายดีไซเนอร์ไปทำเสื้อผ้า คนอื่น ๆ ได้แต่ดื่มชาอดทนรอต่อไป ระหว่างรอการเจรจา
การเดินทางในครั้งนี้นอกจากจะมีล่ามของแต่ละโรงงาน มีแค่ซูเสี่ยวเถียนที่เป็นเจ้าหน้าที่
หลังจากนี้งานหนักแล้วละ แต่ก็เข้าใจความหมายของเฟิงอวี้ซูนะ
เพราะคนออกแบบจริง ๆ คือเด็กคนนั้น ต่อให้เฟิงอวี้ซูเก่งแค่ไหนก็ไม่สามารถเข้าใจความคิดคนทำได้อย่างถ่องแท้
ที่เสนอขอตัวซูเสี่ยวเถียน เพราะเชื่อว่าระหว่างทำเสื้อผ้าต้องได้คุยกันแน่นอน
“ได้ครับ”
รัฐมนตรีต้วนเข้าใจดีว่าต้องลำดับความสำคัญของธุระนั้น ๆ จึงพยักหน้าตกลง
เฟิงอวี้ซูรีบเอ่ยว่า “ใช้เวลาแค่ครู่เดียวครับ”
เขาไม่ได้โง่ ซูเสี่ยวเถียนเป็นล่ามของคณะ จึงไม่อาจเสียเวลาไปกับเรื่องนี้ได้
ยิ่งเจ้าตัวบอกว่าทำไม่เป็นด้วย จะต้องยุ่งวุ่นวายแน่นอน
รัฐมนตรีต้วนถอนหายใจด้วยความโล่งอก
จะดีที่สุดหากใช้เวลาเพียงครู่หนึ่ง เพราะการเจรจาสำคัญจำเป็นต้องใช้ซูเสี่ยวเถียน
ผู้อาวุโสเฟิงอวี้ซูพอได้รับการอนุมัติก็เรียกเด็กคนนั้นไปที่เวิร์กช็อปทันที
ตอนนี้เขาตื่นเต้นมาก หากเด็กสาวไม่คอยประคองเอาไว้ รัฐมนตรีต้วนกลัวจริง ๆ ว่าตาแก่นี่จะล้ม
เมื่อเห็นอีกฝ่ายถือผ้าอย่างทะนุถนอมราวกับสมบัติล้ำค่า ใจก็คิดว่าชุดต้องดีกว่าที่จินตนาการไว้แน่ ๆ
ถึงจะค้นคว้าเรื่องผ้ามาบ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่มีความรู้เท่าไร
รู้เพียงว่ามีค่าแน่ ๆ แต่มีระดับมากแค่ไหนอันนี้ไม่รู้จริง ๆ
ถ้าไม่ได้ทำงานด้านนี้คงไม่มีทางรู้หรอก
จะรู้ก็แค่ผิวเผินก็เท่านั้น
ต้วนจื่อหมิงเหลือบมองฟูจิวาระโดยไม่รู้ตัว
ดีมาก สีหน้าเจ้านั่นเข้มเชียว
โชคดีที่ไม่มีคนจากทวีปอื่นเข้าร่วมด้วย ไม่อย่างนั้นคงได้โดนวัดสีผิวพร้อมฟูจิวาระแน่
รอยยิ้มมีนัยแฝงของรัฐมนตรีต้วนกระแทกสายตาของฟูจิวาระมาก
เจ้าตัวแต่ได้กัดฟันกรอด กำหมัดแน่น
ต้วนจื่อหมิงสมควรตายจริง ๆ ยังมาหัวเราะเยาะเย้ยกันอีก
ทำไมถึงทำตัวได้น่ารังเกียจขนาดนี้?
สมควรตาย สมควรตายนัก!
แต่ไม่ว่าจะคิดอย่างไร สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นตามที่คิด
ถึงเวลาที่คณะผู้แทนเข้าร่วมเจรจา
ฝั่งจีนอย่างรัฐมนตรีต้วนและรองหัวหน้าเหวยยังนิ่งไม่ไหวติง ดูไม่อยากออกไปเจรจา
คนอื่น ๆ คิดว่าตัวแทนรัฐบาลจีนหยิ่งผยอง แต่ไม่รู้เลยว่าพวกเขาสื่อสารกับผู้อื่นไม่ได้หากไม่มีล่าม
บางส่วนก็ได้ริเริ่มสนใจกันเอง
สองปีมานี้ อุตสาหกรรมผ้าในประเทศเราเริ่มถึงจุดอิ่มตัว เปลี่ยนจากผู้ขายมาเป็นผู้ซื้อ
หากไม่ส่งเสริมอย่างจริงจัง โรงงานจะได้รับผลกระทบ
เพราะงั้นผู้ผลิตจึงให้ความสำคัญกับงานนิทรรศการในครั้งนี้มาก
เพื่อให้การเจรจาเป็นไปอย่างราบรื่นจึงพาล่ามมาด้วย
แต่การที่ซูเสี่ยวเถียนไม่อยู่ ยังไม่ค่อยส่งผลกระทบกับพวกเราเท่าไร
“รัฐมนตรีต้วน เราไปเดินเล่นดูผ้าที่บูทอื่นกันไหมครับ?”
“เราจะไม่ไปไหนจนกว่าเสี่ยวเถียนจะเสร็จงานนะ”
เขาเข้าใจภาษาต่างประเทศ แต่นอกจากภาษาของประเทศญี่ปุ่นแล้ว ก็ไม่ชำนาญภาษาใดอีก
ถ้าไม่มีล่ามเก่ง ๆ อยู่ด้วยเราต้องเสียเปรียบแน่
แม้จะสนิทกับซูเสี่ยวเถียนได้ไม่กี่วัน แต่สัมผัสได้ว่าเราไว้วางใจเธอได้
รองหัวหน้าเหวยมองไปทางเวิร์กช็อปด้วยความกังวลใจ
ไม่มีทางสงบสุขแบบนี้แน่ ๆ
ต้องมีอะไรเกิดขึ้นเหมือนกับกระเป๋าที่โดนฉกไปเมื่อเช้า
เจ้าพวกบ้านั่นต้องมีแผนการอื่นอีกแน่