บทที่ 1225 เจ้าเล่ห์
บทที่ 1225 เจ้าเล่ห์
รัฐมนตรีต้วนผ่อนคลายขึ้นมาก ไม่มีใครรู้เลยว่าช่วงนี้เขากดดันมากแค่ไหน
โดยเฉพาะหลังจากได้รับข่าวที่เกิดขึ้นกับผ้าและแบบร่างของพวกเรา เขาถึงกับนอนไม่หลับเลย
เขาจึงไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมเด็กสาวคนนี้ถึงมั่นใจนัก แต่เขาก็เชื่อจริง ๆ
เมื่อรองหัวหน้าเหวยกลับมาถึง เขาก็เห็นสีหน้าผ่อนคลายของผู้เป็นหัวหน้าคณะ
ในฐานะสหายร่วมรบคนสนิท เขารู้ดีว่าอีกฝ่ายกดดันมากเพียงใด
“รัฐมนตรีต้วนดูสดชื่นนะครับ!”
“แน่นอน เวลาได้สู้กับคนอื่นน่ะนะ!” รัฐมนตรีต้วนยกยิ้มจริงใจ “แต่หลังจากนี้ต้องเผชิญกับปัญหาแล้วละ”
ไม่ว่าฟูจิวาระหรือใครก็ตามที่มีเจตนาแอบแฝง เราจะไม่ปล่อยไว้แน่
ขณะที่กำลังสนทนากันนั้น ทุกคนจากคณะผู้แทนจีนก็มากันเกือบครบแล้ว
คนจากโรงงานต่าง ๆ นำผ้ามาวางไว้บนบูท
พวกเขาจับจองพื้นที่โดยเว้นส่วนกลางเอาไว้
เพราะมันคือตำแหน่งสำหรับวางผ้าคุณภาพสูงที่สุดของเรา
ถึงผ้าที่เรานำมาจะถือว่าดี แต่ก็ยังไม่ใช่ตัวเอกของงาน
ทุกคนล้วนใจหนักอึ้ง เพราะรู้ว่าทั้งผ้าและแบบเสื้อผ้ารัฐบาลจีนนำมาโดนขโมยไปแล้ว
ในฐานะคนจีนเองคงเป็นเรื่องโกหกที่บอกว่าไม่เป็นกังวล
แต่เราทำอะไรไม่ได้
แล้วผ้าที่มีอยู่ก็ใช้สู้อะไรไม่ได้เลย
ไม่ไกลจากกันนัก ฟูจิวาระมองบูทฝั่งจีนด้วยสีหน้าเข้มขึ้น เมื่อเขาเห็นผ้าหลากหลายชิ้นวางอยู่
ฟูจิวาระรู้จักผ้าดี ต่อให้มองไกล ๆ ยังเห็นว่าผ้าพวกนั้นเป็นของธรรมดา และไม่ได้อยู่เกรดเดียวที่พวกเขาเอามาด้วย
หมดยุครุ่งเรืองของจีนแล้วสินะ!
ขณะสั่งให้คนเอาผ้าของเรานำไปจัดแสดง ก็เหลือบสายตามองรัฐมนตรีต้วนด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ
เสี่ยวเถียนกัดฟันกรอด
อยากจะเดินไปต่อยสักหมัดให้หายโมโห
ทว่าเธอทำเช่นนั้นไม่ได้ เด็กสาวจึงหันไปสนใจรัฐมนตรีต้วน
แต่สีหน้าของเขาสงบมาก
เขาเห็นผ้าที่ฟูจิวาระให้คนเอาออกมาแล้ว ถึงมองเห็นไม่ชัดแต่มั่นใจว่าหากเทียบกับผ้าอันเก่าของเรา ลักษณะของมันค่อนข้างเหมือนกันทีเดียว
ฟูจิวาระไม่ฉลาดเอาเสียเลย
ทุกคนในสถานที่รู้กันดีว่าผ้าปิดงานตัวจริงจะไม่นำมาโชว์ในตอนนี้
แต่เขากลับหยิบออกมา ไม่คิดเซอร์ไพรส์สักหน่อยหรือ?
แต่มันมีเหตุผลอยู่นะ
อย่างแรกคือผ้าที่เขาเอามาล้วนเหมือนกับของเรา จะต่างกันแค่สีเท่านั้น
สองคือเขาดูภูมิใจมากที่ผ้าของเราโดนแย่งชิงไป
แถมต้องรอจนถึงบ่ายกว่าจะได้คืนมาด้วย
ฟูจิวาระหยิบออกมาเพื่อสร้างความประทับใจแรกแก่ผู้คน
ต่อให้ช่วงบ่ายเราได้ผ้าคืนมาแล้ว คนก็ต้องวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ดี
และตอนนั้นแหละที่เราจะต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่น่าอับอาย แต่ฟูจิวาระกลับทำตัวเหมือนเห็นฉากนั้นแล้ว
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจนถึงสิบโมง บูทกว่ายี่สิบกว่าบูทได้รับการจัดเรียบร้อยแล้ว
ผู้จัดงานก็ขึ้นเวทีแล้ว หลังจากต้อนรับอย่างเป็นทางการ ช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นได้มาถึง
และนี่คือช่วงเวลาที่คณะผู้แทนแต่ละคนจะนำผ้าชิ้นสุดท้ายของพวกเขาออกมาแสดงวันนี้
เนื่องด้วยประเทศญี่ปุ่นนำออกมาตั้งแต่เนิ่น ๆ หลายคนจึงได้เห็นกันแล้วและไม่แปลกใจนัก
ส่วนผ้าของประเทศอื่น ๆ ก็ถือว่าดี แต่เมื่อเทียบกับประเทศญี่ปุ่นก็ยังไม่ได้น่าสนใจเท่าไร
มีแค่ไม่กี่แบบที่สะดุดตาจริง ๆ
ในขณะที่ทุกคนคิดว่าจีนคงไม่สามารถนำผ้ามาจัดแสดงได้แล้ว พวกเขากลับเห็นต้วนจื่อหมิงหรือรัฐมนตรีต้วนเดินไปใจกลางบูทของตัวเอง ในมือถือผ้าเอาไว้ด้วย
ยามนำผ้าสีทองอ่อนซึ่งมีลวดลายเป็นประกายแขวนเอาไว้บนชั้นจัดแสดง สถานที่อันคึกคักพลันเงียบสงัด
ผ้าชิ้นนี้เหมือนมีเวทมนตร์ ที่ดึงดูดความสนใจของทุกคนได้
โดยเฉพาะบูทของประเทศญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ใกล้ ๆ ฟูจิวาระที่มัวแต่ภาคภูมิใจเห็นแสงจ้าเกิดขึ้นตรงหน้า ก่อนจะเห็นใบหน้าที่น่ารังเกียจพวกนั้นมีความภาคภูมิใจปรากฏอยู่ ส่วนผ้าที่ฝ่ายนั้นนำออกมาไม่ได้สีสวยเท่าไรนัก แต่มันเป็นสีที่ทำให้รู้สึกถึงความสดใส
เขาไม่ได้โง่ และย่อมรู้ว่านี่คือหนึ่งในสี่ผ้ายกซ่งที่มีชื่อเสียงของจีน
แต่เมื่อเทียบกับผ้ายกซ่งที่รู้จักก็ยังแตกต่างกันอยู่ดี กระนั้นเขาก็บอกไม่ได้ว่าเป็นอย่างไรเนื่องจากยืนอยู่ไกล
หรือนี่คือผ้าที่รัฐบาลจีนเตรียมไว้สำหรับโชว์โดยเฉพาะ?
ฟูจิวาระพลันรู้สึกไม่ดี และคิดว่าตนต้องติดกับอีกฝ่ายแน่ ๆ
ทำไมทุกอย่างถึงราบรื่นได้ขนาดนั้น?
ดูจะไม่ธรรมดาแล้วสิ
คนจีนช่างน่ารังเกียจจริง ๆ!
ต้วนจื่อหมิงก็น่ารังเกียจ!
ฟูจิวาระกัดฟันกรอด แต่ทำอะไรไม่ได้
เพิ่งเข้าใจประโยคที่รัฐมนตรีกล่าวทิ้งท้ายไว้
หากไม่ได้อยู่ท่ามกลางสายตาประชาชี เขาคงด่าเปิงไปแล้ว
ทว่าตอนนี้ทำได้แค่เฝ้ามองรัฐมนตรีต้วนแขวนผ้าอันวิจิตรตระการตาที่ดึงดูดสายตาชื่นชมของผู้คนนับไม่ถ้วน
การแข่งขันวันนี้เหมือนไม่สำคัญเท่าไร เพราะเมื่อต้วนจื่อหมิงหยิบผ้าออกมา ผลลัพธ์เป็นอันตัดสินแล้ว!
ว่าแต่ได้มันมาจากไหนน่ะ?
เขาสังเกตมาอย่างดีแล้วนะ ไม่เห็นพวกเขาถือกล่องแบบอื่นเลย
ไม่สิ กระเป๋าที่ใบใหญ่กว่านี้ยังไม่มีด้วยซ้ำ!
เจ้าเล่ห์นัก ไอ้พวกคนจีน!