“เอาล่ะ ก่อนอื่นเลย เราต้องทำอะไรซักอย่างกับชุดนั่นของเธอก่อนล่ะนะ”
ท่านโนอะมองดูที่สแต แล้วก็พูดออกมาแบบนั้น
แน่นอนล่ะ สภาพโดยรวมของสแตตอนนี้เรียกได้เลยว่ารุ่งริ่ง ไม่ใช่สภาพที่เหมาะจะออกจากสลัมไปเดินอยู่ในเมืองได้เลย
“งั้นเริ่มจากการจัดการแบบฉุกเฉินไปก่อนแล้วกันนะ {เพอริฟายไลท์ (แสงชำระล้าง)}”
ตอนนั้น ท่านโนอะก็ร่ายเวทมนตร์
แสงจางๆ เข้าคลุมร่างของสแตมาจากส่วนศีรษะ แล้วไม่นาน พอแสงเลือนหายไป เนื้อตัวของสแตก็สะอาดหมดจดไปจนถึงเส้นผมแต่ละเส้นของเธอเลย
“เท่านี้ก็น่าจะออกมาเดินเล่นได้แล้ว ไปซื้ออะไรในร้านเสื้อผ้ากันซะก่อนดีกว่านะ คุโระ พอจะรู้หรือเปล่าว่าที่ไหนมีเสื้อผ้าของเด็กขายบ้าง?”
“เดี๋ยวฉันนำทางให้เอง โปรดเดินตามมาเลยค่ะ”
“ถ้างั้นก็ขอฝากด้วยนะ”
ฉันนำทั้ง 2 ของไปที่ร้านขายเสื้อผ้าใกล้ๆ ตามที่ท่านโนอะสั่ง จากการที่ฉันคุ้นเคยกับสภาพพื้นที่ของเมืองนี้แล้วผ่านการเดินดูไปมาระหว่าง 2-3 วันที่ผ่านมา
ทางสแต ถึงเธอจะยังงงอยู่ เธอก็เดินตัวติดกับฉันเลย
ตอนที่พวกเรามาถึงที่ร้านขายเสื้อผ้ากันเนี่ย ขอข้ามตรงที่พวกเขาตกใจท่านโนอะ (ผมสีทอง), ฉัน (ผมสีดำ) แล้วก็สแต (ผมสีฟ้า) ไปแล้วกันน่า เพราะเรื่องนั้นมันแน่อยู่แล้วล่ะนะ
“แบบนี้เป็นไงบ้างคะ ฉันว่าชุดพริ้วๆ นี่ต้องเหมาะกับเธอแน่ๆ เลย”
“คุโระ เธอนี่ไม่เข้าใจซะเลยนะ เด็กผู้หญิงแบบนี้เนี่ยต้องใส่อะไรที่ดูมืดหม่นซักหน่อยสิถึงจะเข้า”
“ไม่ค่ะๆ ชุดกระโปรงผ้ากันเปื้อนแบบดั้งเดิมสิคะดีเลย”
“ไม่ล่ะ ยังไงก็ต้องโกธิคโลลิต้าสิ”
“อา เอ๊ะ เออ……”
ฉันกับท่านโนอะเถียงกันว่าชุดแบบไหนจะเข้ากับสแตได้ดีกว่ากัน
ส่วนสแตก็กำลังลนลานทำอะไรไม่ถูก
“ท่านโนอะคะ ฉันกำลังคิดว่า”
“อะไรเหรอ?”
“ทำไมไม่ให้เธอลองใส่ทั้ง 2 ชุดไปเลยล่ะคะ?”
“บังเอิญจังเลยนะคุโระ ฉันก็กำลังคิดแบบนั้นอยู่พอดีเลย ขอโทษนะ ผู้ดูแล เราจะขอใช้ห้องลองชุดซักหน่อย พอจะได้มั้ย? แล้วก็ ถ้ามีพนักงานหญิงซักคนเข้าไปช่วยใส่เสื้อผ้าให้เธอด้วยก็จะดีมากเลย”
“ด- ได้ค่ะ! รับทราบแล้วค่ะ!”
“……เออ”
สแตยังประมวลเรื่องราวทุกอย่างไม่ได้เลย เธอก็โดนลากเข้าไปในห้องลองชุดซะแล้ว ในนั้น เธอก็ได้ลองชุดนั้นชุดนี้มากมาย รวมทั้งชุดกระโปรงผ้ากันเปื้อนกับชุดโกธิคโลลิต้าด้วย
“…ท่านโนอะ”
“…ฉันรู้ว่าเธอกำลังจะพูดอะไร”
“นี่มันออกจะ น่ารักเกินไปแล้วมั้ยคะ…”
“อือ เสี่ยงจะถูกพวกโลลิค่อนมาฉกตัวหรือลักพาตัวไปมากเลยล่ะ… ต้องหยุดเอาไว้ซะแล้วสิ”
ทั้งฉันทั้งท่านโนอะต่างเห็นพ้องต้องกัน และก็มาจบตรงทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุดอย่างชุดกระโปรงเรียบๆ
และเราก็ลงเอยด้วยการซื้อชุดที่ให้สแตลองไปเกือบครึ่งด้วยเหมือนกัน
◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆
“จะว่าไป เริ่มชักจะหิวขึ้นมาแล้วสิ แถวนี้มีที่ไหนไปได้บ้างเนี่ย?”
“ฉันเลือกร้านที่คิดว่าท่านโนอะน่าจะชอบเอาไว้แล้วค่ะ หนึ่งในนั้นอยู่ฝั่งตรงข้ามจากที่นี่เอง จะลองไปที่นั่นดูมั้ยคะ?”
“ฉันชอบตรงที่เธอคิดเผื่อเรื่องพวกนี้เอาไว้อย่างน่าตกใจแบบนี้มากเลยล่ะ คุโระ มันไม่ใช่สิ่งที่ฉันคาดว่าจะได้จากเด็กๆ แบบเธอเลยน่ะนะ”
ที่ต่อมาที่เราเข้าไปกันก็คือร้านอาหาร
ก็เหมือนเดิมนะ ขอข้ามเรื่องเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องสีผมไปเลย พวกเรานั่งกันที่โต๊ะริมชานระเบียง ดึงดูดความสนใจจากผู้คนมาไม่น้อยเลย
“ก็แน่อยู่แล้วล่ะนะคะ พวกเราไม่มีใครมีสีผมปกติกันซักคน ไม่ว่าจะทำอะไรก็ดึงดูดสายตารอบข้างมาตลอดเลย”
“จริงด้วยนะ ที่ทำให้สแตดูได้นี่ก็เพื่อสุขอนามัยเท่านั้นเอง ไม่ต้องไปคิดมากหรอก มาเลือกของที่จะกินกันดีกว่า ฉันจะยังไงก็ได้นั่นแหละ ตราบใดที่ไม่มีผักอยู่ในนั้นล่ะก็นะ”
“ร้านนี้ ทุกอาหารจานหลักจะเสิร์ฟผักเป็นเครื่องเคียงทั้งหมดเลยค่ะ”
“ตรงประเด็นซะเหลือเกินนะ คุโระ”
มันใกล้ได้เวลาที่ต้องก้าวข้ามเรื่องผักนี่ให้ได้แล้ว ในฐานะผู้รับใช้ ฉันก็ต้องเป็นกังวลเรื่องการเจริญเติบโตของท่านอยู่แล้วสิ
“งั้น ฉันเลือกกราแตงดีกว่า ท่านโนอะเอาเป็นแฮมเบิร์กราดซอสหอมหัวใหญ่แล้วกันนะคะ”
“เดี๋ยวสิ นี่เธอจะเอาซอสราดลงไปบนเนื้อเลยงั้นเหรอ”
“โปรดค่อยๆ ก้าวข้ามผ่านเรื่องแบบนี้ไปให้ได้ด้วยเถอะนะคะ แล้วสแตล่ะ?”
“……?”
อ่า ไม่เข้าใจงั้นสินะเนี่ย
“เราควรสั่งอะไรให้สแตดีล่ะคะ? ไม่ควรจะร้อนเกินไป เด็กกินง่าย แล้วก็ไม่ใส่ผักไว้มากเกินไป”
“คิดถึงความชอบของฉันบ้างสิ”
“ไม่ได้ค่ะ ถ้าฉันตามใจท่านโนอะเกินไป จะกลายเป็นว่าท่านจะไม่มีทางกินผักเลยน่ะสิคะ ถ้างั้น สั่งฮอทเค้กแล้วกันค่ะ”
“ได้เลยค่า”
“เอ๊ะ ในฮอทเค้กมีผักด้วยเหรอ―――เดี๋ยวนะ ไม่มีนี่นา! คุโระ! เธอหลอกฉันนี่!”
“ไม่ได้หลอกเลยค่ะ ฉันบอกแค่ว่าทุกอาหารจานหลักจะมีผักเสิร์ฟมาด้วย ฮอทเค้กเป็นขนมหวานค่ะ เพราะฉะนั้น นี่ก็ไม่ได้หลอกท่านเลยไงล่ะคะ”
TN: Au Gratin (กราแตง) เป็นวิธีการหนึ่งของอาหารฝรั่งเศสที่ทำให้ผิวหน้าของอาหารเกรียมเป็นสีน้ำตาลซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายที่อบในเตาอบหรืออบเฉพาะไฟบน โดยใช้เครื่องที่เรียกว่า “Salamander” อาหารที่มีหน้าเกรียมสวยเป็นสีน้ำตาลทองนี้ใช้เกล็ดขนมปัง ชีสขูด ไข่ หรือเนย โรยบนอาหารแล้วนำไปอบจนไหม้เหลือง จากนั้นเสิร์ฟทั้งจานที่ใช้อบได้เลย วิธีกราแตงนี้ใช้ได้กับอาหารที่ทำจากเนื้อสัตว์ ปลา ผัก หรือพาสตา โดยกราแตงยอดนิยมที่สุดคือ “Potatoes Gratiné / Gratin Dauphinois” คือกราแตงมันฝรั่ง, “Sole au Gratin” กราแตงที่ทำจากปลา และ “Cozze Gratinate” คือกราแตงอิตาเลียนที่ทำจากหอยแมลงภู่
ホットケーキ (Hotcake, ฮอทเค้ก) เป็นขนมสัญชาติญี่ปุ่น คล้ายกับแพนเค้ก เป็นขนมเค้กแบนที่มักเป็นทรงกลม มักเสิร์ฟเป็นอาหารเช้าหรือของว่าง สามารถโรยหน้าด้วยวัตถุดิบต่างๆ เช่น น้ำเชื่อม เนย ผลไม้ วิปครีม หรือช็อกโกแลตชิป ซึ่งฮอทเค้กจะต่างจากแพนเค้กตรงที่ความหนานุ่มที่มากกว่า และหวานกว่า (แต่จริงๆ ก็แล้วแต่สูตร แต่โดยทั่วไปมักจะเป็นแบบนี้)
หลังจากที่พยายามทำให้ท่านโนอะที่กำลังจะเข้ามาคว้าตัวฉันอยู่แล้วใจเย็นลง อาหารก็ถูกยกมาที่โต๊ะเรียบร้อย
“คุโระ ฉันจะไม่ว่าอะไรเธอหรอก แลกกราแตงกับแฮมเบิร์กราดซอสหอมหัวใหญ่ที่มีเจ้าของโสมมนี่แปดเปื้อนอยู่ที ถ้าเธอไม่ทำ คงรู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
“เข้าใจนะ สแต เธอต้องไม่เป็นคนที่พยายามบังคับให้คนอื่นกินของที่ตัวเองไม่ชอบแทนตัวเองแบบนั้นนะ”
“……? เข้าใจแล้ว”
“จำเรื่องนี้เอาไว้ให้ดีเลยนะ คุโระ”
ฉันเมินสายตาที่จ้องเขม็งมาอย่างโมโหของท่านโนอะไป ก่อนจะหันมากระตุ้นให้สแตกินอาหารแทน
แต่สแตก็ยังดูอึกอัก ทำอะไรไม่ถูกอยู่เลย
“มีอะไรหรือเปล่า?”
“……อาเระ”
พอมองไปตามสแตชี้ ฉันก็เห็นลูกค้าโต๊ะอื่นกำลังกินอาหารกันตามปกติ
คือยังไงนะ?
“เป็นไปได้ว่าเด็กคนนี้จะไม่รู้วิธีใช้ส้อมใช้มีดน่ะ?”
“อ๋า”
“……ทุกคน ถือของแปลกๆ”
แบบนี้เอง บางที สำหรับเด็กคนนี้ที่เคยใช้ชีวิตอยู่แต่ในจุดต่ำสุดของสังคมในฐานะทาส แต่ละมื้อที่กินก็คงแทบไม่เคยใช้อย่างอื่นเลยนอกจากใช้มือหยิบกินเลยล่ะมั้ง
“น่าชื่นชมมากเลยนะสแต ที่สังเกตเรื่องพวกนี้ด้วย ไว้ฉันจะสอนเรื่องมารยาทให้เธออีกที แต่ตอนนี้ ทำแบบนี้ก่อนแล้วกันนะ”
ฉันแปะก้อนเนยและราดน้ำเชื่อมเมเปิลไซรัปลงไปบนฮอทเค้ก แล้วก็เอามีดกับส้อมที่วางไว้เป็นส่วนของสแตมาตัดมัน แล้วก็ใช้ส้อมจิ้มมาชิ้นนึง
”เอ้า อ่~า”
“……?”
“ไม่ใช่สิ เดี๋ยวฉันป้อนให้เอง อ้าปากหน่อยนะ”
สีหน้าของสแตก็ยังงงๆ อยู่เหมือนเดิม แต่ไม่นาน เธอก็ยอมอ้าปาก เหมือนกับว่าเธอตัดสินใจได้แล้ว
พออ้าแล้ว ฉันก็ป้อนฮอทเค้กเข้าปากเธอ
จากนั้น
“……
……?
……!?!?”
เธออมมันไว้ในปาก ก่อนจะเริ่มเคี้ยวมันช้าๆ
เหมือนเธอจะรู้สึกได้แล้วว่ามีอะไรแปลกไป เธอถึงได้ตกใจจนลืมตาเบิกโพลงเลย
แล้วเธอก็หันมาหาฉัน มองมาด้วยทีท่าตกตะลึงเหมือนเพิ่งค้นพบทวีปใหม่ของโลกได้ยังไงยังงั้นเลย
“อร่อยมั้ย?”
สแตพยักหน้าหงึกๆ หลายครี้ง ก่อนจะอ้าปากกว้างเหมือนเป็นการขอเพิ่มอีก
“น่าๆ ไม่มีใครแย่งเธออยู่แล้วล่ะ ปล่อยตัวสบายๆ แล้วก็เอร็ดอร่อยไปกับมื้ออาหารก็พอ”
“นี่ คุโระ”
“มีอะไรเหรอคะ?”
“อ่~า”
“โปรดยอมแต่โดยดี แล้วทานหอมหัวใหญ่ทีเถอะค่ะ“
ฉันคอยป้อนฮอทเค้กให้สแตต่อไป จนเหมือนฉันกำลังขุนเธออยู่เลยแฮะ
ตาของสแตเปล่งประกายจะเหมือนเป็นคนละคน เธอดื่มด่ำไปกับความหวานช่ำใหม่นี่ ที่เหมือนกับเธอเพิ่งจะเคยได้ลิ้มลองรสชาตินี้เป็นครั้งแรกในชีวิตเลย
“คุโระ”
“คราวนี้อะไรเหรอคะ?”
“…ขอร้องล่ะ ช่วยกินหอมใหญ่ให้ทีนะ”
“อื๊อ!?”
ส่วนทางท่านโนอะที่เหมือนกับในที่สุดจะยอมทิ้งเกียรติของตัวเอง ท่านเอามือทั้ง 2 ข้างตบเข้าหากันเป็นท่าเหมือนการภาวนา เอียงหัว ขอร้องฉันอย่างสุดซึ้งเลย
แถมความน่ารักนั่นก็ดันได้ผลกับฉันดีจนน่าตกใจเลยเนี่ยสิ
“…เข้าใจแล้วค่ะ แต่ว่า ยังไงอย่างน้อยท่านก็ต้องทานเข้าไปเองซักคำนะคะ”
“เอ๋~”
“เอ๋ ไม่ได้ค่ะ! มันเป็นหน้าที่ของฉันในฐานะคนรับใช้ของท่านโนอะ และฉันจะไม่ยอมอ่อนข้อให้ท่านในเรื่องนี้แน่นอนค่ะ!”
ท่านโนอะทำท่าขยะแขยงต่อของตรงหน้าออกมา แต่แล้วท่านก็ยอมตัดใจ ตัดแฮมเบิร์กออกมาจนได้
แล้วท่านก็เอาแฮมเบิร์กชิ้นนั้น พร้อมกับซอสหอมหัวใหญ่ที่ท่านโนอะเกลียดนักเกลียดหนา เข้าปาก―――
ตอนที่ท่านจะเอาใส่ปากอยู่แล้ว สแตก็จ้องมองดูที่แฮมเบิร์กชิ้นนั้นพลาง น้ำลายไหลไปพลาง
“สแต? อยากกินนี่ด้วยงั้นเหรอ?”
“*หงึกหงึก*”
หลังจากที่ได้ชิมรสชาติความอร่อยที่ไม่เคยรู้จักของฮอทเค้กไปแล้ว ดูเหมือนความอยากรู้อยากเห็นของสแตจะทะลักไปด้วยความคิดประมาณว่า [ของอื่นๆ นี่รสชาติจะเป็นยังไงกันนะ] แน่เลย
“งั้น อยากลองกินมั้ยล่ะ? เอ้านี่ อ่~า”
“……!”
“ไม่ต้องลังเลหรอก กินได้เลยนะ”
“เดี๋ยวสิคะ!? ท่านโนอะ จะหนีไม่ได้นะคะ!”
“อาระ คุโระ นี่เธอจะยอมทิ้งสแตที่ตาเป็นประกายแบบนี้ไปได้ลงคองั้นเหรอ?”
“งื้อออ!”
ก่อนที่ฉันจะทันได้เริ่มพยายามทำอะไร สแตก็รีบงับแฮมเบิร์กราดซอสหอมหัวใหญ่เข้าไปซะแล้ว
และแล้ว
“―――ก!”
สีหน้าอิ่มเอิบดีใจแบบก่อนหน้านี้กลับมาอีกครั้ง ดูเปี่ยมไปด้วยความปิติยินดีเลย
“อ- อาระ? หรือว่าสแต เห็นว่ามันอร่อยงั้นเหรอ?”
“*หงึกหงึก*”
“ดูเหมือนสำหรับสแตแล้ว หอมหัวใหญ่ก็เป็นอาหารธรรมดานะคะ”
“…”
“ท่านโนอะคะ”
“อ- อะไรเหรอ?”
“เรียนรู้สิ่งนี้เอาไว้นะคะ”
“หนวกหูน่า!”
เด็ก 8 ขวบ 2 คน กำลังล่อลวงเด็กคร้าบ คุณตำหนวด!!