ตอนพิเศษ 32-1 ความรักเพิ่งจะผลิบาน เตียงก็หักเสียแล้ว (1)
มุกมังกรเป็นอาวุธวิเศษอย่างหนึ่งของเผ่ามังกร มันจับกลิ่นอายของมังกรได้เยี่ยมที่สุด เมื่อมุกมังกรอยู่ในสถานที่ซึ่งมีไอมังกรเข้มข้น ตัวไข่มุกก็จะฉายภาพยามที่กลิ่นอายเข้มข้นที่สุดออกมา
ไม่ต้องสงสัยเลยว่ายามนั้นไอมังกรเข้มข้นที่สุดเพราะมีมังกรมารปรากฏตัวออกมาพร้อมกันสองตัว
มุกมังกรไม่โกหก ดังนั้นเมื่อคืนมีลูกมังกรตัวหนึ่งอยู่จริงๆ
ผู้อาวุโสปี้กับผู้อาวุโสหลิวหันขวับไปมองรองหัวหน้าสหพันธ์ หัวใจของรองหัวหน้าสหพันธ์ยากจะสงบลงได้ “…หรือว่าเซวียนเอ๋อร์เขา…กลายร่างได้แล้ว”
ผู้อาวุโสหลิวมองภาพสะท้อนในไข่มุก แล้วพรูลมหายใจเย็นเฉียบออกมาเบาๆ “เจ้าตัวนี้ตัวเล็กไปหน่อยหรือไม่”
การเติบโตของมังกรมารไม่เหมือนเผ่ามนุษย์นัก สิ่งที่มันต้องการไม่ใช่แค่เวลาเท่านั้น มังกรมารที่ถือกำเนิดออกมาวันเดียวกัน ตัวหนึ่งอาจเติบใหญ่แล้ว ในขณะที่อีกตัวหนึ่งยังเป็นมังกรเด็กอยู่ เรื่องนี้สิ่งสำคัญขึ้นอยู่กับสารอาหารและพลังปราณที่มังกรมารได้รับระหว่างกระบวนการเติบใหญ่ หากไม่มีสารอาหารมากพอ มังกรมารก็เติบโตได้ยากยิ่ง
แน่นอนว่านี่ไม่ได้หมายความว่าหากมังกรมารไม่เติบใหญ่แล้วมันจะครอบครองอายุขัยไม่จำกัด หากมังกรมารไม่ได้รับสิ่งที่จำเป็นต่อการเติบโตไปตลอด ตราบจนวันที่อายุขัยของมันถูกใช้หมดสิ้น มันก็จะยังเป็นมังกรเด็กอยู่อย่างนั้น
เห็นชัดว่าฉินเซวียนไม่ได้เป็นมังกรที่ขาดแคลนทรัพยากร รองหัวหน้าสหพันธ์เลี้ยงดูเขาอย่างดียิ่ง ดูจากร่างมนุษย์ของเขาในตอนนี้หากกลายร่างเป็นมังกรก็น่าจะตัวโตกว่าเจ้าตัวที่อยู่ในภาพสะท้อนสักหน่อยจึงจะถูก
“บางทีพลังปราณของเซวียนเอ๋อร์อาจจะไม่มากพอจึงกลายร่างเป็นมังกรได้ตัวเล็กเท่านี้หรือไม่” รองหัวหน้าสหพันธ์พึมพำ
ผู้อาวุโสหลิวพยักหน้า “ก็อาจเป็นเช่นนั้นได้”
เขาพูดพลางเพ่งมองมังกรน้อยในไข่มุก เขาคิดไปเองหรือไม่นะ เขารู้สึกว่าพุงของมังกรน้อยตัวนี้กลมดิก ฉินเซวียนตัวผอมขนาดนั้นจะกลายร่างเป็นมังกรน้อยอ้วนตุ๊ต๊ะตัวหนึ่งได้อย่างไรกัน
ผู้อาวุโสปี้เงียบไปครู่หนึ่งก็ถามรองหัวหน้าสหพันธ์ว่า “ให้ข้าไปถามนายน้อยด้วยตนเองได้หรือไม่”
รองหัวหน้าสหพันธ์เชื่อมั่นแน่วแน่ว่านี่คือบุตรชายของตน แม้สถานที่ที่เขาพบตัวบุตรชายจะเป็นใต้ต้นอู๋ถงนอกถ้ำ แต่ก็ตัดความเป็นไปได้ที่ดวงจิตของชิงเอ๋อร์พาบุตรชายย้ายมาไว้ใต้ต้นไม้นอกถ้ำก่อนจะสลายไปไม่ได้ เพราะต่อให้เป็นปีศาจจิ้งจอกเป็นพวกเดียวกัน แต่การอยู่ในถ้ำต่อก็เป็นเรื่องอันตรายอย่างยิ่งเรื่องหนึ่ง
รองหัวหน้าสหพันธ์จินตนาการแรงจูงใจของท่านจอมมารในสมองเอาเอง แล้วรู้สึกว่าทุกสิ่งสมเหตุสมผลนัก เขายิ่งไม่คลางแคลงเรื่องที่บุตรชายกลายร่างได้มากกว่าเดิม
รองหัวหน้าสหพันธ์พาผู้อาวุโสทั้งสองคนไปที่เรือนของฉินเซวียน
ฉินเซวียนเพิ่งหลับไปหนึ่งตื่น สีหน้าจึงดีขึ้นเล็กน้อย เขาสวมอาภรณ์และกวานพร้อมเรียบร้อย ก่อนจะออกมาพบผู้อาวุโสทั้งสองในห้องโถงประชุมอย่างขึงขังจริงจัง “ผู้อาวุโสปี้ ผู้อาวุโสหลิว”
ผู้อาวุโสหลิวลูบหนวดแล้วเอ่ยด้วยสีหน้าอ่อนโยน “ร่างกายของนายน้อยดีขึ้นบ้างหรือไม่”
ฉินเซวียนตอบอย่างมีมารยาท “ดีขึ้นมากแล้วขอรับ”
เสียงของเขางามเกลี้ยงเกลาเฉกเช่นเดียวกับดวงหน้าของเขา ยามสนทนาปราศรัยกับผู้ใดมักจะให้ความรู้สึกคล้ายสายลมโชยเย็นสบาย
ผู้อาวุโสหลิวรู้สึกในแง่ดีกับตัวเขาไม่น้อย แต่ผู้อาวุโสปี้ยังคงมีสีหน้าเย็นชาดุจก้อนน้ำแข็ง เขาเอ่ยขึ้นมาว่า “เมื่อคืนวานนายน้อยได้กลายร่างหรือไม่”
ฉินเซวียนชะงักไปครู่หนึ่ง เขาหันไปมองรองหัวหน้าสหพันธ์ เมื่อเห็นรองหัวหน้าสหพันธ์คลี่ยิ้มมองมาหาเขา หัวใจเขาก็กระตุกวูบหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยตอบด้วยใบหน้าที่ไม่เผยสีหน้าอันใดทั้งสิ้น “เรื่องเมื่อคืนวาน…ข้าจดจำไม่ค่อยได้นัก ข้าหลับไปแล้วฝันเห็นมารดา ฝันอยู่หนึ่งคืนเต็ม เมื่อข้าตื่นขึ้นมา ท่านพ่อก็มาแล้ว”
ผู้อาวุโสหลิวพึมพำ “หรือว่าจะกลายร่างระหว่างหลับฝันอยู่”
รองหัวหน้าสหพันธ์เอ่ยว่า “ดวงจิตของชิงเอ๋อร์คงช่วยให้เขากลายร่างกระมัง หลังจากดวงจิตของชิงเอ๋อร์สลายไป เขาจึงคงร่างมังกรไว้ไม่ได้กลายร่างกลับมาเป็นมนุษย์อีกหน”
สำหรับสัตว์มารแล้ว ร่างเดิมของพวกมันย่อมประหยัดพลังปราณมากที่สุด แต่บิดาของฉินเซวียนเป็นมนุษย์ ฉินเซวียนเกิดมาก็มีร่างเป็นมนุษย์ ด้วยเหตุนี้สำหรับเขาแล้วร่างมนุษย์กลับจะประหยัดพลังมากกว่า
หากบิดามารดาของฉินเซวียนล้วนเป็นมังกรมาร ถ้าเช่นนั้นฉินเซวียนย่อมเป็นมังกรมารตัวหนึ่ง การกลายร่างเป็นเรื่องช้าหรือเร็วเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องยืนยันก็ให้เขาสืบทอดเผ่ามารได้ แต่เพราะว่าเขามีบิดาเป็นมนุษย์ ในเผ่าจึงกังวลว่าเขาจะได้รับสืบทอดสายเลือดของบิดามาเพียงอย่างเดียว ไม่ได้รับสืบทอดสายเลือดของมังกรมารมาด้วย ดังนั้นจึงต้องตรวจสอบซ้ำแล้วซ้ำอีก ซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าเขากลายร่างได้หรือไม่
หากเขากลายร่างไม่ได้ ต่อให้เขาเป็นบุตรของจอมมาร ก็ไม่มีคุณสมบัติสืบทอดเผ่ามาร
ถึงพวกเขาจะกังวลว่าจอมมารอาจมาแก้แค้น แต่ก็ไม่อาจทำลายกฎที่บรรพบุรุษตราไว้มาตั้งแต่หนึ่งหมื่นปีก่อน
ผู้อาวุโสหลิวเอ่ยอย่างอ่อนโยน “เรื่องกลายร่างนายน้อยไม่ต้องร้อนใจ พวกเรารอท่านได้”
ฉินเซวียนคิดในใจ ท่านรอได้ แต่ข้ารอไม่ได้
เขาจำเป็นจะต้องรีบสืบทอดเผ่ามาร เอาอาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่ปราบมังกรมารได้มาไว้ในมือก่อนที่มังกรมารจะกลับมาแล้วเปิดโปงตัวตนของเขา เมื่อเป็นเช่นนั้นต่อให้ท่านจอมมารกลับมาก็ทำอันใดเขาไม่ได้
หลังจากผู้อาวุโสทั้งสองคนจากไปแล้ว ฉินเซวียนก็เรียกอินทรีแดงสองหางมา เขาเขียนจดหมายฉบับหนึ่งส่งให้อีกฝ่าย “ส่งให้ถึงมืออาจารย์ข้า”
อินทรีแดงสองหางกระพือปีกบินจากไป ราวพลบค่ำอินทรีแดงสองหางก็นำจดหมายฉบับหนึ่งกลับมา ฉินเซวียนคลี่จดหมายออกอ่าน “เม็ดมังกรหรือ”
อินทรีแดงสองหางกลายร่างเป็นผู้ฝึกตนหนุ่ม เขาเดินมาข้างฉินเซวียนแล้วถามว่า “นายน้อย เม็ดมังกรคือสิ่งใดหรือ”