เมื่อมองดูฉินอี้ทำหน้านิ่งเรียบเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ ราวกับว่าไม่สนใจศึกตัดสินกับเหลยถิงในอีกสามวันให้หลังเลย…นักเรียนที่ไม่ใช่คนของกลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนผู้นี้พลันเกิดความปรารถนาอยากเข้าร่วมกลุ่มหุ่นรบหลิงเทียน ถึงแม้ทุกคนต่างคิดว่ากลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนจะต้องพ่ายแพ้แน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัย และกลายเป็นเรื่องน่าขบขันที่ก่อตั้งกลุ่มหุ่นรบสั้นที่สุดในประวัติศาสตร์ของโรงเรียนทหาร ทว่าพอเห็นสมาชิกกลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนที่ทำหน้าเฉยชาเหล่านี้แล้ว เขาคิดว่าบางทีผลสรุปอาจจะไม่ได้เลวร้ายเหมือนอย่างที่ทุกคนคิดไว้
ทว่านี่เป็นเพียงความความใจร้อนชั่ววูบของเขาเท่านั้น ไม่นานเขาก็ใจเย็นลง ยิ้มให้กับฉินอี้ก่อนจะกลับไปนั่งบนที่นั่งของตัวเอง แต่ในใจเขากลับทำการตัดสินใจให้ตัวเองแล้วว่า ถ้าหากกลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนผ่านพ้นการสังหารของเหลยถิงครั้งนี้ไปได้จริงๆ เขาจะเข้าร่วมกลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนให้ได้โดยไม่ลังเลเลยสักนิดเดียว ต่อให้อนาคตถูกเหลยถิงบีบคั้นอย่างรุนแรงอีกครั้ง เขาก็จะมุ่งไปข้างหน้าพร้อมกับกลุ่มหุ่นรบหลิงเทียน
……
หลิงหลานที่พาฉางซินหยวนออกไปจากห้องเรียนไม่รู้เลยว่า หลังจากที่เธอจากไปแล้วจะเกิดเรื่องราวเหล่านี้ขึ้น และไม่รู้ว่ามีคนอยากเข้าร่วมกลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนเพราะเหตุนี้เช่นกัน
เวลานี้ กลุ่มของหลิงหลานกำลังรีบไปยังโรงอาหารเพื่อเตรียมตัวรับประทานอาหารเที่ยง และถือโอกาสสอบถามดูสักหน่อยว่าฉางซินหยวนมีธุระอะไรถึงได้จู่ๆ มาหาเธอ
โรงอาหารมีพื้นที่ทานอาหารรวมกัน และก็มีห้องส่วนตัวที่ปิดเงียบจัดเตรียมให้กับนักเรียนที่มีศักยภาพด้วยเช่นกัน หลิงหลานย่อมเลือกห้องส่วนตัวเพื่อให้สะดวกพูดคุยกัน เมื่อทุกคนเพิ่งจะนั่งลง สมาชิกคนอื่นๆ ในทีมก็ทยอยกันมาถึงแล้ว ที่แท้ระหว่างทางลั่วล่างได้แจ้งบรรดาสมาชิกทีมให้รีบมารวมตัวกันนานแล้ว
แน่นอนว่าลั่วล่างลงแรงขนาดนี้เป็นเพราะเขาจำเป็นต้องแจ้งหลินจงชิง ในฐานะที่เขาเป็นหัวหน้าฝ่ายพลาธิการของหน่วยรบหลิงเทียน เขาจึงดูแลแต้มเครดิตทั้งหมดของทีมพวกเขา หากต้องการทานอาหารมื้อดีๆ ขาดหลินจงชิงแล้วจะทำได้อย่างไร
ไม่ถึงห้านาที ทุกคนต่างมากันหมดแล้ว หลี่หลานเฟิง หลี่ซื่ออวี๋และจ้าวจวิ้นสามคนคือคนที่มาเร็วที่สุด พวกเขาที่อยู่ปีห้าเดิมทีก็ไม่มีคาบเรียนอะไรอยู่แล้ว แค่อยู่ในหอพักจัดเตรียมเอกสารบางอย่างของโรงเรียนสำหรับสมัครสอบเข้ากองทัพเท่านั้น
หลังจากที่เห็นทุกคนมากันครบ สอบถามทุกคนว่าอยากทานอะไรกันแล้ว หลินจงชิงก็ลากเซี่ยอี๋กับลั่วล่างสองคนออกไปสั่งอาหารด้วยกัน ห้องส่วนตัวของโรงเรียนทหารไม่มีบริกร อยากทานอะไร นักเรียนก็ต้องไปสั่งเอง ไปหยิบเอง
โชคดีที่ในห้องส่วนตัวจัดเตรียมน้ำชาไว้ให้ หลี่หลานเฟิงไม่กล้าวางท่าของรุ่นพี่ปีห้าอะไร เขาลุกขึ้นรินชาให้คนอื่นๆ อย่างมีน้ำใจ เพื่อกระต่ายแล้ว เขาต้องเอาใจพวกลูกทีมของกระต่ายดีๆ…
ฉางซินหยวนยกถ้วยชาขึ้นมาดื่มเข้าไปอึกหนึ่ง ตั้งสติแล้วค่อยเอ่ยกับหลิงหลานว่า “ลูกพี่หลาน ยังจำหุ่นรบไพ่ราชาที่นายมอบให้ฉันเมื่อครึ่งปีก่อนได้หรือเปล่า?”
หลิงหลานที่เพิ่งจะยกถ้วยชาขึ้นมาพลันชะงักมือ จากนั้นเธอก็พยักหน้าทันที
วันหนึ่งเมื่อครึ่งปีก่อน หลิงหลานเพิ่งเลื่อนขั้นเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาได้ไม่นาน จู่ๆ ฉางซินหยวนก็ติดต่อหลิงหลาน บอกหลิงหลานว่าเขากำลังศึกษาโครงสร้างทั้งหมดของหุ่นรบไพ่ราชาอยู่ ถึงแม้เขาจะเรียนรู้ด้านทฤษฎีแล้ว แต่ไม่มีหุ่นรบของจริงให้เขาแยกชิ้นส่วนวิเคราะห์ มีบางจุดที่เขายังคิดไม่ออกอยู่บ้าง หลิงหลานได้ยินคำกล่าวก็มอบหุ่นรบไพ่ราชาที่เป็นรางวัลจากออปติคัลคอมพิวเตอร์หลักเนื่องจากเลื่อนขั้นเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาได้สำเร็จให้ฉางซินหยวนยืมไปศึกษาค้นคว้าโดยไม่ลังเลเลยสักนิดเดียว
หลิงหลานรู้ดีว่า มีเพียงการวมกันของทฤษฎีกับปฏิบัติจริงเท่านั้นถึงจะสามารถเชี่ยวชาญความรู้ที่ร่ำเรียนได้อย่างแท้จริง และฉางซินหยวนที่ติดอยู่ในขั้นสูงสุดของหุ่นรบระดับกลางมาตลอดก็ไม่มีโอกาสได้รับหุ่นรบไพ่ราชาโดยอาศัยความสามารถของตัวเองเลย
เงื่อนไขในการแลกหุ่นรบไพ่ราชาเข้มงวดมาก จำเป็นต้องไปถึงระดับเดียวกันถึงจะมีคุณสมบัติแลกได้ ช่างพัฒนาหุ่นรบมักจะมีความสามารถด้านการควบคุมหุ่นรบอ่อนด้อยสุดขีด ไม่อาจอาศัยความพยายามของตัวเองได้หุ่นรบที่ต้องการมา นี่ก็คือหนึ่งในเหตุผลว่าทำไมช่างพัฒนาหุ่นรบต้องเข้าร่วมหน่วยรบที่แข็งแกร่ง หากคิดจะก้าวหน้าไปอีกขั้น ไม่มีหน่วยรบช่วยเขาคว้าหุ่นรบระดับสูงมากขึ้น ทักษะการปรับแต่งพัฒนาของพวกเขาก็ได้แต่ติดอยู่กับที่แล้ว
แน่นอนว่าหลิงหลานให้ฉางซินหยวนยืมหุ่นรบอย่างใจกว้างขนาดนี้เป็นเพราะว่าในใจเธอมีความมั่นใจ คะแนนสะสมที่ได้รับมาจากการท้าประลองข้ามระดับมาตลอดสูงมากเพียงพอให้เธอแลกหุ่นรบไพ่ราชาตัวได้ใหม่อีกตัว ต่อให้ฉางซินหยวนแยกชิ้นส่วนหุ่นรบตัวนั้นจนไม่สามารถต่อขึ้นมาได้อีก ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อการวางแผนถัดไปของเธอ
หุ่นรบไพ่ราชาตัวนั้นจึงถูกยืมมาครึ่งปีกว่าเช่นนี้เอง นานจนทำให้หลิงหลานลืมเรื่องนี้ไปแล้ว เวลาฉางซินหยวนเอ่ยถึงอีกครั้ง ทำให้เธอนึกเรื่องนี้ได้แล้ว หลิงหลานรีบตอบว่า “นายเข้าใจโครงสร้างภายในของหุ่นรบไพ่ราชาทะลุปรุโปร่งแล้วเหรอ?”
ฉางซินหยวนพยักหน้าหนักๆ เขาเอ่ยอย่างตื่นเต้นว่า “ใช่แล้ว หุ่นรบตัวนั้นอยู่เคียงข้างฉันทุกวัน ถ้าฉันไม่เข้าใจแจ่มแจ้งอีก ก็ทำผิดต่อมันเกินไปแล้ว” กล่าวถึงตรงนี้ ฉางซินหยวนก็ทอดถอนใจในความโชคดีมากอย่างแท้จริงของตัวเองอีกครั้งที่ได้เจอหัวหน้าทีมดีๆ อย่างหลิงหลานคนนี้ ลองคิดดูสิ หัวหน้าหน่วยรบคนไหนจะมอบหุ่นรบไพ่ราชาให้ช่างพัฒนาแนวหลังอย่างใจกว้างขนาดนี้? ให้คุณมองดูไม่กี่ครั้งก็ไม่เลวมากๆ แล้ว
“ความจริงแล้ว ฉันศึกษาได้พอประมาณตั้งแต่สามเดือนก่อนแล้ว สามเดือนมานี้ ฉันศึกษามาตลอดว่าจะทำการปรับแต่งที่จำเป็นต่อหุ่นรบไพ่ราชายังไง…” ฉางซินหยวนทอดถอนใจด้วยความวางใจ กล่าวต่อไป
คำพูดนี้ทำให้บรรดาลูกทีมคนอื่นๆ ที่กำลังดื่มชาตะลึงงัน โดยเฉพาะฉีหลงที่พ่นน้ำชาที่ยังไม่ได้กลืนลงไปออกมาอย่างควบคุมไม่อยู่…
หานจี้จวินถลึงตาใส่ฉีหลงอย่างอำมหิต เขาที่นั่งอยู่ตรงข้ามฉีหลงโดนน้ำชาพ่นใส่หน้าอย่างโชคร้ายมากทันที…
ฉีหลงรีบวางถ้วยชาลง หยิบผ้าเช็ดปากบนโต๊ะออกมา ส่งไปให้ด้วยใบหน้ายิ้มประจบ ปากก็พูดขอโทษไปเรื่อยๆ ช่วยไม่ได้ เวลานี้เขาได้แต่แสดงท่าทีอ่อนน้อมถ่อมตน ขอร้องเพื่อนซี้ยกโทษให้
หลี่หลานเฟิงที่กำลังรินชาได้ยินคำพูดของฉางซินหยวน เขารีบวางกาน้ำชาลงแล้วนั่งข้างฉางซินหยวน เอ่ยถามด้วยความประหลาดใจว่า “จริงหรือเปล่า? ฉันยังไม่เคยได้ยินเลยว่าหุ่นรบไพ่ราชาสามารถทำการปรับแต่งได้ด้วย ช่างพัฒนาหุ่นรบทำได้แค่ปรับแต่งหุ่นรบระดับพิเศษลงไปไม่ใช่เหรอ?”
เดิมทีฉางซินหยวนก็เป็นคนที่อ่อนโยนเก็บตัว แต่พอเจอปัญหาด้านวิชาชีพ เขากลับเอาจริงเอาจังสุดขีด คำพูดของหลี่หลานแฝงไปด้วยความสงสัยชัดเจน นี่ทำให้เขารู้สึกว่าถูกสบประมาท สีหน้าของเขาอึมครึมทันที ประท้วงว่า “ใครพูด? ในทฤษฎี ขอเพียงทักษะปรับแต่งของช่างพัฒนาหุ่นรบพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ ต่อให้เป็นหุ่นรบขั้นเทวะก็ไม่ใช่ว่าปรับแต่งไม่ได้”
“แต่สหพันธรัฐ ไม่เคยเห็นหุ่นรบปรับแต่งที่เป็นหุ่นรบไพ่ราชามาก่อนเลยนะ” เมื่อเผชิญหน้ากับความโกรธเกรี้ยวของฉางซินหยวน สีหน้าของหลี่หลานเฟิงดูไร้เดียงสามาก เนื่องจากสิ่งที่เขาพูดคือความเป็นจริง หุ่นรบระดับพิเศษยังสามารถเห็นการปรับแต่งเฉพาะส่วน แต่ไพ่ราชาขึ้นไป ที่ผ่านมาต่างเป็นหุ่นรบห้าประเภทหลักที่ได้รับการยอมรับโดยทั่วกันในสหพันธรัฐ มากสุดก็แค่ทำการเปลี่ยนแปลงสีสันรวมถึงอาวุธที่ติดตั้ง…
“ความจริงแล้ว พอเป็นหุ่นรบระดับหุ่นรบไพ่ราชาแบบนี้ก็ปรับแต่งยากมากจริงๆ นั่นแหละ พวกมันผ่านการค้นคว้าและทดลองจากสหพันธรัฐมาหลายรุ่นจนนับไม่ถ้วน หุ่นรบพวกนี้เลยค่อนข้างสมบูรณ์แบบแล้ว ถ้าเกิดปรับแต่งไม่ดี ก็จะลดประสิทธิภาพของหุ่นรบแทน ได้ไม่คุ้มเสียอยู่บ้าง” สีหน้าไร้เดียงสาและคำพูดที่สอดคล้องกับความเป็นจริงของหลี่หลานเฟิงทำให้ฉางซินหยวนใจเย็นลงอย่างรวดเร็ว
“แต่ในโลกหุ่นรบกลับมีความเป็นไปได้ที่ไร้ที่สิ้นสุด วัตถุดิบและอาวุธบางอย่างที่พวกเราไม่เคยเห็นสามารถปรากฏขึ้นได้ในโลกหุ่นรบ นี่เลยทำให้ช่างพัฒนาหุ่นรบสามารถทะลวงขีดจำกัดความเป็นจริง ทำการปรับแต่งหุ่นรบที่มีระดับสูงขึ้นได้” ฉางซินหยวนบอกสาเหตุที่เขาสามารถปรับแต่งหุ่นรบไพ่ราชาออกมาในที่สุด
ควรพูดว่า ช่วงนี้ฉางซินหยวนโชคดีมากจริงๆ ทำภารกิจปรับแต่งระดับ SSS สำเร็จ ได้รับรางวัลมหาศาลจากออปติคัลคอมพิวเตอร์หลัก ซึ่งเป็นวัตถุดิบล้ำค่าสุดขีดที่มีอยู่เพียงในตำนานของโลกความเป็นจริงเท่านั้น เป็นเพราะวัตถุดิบแหล่านี้ทำให้เขาเป็นไปตามเงื่อนไขทั้งหมดในการปรับแต่งหุ่นรบไพ่ราชา
คำพูดของฉางซินหยวนทำให้ทุกคนตรึกตรองขึ้นมา จริงด้วย โลกหุ่นรบคือโลกเสมือนจริง ก็เหมือนกับการบังคับหุ่นรบ ท่วงท่าการบินมากมายที่ยากอย่างยิ่งยวดจนมีโอกาสตกสูงในโลกความเป็นจริงกลับสามารถบรรลุอัตราความสำเร็จระดับหนึ่งได้ในโลกหุ่นรบ เนื่องจากผู้ควบคุมหุ่นรบทุกคนต่างกล้าไปลองโดยไม่จำเป็นต้องกลัวเสียชีวิต ต่อให้ล้มเหลว อย่างมากก็แค่สูญเสียคะแนนจำนวนมากเท่านั้น เริ่มใหม่ก็ได้แล้ว และเป็นเพราะตัวตนของโลกหุ่นรบเช่นที่ทำให้การควบคุมหุ่นรบในโลกความเป็นจริงเปลี่ยนเป็นหลากหลายขึ้นมา ท่วงท่าการเคลื่อนไหวของหุ่นรบจำนวนมากที่ผ่านการศึกษาค้นคว้าของผู้ควบคุมหุ่นรบเพื่อรับประกันอัตราความสำเร็จจึงค่อยๆ ผุดขึ้นมาในโลกความเป็นจริง…
ในเมื่อการควบคุมหุ่นรบมีการทะลวงขีดจำกัดแบบนี้อยู่ เช่นนั้นสาขาวิชาอื่นย่อมมีลักษณะเฉพาะแบบนี้เช่นกัน หลี่ซื่ออวี๋ที่นั่งอยู่ด้านข้างเริ่มใคร่ครวญขึ้นมาว่า บางทีเขาควรจะใส่งานวิจัยยาลงในโลกหุ่นรบด้วย ยาอัศจรรย์ต่างๆ นานาในโลกหุ่นรบอาจจะช่วยเขาหาตำรับยาที่แก้ปัญหาสุขภาพของญาติผู้พี่ได้เร็วมากยิ่งขึนก็เป็นได้…
เวลานี้เอง ในที่สุดหานจี้จวินเช็ดน้ำชาที่ฉีหลงพ่นออกมาจนสะอาด ถึงค่อยมีใจจะสอบถามข้อสงสัยที่ติดอยู่ในใจเขามาตลอด “แต่ทำไมถึงไม่เคยเห็นว่ามีการปรับแต่งหุ่นรบไพ่ราชาในโลกหุ่นรบเลยล่ะ?”
คำถามข้อนี้ได้รับการเห็นด้วยจากทุกคน เนื่องจากไม่ว่าโลกความเป็นจริงหรือว่าโลกเสมือนจริง พวกเขาไม่เคยเห็นหุ่นรบไพ่ราชาที่ผ่านการปรับแต่งมาก่อนแล้วจริงๆ
ฉางซินหยวนได้ยินคำกล่าวพลันนิ่งอึ้งไป เนื่องจากเขาเองก็ไม่ได้เคยเห็นว่ามีการปรับแต่งหุ่นรบไพ่ราชาเกิดขึ้นในโลกเสมือนจริงมาก่อนเช่นกัน ช่างพัฒนาพวกนั้นไม่เคยรู้ว่าความจริงแล้วหุ่นรบไพ่ราชาสามารถปรับแต่งได้หรือไง?
“หรือเป็นเพราะความคิดตายตัว ไม่ ไม่สิ…” ฉางซินหยวนส่ายหน้าทันใด ในฐานะที่เขาเป็นช่างพัฒนาหุ่นรบที่โดดเด่น เขาไม่อนุญาตตั้งข้อจำกัดให้ตัวเองเป็นอันขาด ความคิดของช่างพัฒนาหุ่นรบต้องอิสระ นี่คือความศรัทธาที่แรงกล้าของช่างพัฒนา ถ้าอย่างนั้นทำไมช่างพัฒนามากมายขนาดนั้น รวมถึงพวกปรมาจารย์ที่ผลิตและค้นคว้าวิจัยระดับสูงยิ่งกว่านี้ถึงไม่ค้นพบเรื่องนี้เลยล่ะ? ตอนนี้เอง จู่ๆ ฉางซินหยวนพลันนึกถึงรูปลักษณ์ของหุ่นรบไพ่ราชาที่เขาปรับแต่งตัวนั้น ก่อนจะรู้แจ้งโดยพลัน เขาคิดออกแล้ว…
“หรือว่าพอพวกเราเห็นหุ่นรบปรับแต่งพวกนั้นในโลกหุ่นรบ ในจิตใต้สำนึกเราคิดว่าพวกมันไม่น่าใช่หุ่นรบไพ่ราชา แต่ว่าเป็นหุ่นรบระดับอื่น?” ฉางซินหยวนเอ่ยถามด้วยความตื่นเต้นสุดขีด
คำกล่าวของฉางซินหยวนประหนึ่งสายฟ้าฟาด ทำลายความคิดที่ถูกจำกัดของทุกคนทันที ใช่แล้ว หุ่นรบไพ่ราชาที่ถูกปรับแต่งย่อมไม่มีรูปลักษณ์เหมือนกับหุ่นรบไพ่ราชาเดิม พวกเขามองแวบเดียวย่อมไม่รู้ คิดว่าหุ่นรบเหล่านี้คือหุ่นรบระดับพิเศษ ถึงขนาดที่เป็นหุ่นรบระดับต่ำลงไปอีกหนึ่งระดับ…
ทุกคนต่างตะลึงงันไปกับความจริงที่เป็นไปได้นี้ หลิงหลานสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงบนสีหน้าของฉางซินหยวนเมื่อสักครู่นี้ เธอก็ฉุกใจ เอ่ยถามออกมาว่า “ฉางซินหยวน หุ่นรบไพ่ราชาของนายปรับแต่งสำเร็จแล้วใช่หรือเปล่า?”
ท่าทีสงบนิ่งเหมือนเข้าใจทุกอย่างของหลิงหลานสะกดฉางซินหยวนไว้อย่างสิ้นเชิง เขาเอ่ยด้วยความตกใจว่า “ลูกพี่หลาน นายรู้ได้ยังไง?”
—————