สามีข้าคือขุนนางใหญ่บทที่ 719-2 แม่ลูกผูกพัน (2)

บทที่ 719-2 แม่ลูกผูกพัน (2)

บทที่ 719 แม่ลูกผูกพัน (2)

ฮ่องเต้เกือบจะสำลัก

ซ่างกวานเยี่ยนเองก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันนัก

บัดนี้ นางยังไม่สามารถกลับไปที่สุสานได้

ฮ่องเต้รอให้อีกฝ่ายร้องขอความเมตตา

ทว่านางกลับไม่เอ่ยอะไร

บรรยากาศชวนอึดอัด

จางเต๋อเฉวียนได้แต่เดินถอยออกไปอย่างเงียบๆ และเจรจากับเจ้าหน้าที่จากกรมอาญา ก่อนจะเดินกลับเข้ามาทูลฝ่าบาทด้วยรอยยิ้ม “เมื่อครู่นี้เป็นความผิดพลาด ไม่ใช่คดีที่เกี่ยวข้องกับสุสานพ่ะย่ะค่ะ”

“เหอะ”

“หึ!”

ทั้งฮ่องเต้และซ่างกวานเยี่ยนต่างเบือนหน้าออกไปคนละทิศคนละทางพร้อมๆ กัน

พอนางกลับไปที่ตำหนักเจาหยางเพื่อกักบริเวณ ฮ่องเต้ก็ทรงเรียกหวังซวี่เข้าเฝ้าและมีคำสั่งให้เขาค้นหาที่อยู่ของซ่างกวานชิ่ง

“พ่ะย่ะค่ะ”

หวังซวี่น้อมรับบัญชา

ฮ่องเต้เอนหลังบนเก้าอี้อย่างเหนื่อยหน่าย อากาศอบอ้าว และเหงื่อไหลออกจากศีรษะอย่างต่อเนื่อง

จางเต๋อเฉวียนไล่บ่าวออกไปทั้งหมด แล้วเดินเข้าไปทางฮ่องเต้ “ฝ่าบาท ให้กระหม่อมถอดเครื่องหัวออกดีไหมพ่ะย่ะค่ะ”

ฮ่องเต้ขานตอบเสียงแผ่วเบา

จากนั้นจางเต๋อเฉวียนจึงจัดแจงถอดพระเกษาปลอมของพระองค์ออก

ฮ่องเต้ค่อนข้างมั่นใจว่าที่ซ่างกวานเยี่ยนล่อเขาให้ออกไปก็เพื่อช่วยซ่างกวานชิ่ง และแน่นอนนางคงคาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะเล่นใช้ดาบฟันจนผมหายกลายเป็นคนหัวล้าน หากบอกว่าไม่โกรธก็ดูจะเป็นการโกหกเกินไป

ฮ่องเต้บ่นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “นางมีอะไรเหตุใดไม่มาพูดกับข้าตรงๆ หากเกิดอันตรายกับชิ่งเอ๋อร์คิดหรือว่าข้าจะนิ่งนอนใจได้”

จางเต๋อเฉวียนได้ยินดังนั้นก็คิดในใจ ก็พระองค์เล่นกวาดล้างตระกูลของนางเสียขนาดนั้น แถมยังลดยศของนางและเนรเทศให้นางไปอยู่ในที่แสนไกล แล้วยังจะทรงหวังอีกหรือว่าอีกฝ่ายเขาจะญาติดีกับพระองค์ด้วย

เรื่องง่ายๆ แบบนี้ใครก็รู้ อยู่ที่ว่าจะรับได้หรือไม่ก็เท่านั้น

จางเต๋อเฉวียนรินชาพร้อมกับโน้มน้าว “ทรงสงบพระทัยก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ”

จะสงบลงได้อย่างไรเล่า

ฮ่องเต้ยกถ้วยชาขึ้นจิบหนึ่งอึก จู่ๆ ก็ทรงนึกถึงองค์หญิงน้อยขึ้น จึงตรัสถาม “องค์หญิงน้อยยังไม่กลับมารึ”

จางเต๋อเฉวียนรีบตอบ “พระองค์ทรงกังวลว่าองค์หญิงน้อยจะตามเพื่อนไม่ทันมิใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ จึงรับสั่งให้กระหม่อมหาอาจารย์ช่วยสอนพิเศษให้กับองค์หญิงน้อยพ่ะย่ะค่ะ”

“อย่างนั้นรึ” พอทรงนึกขึ้นได้จึงไม่ถามต่อ

แต่คนอย่างพระองค์มีหรือจะยอมเสียหน้า

หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ก็ทรงเอ่ยกับจางเต๋อเฉวียนต่อ “เจ้าไปเอานกฮวยบี๊ตัวนั้นมาที”

งานอดิเรกของพระองค์มีอยู่สองอย่าง หนี่งคือตีคลี สองคือเลี้ยงนก

วันก่อนทรงเพิ่งให้คนไปซื้อนกฮวยบี๊ห้าสีมาจากแคว้นจิ้น ฮ่องเต้ทรงโปรดมันมากถึงขั้นเข้าไปหาทุกวัน

จางเต๋อเฉวียนเดินไปที่ประตูเพื่อบอกกับขันทีอีกคน ไม่นานหลังจากนั้น ขันทีวิ่งเข้ามาอย่างเร่งรีบและเอ่ยด้วยน้ำเสียงเกรงกลัว “นกฮวยบี๊…หายไปแล้วขอรับ!”

“มีใครเข้าออกห้องเลี้ยงนกบ้าง”

“นอกจากอาจารย์ผู้ฝึกสอนนกแล้ว ก็มีแค่…องค์หญิงน้อยขอรับ”

เมื่อวานนี้ องค์หญิงน้อยสัญญากับจิ้งคงไว้ว่าจะประลองนกกัน ด้วยความที่นางเป็นคนรักษาสัจจะ วันนี้นางจึงพาเจ้านกฮวยบี๊ของฮ่องเต้ออกมา

“ข้า… ข้าแค่ขอยืมมันมาใช้ประเดี๋ยวเดียวเท่านั้น ข้าขออนุญาตฝ่าบาทแล้ว ฝ่าบาททรงไม่คัดค้าน!”

ทว่าตอนที่องค์หญิงน้อยขออนุญาตคือตอนที่ฝ่าบาทกำลังบรรทมอยู่

องค์หญิงน้อยใส่เจ้านกฮวยบี๊ไว้ในกระเป๋าหนังสือ จากนั้นนำมันออกมาเมื่อถึงเวลาเรียนพิเศษ

ขณะที่จิ้งคงผิวปาก (แต่ไม่มีเสียงออกมาเลยสักนิด) เรียกเจ้าเสียวจิ่วออกมา (เพราะได้ยินเสียงตะโกนทั้งนั้น)

เด็กทั้งสองมีความเห็นไม่ตรงกัน จิ้งคงคิดว่าการประลองนกคือวัดกันที่ขนาด ในขณะที่องค์หญิงน้อยมองว่าต้องวัดกันที่รูปลักษณ์และความสวยงาม

ทั้งสองต่างก็มั่นใจในนกของตัวเอง!

จากนั้น พอนกทั้งสองตัวมาเจอกัน เด็กทั้งสองถึงกับตะลึงงึงงัน

เจ้าเสี่ยวจิ่วไม่พูดพร่ำเพลงใดๆ และบินโฉบเข้าไปงับเจ้านกฮวยบี๊ที่อยู่ในมือขององค์หญิงน้อยอย่างไม่เหลือแม้แต่ซากขน

จิ้งคง “…”

องค์หญิงน้อย “…”

ณ หอเทียนเซียง

หลังจากแสดงเสร็จ กู้เฉิงเฟิงเดินไปหลังเวทีเพื่อถอดเสื้อผ้าและลบเครื่องสำอางออก จากนั้นสวมชุดสีฟ้าอ่อนแล้วขึ้นไปที่ชั้นสอง

เซียวเหิงและกู้เจียวอยู่ในห้อง

เซียวเหิงยังคงยืนอยู่บนระเบียง มองไปยังทิศทางเดิมที่รถม้าคันนั้นเคลื่อนตัวไป

กู้เจียวไม่ได้เกลี้ยกล่อมเขา เอาแต่แทะแตงโมของซ่างกวานเยี่ยนอยู่ข้างกายเขาเงียบๆ

รสชาติของแตงโมทั้งหวานฉ่ำและสดชื่น

เวลานี้เซียวเหิงไม่ต้องการคำพูดใดๆ ขอแค่มีคนอยู่เคียงข้างเขาเป็นพอ

“ขอโทษด้วยที่ข้าละเลยเจ้า” เซียวเหิงหันมาพูดกับกู้เจียวอย่างรู้สึกผิด

กู้เจียวส่ายศีรษะพร้อมกับแก้มตุ่ยๆ ของนาง

หญิงผู้นั้นไม่เพียงแต่คว้านแตงโมให้เป็นลูกกลมๆ อย่างสวยงามเท่านั้น แต่ยังเอาเมล็ดทั้งหมดออกด้วย

กู้เจียวกินมันอย่างเอร็ดอร่อย

ยิ่งได้อยู่ข้างๆ คุณสามีก็ยิ่งเพิ่มความสุขขึ้นเป็นทวีคูณ

คนสองคนเมื่ออยู่ด้วยกันไม่จำเป็นต้องมีบทสนทนากันเสมอไป การได้อยู่เคียงข้างอย่างเงียบๆ ก็สามารถเติมเต็มความสุขได้เช่นกัน

เหลือแตงโมอีกสองชิ้น

กู้เจียวป้อนมันให้เขา

เซียวเหิงอ้าปากและกินมันเข้าไป

“หวานใช่ไหมล่ะ” กู้เจียวถาม

“อื้อ” เขาพยักหน้า “หวานมาก”

กู้เจียวป้อนแตงโมชิ้นสุดท้ายให้เขา จากนั้นก็เงยหน้าซดน้ำแตงโมที่เหลืออย่างเพลิดเพลิน

น้ำแตงโมทิ้งรอยไว้เหนือปากกระจับของนางราวกับหนวดสีแดง

เสี่ยวเหิงรู้สึกขบขันเมื่อได้เห็นดังนั้น ความเศร้าโศกในใจของเขาค่อยๆ จางหายไป เขาหยิบผ้าเช็ดหน้าสะอาดออกมาแล้วเช็ดให้ภรรยาอย่างเบามือ

ท่าทางและแววตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยน

กู้เจียวไม่ขยับและเงยหน้าให้เขาเช็ดอย่างว่าง่าย

และบังเอิญที่กู้เฉิงเฟิงกลับมาถึงห้องและได้เห็นภาพนี้พอดี

เขาเบะปากพร้อมกับบ่นอุบอิบ “ยัยตัวดี อยู่กับเจ้านั่นทำมาเป็นเชื่อฟัง ทีตอนอยู่กับข้าทำตัวอย่างกับเด็กนรกส่งมาเกิด!”

ปัง ปัง ปัง!

กู้เฉิงเฟิงเคาะประตูอย่างไม่เกรงใจ

พอเซียวเหิงได้ยินเสียง ก็เป็นจังหวะที่เขาเช็ดปากให้เสร็จและกำลังเก็บผ้าอยู่พอดี

ขณะที่กู้เจียวหันมาถลึงตาใส่กู้เฉิงเฟิง ไม่รู้งานอีกแล้วนะ!

กู้เฉิงเฟิงเห็นดังนั้นก็กัดฟันแน่น เด็กบ้า!

เขาเดินเข้าไปในห้อง รินชาให้ตัวเอง พร้อมกับเอ่ยขึ้นลอยๆ “อย่าหาว่าข้าไม่เตือนนะ แต่อีกครึ่งชั่วยามประตูเมืองชั้นในจะปิดแล้ว”

เซียวเหิงบีบที่มือของกู้เจียวเบาๆ

กู้เจียวเองก็บีบมือของเขา

และเป็นอีกครั้งที่กู้เฉิงเฟิงต้องมารับบทก้านขวางคอ หมั่นไส้จนแทบอยากจะคว่ำโต๊ะมันตอนนี้เลย!

พวกเจ้าจะเกินไปแล้วนะ!

นี่มันห้องของข้า!

จะทำอะไรกันน่ะ…

อย่ามาทำเรื่องบัดสีบัดเถลิงที่ห้องของข้านะ!

สามีข้าคือขุนนางใหญ่

สามีข้าคือขุนนางใหญ่

Score 10
Status: Completed
นิยายแปลไทยเรื่อง : สามีข้าคือขุนนางใหญ่ ชื่อภาษาอังกฤษ : The Grand Secretary's Pampered Wife ผู้เขียน : เพียนฟางฟาง(偏方方) ในอนาคตเขาจะได้เป็น 'ขุนนางใหญ่' อย่างนั้น 'เจ้' คนนี้จะประคอง 'สามี' คนนี้ ให้ไปถึงฝั่งฝันนั้นเอง! รายละเอียด นิยายโรแมนติก-คอเมดี้ ผู้เขียนเดียวกับเรื่องหมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม! จากสายลับสาวสวยแห่งยุคปัจจุบันต้องทะลุมิติมาอยู่ในร่างของ กู้จียว หญิงอัปลักษณ์สติไม่สมประกอบแห่งหมู่บ้านชนบทห่างไกล แม้สติไม่สมประกอบแต่ชอบคนหน้าตาดี กรรมเลยไปตกที่ เชียวลิ่วหลัง ที่เจ้าของร่างช่วยเหลือเอาไว้โดยบังเอิญ เพราะบุญคุณเชียวลิ่วหลังจึงต้องแต่งเข้าอย่างไม่เต็มใจและยังรังเกียจเจ้าของร่างเดิมสุดใจ แต่พราะ "ฝันบอกเหตุ' ที่ร่างเดิมมีทำให้ กู้เจียวคนหม่ได้รู้ว่าเขี้ยวลิ่วหลังสามีของนางคนนี้ ในนาคตจะได้กลายเป็นขุนนางใหญ่ของราชสำนัก เพราะงั้นนางจะปกป้องเขาจากภัยร้ยทั้งหลายเพื่อประคองเขาชื้นสู่ตำแหน่งอย่างราบรื่นเอง!

Options

not work with dark mode
Reset