ตำนานเทพกู้จักรวาล 769 กายาจ้าวแดนดินแห่งหลงฮั่น

ตอนที่ 769 กายาจ้าวแดนดินแห่งหลงฮั่น

ภูติ​บดี​มอง​ไป​ที่​หว่าง​คิ้ว​ของ​เขา​และ​กล่าว​ “แน่นอน​ว่า​ก็​ต้อง​เป็น​โอรส​ศักดิ์สิทธิ์​ใต้พิภพ​ที่อยู่​ใน​ใจกลาง​หว่าง​คิ้ว​ของ​เจ้า ข้า​จะไม่รู้​ได้​อย่างไร​ก็​ใน​เมื่อ​ข้า​เป็น​ผู้​ที่​ตรึง​สะกด​เขา​เอาไว้​ด้วย​ตนเอง​ บน​ใบ​หลิว​นี้​ก็​ยังมี​เวท​ปิดผนึก​ของ​เทพ​สรรพ​ชีวิต​ เจ้าได้​พบ​กับ​เทพ​สรรพ​ชีวิต​ และ​เขา​ก็​ช่วย​เจ้าปิดผนึก​โอรส​ศักดิ์สิทธิ์​ใต้พิภพ​ตัวแสบ​ ข้า​พูด​ถูก​ไหม​ แต่ทว่า​ ที่​น่าแปลก​ก็​คือ​ เจ้าสามารถ​ควบคุม​พลัง​อำนาจ​ของ​โอรส​ศักดิ์สิทธิ์​ใต้พิภพ​ได้​อย่างไร​…”

เดิมที​เขา​ไม่ได้​ขบคิด​เรื่อง​นี้​อย่าง​ละเอียด​ แต่​หลังจากที่​คิด​ๆ ดู​แล้ว​ มัน​ก็​เป็นเรื่อง​น่า​เหลือเชื่อ​ที่​ฉิน​มู่สามารถ​ขับเคลื่อน​พลัง​อำนาจ​ของ​โอรส​ศักดิ์สิทธิ์​ใต้พิภพ​ได้​

ใน​สายตา​ของ​ภูติ​บดี​ ฉิน​มู่ก็​จะถูก​แทรกซึม​โดย​โอรส​ศักดิ์สิทธิ์​ใต้พิภพ​ไม่ช้าก็เร็ว​ และ​ใน​การศึก​ที่​ด่าน​กุญแจ​หยก​ก่อนหน้านี้​ ฉิน​มู่สามารถ​ปลดปล่อย​พลัง​อำ​นา​ของ​โอรส​ศักดิ์สิทธิ์​ใต้พิภพ​ได้​ และ​กระทั่ง​ปิดผนึก​พลัง​อำนาจ​นี้​กลับ​เข้าไป​ใหม่​ นี่​มัน​น่าสงสัย​เอา​มาก​ๆ

ฉิน​มู่กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ “ย่อม​ต้อง​มีใคร​บางคน​ที่​ช่วยเหลือ​ข้า​”

ภูติ​บดี​พึมพำ​กับ​ตนเอง​ครู่หนึ่ง​แล้ว​กล่าว​ “ให้​ข้า​เข้าไป​ข้างใน​สักหน่อย​ เพื่อ​ดู​เป็น​สหาย​เต๋า​คนใด​”

เขา​ยืน​อยู่​ตรงนั้น​โดย​ไม่ไหวติง​ และ​ใน​แผ่นดิน​รูป​ตัว​ฉิน​ ลาวา​ก็​พัน​ผุด​พลุ่ง​ขึ้น​มาจาก​พื้น​ และ​แปรเปลี่ยน​ให้​กลายเป็น​ทะเลสาบ​หิน​หลอมเหลว​ ลาวา​ใน​ทะเลสาบ​หมุน​วน​ และ​เขา​คู่​หนึ่ง​อัน​มีเก้า​บิด​ก็​ผุด​ขึ้น​มาจาก​ทะเลสาบ​ ถัด​จากนั้น​ก็​เป็น​ร่าง​ลาวา​อัน​ใหญ่โต​ของ​ภูติ​บดี​

ภูติ​บดี​ลาวา​หยุด​หมุน​วน​ และ​ร่างกาย​มหึมา​ของ​เขา​ก็​เดิน​ออก​มาจาก​ทะเลสาบ​หิน​หลอมเหลว​ ลาวา​ไหล​ลง​จาก​ภูติ​บดี​อย่าง​ต่อเนื่อง​ จุด​พื้นดิน​ให้​ลุกเป็นไฟ​

ทารก​หัวโต​กำลัง​ชะโงก​หัว​ลง​ไป​ใน​กระถาง​สังหาร​เพื่อ​ดู​ว่า​มีอะไร​ข้างใน​กระถาง​หรือไม่​ ส่วน​จักรพรรดิ​แดงฉาน​นั้น​อยู่​ข้างๆ​ เทพ​ครอง​ดาว​มหา​ตะวัน​ รับฟัง​เรื่อง​ซุบซิบ​ของ​เขา​ด้วย​ความสนใจ​ใหญ่หลวง​ ขณะเดียวกัน​นั้น​เทพ​สรรพ​ชีวิต​ก็​ซ่อนตัว​อยู่​ข้างหลัง​ภูเขา​

ภูติ​บดี​ลาวา​มอง​ไป​รอบ​ๆ และ​เขา​ก็​ตื่น​ตะลึง​ เขา​กะพริบ​ดวงตา​ทั้ง​สามดวง​ปริบๆ​

แผ่นดิน​รูป​ตัว​ฉิน​สร้าง​ขึ้น​มาจาก​ดินแดน​แห่ง​ความมืด​ใน​เขา​ของ​เขา​ อัน​เขา​ได้​หลอม​สร้าง​ขึ้น​มาเป็น​เวท​ปิดผนึก​ เขา​เปลี่ยน​มัน​ให้​กลายเป็น​จี้หยก​ ใน​ภายหลัง​ฉิน​เฟิงชิงพยายาม​จะหลบหนี​ไป​หลายครั้ง​ ดังนั้น​เขา​จึงต้อง​เสริม​ความ​แข็งแกร่ง​ให้​กับ​เวท​ปิดผนึก​อย่าง​หลีกเลี่ยง​ไม่ได้​ และ​ฟาด​จี้หยก​นี้​เข้าไป​ใน​ดวงตา​ที่สาม​ของ​ฉิน​มู่

แม้ว่า​เวท​ปิดผนึก​เขา​จะเป็น​คน​สร้าง​กับ​มือ​ แต่​เขา​ก็​ไม่คาดคิด​ว่า​แผ่น​ปฐพี​นี้​จะคึกคัก​ได้​อย่าง​ที่​เห็น​

เขา​เงย​ศีรษะ​ขึ้น​มอง​ท้องฟ้า​ และ​เวท​ปิดผนึก​สามรูปแบบ​ก็​ปรากฏ​อยู่​ท่ามกลาง​วงจร​อักษร​รู​นบ​น​เวหา​ หนึ่ง​นั้น​เป็น​เวท​ปิดผนึก​ใต้พิภพ​ของ​เขา​ หนึ่ง​นั้น​เป็น​เวท​ปิดผนึก​พุทธ​ของ​พุทธเจ้า​พรหม​ และ​ยังมี​อีก​หนึ่ง​ที่​เป็น​เวท​ปิดผนึก​แดน​ปริศนา​

“พุทธเจ้า​พรหม​”

ภูติ​บดี​มอง​ไป​ที่​พุทธเจ้า​บน​ท้องฟ้า​ และ​เขา​ก็​ผงกศีรษะ​ ฉิน​มู่ได้​ไป​ยัง​สวรรค์​ยี่สิบ​ชั้น​แห่ง​พุทธ​เกษตร​มาก่อน​ และ​สันดาน​มาร​ของ​เขา​ก็​สูญเสีย​การควบคุม​ที่นั่น​ เขา​ได้​แปรเปลี่ยน​สวรรค์​ชั้น​พรหม​ครึ่งหนึ่ง​ให้​กลาย​เป็นแดน​ใต้พิภพ​

ไม่น่าแปลกใจ​เลย​ว่า​ทำไม​ถึงมีเวท​ปิดผนึก​ของ​พุทธเจ้า​พรหม​อยู่​ที่นี่​

จากนั้น​เขา​ก็​มอง​ไป​ยัง​เทพ​ครอง​ดาว​มหา​ตะวัน​ และ​สายตา​ของ​เขา​ก็​ละ​ไป​จากร่าง​ของ​เทพ​ครอง​ดาว​มหา​ตะวัน​

เทพ​ครอง​ดาว​มหา​ตะวัน​ตาย​ไป​นาน​แล้ว​ และ​เขา​คงจะ​เพิ่ง​ถูก​คร่า​ตัว​มาที่นี่​

“จักรพรรดิ​แดงฉาน​”

สายตา​ของ​เขา​ทอด​ไป​ตก​ที่​จักรพรรดิ​แดงฉาน​ “จักรพรรดิ​แดงฉาน​ได้​พบ​กับ​จักรวาล​เล็ก​ๆ ที่​หดตัว​ อัน​สามารถ​หลบเลี่ยง​แสงสว่าง​แห่ง​แดน​ปริศนา​ และ​การควบคุม​บังคับ​ของ​แดน​ใต้พิภพ​ แม้แต่​ข้า​ก็​ไม่อาจ​ค้นพบ​ว่า​จักรพรรดิ​แดงฉาน​ถูก​กลบ​ฝังเอาไว้​ที่ไหน​ ไม่คิด​เลย​ว่า​ข้า​จะได้​พบ​กับ​สหาย​เต๋า​จาก​อดีต​ที่นี่​”

สำนึก​รู้​ของ​จักรพรรดิ​แดงฉาน​รีบ​คารวะ​ทักทาย​และ​กล่าว​ “พี่​ทาง​เต๋า​ ข้า​ได้​ใช้ร่างกาย​ของ​ข้า​เพื่อ​สมาน​จักรวาล​เล็ก​ๆ อัน​หดตัว​แห่ง​นั้น​ และ​ทำให้​มัน​เป็นที่​พักพิง​สุดท้าย​ของ​ผู้คน​ของ​ข้า​ ดวงวิญญาณ​ของ​ข้า​ได้​แตกสลาย​และ​ตาย​ไป​นาน​แล้ว​”

ภูติ​บดี​ลาวา​กล่าว​ “เมื่อ​เจ้าใช้สำนึก​รู้​เทพ​อมตะ​ไป​บอกข่าว​แก่​จักรพรรดิ​แสงข้า​ก็​สัมผัส​ได้​ถึงความเคลื่อนไหว​สำนึก​รู้​เทพ​อมตะ​ของ​เจ้า”

เขา​หันไป​มอง​ฉิน​เฟิงชิง ผู้​ซึ่งโงหัว​ขึ้น​มาจาก​กระถาง​สังหาร​ ทารก​ยักษ์​ซ่อนตัว​อยู่​หลัง​กระถาง​และ​ชะโงก​หัว​ออกมา​ดู​เขา​ เขา​นั้น​เหมือนกับ​แมว​ที่​กำลัง​เตรียม​จะตะปบ​เหยื่อ​ เมื่อ​เขา​ถูมือ​ไปมา​อย่าง​กระวนกระวาย​

ภูติ​บดี​ลาวา​ไม่สนใจ​เขา​และ​มอง​ไป​ที่​ภูเขา​แห่ง​แผ่นดิน​รูป​ตัว​ฉิน​ “ทำไม​พี่​ทาง​เต๋า​แดน​ปริศนา​ต้อง​ซ่อนตัว​ด้วย​เล่า​ ข้า​เห็น​เจ้าแล้ว​”

ผู้เฒ่า​หนวด​ขาว​เดิน​ออก​มาจาก​ข้างหลัง​ภูเขา​และ​หัวเราะ​ “พี่​ทาง​เต๋า​แดน​ใต้พิภพ​ ข้า​ได้​รอ​การ​มาของ​เจ้าอยู่​ และ​เจ้าก็​มาจริงๆ​! ตอนนี้​แผ่น​ปฐพี​นี้​นับ​ได้​ว่า​รวบ​รวมยอด​ฝีมือ​แห่ง​สวรรค์​และ​พิภพ​!”

ภูติ​บดี​มอง​ไป​ที่​เขา​และ​ไม่เปล่ง​วาจา​

เทพ​สรรพ​ชีวิต​มีสีหน้า​เยือกเย็น​ และ​มอง​ด้วย​ท่วงท่า​ราวกับ​เป็น​ผู้​ศักดิ์สิทธิ์​เหนือ​โลก​อัน​ลี้ลับ​เปี่ยม​ปริศนา​

ผ่าน​ไป​นาน​ ใบหน้า​ของ​ภูติ​บดี​ก็​เริ่ม​เผย​รอยยิ้ม​ และ​รอยยิ้ม​ของ​เขา​ก็​กว้าง​ขึ้น​เรื่อยๆ​ เทพ​เจ้าที่​ควบคุม​แดน​ใต้พิภพ​ผู้​นี้​อด​ไม่ได้​ที่จะ​หัวเราะ​ เขา​หัวเราะ​จนกระทั่ง​หายใจไม่ออก​ ต้อง​งอ​ตัว​จน​ใช้มือ​ยัน​เข่า​เอาไว้​

เทพ​สรรพ​ชีวิต​สีหน้ามืด​ดำ​ และ​เขา​ถามอย่า​เย็นชา​ “เจ้าหัวเราะ​พอ​หรือยัง​”

เสียงหัวเราะ​ของ​ภูติ​บดี​ค่อยๆ​ ซาลง​ไป​ เขา​เหลือบ​แลดู​อีก​ฝ่าย​แวบ​หนึ่ง​ และ​อด​ไม่ได้​ที่จะ​หัวเราะ​อีกครั้ง​

ใน​ตอนนั้น​เอง​ ทารก​หัวโต​ที่ซ่อน​อยู่​หลัง​กระถาง​ก็​ถูมือ​และ​เท้า​ ก่อนที่จะ​กระโจน​เข้ามา​เหมือน​แมว​ตัว​หนึ่ง​ เขา​ขย้ำ​เข้าใส่​หลัง​ของ​ภูติ​บดี​ และ​กล่าว​ “ข้า​จับ​เจ้าได้​แล้ว​! เมื่อ​ข้า​กิน​เจ้า ข้า​ก็​จะกลายเป็น​ภูติ​บดี​!”

ภูติ​บดี​ลาวา​รีบ​สลัด​ร่าง​และ​พยายาม​ที่จะ​เขย่า​เขา​ออก​ไป​ แต่​ก็​ไม่อาจ​สะบัด​หลุด​ไป​ได้​ไม่ว่า​จะอย่างไรก็ตาม​ จน​แตกตื่น​ไป​เล็กน้อย​ เขา​ไม่มีทางเลือก​นอก​เสีย​จากลอย​ขึ้น​มาจาก​พื้น​ และ​มอง​ขึ้นไป​บน​ท้องฟ้า​

ภูติ​บดี​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ถอนหายใจ​และ​กล่าว​ “อย่า​คิด​เลย​ ใบ​หลิว​ถูก​ปิด​ลงมา​แล้ว​ พวกเรา​จะหลบหนี​ไป​ได้​ก็ต่อเมื่อ​ทลาย​ฝ่าเวท​ปิดผนึก​เท่านั้น​”

“ไม่อร่อย​สักนิด​”

ทารก​หัวโต​สับ​ภูติ​บดี​เป็น​ชิ้นๆ​ และ​หมด​ความสนใจ​ใน​ตัว​เขา​ เขา​วิ่ง​ไป​เล่น​สนุก​กับ​ทะเล​บาดาล​ใน​กระถาง​สังหาร​ต่อ​

ภูติ​บดี​ปะติดปะต่อ​ร่างกาย​เข้าด้วยกัน​และ​ลุกขึ้น​ยืน​ “พวกเรา​ยัง​สามารถ​หลบหนี​ไป​ได้​หากว่า​ดึง​ใบ​หลิว​ออก​ไป​จาก​ข้างนอก​”

เทพ​สรรพ​ชีวิต​ปีติ​ยินดี​ และ​เร่งเร้า​เขา​ “ถ้าอย่างนั้น​ เจ้าก็​เปิด​สิ!”

ภูติ​บดี​เงียบ​ไป​

เทพ​สรรพ​ชีวิต​มอง​เขา​ด้วย​ความสงสัย​ ภูติ​บดี​ไม่พูด​สัก​แอะ​ ผ่าน​ไป​นาน​ เขา​จึงกล่าว​ “สหาย​เต๋า​ อย่า​เอาแต่​จ้อง​ข้า​”

ร่าง​แยก​ของ​เทพ​สรรพ​ชีวิต​เร่งเร้า​เขา​ “ทำไม​เจ้าไม่ปลด​ใบ​หลิว​ออก​”

ภูติ​บดี​ลาวา​เงียบ​ไป​อีกครั้ง​ก่อนที่จะ​กล่าว​ “เขา​ได้​เอา​เรือ​ของ​ราชันย์​ขุนนาง​ไป​และ​ไป​ถึงโลก​แห่ง​คน​เป็น​เรียบร้อย​แล้ว​”

ร่าง​แยก​เทพ​สรรพ​ชีวิต​อ้าปากค้าง​ และ​เขา​ก็​ระบาย​ลมหายใจ​สะท้าน​หลังจาก​อึดใจหนึ่ง​ “เจ้าถูก​ไอ้​เด็ก​แสบ​นั่น​หลอก​เข้า​แล้ว​ แต่​ก็ดี​เหมือนกัน​ พวกเรา​สามารถ​ใช้ชีวิต​ที่นี่​ได้​สบายดี​ ยิ่งไปกว่านั้น​ที่นี่​ยังมี​ความลับ​ให้​พวกเรา​ฟังมากมาย​ นอกจาก​การ​ถูก​ทารก​หัวโต​นั่น​อัด​จน​น่วม​เป็นครั้งคราว​ตอนที่​เขา​โมโห​แล้ว​ ก็​ไม่มีอะไร​แย่​เลย​สักนิด​”

ภูติ​บดี​ลาวา​ยังคง​จ้อง​เขา​อยู่​ “เจ้าก็​มีโอกาส​ตั้ง​มากมาย​ที่จะ​ออก​ไป​ ตราบใดที่​เขา​ปลด​ใบ​หลิว​ออก​ เจ้าก็​สามารถ​หลบหนี​ไป​ได้​ แล้ว​ทำไม​เจ้ายังอยู่​ที่นี่​ต่อ​”

เทพ​สรรพ​ชีวิต​เงียบ​ไป​

“แดน​ปริศนา​ไม่น่าสนใจ​”

เขา​กล่าว​ “เทพเจ้า​ใน​แดน​ปริศนา​ล้วนแต่​เป็น​อิทธิพล​อำนาจ​ของ​สภาสวรรค์​ทั้งนั้น​ สถานการณ์​ของ​ข้า​น่าสังเวช​เสีย​ยิ่งกว่า​เจ้า ดังนั้น​จึงชอบ​ที่นี่​มากกว่า​แดน​ปริศนา​ นก​น้อย​ เจ้าเพิ่ง​พูด​เรื่อง​การลอบสังหาร​จักรพรรดินี​ฟ้านี่​ เจ้ายัง​พูด​ไม่จบ​เลย​ พวกเรา​มาฟังกัน​ต่อ​!”

เทพ​ครอง​ดาว​มหา​ตะวัน​มอง​ไป​ยัง​ภูติ​บดี​ ก่อนที่จะ​เหลือบมอง​ทารก​หัวโต​ เทพ​สรรพ​ชีวิต​แย้มยิ้ม​และ​กล่าว​ “ใน​เมื่อ​ตอนนี้​มีภูติ​บดี​อยู่​ด้วย​ พวกเรา​ก็​จะขวัญ​กล้า​ได้​มาก​อีกหน่อย​ หากว่า​โอรส​ศักดิ์สิทธิ์​ใต้พิภพ​กล้า​ที่จะ​กิน​เจ้า พวกเรา​สามารถ​ร่วมมือ​กัน​เพื่อ​สะกด​ข่ม​เขา​ได้​!”

เทพ​ครอง​ดาว​มหา​ตะวัน​เต็มไปด้วย​ความ​ปรีดา​

ทันใดนั้น​ พวกเขา​ก็​ได้ยิน​เสียง​ลม​หวีดหวิว​ดัง​มา ฉิน​เฟิงชิงกำลัง​กระตุ้น​การทำงาน​ของ​กระถาง​สังหาร​ใบ​นั้น​ และ​พลานุภาพ​อันตราย​ใน​กระถาง​ก็​แล่น​พล่าน​ออก​ ท้องฟ้า​แทบจะ​ปริ​แยก​ และ​ขุนเขา​ที่​ไกลๆ​ ก็​กุด​ด้วน​ พวก​มัน​แทบจะ​ถูก​ทำลาย​ไป​ถึงโคน​ด้วย​พลานุภาพ​อันตราย​ของ​กระถาง​สังหาร​

พุทธเจ้า​บน​ท้องฟ้า​ก็​สั่น​ไหว​โคลงเคลง​จาก​พลานุภาพ​อันตราย​นั้น​

ใบหน้า​ของ​ทุกคน​ซีด​ขาว​ และ​ก็​ล้วนแต่​มีสังหรณ์​ร้าย​ใน​ใจ

“โอรส​ศักดิ์สิทธิ์​ใต้พิภพ​ยัง​เติบโต​ขึ้น​อีก​ เขา​คงจะ​มีพลัง​อำนาจ​ขั้น​บัลลังก์​จักรพรรดิ​ในไม่ช้า​ และ​เขา​ถึงกับ​สามารถ​ขับเคลื่อน​พลานุภาพ​อันตราย​ของ​กระถาง​สังหาร​ได้​!”

ที่​สันติ​นิรันดร์​ ฉิน​มู่พา​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​กระโดด​ออกจาก​เรือ​กระดาษ​ เขา​เห็น​ว่า​ใน​สันติ​นิรันดร์​ตอนนี้​เป็นเวลา​กลางคืน​แล้ว​ เมือง​ที่​ห่างไกล​ออก​ไป​จุด​ตะเกียง​ส่องสว่าง​

“วิญญูชน​สวรรค์​โย​ว​ ส่งข้า​ตรงนี้​ก็​พอ​” ฉิน​มู่กล่าว​

ผู้เฒ่า​นำทาง​ความตาย​มอง​ไป​ที่​เขา​และ​กล่าว​ “ข้า​จะต้อง​บันทึก​ที่​เจ้าวางแผน​ตลบหลัง​ภูติ​บดี​ไว้​ใน​สมุด​น้อย​ของ​เจ้า”

ฉิน​มู่กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ “เขียน​ไป​เถอะ​ อย่างไร​ก็​ไม่ต่างกัน​”

“เจ้าไม่มีอะไร​จะเสีย​นี่​นะ​”

ผู้เฒ่า​นำทาง​ความตาย​ส่าย​หัว​ และ​พลัน​โค้ง​คารวะ​ให้​แก่​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ “วิญญูชน​สวรรค์​มู่ โปรด​ดูแล​พี่ใหญ่​ด้วย​” หลังจากที่​เขา​กล่าว​เช่นนั้น​ เรือ​น้อย​ก็​แล่น​เข้าไป​ใน​ความมืด​และ​หายวับ​

ฉิน​มู่มอง​ส่งเขา​ไป​ ก่อนที่จะ​พา​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ไป​ยัง​สถาบัน​นักบุญ​สวรรค์​ เขา​มีเจตนา​ของ​ตน​ที่​ให้​ผู้เฒ่า​นำทาง​ความตาย​ส่งพวกเขา​มายัง​สถาบัน​นักบุญ​สวรรค์​

วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​นั้น​เป็น​กระดาษ​ขาว​แผ่น​หนึ่ง​ เขา​ไม่เข้าใจ​อะไร​สัก​สิ่ง และ​ก็​ไม่รู้​อะไร​สัก​อย่าง​ แม้แต่​การ​กิน​และ​การ​ดื่ม​ก็​ต้อง​อาศัย​ฉิน​มู่ช่วยดูแล​ให้​ ดังนั้น​เขา​จึงจำเป็นต้อง​สอน​ถึงเรื่อง​พื้นฐาน​ที่สุด​เกือบจะ​ทั้งหมด​ ยิ่งไปกว่านั้น​ เขา​ไม่อาจ​สอน​ทักษะ​เท​วะ​ใดๆ​ ให้ได้​ มิเช่นนั้น​จะกลาย​เป็นการ​ทำลาย​ต้นกล้า​อ่อน​ที่​ดี​ต้น​นี้​ไป​

วิธีการ​ที่​ดี​ที่สุด​คือ​สอน​อักษร​รู​น​พื้นฐาน​ให้​แก่​เขา​ทั้งหมด​ และ​ให้​เขา​ตรึกตรอง​ทำความเข้าใจ​ด้วย​ตนเอง​

ใน​เช้าตรู่​วัน​ถัดไป​ ฉิน​มู่โยน​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​เข้าไป​ใน​โรงเรียนประถม​ฐาน​ และ​ให้​เขา​เรียน​อักษร​รู​นของ​สี่มหา​กา​ยา​วิญญาณ​กับ​ของ​ห้า​ดาว​ธาตุ​ เมื่อ​มาถึงวัน​ที่สอง​ ครู​ใน​ชั้นเรียน​นั้น​ก็​พา​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​กลับมา​และ​กล่าว​ “จ้าว​ลัทธิ​ เขา​สำเร็จ​เชี่ยวชาญ​ทุกอย่าง​ เขา​ไม่มีอะไร​จะสอน​เขา​แล้ว​ ยิ่งไปกว่านั้น​ เขา​ยัง​เอาชนะ​การต่อย​ตี​กับ​บัณฑิต​ทั้งหลาย​แห่ง​โรงเรียนประถม​ฐาน​”

ฉิน​มู่อ้าปากค้าง​ เขา​ลอง​ทดสอบ​ความรู้​ของ​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ และ​เขา​ก็ได้​เรียนรู้​อักษร​รู​น​พื้นฐาน​ทั้งหมด​สำหรับ​หงส์แดง​ เต่าดำ​ และ​อื่นๆ​ จน​ครบถ้วน​ เขา​ยัง​สามารถ​อนุมาน​สิ่งต่างๆ​ มากมาย​จาก​อักษร​รู​น​เหล่านั้น​ และ​สร้างสรรค์​ทักษะ​เท​วะ​ชนิด​ต่างๆ​ แม้ว่า​พวก​มัน​จะยัง​หยาบ​อยู่​มาก​ แต่​ก็​ไม่นับว่า​อ่อนแอ​

หรือว่า​เขา​จะเป็น​กา​ยา​จ้าว​แดนดิน​จริงๆ​

ฉิน​มู่พา​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ไป​ฟังการสอน​บรรยาย​ของ​ผู้ใหญ่บ้าน​ สิ่งที่​ผู้ใหญ่บ้าน​ถ่ายทอด​นั้น​คือ​วิชา​กระบี่​พื้นฐาน​ที่สุด​ วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ใช้เวลา​สอง​วัน​เพื่อ​สำเร็จ​เชี่ยวชาญ​ทุกอย่าง​ และ​นั่น​ทำให้​ผู้ใหญ่บ้าน​ต้อง​เหงื่อ​แตก​

“เขา​เป็น​กา​ยา​จ้าว​แดนดิน​ใช่ไหม​” ฉิน​มู่ถาม

ผู้ใหญ่บ้าน​เหม่อลอย​ เขา​ลังเล​และ​กล่าว​ “ดูเหมือนว่า​จะ…เจ้าไป​ได้ตัว​เด็ก​คน​นี้​มาจาก​ที่ไหน​”

“จาก​เมื่อ​หนึ่ง​ล้าน​ปีก่อน​”

ผู้ใหญ่บ้าน​ยิ่ง​สับสน​ และ​พึมพำ​กับ​ตนเอง​ “กา​ยา​จ้าว​แดนดิน​จาก​เมื่อ​หนึ่ง​ล้าน​ปีก่อน​ ช้าก่อน​ ข้า​เริ่ม​จะวิงเวียน​…”

ฉิน​มู่พา​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ไป​ยัง​ชั้นเรียน​ของ​คน​แล่​เนื้อ​ เพื่อ​เรียน​เพ​ลงดาบ​สวรรค์​ของ​เขา​ วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ก็​สำเร็จ​มัน​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​

“มู่เอ๋อ​ เจ้าหนุ่ม​นี่​มัน​ฉลาด​กว่า​เจ้ามาก​” คน​แล่​เนื้อ​หัวเราะ​ฮาฮา

ฉิน​มู่แค่น​เสียง​เฮอะ​อย่าง​ไม่สบอารมณ์​ เขา​กล่าว​ “ข้า​เอง​ก็​ใช้เวลา​หลาย​วัน​เพื่อ​จะเรียน​เพ​ลงดาบ​พื้นฐาน​ แต่​ยาก​ที่จะ​สำเร็จ​เชี่ยวชาญ​ทั้งหมด​”

“เขา​เรียนรู้​ได้​เร็ว​กว่า​เจ้า และ​ปฏิภาณ​ความเข้าใจ​ของ​เขา​ก็​สูงล้ำ​กว่า​เจ้า”

คน​แล่​เนื้อ​กล่าว​ “เขา​ดูเหมือน​จะหัวไว​เสีย​ยิ่งกว่า​ซวี​เซิงฮวา​ เจ้าหนุ่ม​นั่น​!”

ฉิน​มู่มีสีหน้า​ดำคล้ำ​ และ​เขา​ก็​พา​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ไป​ยัง​ทุกๆ​ ชั้นเรียน​ใน​สถาบัน​นักบุญ​สวรรค์​ วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​สามารถ​สำเร็จ​เชี่ยวชาญ​วิชา​ทุกชนิด​ได้​อย่าง​รวดเร็ว​ เขา​ถึงกับ​สำเร็จ​ชั้นเรียน​พีชคณิต​และ​ชั้นเรียน​วิชา​เสกสรร​อัน​ยาก​หิน​ได้​อย่าง​ไม่ชักช้า​

หลังจาก​เวลา​สามเดือน​ เขา​ก็ได้​เรียน​อักษร​รู​น​พื้นฐาน​ และ​กระบวนท่า​พื้นฐาน​ทั้งหมด​ใน​สถาบัน​นักบุญ​สวรรค์​

เจ้าสำนัก​เต๋า​หลิน​เสวียน​ก็​ได้ยิน​ว่า​มีอัจฉริยะ​พีชคณิต​อยู่​ใน​สถาบัน​นักบุญ​สวรรค์​ ดังนั้น​เขา​จึงรีบรุด​มาจาก​สถาบัน​สำนัก​เต๋า​ เขา​หมาย​ที่จะ​พา​ตัว​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ไป​ยัง​สำนัก​เต๋า​เพื่อ​ศึกษา​พีชคณิต​ต่อ​ แต่​ถูก​ฉิน​มู่ตะเพิด​ไล่​ไป​

ใน​ท้ายที่สุด​ ฉิน​มู่โยน​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​เอาไว้​ใน​เรือน​บันทึก​สวรรค์​ อนุญาต​ให้​เขา​อ่านหนังสือ​บันทึก​ใดๆ​ ก็ตาม​ที่อยู่​ใน​นั้น​ เวลา​ผ่าน​ไป​อีก​หนึ่ง​เดือน​ และ​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ก็​เดิน​ออก​มาจาก​เรือน​บันทึก​สวรรค์​

ฉิน​มู่เผย​สีหน้า​ไม่เชื่อ​สายตา​ และ​เขา​ก็​ร้อง​ออกมา​ “เจ้าเรียนรู้​พวก​มัน​หมด​แล้ว​หรือ​”

วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ก้มหน้า​ลง​ด้วย​ความละอาย​ “ข้า​อ่าน​พวก​มัน​หมด​แล้ว​ แต่​ข้า​ไม่ได้​เรียนรู้​พวก​มัน​ ข้า​รู้สึก​ว่า​ใน​หนังสือ​เหล่านั้น​มีจุด​ผิดพลาด​อยู่​มากมาย​…”

ฉิน​มู่ระบาย​ลมหายใจ​สะท้าน​และ​ตั้งสติ​ตนเอง​ขึ้น​มา ความคิด​พิสดาร​พลัน​ผุด​ขึ้น​มาใน​ใจของ​เขา​ หรือว่า​ข้า​จะเป็น​กา​ยา​จ้าว​แดนดิน​ปลอม​ และ​เขา​จึงเป็น​กา​ยา​จ้าว​แดนดิน​แท้​…เป็นไปไม่ได้​ ข้า​ต้อง​พา​เขา​ไป​พบ​กับ​ซวี​เซิงฮวา​!

ที่​แผ่นดิน​ตะวันตก​ สถาบัน​เหนือ​ฟ้า

ซวี​เซิงฮวา​มีสีหน้า​เคร่งเครียด​เมื่อ​จ้อง​ไป​ยัง​วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​ตรงหน้า​เขา​ เขา​ถามหยั่งเชิง​ “กา​ยา​จ้าว​แดนดิน​?”

ฉิน​มู่ผงกศีรษะ​ด้วย​ความยากลำบาก​และ​กล่าว​อย่าง​ขมขื่น​ “เขา​ยัง​ชาญฉลาด​กว่า​ข้า​อี​ก.​..”

“มิน่าล่ะ​ข้า​ถึงรู้สึก​ว่า​ปฏิภาณ​และ​พรสวรรค์​ของ​เขา​ใกล้เคียง​กับ​ข้า​”

ซวี​เซิงฮวา​เอ่ย​ชมและ​กล่าว​ “ใน​ทันทีที่​เรียน​สิ่งใด​ก็​เข้าใจ​ได้​อย่าง​ฉับพลัน​! แต่ทว่า​ ทำไม​เขา​ดู​เซ่อ​ๆ ล่ะ​”

ตำนานเทพกู้จักรวาล

ตำนานเทพกู้จักรวาล

Score 10
Status: Completed

อ่าน ตำนานเทพกู้จักรวาล PDF ตอน 1 – 443 คลิกเพื่ออ่าน

( อ่านต่อด้านล่าง )


ในดินแดนรกร้าง ยังมีหมู่บ้านประหลาดซึ่งเต็มไปด้วยผู้เฒ่าพิการ ขาเป๋ เป็นใบ้ ตาบอด หูหนวก

เหล่าคนชราเก็บทารกแรกคลอดที่ลอยน้ำผ่านมาได้ เลี้ยงดูจนเติบใหญ่และตั้งชื่อให้ว่า… ฉินมู่

ฉินมู่ หนุ่มน้อยหน้าซื่อตาใสเจ้าของรอยยิ้มกระชากใจ ‘พี่สาว’ ทั้งหลาย แต่ทำให้ศัตรูเดือดแค้นเจียนตาย

บางคนก็เรียกเขาว่ากวางน้อยเซ่อซ่าที่เห็นเรื่องตื่นเต้นที่ไหนก็โดดไปมุงดู

ไม่ว่าเทพกับมารตีกัน ใครจะยกทัพไปยึดโลกมิติใด หลวงจีนคนนั้นจะกิ๊กกับราชาสวรรค์องค์ไหน

เป็นต้องเห็นเงาร่างหมอนี่ตลอด พับผ่าสิ!

ความอยากรู้อยากเห็นไร้สิ้นสุดของฉินมู่จะคลายปริศนาลึกลับของจักรวาลได้หรือไม่

ความลับของเทพเจ้าโบราณคืออะไร

ใครคือเงามืดที่คอยเก็บเกี่ยวต้นอ่อนของยอดยุทธ์วิชาเทวะตลอดหลายแสนปีที่ผ่านมา…

เด็กหนุ่มผู้นี้จะกลายเป็นผู้กอบกู้จักรวาลให้รอดพ้นจากการถูกทำลายล้างได้หรือไม่

นี่คือการผจญภัยของฉินมู่ผู้เจียมตัวว่าเก่งเป็นอันดับสองของทุกศาสตร์วิชาในโลก!

‘ฉินมู่กะพริบตาปริบอย่างใสซื่อ…แต่ผู้อื่นเห็นแล้วขนหัวลุกแทบตาย’

Options

not work with dark mode
Reset