บทที่ 1216 ชื่นชมในความสามารถ
บทที่ 1216 ชื่นชมในความสามารถ
หลังจากมาถึงห้องของซูเสี่ยวเถียน เธอก็หยิบม้วนผ้าออกมา
จริง ๆ หยิบมาจากระบบ ส่วนกระเป๋าเดินทางคือบังหน้า
“นี่คือวัสดุที่ฉันนำมาค่ะ เป็นผ้าที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ลองดูนะคะว่าใช้ได้หรือเปล่า”
ผ้าที่ได้รับการปรับปรุงใหม่?
พวกเขามองหน้ากัน เหมือนที่คาดเดาไว้จะถูกต้อง
นี่น่าจะเป็นผ้าที่จัดเพื่อใช้ในงานนิทรรศการแน่
“เนื้อผ้าดีมากเลย!” รัฐมนตรีต้วนรู้เรื่องผ้าดี หลังจากได้จับก็รู้เลยว่ามันต่างจากของที่ขายในท้องตลาดมาก
“ดีจริง ๆ ค่ะ แต่ว่าตอนนี้เรามีแค่ผ้า ไม่มีดีไซเนอร์กับช่างตัดเย็บค่ะ”
ทีแรกก็นึกว่าจะมีคนที่ว่าแฝงตัวมาในกลุ่มด้วย แต่ดันไม่มีเสียอย่างนั้น
“แล้วเสี่ยวเถียนออกแบบกับตัดเย็บไม่เป็นหรือ?” รองหัวหน้าเหวยถาม
ถ้าเบื้องบนไม่อยากให้เป็นที่สังเกตเลยส่งทุกอย่างมาที่ล่าม
แล้วทำไมไม่เอาช่างตัดเสื้อมาด้วย?
ไหน ๆ คนก็มาเยอะแล้ว มีเพิ่มอีกก็ไม่น่าเป็นปัญหานี่
แม้แต่หัวหน้าก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำ
“ฉันไม่รู้เลยค่ะ แต่เรื่องออกแบบไม่ได้เรียนจริงจังค่ะ”
คำพูดดูมีนัยแฝง
คนทั้งสองมองหน้า เข้าใจสิ่งที่คิดทันที
เธอไม่ได้เรียนมาแต่รู้เรื่องพวกนี้หรือ?
ถ้างั้นเธอก็เก่งจริง ๆ
ไม่รู้ว่าจะเก่งขนาดไหนกัน
แต่ว่าตอนเรียนเธอก็ไม่ได้เรียนภาษามานี่ บางทีเราอาจจะคาดหวังก็ได้นะ!
“ถ้าคุณมีร่างเสื้อผ้าอยู่ด้วย เราขอดูได้ไหม?”
ตอนนี้ไม่มีใครแล้ว มีแต่คนไว้ใจได้ทั้งนั้นรัฐมนตรีเลยพูดตามตรง
เด็กสาวพยักหน้าแล้วหยิบมาให้
รัฐมนตรีต้วนเป็นคนถือ ส่วนเหวยจวิ้นอู๋ขยับเข้ามาดูใกล้ ๆ
พวกเขาไม่ชำนาญด้านการออกแบบเครื่องแต่งกาย แต่จากภาพวาดถือว่าสวยนะ
ทำไมดูต่างจากที่เห็นตามท้องตลาดจัง?
ที่วาดออกมามันใส่ได้จริง ๆ ใช่ไหม?
ถ้าดูดี ๆ ก็มีความต่างอยู่นะ
“เสื้อผ้าในรูปสวยมากเลย แต่ข้อกำหนดของเราคือต้องเป็นเสื้อผ้าที่สวมใส่ในโอกาสที่เหมาะสม เพราะงั้น…”
รัฐมนตรีต้วนไม่ได้ว่าต่อ แต่รู้สึกว่าชุดนี้ไม่เหมาะกับโอกาสไหน ๆ เลย
“ชุดนี้เหมาะกับการเดินเที่ยวและไปเดตค่ะ” เธอยิ้ม
ไม่เห็นรู้เลยว่าเสื้อผ้าใส่เดินเที่ยวกับไปเดตจะหรูหราขนาดนี้
ไม่ใช่ว่าจะใส่อะไรก็ได้หรือ?
น่าจะใส่สบาย ๆ เป็นหลักนา
ถ้าใส่แบบนี้จะเป็นที่สะดุดตามากเลย
แต่ว่าเดี๋ยวนี้สถานที่ท่องเที่ยวมีคนไปเยี่ยมชมกันเยอะขึ้นเรื่อย ๆ หากใส่ชุดแบบนี้ไปเดินริมทะเลสาบพระราชวังฤดูร้อนคงน่าดูไม่น้อย
และพวกเขาก็จะกลืนไปกับสถานที่ท่องเที่ยวด้วย
“ความคิดดีมากเลยเสี่ยวเถียน”
ท่าทีของรัฐมนตรีต้วนเปลี่ยนไปทันที
เมื่อก่อนอาจเป็นล่าม แต่ตอนนี้เหมือนจะมีฐานะอื่นแล้ว
อย่างน้อยก็เป็นดีไซเนอร์
เป็นดีไซเนอร์ฟังดูเฉย ๆ แต่ที่หายากคือเป็นทั้งล่ามทั้งดีไซเนอร์ต่างหาก น่าทึ่งมาก
เด็กสาวยิ้ม “ขอบคุณสำหรับคำชมค่ะ”
เธออายเกินกว่าจะบอกว่าตัวเองไม่ได้ออกแบบเองหรอก แค่ปรับเปลี่ยนนิดหน่อยเอง
มันคือภูมิปัญญาของคนสมัยก่อนน่ะ
รสนิยมคนยุคเก่าถือว่าดีมากนะ แต่รสนิยมของช่วงปลายปีที่ผ่านมาไม่มีอะไรเลยนอกจากสีเทา สีดำ ไม่มีอะไรใหม่ ๆ ด้วย
“เสี่ยวเถียน คุณตัดเย็บไม่เป็นหรือ?” เหวยจวิ้นอู๋ดูไม่อยากเชื่อ
เด็กสาวส่ายหัว
เธอเย็บผ้าไม่เป็นจริง ๆ ใช้จักรเย็บผ้าไม่ได้ด้วยซ้ำ
ไม่ใช่ว่าถีบไม่ได้หรอกนะ แต่เส้นที่ออกมากลับบิดเบี้ยวน่ะสิ
เหวยจวิ้นอู๋เสียใจไม่น้อย
แต่เขาก็ทำได้แค่ยอมรับ
ไม่มีใครสมบูรณ์แบบหรอก
“งั้นก็ต้องหาคนอื่น คุณเฟิงอวี้ซูทำได้นะแต่ไม่รู้จะยอมไหม”
รัฐมนตรีต้วนขมวดคิ้ว คุณเฟิงอวี้ซูมีหน้ามีตาในเรื่องออกแบบมาก ถ้าเป็นแบบของเขาคงไม่มีปัญหา แต่นี่มันเป็นของซูเสี่ยวเถียน คุณเฟิงอวี้ซูเลยต้องเป็นช่างตัดเย็บไปโดยปริยาย เรื่องนี้ท่าจะยาก
แล้วเราก็สืบเรื่องคุณเฟิงอวี้ซูและคนอื่น ๆ มาแล้วแต่ผลยังไม่มา
ยังรับประกันไม่ได้ว่าเชื่อใจได้ไหม
แต่จะไม่บอกซูเสี่ยวเถียนแน่
ต่อมาเด็กสาวก็แนะนำเสื้อเชิ้ตคอปกตั้งและเสื้อผ้าชุดที่สองให้
“ทำไมถึงมีแค่สองแบบล่ะ?” รัฐมนตรีต้วนขมวดคิ้ว
น่าจะมีสักสามชุดสิ
“ฉันกำลังวาดรูปอยู่ค่ะ แต่เวลามีไม่มากพอ เลยทำได้แค่สองชิ้นเท่านั้น
เหมือนว่าเรื่องที่คาดเดาเอาไว้จะไม่ใช่อย่างนั้นเลย
นึกประหลาดใจนัก เด็กคนนี้เพิ่งออกแบบชุดหรือ?
“หมายถึงเพิ่งออกแบบช่วงสองวันนี้?” รองหัวหน้าเหวย
ได้ยินว่ามันต้องใช้เวลาและยากลำบากมาก กว่าจะออกแบบได้
“ฉันทำเมื่อคืนค่ะ ส่วนตอนเช้าเวลาน้อยไปเลยเหลือชุดเดียว ตั้งใจจะทำให้เสร็จวันนี้ค่ะ”
คนทั้งสองมองหน้า จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าคุณเฟิงอวี้ซูต้องตอบรับเป็นช่างตัดเย็บให้แน่ ๆ
พอมีคนที่มีอะไรเหมือน ๆ กัน เขาอาจจะชื่นชมในความสามารถเธอก็ได้!