บทที่ 399 สมปรารถนา
บทที่ 399 สมปรารถนา
เซี่ยซือถงเป็นลูกของเซี่ยจิ่งเฉิน และเซี่ยจิ่งเฉินก็เป็นลูกชายของเซี่ยโยว่หมิง พูดตามหลักเหตุผลแล้วหากเด็กหญิงเป็นลูกของเซี่ยจิ่งเฉินจริง ๆ แบบนั้นก็น่าจะใช้เส้นผมของเซี่ยโยว่หมิงไปทดสอบแทนได้เหมือนกันนี่ใช่ไหม?
กงเหลียนซินก็รู้สึกว่าวิธีนี้เป็นไปได้
แต่ว่าหากเป็นไปได้ งั้นทำไมเซี่ยชิงหยวนถึงต้องลำบากอย่างมากในการจะได้เส้นผมของเซี่ยจิ่งเฉิน แทนที่จะบอกให้เอาจากเซี่ยโยว่หมิงโดยตรงล่ะ?
เธอไม่เข้าใจเรื่องทันสมัยเหล่านี้ และเธอไม่กล้าตัดสินใจเองจริง ๆ
กงเหลียนซินจึงตัดสินใจสังเกตสถานการณ์ไปก่อน เพื่อดูว่าจะมีโอกาสดำเนินการหรือไม่
เมื่อเธอกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ที่อาจจะผิดพลาดเอาได้ เธอจึงถือโอกาสหวีผมของเด็กหญิงทั้งสองก่อนแล้วดึงผมออกมาคนละ 2-3 เส้น และหลังจากสังเกตอย่างรอบคอบว่ามีรากผมติดอยู่หรือไม่ เธอก็ใส่เส้นผมลงในถุงปิดผนึกที่เซี่ยชิงหยวนส่งมาให้อย่างเรียบร้อย
มีหมายเลขเขียนกำกับอยู่ทุกถุง ถุงที่ใส่เส้นผมของเซี่ยซือถงคือเบอร์หนึ่งและถุงที่ใส่เส้นผมของเซี่ยซือเหยียนคือเบอร์สอง เธอได้จดบันทึกไว้แล้ว
ถุงเปล่าที่เหลือจะเป็นถุงที่เอาไว้เส้นผมของเซี่ยจิ่งเฉิน
ตลอดทั้งวัน กงเหลียนซินไม่เคยละสายตาจากเซี่ยจิ่งเฉินเลย
เมื่อเขานั่งยอง ๆ อยู่ที่ประตูเพื่อถือชามบะหมี่กินในมือ เธอก็ไปยืนอยู่ข้างหลังเขาเพื่อดูว่ามีผมตกบนไหล่ของเขาหรือไม่
เมื่อเขาก้มลงไปสับฟืน เธอก็ยื่นน้ำให้เขาหวังจะฉวยประโยชน์จากโอกาสนี้ดึงผมของเขาออกมา
เมื่อเขานอนบนเก้าอี้ผ้าใบในสนามและงีบหลับ เธอก็ขยับไปเงียบ ๆ และต้องการดึงผมออกมาสัก 2-3 เส้น…
แต่หลังจากพยายามหลายครั้ง เซี่ยจิ่งเฉินก็หันมองเธอทันทีที่เข้าไปใกล้ และมองด้วยความสับสน
ในการพยายามครั้งสุดท้าย ดวงตาของเซี่ยจิ่งเฉินมองที่กงเหลียนซินอย่างระแวงและ…เขาลังเลที่จะพูด
กงเหลียนซินไม่รู้ว่าเขาเข้าใจผิดอะไรหรือไม่ ดังนั้นเธอจึงคิดว่าเธอจะลองเสี่ยงโชคบนหมอนของเซี่ยจิ่งเฉินแทน
โดยไม่คาดคิด ทันทีที่เธอหยิบหมอนขึ้นมา เธอก็ถูกเซี่ยจิ่งเฉินจับได้หลังจากที่เขาผลักประตูเข้ามา
กงเหลียนซิน “…”
เซี่ยจิ่งเฉิน “…”
เธอแกล้งวางหมอนลงแล้วตบมัน “พี่…พี่เห็นว่าหมอนของนายชื้นนิดหน่อยน่ะ เลยอยากจะเอามันไปตากแห้งให้”
เซี่ยจิ่งเฉินขมวดคิ้วแน่น “พี่สะใภ้ ดวงอาทิตย์กำลังจะตกดินแล้ว”
กงเหลียนซินใช้มือทัดผมอย่างผิดปกติ และรู้สึกกระวนกระวายอย่างยิ่ง “ถ้าอย่างนั้น…พรุ่งนี้ก็ตากแดดให้แห้ง ไว้พรุ่งนี้ตากให้แห้งแล้วกัน”
หลังจากพูดอย่างนั้น เธอก็รีบเดินออกจากห้องไป “นี่มันก็สายมากแล้ว พี่ไปทำอาหารก่อนนะ แหะ ๆ”
ดวงตาของเซี่ยจิ่งเฉินมืดลง ขณะที่เขามองไปยังร่างที่กำลังหลบหนีของกงเหลียนซิน
เขาคิดว่ามันคงจะดีที่สุดสำหรับเขาที่จะไปถามจากเซี่ยจิ่งเยว่ว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้เกิดอะไรขึ้นกับกงเหลียนซินหรือไม่
เซี่ยจิ่งเยว่เพิ่งกลับมาจากข้างนอกและกำลังจิบน้ำอยู่ เมื่อเขาได้ยินคำถามของเซี่ยจิ่งเฉิน เขาก็สะดุ้งทันที “ช่วงนี้พี่สะใภ้ของนายกับฉันไม่มีปัญหาอะไรนะ”
เขาวางชามเซรามิกลง “ทำไมจู่ ๆ นายถึงถามคำถามอะไรแบบนี้ล่ะ? หรือว่าก่อนหน้านี้พี่สะใภ้ของนายบ่นอะไรบางอย่างให้นายฟังเหรอ? หรือมีอะไรผิดปกติกับเธอเรื่องซือถงและซือเหยียนรึเปล่า?”
เขาเกาหัวดูเป็นทุกข์ “ไม่สิ ฉันก็เห็นว่าช่วงนี้เธอไม่มีปัญหาอะไรนี่นา”
เซี่ยจิ่งเฉินยิ้มแล้วพูดว่า “ผมไม่ได้อยู่บ้านเลย แล้วช่วงนี้พี่ชายกับพี่สะใภ้ก็ทำหน้าที่กตัญญูช่วยดูแลพ่อแม่แถมยังดูแลเด็ก ๆ ทุกคนอีก ที่ผมถามก็แค่เป็นห่วงเฉย ๆ น่ะ พี่ใหญ่อย่าคิดมากไปเลย”
เซี่ยจิ่งเยว่ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและพูดด้วยรอยยิ้ม “ตราบใดที่ไม่มีอะไรก็ดีแล้ว พี่สะใภ้ของนายและฉันไม่ได้มีปัญหากันหรอก”
กงเหลียนซินที่กำลังจะเข้ามาในห้องหลักเพื่อหยิบของได้ยินการสนทนาระหว่างพี่น้องทั้งสองคนเข้าพอดี และกัดริมฝีปาก
เป็นไปได้ไหมที่เซี่ยจิ่งเฉินคิดว่าเธอมีความคิดบางอย่างเกี่ยวกับเขา?
กงเหลียนซินตบหน้าผากของตัวเอง ดูเหมือนว่าเธอจะทำสิ่งนี้ไม่ได้อีกต่อไปแล้วสิ
เธอมองไปยังสามีของเธอเองที่กำลังยิ้ม โดยไม่ต้องคิดและถอนหายใจ
เซี่ยจิ่งเยว่เป็นคนซื่อสัตย์และไม่สามารถเก็บความลับต่าง ๆ ไว้ในใจได้
ถ้าเธอบอกเขา เกรงว่าเขาจะสารภาพกับเซี่ยจิ่งเฉินก่อนที่จะได้เส้นผมด้วยซ้ำละมั้ง
พี่สะใภ้สงสัยว่าลูกสาวของน้องสามีไม่ใช่ลูกทางสายเลือดของเขา ไม่ว่าจะเป็นเซี่ยจิ่งเฉินหรือเด็กคงจะเสียใจแน่ถ้าพวกเขารู้เรื่องนี้
แต่เพื่อตระกูลเซี่ยทุกคน เธอจำเป็นต้องทำมัน
เธอเพียงแค่หันกลับมา และพบกับเซี่ยโยว่หมิงที่เดินเข้ามาหาเธอ
หลังของเขาค่อม แต่ดวงตาของเขาชัดเจนและชาญฉลาด
เซี่ยโยว่หมิงเรียกทักออกมา “สะใภ้ใหญ่” หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็กำลังจะเข้าไปในบ้าน
กงเหลียนซินกัดฟันและหยุดเขาไว้ “พ่อคะ ฉันมีอะไรจะพูดกับพ่อ”
…
เซี่ยโยว่หมิงสูบกระบอกยาสูบที่ว่างเปล่า คิ้วของเขาขมวดแน่น “พ่อเข้าใจแล้ว ปล่อยให้เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของพ่อเองเถอะ”
กงเหลียนซินไม่คิดว่าเซี่ยโยว่หมิงจะยอมรับมันเร็วขนาดนี้
เธอพูดว่า “พ่อคะ พ่อไม่โทษพวกเราเหรอ?”
เซี่ยโหย่วหมิงถอนหายใจ มองดูเธอแล้วยิ้ม “พวกลูกทำสิ่งนี้เพื่อประโยชน์ของครอบครัวนี้ พ่อจะตำหนิพวกลูกเพื่ออะไรล่ะ?”
ในเวลาแบบนี้ ถ้าไม่ทำอะไรเลยจะเป็นไปได้ยังไง?
แม้มันไม่สำคัญสำหรับพวกเขาในฐานะคู่รักวัยชรา แต่เซี่ยจิ่งเยว่และสะใภ้จะจัดการยังไงล่ะ?
ลูกทุกคนมีมือมีเท้าเท่ากัน แต่คนเราไม่สามารถแบ่งหัวใจของตัวเองอย่างลำเอียง เพื่อบังคับให้ลูกอีกคนที่ทำงานหนักกว่าคอยประคองลูกคนอื่นที่เหลือที่ด้อยกว่าได้ตลอดเวลาหรอก
เมื่อเวลาผ่านไป แม้ว่าเซี่ยจิ่งเยว่จะไม่พูดอะไร แต่ในใจของสะใภ้ใหญ่ก็คงหวาดกลัวเป็นแน่ อีกทั้งลูกสาวคนเล็กก็เสียสละมามากพอแล้วสำหรับครอบครัวนี้ และเขาไม่อยากทำให้เธอเสียใจอีกต่อไป
เขาเข้าใจความจริงนี้มาโดยตลอดและโน้มน้าวใจหวังผิงหลายครั้ง แต่หวังผิงไม่เคยเต็มใจที่จะรับความจริงเลย
เขาไร้ความสามารถในฐานะพ่อมาหลายปีแล้ว คราวนี้เมื่อมีโอกาสเขาจะทำมันให้เอง
ดวงตาของกงเหลียนซินแดงก่ำ และเธอก็พยักหน้าขอบคุณเซี่ยโยว่หมิง “ขอบคุณค่ะพ่อ”
เซี่ยโยว่หมิงพยักหน้า “ลูกพ่อ ที่ผ่านมาครอบครัวนี้ทำให้เธอต้องทนทุกข์ทรมานมากมาย ไม่ต้องกังวลนะ ต่อจากนี้ในอนาคต ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพ่อจะเป็นคนแบกรับเอง”
แล้วเขาก็เดินออกจากบ้านไปทีละก้าว
กงเหลียนซินมองไปยังหลังที่ยิ่งค่อมลงของเซี่ยโยว่หมิง และหางตาของเธอก็เปียกชื้นมากขึ้น
เซี่ยโยว่หมิงกับหวังผิงต่างก็แก่แล้ว และเธอกับเซี่ยจิ่งเยว่ก็เช่นกัน
ลูกของเธอก็เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ และพวกเขาไม่ควรติดอยู่ในโลกใบเล็กนี้ตลอดไป
เพื่อทุกคน ครั้งนี้เธอต้องต่อสู้เพื่อมัน
…
ก่อนมื้อเย็น เซี่ยโยว่หมิงได้มอบเส้นผมสองเส้นที่มีรากผมให้กับกงเหลียนซิน และพูดว่า “เก็บมันไว้ดี ๆ นะ”
ในตอนเย็น เขาขอให้ลูกชายทั้งสองคนไปตกปลาด้วยกันที่ริมแม่น้ำและใช้โอกาสนี้พูดคุยกับพวกเขาด้วยความจริงใจ
สุดท้ายก็น้ำตาแตกทั้งพ่อและลูก
เซี่ยจิ่งเฉินถึงกับคุกเข่าต่อหน้าเซี่ยโยว่หมิง “พ่อ มันเป็นผมเองที่อกตัญญูสร้างความเดือดร้อนให้กับพ่อและแม่ตลอด จนลำบากไปถึงพี่ใหญ่และพี่สะใภ้รวมไปถึงน้องสาวด้วย”
เซี่ยโยว่หมิงตบหลังของลูกชายคนรองเบา ๆ “ในอนาคตเมื่อลูกทั้งสองคนมีชีวิตที่ดีแล้ว ลูกทั้งสองจะต้องปกป้องน้องสาวของพวกลูกตลอดไปนะ แค่นั้นก็เพียงพอสำหรับพ่อแล้ว”
เขามองไปที่ผมสีขาวของเซี่ยจิ่งเฉิน ซึ่งขาวกว่าของเซี่ยจิ่งเยว่มาก และพูดอย่างลำบากใจ “ผมสีขาวของลูกนั้นเกือบจะไล่ตามพ่อทันแล้วนะ”
เขายื่นมือไปทางผมสีดำ “พ่อจะดึงมันออกมาให้ลูกสองเส้น แบบนี้ในอนาคตผมหงอกก็จะน้อยลงด้วย”
กงเหลียนซินรับมันมาด้วยความประหลาดใจ “ขอบคุณค่ะพ่อ”
เธอชมอีกครั้ง “พ่อมีวิธีที่แนบเนียนจริง ๆ”
เซี่ยโยว่หมิงจับจมูกของเขาอย่างเขิน ๆ และส่งไฟฉายให้เธอแล้วพูดว่า “รีบส่งมันไปให้ชิงหยวนเร็ว ๆ เถอะ”
“ตกลงค่ะ” กงเหลียนซินเก็บถุงที่ใส่เส้นผมทั้งหมดใส่กระเป๋า ออกไปด้วยความตื่นเต้นและกังวลใจ
ก่อนอื่นเธอมอบของให้กับเสี่ยวหลิวเลขานุการหมู่บ้าน จากนั้นจึงเล่าให้เซี่ยชิงหยวนฟังเกี่ยวกับเรื่องนี้
เซี่ยชิงหยวนรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง “ฉันเข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณสำหรับการทำงานหนักนะพี่สะใภ้”
จากนั้นเซี่ยชิงหยวนก็โทรหาฉู่ซิงอวี่ทันที ขอให้เขาดูแลพัสดุและเรื่องผลตรวจของตัวอย่างในหลังจากนี้
หลังจากวางสายโทรศัพท์ เธอก็ถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก ในที่สุดก็สมความปรารถนาอีกหนึ่งอย่างของเธอแล้ว
ต่อไปก็แค่รอผลตรวจเท่านั้น