ยามดอกวสันต์ผลิบาน 449 วันคล้ายวันเกิด

ตอนที่ 449 วันคล้ายวันเกิด

โจว​เจิ้น​ประหลาดใจ​เป็นอย่างมาก​ ความจริงใจ​ที่​เผย​ออกมา​ผ่าน​คำพูด​ของ​เฉิงฉือ​ยิ่ง​ทำให้​เขา​บังเกิด​ความรู้สึก​ดี​ๆ มากขึ้น​

สีหน้า​ของ​เขา​อ่อนโยน​ลงมา​อย่าง​ช่วยไม่ได้​ กล่าว​ขึ้น​ว่า​ “ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​ทราบ​เรื่อง​นี้​หรือไม่​”

เฉิงฉือ​พลัน​รู้​ว่า​โอกาส​ของ​ตัวเอง​มาถึงแล้ว​

เวลานี้​ทุก​ประโยค​ที่​เขา​กล่าว​ล้วน​กลายเป็น​เรื่องสำคัญ​มากขึ้น​มาทั้งสิ้น​ กระทั่ง​ว่า​ประโยค​ไหน​รอด​ ประโยค​ไหน​ตาย​ ล้วน​ขึ้นอยู่กับ​ว่า​เขา​จะตอบ​อย่างไร​แล้ว​

“ข้า​ได้​บอกกล่าว​มารดา​ของ​ข้า​อย่าง​ชัดเจน​ตั้งแต่​นาง​มาถึงจิงเฉิงแล้ว​ขอรับ​” เฉิงฉือ​กล่าว​ “เพียงแต่​เวลา​นั้น​ใน​บ้าน​กำลัง​วุ่น​เรื่อง​แยก​ตระกูล​กัน​อยู่​ ตาม​ความคิด​ของ​มารดา​ก็​คือ​ ไม่อาจ​ให้​คุณหนู​รอง​กลายเป็น​หัวข้อ​วิพากษ์วิจารณ์​ของ​ทุกคน​ในเวลานี้​ได้​ ฉะนั้น​จึงยัง​มิได้​พูดคุย​ถึงเรื่อง​นี้​ ข้า​มาเมือง​เป่า​ติ้ง​ใน​ครั้งนี้​ ก่อน​มาได้​แจ้งมารดา​ของ​ข้า​เอาไว้​แล้ว​ นาง​จึงทราบ​เรื่อง​แล้ว​ขอรับ​!”

โจว​เจิ้น​รู้สึก​โล่งอก​ไป​เปลาะ​หนึ่ง​อย่าง​อธิบาย​ไม่ได้​

บางที​จาก​มุมมอง​ของ​เขา​แล้ว​ การ​แต่งงาน​ของ​บุตรชาย​หญิง​ที่​ไม่ได้รับ​การอำนวยพร​จาก​บิดา​มารดา​ก็​เท่ากับ​การลัก​ลอบหนี​ตาม​กัน​ และ​เรื่อง​ของ​ตระกูล​เฉิงที่​ไม่ได้รับ​การ​พยักหน้า​อนุญาต​จาก​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​ ก็​มักจะ​ไม่มีผลลัพธ์​ที่​ดี​อะไร​นัก​

โจว​เจิ้นยก​จอก​ชาขึ้น​มาค่อยๆ​ จิบ​ไป​คำ​หนึ่ง​ อด​มอง​สำรวจ​เฉิงฉือ​ขึ้น​มาไม่ได้​

กิริยามารยาท​สง่างาม สุขุม​ใจเย็น​ มีความรู้​และ​ความมั่นใจ​อย่าง​เป็นธรรมชาติ​สมเป็น​สายเลือด​ตระกูล​ชั้นสูง​….ไม่ว่า​จะมอง​อย่างไร​ เฉิงฉือ​ก็​ถือเป็น​บุรุษ​รูปงาม​ที่​พบ​เพียง​หนึ่ง​ใน​หมื่น​จริงๆ​

บางที​บน​โลก​ใบ​นี้​อาจ​ไม่มีเรื่อง​ที่​สมบูรณ์แบบ​ไป​ทั้งหมด​!

โจว​เจิ้น​รู้สึก​จิตใจ​สงบ​ขึ้น​เล็กน้อย​

เขา​ถามเฉิงฉือ​ว่า​ “แล้ว​ทาง​ด้าน​ของ​เฉิงเจีย​ซ่าน​ พวก​เจ้าคิด​ว่า​จะทำ​อย่างไร​”

เฉิงฉือ​กล่าว​ยิ้ม​ๆ ว่า​ “มารดา​ของ​ข้า​ซื้อ​บ้าน​ที่​ประตู​เฉาหยาง​ให้​ข้า​หลัง​หนึ่ง​เอาไว้​ตั้ง​นาน​แล้ว​ ต่อไป​ข้า​จะพักอาศัย​อยู่​ที่นั่น​”

บ้าน​ที่​ซอย​ซิ่งหลิน​เป็น​บ้าน​หลัก​ของ​ตระกูล​เฉิง แน่นอน​ว่า​ย่อม​ตกเป็นของ​บุตรชายคนโต​อย่าง​เฉิงจิง

เฉิงฉือ​กล่าว​ “ดังนั้น​รอ​ให้​ข้า​กลับ​มาจาก​จี่หนิง​แล้ว​ อาจจะ​ได้​รับมอบหมาย​ให้​ไป​ปฏิบัติหน้าที่​ที่อื่น​อีก​ ถึงเวลา​นั้น​ก็​จะพา​เสาจิ่น​ไป​ด้วย​ก็ได้​แล้ว​ขอรับ​”

เช่นนี้​สามีภรรยา​ก็​ไม่ต้อง​แยก​จากกัน​

บุตรชาย​คน​เล็ก​ก็​มีข้อดี​ของ​บุตรชาย​คน​เล็ก​เช่นกัน​

ตอนนี้​เอง​โจว​เจิ้น​ถึงได้​เริ่ม​พิจารณา​ถึงความเป็นไปได้​ของ​งานแต่งงาน​ใน​ครั้งนี้​ขึ้น​มาอย่าง​จริงจัง​

เขา​พยักหน้า​น้อย​ๆ พลาง​ถามขึ้น​ว่า​ “เจ้านึกถึง​เรื่อง​ช่วย​หยาง​โซ่ว​ซาน​จัดการ​แม่น้ำเหลือง​ได้​อย่างไร​”

เฉิงฉือ​จึงเล่าเรื่อง​ที่​ตน​มีความ​เชี่ยวชาญ​ด้าน​การคำนวณ​มาตั้งแต่​เด็ก​ เมื่อ​พบ​เจอ​เรื่อง​อุทกวิทยา​ก็​อยาก​จะลองดู​ จากนั้น​ได้​พบ​กับ​นาย​ท่าน​ผู้เฒ่า​ซ่งได้​อย่างไร​ คำนวณ​ระดับน้ำ​อย่างไร​ เอา​น้ำ​ออกจาก​กลาง​แม่น้ำ​อย่างไร​…เขา​เล่าเรื่อง​ทั้งหมด​ให้​โจว​เจิ้น​ฟัง

โจว​เจิ้น​รู้สึก​สนใจ​เป็น​อย่างยิ่ง​ สอบถาม​เรื่อง​การคำนวณ​ระดับน้ำ​อย่าง​ละเอียด​

เมือง​เป่า​ติ้ง​เอง​ก็​แห้งแล้ง​มีฝน​น้อย​ หาก​ทำ​การชลประทาน​ได้​ เกษตรกร​ก็​มิต้อง​มีชีวิต​อย่าง​ลำเค็ญ​เช่นนี้​แล้ว​

มีคำถาม​อะไร​เฉิงฉือ​ก็​ตอบ​ได้​ทั้งหมด​

อย่าง​ค่อยเป็นค่อยไป​ สีหน้า​ของ​ทั้งสอง​คน​ก็​เคร่ง​ขึ้น​เล็กน้อย​ ถก​เรื่อง​การ​ทำ​ชลประทาน​ขึ้น​มา

ด้านนอก​ห้องโถง​ ห​ลี่​ซื่อ​ถามห​ลี่​มามาที่​กำลัง​เงี่ย​หูฟัง​อย่าง​ละเอียด​ว่า​ “เป็น​อย่างไรบ้าง​ ได้ยิน​นาย​ท่าน​สี่คุย​อะไร​กับ​นาย​ท่าน​บ้าง​หรือไม่​ นาย​ท่าน​และ​นาย​ท่าน​สี่ทะเลาะ​กัน​อีก​หรือไม่​”

ห​ลี่​มามาส่าย​ศีรษะ​ติดๆ​ กัน​

ห​ลี่​ซื่อ​โล่งอก​ไป​ครั้งหนึ่ง​

กระทั่ง​ถึงเวลา​รับประทาน​มื้อ​เที่ยง​ทั้งสอง​คน​ถึงออกมา​จาก​ห้อง​หนังสือ​ แม้น​ออกมา​แล้ว​ แต่​หลังจากที่​ใช้เวลา​สั้น​ๆ บน​โต๊ะอาหาร​อย่าง​เงียบเชียบ​แล้ว​ ทั้งสอง​คน​ก็​กลับ​ไป​ที่​ห้อง​หนังสือ​ ถก​เรื่อง​การเกษตร​และ​การชลประทาน​กัน​ต่อ​

ห​ลี่​ซื่อ​ดู​ดีใจ​เป็น​อย่างยิ่ง​

นาย​ท่าน​ใหญ่​ห​ลี่​เร่ง​เดินทางไกล​มาอย่าง​เหน็ดเหนื่อย​ รีบ​กล่าวว่า​ “เกิดเรื่อง​อะไร​ขึ้น​ เจ้าเรียก​ข้า​มาอย่าง​เร่งด่วน​เช่นนี้​ ทาง​ด้าน​โน้น​ข้า​ยังมี​สุรา​รอ​ส่งให้​จิงเฉิงอยู่เลย​!”

นับตั้งแต่​ทำการค้า​กับ​สำนักพระราชวัง​เป็นต้นมา​ ตระกูล​ห​ลี่​ก็​คล้าย​กับ​กลาย​มาเป็น​ตระกูล​ที่​ร่ำรวย​ที่สุด​ใน​เจียง​ซี นาย​ท่าน​ใหญ่​ห​ลี่​ยิ่ง​ดู​มีความสุข​และ​เปล่งปลั่ง​ ต่อให้​เหนื่อยล้า​ก็​บดบัง​ความภาคภูมิใจ​เอาไว้​ไม่มิด​

ห​ลี่​ซื่อ​กลับ​บ่น​ขึ้น​ว่า​ “เหตุใด​ท่าน​ถึงเพิ่ง​มาเอา​ป่านนี้​ หาก​รู้​เช่นนี้​แต่​เนิ่นๆ​ ข้า​ไม่ส่งจดหมาย​ไป​ให้​ท่าน​จะดีกว่า​ รอ​จนกว่า​ท่าน​จะมาถึง อาหาร​ก็​เย็น​หมด​แล้ว​!”

นาย​ท่าน​ใหญ่​ห​ลี่​ไม่ใส่ใจ

สอง​พี่น้อง​โต้แย้ง​กัน​ไปมา​

ณ จิงเฉิง ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​กำลัง​ส่งเทียบเชิญ​ออก​ไป​

วันที่​เก้า​เดือน​เก้า​เป็น​วัน​คล้าย​วันเกิด​ของ​นาง​

เฉิงจิงเอง​ก็​ตั้งใจ​จะจัด​งานเฉลิมฉลอง​ให้​นาง​

นี่​เป็น​งานเลี้ยง​เฉลิมฉลอง​ครั้งแรก​ของ​ครอบครัว​หลังจากที่​พวกเขา​แยก​ตระกูล​ จะได้​ถือโอกาส​เชิญญาติสนิท​มิตรสหาย​ที่​เคย​ให้​ความช่วยเหลือ​พวกเขา​ช่วง​แยก​ตระกูล​มารวมตัวกัน​ด้วย​พอดี​

ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​ตั้งใจ​ส่งเทียบเชิญ​ไป​ให้​โจว​เสาจิ่น​สอง​พี่น้อง​เป็นพิเศษ​ ยัง​บอ​กห​ลี่ว์​มามาด้วยว่า​ “เจ้าไป​หยิบ​ยาบำรุง​ร่างกาย​นำ​ไป​ให้​ตระกูล​เลี่ยว​ด้วย​สักหน่อย​ ให้​มอบ​เทียบเชิญ​ทั้ง​สามใบ​ให้​ฮูหยิน​ใหญ่​เลี่ยว​ ส่วน​ยาบำรุง​ร่างกาย​นั้น​ให้​มอบให้​สะใภ้ใหญ่​ตระกูล​เลี่ยว​และ​คุณหนู​รอง​ตระกูล​โจว​คนละ​หนึ่ง​ส่วน​”

เรื่อง​ตระกูล​ฟางนั้น​ ฮูหยิน​ใหญ่​เลี่ยว​ลอบ​ลงแรง​อย่าง​ลับ​ๆ ไป​ไม่น้อย​

นาง​จะต้อง​มาร่วมงาน​อย่าง​แน่นอน​

และ​เมื่อ​เทียบเชิญ​ของ​ตระกูล​โจว​ผู้​เป็น​พี่สาว​ส่งถึงมือ​ของ​นาง​แล้ว​ ต่อให้​โจว​ชูจิ่น​คิด​จะกีดกัน​โจว​เสาจิ่น​ แต่​เกรง​ว่า​ฮูหยิน​ใหญ่​เลี่ยว​ก็​คง​ไม่ยอม​

ส่วน​ตระกูล​ฟางนั้น​ คาด​ว่า​ต่อให้​นาง​ไม่เชิญก็​คงจะ​มาร่วมงาน​เช่นกัน​

หลี่ว์​มามายิ้ม​พร้อมกับ​ขานรับ​ “เจ้าค่ะ​” ส่งเทียบเชิญ​ไป​ที่​ซอ​ยอ​วี๋​ซู่

แม้น​จะได้รับ​อานิสงส์​จาก​สอง​พี่น้อง​ตระกูล​โจว​ แต่​ทำให้​มามาคนสนิท​ข้าง​กาย​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​นำ​เทียบ​มาส่งให้​ตน​ได้​ ฮูหยิน​ใหญ่​เลี่ยว​จึงรู้สึก​ดีใจ​เป็นอย่างมาก​

โจว​ชูจิ่น​กลับ​ลอบ​ก่น​ด่า​เฉิงฉือ​ว่า​ช่างเจ้าเล่ห์​นัก​

เขา​ต้อง​คิด​จะใช้วิธี​เช่นนี้​เพื่อ​ให้ได้​พบ​หน้า​เสาจิ่น​เป็นแน่​!

นาง​ยัง​ไม่รู้​ว่า​เฉิงฉือ​ไป​เป่า​ติ้ง​มาเรียบร้อย​แล้ว​

โจว​ชูจิ่น​จะไม่ไป​ก็​ไม่ได้​ ไม่อย่างนั้น​ฮูหยิน​ใหญ่​เลี่ย​วจะ​ต้อง​คิด​ว่า​นาง​มีความขัดแย้ง​กับ​ตระกูล​เฉิงเป็นแน่​ หาก​ไล่​สอบสวน​ไป​เรื่อยๆ​ แล้ว​ฉีก​กระชาก​เรื่อง​ของ​น้องสาว​ออกมา​คง​ไม่ดี​แน่​

จาก​ความคาดหวัง​เช่นนั้น​ของ​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​ นาง​หา​ข้ออ้าง​ให้​โจว​เสาจิ่น​ว่า​ “ช่วงนี้​เสาจิ่น​ไม่ค่อย​สบาย​นัก​ งาน​วัน​คล้าย​วันเกิด​ของ​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​นั้น​ ข้า​ไปเป็นเพื่อน​ท่าน​ก็​พอแล้ว​เจ้าค่ะ​ รอ​ให้​เสาจิ่น​ดีขึ้น​แล้ว​ ค่อย​ไป​คารวะ​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​อีก​ครั้งหนึ่ง​”

แม้น​ไม่แน่ใจ​ว่า​จะขัดขวาง​ได้​สำเร็จ​ แต่​ไม่ว่า​อย่างไร​นาง​ก็​ต้อง​ลอง​ดูก่อน​

ฮูหยิน​ใหญ่​เลี่ยว​ไม่พอใจ​เป็นอย่างมาก​ กล่าวว่า​ “ผู้ใหญ่​จัด​งานเฉลิมฉลอง​วัน​คล้าย​วันเกิด​ อีก​ทั้ง​มิใช่ว่า​จะลุกขึ้น​จาก​เตียง​ไม่ได้​ จะไม่ไป​อวยพร​สักหน่อย​ได้​อย่างไร​” นาง​บอก​ให้​จงมามาไป​เชิญโจว​เสาจิ่น​เข้ามา​ กล่าว​สอนสั่ง​โจว​ชูจิ่น​ต่อว่า​ “เมื่อก่อน​ข้า​ได้ยิน​เจ้าบอ​กว่า​น้องสาว​ของ​เจ้าเคย​ได้รับ​การ​ชี้แนะ​จาก​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​มาก่อน​ นั่น​ก็เพราะว่า​มีความเมตตา​ต่อ​น้องสาว​ของ​เจ้า ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​เฉลิมฉลอง​วัน​คล้าย​วันเกิด​ ทั้ง​ยัง​เป็นครั้งแรก​อีกด้วย​ เจ้าพูด​ถ้อยคำ​เช่นนี้​ออกมา​ได้​อย่างไร​…”

โจว​ชูจิ่น​อดกลั้น​ไว้​ไม่เปล่ง​คำ​ใด​ออกมา​

ต่อให้​แม่สามีจะขอ​คำอธิบาย​ นาง​ก็​ไม่คิด​จะประนีประนอม​ให้​กับ​เรื่อง​นี้​

แต่​ไม่นาน​ โจว​เสาจิ่น​ก็​ถูก​เชิญตัว​เข้ามา​

ฮูหยิน​ใหญ่​เลี่ยว​ยื่น​เทียบเชิญ​ส่งให้​โจว​เสาจิ่น​ด้วย​รอยยิ้ม​ใจดี​ พลาง​กล่าว​ “วันที่​เก้า​วันนั้น​ เจ้าตั้งใจ​แต่งกาย​ให้​งดงาม​ พวกเรา​จะไป​อวยพร​วัน​คล้าย​วันเกิด​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัน​”

โจว​เสาจิ่น​มอง​สีหน้า​ของ​พี่สาว​แล้วก็​รู้​ได้​ว่า​พี่สาว​ไม่ชอบใจ​ด้วย​เรื่อง​นี้​ นาง​ตอบรับ​ยิ้ม​ๆ เมื่อ​ออก​มาจาก​เรือน​หลัก​แล้วก็​รีบ​คล้อง​แขน​ของ​โจว​ชูจิ่น​เอาไว้​ ทำตัว​เป็น​เด็ก​ต่อหน้า​พี่สาว​พร้อมกับ​กล่าว​ออดอ้อน​ว่า​ “ท่าน​พี่​ ข้า​พูด​แล้ว​ว่า​จะเชื่อฟัง​ท่าน​ ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​เฉลิมฉลอง​วัน​คล้าย​วันเกิด​ ไม่ว่า​จะด้วย​หลัก​หรือ​น้ำใจ​ข้า​ก็​ควรจะ​ไป​อวยพร​สัก​ครั้งหนึ่ง​ แต่​ข้า​รับปาก​ว่า​จะตาม​อยู่​ข้าง​กาย​ท่าน​พี่​ตลอด​ ไม่ไป​ที่ไหน​ทั้งสิ้น​ ดี​หรือไม่​เจ้าคะ​”

สีหน้า​โจว​ชูจิ่น​ดู​สงบ​ลง​เล็กน้อย​

กระทั่ง​ถึงวันที่​เก้า​เดือน​เก้า​ใน​วันนั้น​ สอง​พี่น้อง​จึงแต่งกาย​อย่าง​ดีแล้ว​เดินทาง​ไป​ที่​ประตู​เฉาหยาง​พร้อมกับ​ฮูหยิน​ใหญ่​เลี่ยว​

เฉิงเจิง เฉิงเซียว​และ​อีก​หลาย​คน​ไป​ถึงก่อน​ตั้ง​แต่เช้า​แล้ว​ กำลัง​ยืน​อยู่​หน้า​ประตู​ชั้นใน​ช่วย​รับแขก​ให้​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​

ตอนที่​โจว​เสาจิ่น​และ​อีก​หลาย​คน​เดิน​เข้า​ประตู​นั้น​ได้​พบ​กับ​ฮูหยิน​และ​น้องสาว​สามีอีก​หลาย​ท่าน​ก็​มาถึงพอดี​เช่นกัน​ พวก​นาง​กล่าว​ทักทาย​เฉิงเจิงอย่าง​สนิทสนม​ พร้อมทั้ง​กล่าว​หยอกล้อ​พวก​นาง​สอง​พี่น้อง​ว่า​ “พวก​เจ้าเป็น​กู​ไห​น่​ไน​กัน​แล้ว​ ต้อง​นั่งลง​เป็น​แขก​ มายืน​ต้อน​รับแขก​อยู่​ตรงนี้​ได้​อย่างไร​ ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​ช่างบัญชาการ​คนเก่ง​เกินไป​แล้ว​!”

เฉิงเจิงกล่าว​ยิ้ม​ๆ ว่า​ “วันนี้​เป็น​วัน​คล้าย​วันเกิด​ของ​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​ การ​พวกเรา​พี่น้อง​ช่วย​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​รับแขก​อยู่​ตรงนี้​ ก็​ถือเป็น​การแสดง​ความกตัญญู​ และ​ยัง​ได้​ซึมซับ​ความโชคดี​ของ​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​ด้วย​เจ้าค่ะ​”

ระหว่าง​ที่​พูด​นั้น​ นาง​จับมือ​โจว​เสาจิ่น​เอาไว้​ กล่าว​แนะนำ​ฮูหยิน​หลาย​ท่าน​ให้​พวก​นาง​รู้จัก​

โจว​เสาจิ่น​ฟังด้วย​ความตั้งใจ​

คน​ที่​มีใบหน้า​กลม​คือ​ฮูหยิน​โจว​ คน​ที่​มีใบหน้า​ยาว​คือ​ฮูหยิน​หวัง​ คน​ที่​ถึงแม้จะยิ้มแย้ม​แต่​ก็​ทำให้​คน​รู้สึก​ว่า​ดู​เป็น​กังวลใจ​มาก​นั้น​คือ​ฮูหยิน​ชวี​ ส่วน​ฮูหยิน​เซิน​มาจาก​ครอบครัว​ของ​นาย​ท่าน​ผู้เฒ่า​เซิน​ที่​สิบ​เจ็ด​ของ​ตระกูล​เซิน​ที่​จิน​ห​ลิง​ ตอนนี้​ดำรงตำแหน่ง​เป็น​นายทะเบียน​กอง​คัดเลือก​ทหาร​ของ​กรม​กลาโหม​ ที่​ได้รับ​เทียบเชิญ​คง​เพราะ​เป็น​คน​จิน​ห​ลิง​เหมือนกับ​ตระกูล​เฉิง…

นาง​จดจำ​คน​เหล่านี้​เอาไว้​ใน​ใจทีละ​คน​ๆ

เนื่องจาก​ตัดสินใจ​แล้ว​ว่า​จะแต่ง​กับ​ท่าน​น้า​ฉือ​ ต่อ​จากนี้ไป​คง​ต้อง​คบค้าสมาคม​กับ​พวก​นาง​อย่าง​หลีกเลี่ยง​ไม่ได้​

เมื่อ​ทุกคน​รู้​ว่า​ฟางซื่อ​คือ​ฮูหยิน​ใหญ่​ของ​ตระกูล​เลี่ยว​ที่​เจิ้น​เจียง​ ต่าง​ก็​ทักทาย​พวก​นาง​อย่าง​กระตือรือร้น​

เฉิงเซียว​เชิญพวก​นาง​ไป​นั่ง​ที่​เฉลียง​ทางเดิน​อย่าง​ยิ้มแย้ม​

ฮูหยิน​รอง​ตระกูล​ฟางพา​ฟางเซวียน​เข้ามา​

พวก​นาง​อาศัย​อยู่​ที่​เมืองหลวง​นาน​กว่า​ฮูหยิน​ใหญ่​เลี่ยว​ จึงสนิทสนม​กับ​ฮูหยิน​เหล่านี้​เป็น​อย่าง​ดี​ ทุกคน​ต่าง​ถามสารทุกข์สุกดิบ​ของ​กันและกัน​ และ​พูดคุย​ถึงเรื่อง​ทั่วไป​ภายในบ้าน​กัน​อย่าง​ยิ้มแย้ม​ จากนั้น​เดิน​ไป​คารวะ​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​พร้อมกัน​

วันนี้​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​ดู​มีชีวิตชีวา​เป็น​อย่างยิ่ง​ สวม​ชุด​เพ่​ยจื่อ​สีน้ำเงิน​ไพลิน​ปัก​ลาย​นก​กระเรียน​ คาด​ศีรษะ​ด้วย​ผ้า​โพก​ศีรษะ​ฝังเพชรตาแมว​สีเขียว​ขนาด​เท่า​ไข่​นก​พิราบ​ เส้น​ผมสีดอกเลา​เกล้า​ขึ้น​เป็น​มวย​หนึ่ง​อย่าง​เรียบร้อย​ ยัง​เป็นครั้งแรก​ที่​ประดับ​เอาไว้​ด้วย​เครื่องประดับ​ทอง​อีกด้วย​

ทุกคน​ก้าว​ออก​ไป​ทำความเคารพ​อย่าง​ยิ้มแย้ม​ยินดี​ พร้อมกับ​กล่าว​แสดงความยินดี​ใน​วัน​คล้าย​วันเกิด​ของ​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​

ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​ยิ้ม​ร่า​

กระทั่ง​ถึงคราว​ของ​โจว​เสาจิ่น​กลับ​จับมือ​ของ​โจว​เสาจิ่น​เอาไว้​พร้อมกับ​มอง​สำรวจ​นาง​ขึ้น​ลง​ครั้งหนึ่ง​ กล่าว​ขึ้น​ว่า​ “ข้า​ไม่ได้​พบ​เจ้ามาระยะ​หนึ่ง​แล้ว​ ได้ยิน​ว่า​เจ้าติดตาม​พี่สาว​ของ​เจ้าเข้ามา​ที่​เมืองหลวง​ ข้า​ยัง​คิด​อยู่เลย​ว่า​ ช่วง​จัดงาน​วันเกิด​ของ​ข้า​นั้น​ไม่รู้​ว่า​เจ้าจะกลับ​เมือง​เป่า​ติ้ง​ไป​แล้ว​หรือยัง​”

ฟังจาก​น้ำเสียง​นั่น​แล้ว​ คล้าย​กับ​ว่า​พวก​นาง​ไม่ได้​พบกัน​มาหลาย​ปี​ก็​ไม่ปาน​

โจว​เสาจิ่น​ไม่รู้​ว่า​ทำไม​ถึงเป็น​เช่นนั้น​ แต่​นาง​ก็​เชื่อใจ​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​ เหมือนกับ​ที่​นาง​เชื่อใจ​เฉิงฉือ​

นาง​ขานตอบ​ให้​สอด​รับ​กับ​คำ​ของ​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​อย่าง​เชื่อฟัง​และ​มีไหวพริบ​

ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​พึงพอใจ​เป็นอย่างมาก​ ให้​คน​มอบ​สร้อยข้อมือ​ลูกประคำ​สิบ​แปด​เม็ด​ทำ​จาก​เพชร​หลาก​สีให้​นาง​เส้น​หนึ่ง​ พลาง​กล่าว​ “ยาม​ว่าง​ก็​หมั่น​มาที่นี่​บ่อยๆ​ พระธรรม​ที่​เจ้าคัด​ให้​ข้า​ใน​ปี​นั้น​ข้า​เอา​ไป​ถวาย​ที่วัด​ฝาอวี่​ ณ เขา​ผู่​ถัว​แล้ว​”

โจว​เสาจิ่น​ยิ้ม​น้อย​ๆ พร้อมกับ​ขานรับ​ “เจ้าค่ะ​”

ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​จึงบอก​กับ​เฉิงเซิงว่า​ “ตอน​เป็น​เด็ก​พวก​เจ้าเอง​ก็​เคย​เล่น​และ​เรียน​ด้วยกัน​มาก่อน​ เจ้าพา​นาง​ไป​ทำความรู้จัก​กับ​บรรดา​พี่สาว​น้องสาว​ใน​เมืองหลวง​เหล่านั้น​สักหน่อย​เถิด​”

เฉิงเซิงขานรับ​ “เจ้าค่ะ​” ยิ้ม​ๆ ก้าว​ออก​ไป​ดึง​มือ​โจว​เสาจิ่น​ไป​ยืน​อยู่​ข้างๆ​ ฉาก​กั้น​ที่อยู่​หลัง​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​ มอง​คลื่น​เหล่า​ญาติสนิท​มิตรสหาย​ที่​ทยอย​กัน​เข้ามา​คารวะ​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​พลาง​กล่าว​เสียง​เบา​ว่า​ “นี่​ท่าน​ย่า​เป็น​อะไร​ไป​ หลาย​วันก่อน​เจ้ายัง​เข้ามา​คารวะ​นาง​อยู่เลย​ หรือว่า​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​อายุ​มาก​แล้ว​ จำอะไร​ไม่ค่อย​ได้​แล้ว​อย่างนั้น​หรือ​”

โจว​เสาจิ่น​มอง​สำรวจ​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​อย่าง​ละเอียด​ กล่าวตอบ​นาง​เสียง​ค่อย​ว่า​ “แววตา​ของ​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​ยัง​กระจ่าง​และ​สดใส​ดี​ ไม่น่าจะเป็น​เพราะ​จำอะไร​ไม่ได้​เจ้าค่ะ​…”

เกรง​ว่า​จะมีวัตถุประสงค์​อื่น​!

เพียงแต่ว่า​พวก​นาง​มอง​ไม่ออก​เท่านั้น​

เฉิงเซิงยังคง​คาดเดา​ไปมา​อยู่​ตรงนั้น​

สายตา​ของ​โจว​เสาจิ่น​กลับ​ตกไป​อยู่​บน​ร่าง​ของ​ฟางเซวียน​ที่​ก้าว​ออกมา​คารวะ​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​

ไม่รู้​ว่า​เป็น​เพราะ​ตั้งใจ​หรือไม่​ได้​ตั้งใจ​ ฮูหยิน​รอง​ฟางรอ​ให้​ทุกคน​คารวะ​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​ให้​เสร็จ​ก่อน​นาง​ถึงได้​พา​ฟางเซวียน​ก้าว​ออกมา​ ตอนที่​ฟางเซวียน​คารวะ​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​นั้น​สายตา​ของ​ทุกคน​ต่าง​ตกไป​อยู่​ที่​ร่าง​ของ​สอง​แม่ลูก​ตระกูล​ฟาง

เห็นได้ชัด​ว่า​ด้วยเหตุนี้​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​จึงมีเวลาว่าง​พอ​จะจับมือ​ของ​ฟางเซวียน​เอาไว้​ขณะ​พูดคุย​กับ​นาง​

ทุกคน​ถึงได้​รู้​ว่า​ความจริง​แล้ว​ช่วงนี้​ฟางเซวียน​เรียน​เขียน​อักษร​กับ​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​อยู่​

ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​กล่าว​ยิ้ม​ๆ ว่า​ “กล่าวถึง​เขียน​อักษร​แล้ว​ เจ้าและ​เสาจิ่น​เป็น​เด็กสาว​สอง​คน​ที่​มีพรสวรรค์​มาก​ที่สุด​ที่​ข้า​เคย​พบ​เจอ​มา…” ขณะที่​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กล่าว​ ก็​เรียก​โจว​เสาจิ่น​ “เจ้าเอง​ก็​มาทำความรู้จัก​คุณหนู​หก​ตระกูล​ฟางสักหน่อย​เถิด​”

มิใช่ว่า​เพิ่ง​ได้​เจอกัน​เมื่อ​เดือนก่อน​หรอก​หรือ​

โจว​เสาจิ่น​และ​คนอื่นๆ​ ต่าง​ลอบ​รู้สึก​แปลกใจ​ แต่​ใน​สถานการณ์​เช่นนี้​ ไม่มีผู้ใด​โง่พอ​จะไป​สืบสาวราวเรื่อง​กับ​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​

ทั้งสอง​คน​ต่าง​ทำความเคารพ​ซึ่งกันและกัน​

ยามดอกวสันต์ผลิบาน

ยามดอกวสันต์ผลิบาน

Score 10
Status: Completed

ในยามที่ โจวเสาจิ่น เด็กสาวจากตระกูลโจวผู้แสนอ่อนหวานและว่านอนสอนง่ายถูกชายคนรักที่นางไว้ใจหักหลังคร่าชีวิต นางได้แต่ภาวนาร้องขอโอกาสที่จะได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง

หากนางสามารถย้อนเวลากลับไปได้ นางจะหนีไปให้ห่างไกลจากบุรุษจอมเสแสร้งอย่างเขา นางจะไม่ปล่อยให้ตัวเองถูกย่ำยีอย่างน่าอดสู จะไม่ทำให้ตระกูลต้องอับอายขายขี้หน้า ไม่มีวันทำให้พี่สาวผู้แสนอ่อนโยนหัวใจแตกสลาย ขอแค่โอกาสอีกเพียงสักครั้ง…

ดูเหมือนสวรรค์จะสดับฟังคำอธิษฐานก่อนสิ้นใจของนาง ท่ามกลางค่ำคืนอันแสนสงบปราศจากเค้าลางของพายุ โจวเสาจิ่นสะดุ้งตื่นขึ้นจากฝันร้ายและพบว่าตนได้ย้อนเวลากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้งราวปาฏิหาริย์ในร่างเดิมวัยสิบสองปี!

ด้วยประสบการณ์อันขื่นขมที่นางได้เผชิญมาในชาติก่อน หญิงสาวตั้งปณิธานว่าจะต้องหาทางแก้ไขชะตาชีวิตของตนเองและของตระกูลในชาตินี้ให้ได้ ไม่มีอีกแล้วเด็กสาวที่ขี้ขลาดและอ่อนแอ แม้แต่ดอกไม้ก็ยังไม่กล้าเด็ดคนนั้น ได้เวลาที่นางต้องยืนหยัดลุกขึ้นสู้เพื่อตัวเองแล้ว

Options

not work with dark mode
Reset