Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตาบทที่ 123 จะเป็นเจ้าบ่าวหรือถูกส่งไปตาย! (2)

บทที่ 123 จะเป็นเจ้าบ่าวหรือถูกส่งไปตาย! (2)

โจว​เหว่​ย​ชิงเผย​สีหน้า​ตื่นตระหนก​ แน่นอน​ว่า​ถึงอย่างไร​เขา​ก็​จะไม่ยอมให้​เซินปู้​ล่วงรู้​ความคิด​ที่​แท้จริง​ของ​ตนเอง​ ดังนั้น​จึงเอ่ย​ออกมา​เบา​ๆ ว่า​ “แล้ว​ทางเลือก​ที่สอง​ของ​ข้า​ล่ะ​คือ​อะไร​?”

เซินปู้​พอใจ​กับ​สีหน้าที่​โจว​เหว่​ย​ชิงแสดง​ออกมา​ เธอ​เชื่อ​ว่า​หาก​เลือก​ได้​ก็​ย่อม​ไม่มีใคร​เต็มใจ​ที่จะ​ไป​ยัง​สถานที่​เช่น​กองพัน​นักเลง​ แม้จะเป็น​จ้าว​มณีสวรรค์​ระดับ​มณี 6 ชุด​เช่น​ตัว​เซินปู้​ หญิงสาว​ก็​ยัง​ไม่คิด​ว่า​จะสามารถ​ควบคุม​นักเลง​เหล่านั้น​ได้​หาก​ต้อง​เป็น​ผู้บังคับบัญชา​ “ตัวเลือก​ที่สอง​นั้น​ง่าย​กว่า​มาก​ และ​เจ้าก็​มีแต่​ได้​กับ​ได้​ วันนี้​เจ้าทำให้​น้องสาว​ของ​ข้า​ต้อง​อับอาย​ผู้คน​ ดังนั้น​วิธี​เดียว​ที่​ข้า​จะรักษา​ชื่อเสียง​ของ​นาง​ก็​คือ​ให้​เจ้าแต่งงาน​กับ​นาง​”

“อะไร​นะ​?!” โจว​เหว่​ย​ชิงคาดเดา​ว่า​หญิงสาว​ตรงหน้า​จะต้อง​บังคับ​เขา​ทำ​อะไร​บางอย่าง​ แต่​เขา​ก็​ไม่คาดคิด​ว่า​นี่​จะเป็น​คำขอ​ที่​แท้จริง​ของ​เธอ​ หาก​มอง​มุมหนึ่ง​ คำขอ​นี้​เป็นประโยชน์​สำหรับ​เขา​และ​ไม่มีข้อเสีย​ใดๆ​…แต่​อย่างไรก็ตาม​ สำหรับ​โจว​เหว่​ย​ชิงแล้ว​ เขา​จะสามารถ​ยอม​รับได้​จริง​หรือ​?

เมื่อ​เห็น​โจว​เหว่​ย​ชิงดู​ตกใจ​และ​เผย​สีหน้า​ราวกับ​คน​มีปัญหา​ เซินปู้​ก็​เริ่ม​โกรธ​ขึ้น​มาทันที​ “อ้วน​น้อย​โจว​! เจ้าคิด​ว่า​น้องสาว​ของ​ข้า​ไม่ดี​พอ​สำหรับ​เจ้างั้น​รึ​?! ข้า​ลดตัวลงมา​ประนีประนอม​กับ​เจ้าแล้ว​ด้วยซ้ำ​! ด้วย​รูปลักษณ์​ของ​เจ้า เจ้าคิด​ว่า​ตัวเอง​เหมาะสม​กับ​น้องสาว​ของ​ข้า​แล้ว​หรือ​? ถ้าไม่ใช่เพราะ​เจ้าทำให้​นาง​อับอาย​ต่อหน้า​ผู้คน​และ​ความสามารถ​ของ​เจ้าก็​พอใช้ได้​ ข้า​จะยก​เรื่อง​แต่งงาน​ขึ้น​มาพูด​หรือไม่​? อย่า​คิด​ว่าการ​แต่งงาน​กับ​นาง​เป็นเรื่อง​ง่าย​ขนาด​นั้น​ นี่​เป็น​เพียง​การ​หมั้น​หมาย​ ข้า​ยังคง​ต้อง​จับตาดู​เจ้าและ​ตรวจสอบ​ให้​แน่ใจ​ว่า​เจ้าไม่มีปัญหา​อะไร​ก่อน​จะแต่งงาน​กับ​นาง​”

เมื่อ​โจว​เหว่​ย​ชิงเห็น​สีหน้าที่​แฝงแวว​เกรี้ยวกราด​และ​เหนือกว่า​ของ​เซินปู้​ ราวกับว่า​เธอ​กำลัง​ทำบุญ​ให้​สุนัข​ข้าง​ถนน​ โจว​เหว่​ย​ชิงก็​สงบ​ลง​ทันที​ รอยยิ้ม​ใสซื่อ​ตามแบบฉบับ​ของ​เขา​ปรากฏ​บน​ใบหน้า​เหมือน​อย่างเคย​ “ท่าน​ผู้บัญชาการ​กรม​ทหาร​ ท่าน​ไม่จำเป็นต้อง​ลำบาก​ถึงขนาด​นี้​ ข้า​จะไม่แต่งงาน​กับ​น้องสาว​ของ​ท่าน​เพราะ​ข้า​มีคนรัก​อยู่แล้ว​ เนื่องจาก​ท่าน​ได้​เสนอ​ตัวเลือก​สอง​ทาง​ให้​ข้า​ ดังนั้น​ข้า​จึงจะขอ​เลือก​ข้อ​แรก​”

“เจ้าพูดว่า​อะไร​นะ​!!?“ เซินปู้​อุทาน​ด้วย​ความตกใจ​ เธอ​ไม่เข้าใจ​ว่า​โจว​เหว่​ย​ชิงจะเลือก​ข้อ​แรก​ได้​อย่างไร​ หญิงสาว​ได้​บรรยาย​รายละเอียด​เกี่ยวกับ​กองพัน​นักเลง​และ​กฏ​บังคับ​ต่างๆ​ ทั้งหมด​ให้​เขา​ฟังแล้ว​ แต่​เด็กหนุ่ม​ก็​ยังคง​อยาก​จะไป​สถานที่​แห่ง​นั้น​มากกว่า​จะแต่งงาน​กับ​น้องสาว​ของ​เธอ​ สีหน้า​ของ​เซินปู้​พลัน​ดู​น่าเกลียด​และ​มืดครึ้ม​ขึ้น​มาใน​บัดดล​

“อ้วน​น้อย​โจว​ เจ้าคิด​ว่า​ข้า​พูด​เกิน​จริง​เกี่ยวกับ​กองพัน​นักเลง​หรือ​? ข้า​จะบอก​อะไร​ให้​ ที่​ข้า​พูด​ถือว่า​เป็นการ​เล่า​อย่าง​ถนอมน้ำใจ​ที่สุด​แล้ว​ ใน​สถานที่​แห่ง​นั้น​อะไร​ก็​เกิดขึ้น​ได้​เสมอ​ มีแต่​การกระทำ​ที่​สกปรก​และ​ต่ำช้า​ที่สุด​เท่าที่​เจ้าจะจินตนาการ​ได้​ แต่​ถึงอย่างนั้น​ เจ้าก็​กลับ​เต็มใจ​ที่จะ​ไป​ที่นั่น​แทนที่จะ​อยู่​กับ​น้องสาว​ของ​ข้า​?”

โจว​เหว่​ย​ชิงถอนหายใจ​และ​พูดว่า​ “ไม่ใช่ว่า​ข้า​ไม่เต็มใจ​ แต่​ข้า​ไม่สามารถ​แต่งงาน​กับ​นาง​ได้​จริงๆ​ ข้า​มีภรรยา​ที่รัก​อยู่​ที่​บ้าน​แล้ว​ ข้า​จะทรยศ​นาง​ได้​อย่างไร​?” คำพูด​เหล่านี้​ถูก​กล่าว​อย่าง​สงบนิ่ง​และ​ไร้ความรู้สึก​ แต่​เซินปู้​สามารถ​มองเห็น​ความแน่วแน่​ใน​ดวงตา​ของ​เขา​ได้​

“เจ้าอายุ​แค่​ 17 ปี​แต่กลับ​แต่งงาน​แล้ว​? เจ้ากำลัง​พยายาม​จะหลีกเลี่ยง​ข้อเสนอ​ของ​ข้า​ด้วย​ข้อแก้ตัว​นั้น​หรือ​?” เซินปู้​ร้อง​ออกมา​ด้วย​ความโกรธ​

โจว​เหว่​ย​ชิงส่าย​หัว​และ​พูดว่า​ “ข้า​ได้​เจอ​นาง​ตอน​ข้า​อายุ​ 13 นาง​เป็น​คน​ที่​สอน​ข้า​ถึงวิธีการ​ฝึก​ปราณ​ เป็น​ผู้ชักนำ​ข้า​เข้าสู่​โลก​ของ​จ้าว​มณีสวรรค์​ เป็น​นาง​ที่​ใช้ร่างกาย​ของ​ตนเอง​ปลุก​พลัง​ภายใน​ตัว​ข้า​ นาง​เป็น​คน​ที่​ทำให้​ข้า​ได้​เรียนรู้​ว่า​ความหมาย​ของ​คำ​ว่า​รัก​ ข้า​ถนุ​ถนอม​ทุกๆ​ นาที​ ทุก​ชั่วโมง​ ทุกๆ​ วันที่​ข้า​ใช้ร่วมกับ​นาง​ และ​นาง​ก็​ใช้ความรัก​ที่​อ่อนโยน​ของ​ตัวเอง​เพื่อให้​ข้า​ได้​เรียนรู้​ว่าการ​เป็น​ลูกผู้ชาย​ที่​แท้จริง​เป็น​อย่างไร​”

เซินปู้​ย่น​คิ้ว​และ​พูดว่า​ “แล้ว​ทำไม​ตอนนี้​เจ้าถึงไม่อยู่​กับ​นาง​ล่ะ​?”

โจว​เหว่​ย​ชิงกล่าวว่า​ “ใช่ ตอนนี้​ข้า​ไม่ได้​อยู่​กับ​นาง​แล้ว​…เพราะ​นาง​มีชาติกำเนิด​ที่​สูงส่งและ​ข้า​ก็​มาจาก​ตระกูล​ขุนนาง​ที่​ตกต่ำ​ ข้า​จะมีคุณสมบัติ​เพียงพอ​แต่งงาน​กับ​นาง​ได้​อย่างไร​? นั่น​คือ​เหตุผล​ว่า​ทำไม​ข้า​ถึงมาทาง​ชายแดน​เหนือ​แห่ง​นี้​ ข้า​ต้องการ​สร้าง​ชื่อ​เพื่อ​พิสูจน์​ให้​ทุกคน​เห็น​ว่า​ข้า​มีพลัง​และ​มีสิทธิ์​แต่งงาน​กับ​นาง​”

เซินปู้​มอง​ไป​ที่​เขา​อย่าง​เย็นชา​ก่อน​จะพูดว่า​ “เชิญเจ้าสร้างเรื่อง​ของ​เจ้าต่อไป​เถอะ​ คิด​ว่า​ข้า​จะเชื่อ​รึ​? บางครั้ง​เจ้าก็​ถ่อมตัว​ บางครั้ง​ก็​ตรงไปตรงมา​ เจ้าคิด​ว่า​ฝีมือ​การแสดง​ของ​เจ้ายอดเยี่ยม​มากสิ​นะ​? น่าเสียดาย​ นั่น​ไม่มีประโยชน์​เมื่อ​อยู่​ต่อหน้า​ข้า​ ดี​! ตอนนี้​เจ้าได้​เลือก​แล้ว​ ดังนั้น​ข้า​ก็​จะทำ​ตามที่​เจ้าร้องขอ​ เจ้าจงไป​รายงานตัว​และ​พยายาม​เอาชีวิต​รอด​ให้ได้​ล่ะ​ หึ​ ความ​อัปยศอดสู​ที่​เจ้ามอบให้​พวกเรา​พี่น้อง​ หาก​ข้า​ไม่ตอบโต้​อย่าง​สาสม ข้า​ก็​คง​ไม่สมควร​เป็น​ผู้บัญชาการ​กรม​ทหาร​ที่​ 16! แม้เจ้าจะคิด​เสียใจ​กับ​การตัดสินใจ​ของ​ตัวเอง​ใน​ภายหลัง​ แต่​มัน​ก็​สาย​ไป​แล้ว​…ทหาร​!”

ทหารคุ้มกัน​ส่วนตัว​หน้าตา​ดุร้าย​ 2-3 คน​พุ่ง​เข้ามา​ใน​กระโจม​ทันที​ “ท่าน​ผู้บัญชาการ​?”

เซินปู้​กล่าว​อย่าง​เคร่งขรึม​ “พา​อ้วน​น้อย​โจว​และ​ผู้ติดตาม​ของ​เขา​ไป​พักผ่อน​ที่​กระโจม​ พรุ่งนี้​เช้าจะมีคำสั่ง​ย้าย​ ส่งพวกเขา​ไป​ประจำการ​ที่​กองพัน​นักเลง​”

โจว​เหว่​ย​ชิงไม่ได้​พยายาม​โต้แย้ง​ใดๆ​ เขา​หัน​ไปหา​ทหาร​ประจำตัว​ของ​เซินปู้​และ​เดินตาม​ออก​ไป​ ในความเป็นจริง​ ทันทีที่​ได้ยิน​เซินปู้​กล่าว​เกี่ยวกับ​กองพัน​นักเลง​ เด็กหนุ่ม​ก็​คิดได้​ทันที​ว่า​นั่น​อาจ​เป็น​สถาน​ที่ๆ​ เหมาะสม​ที่สุด​สำหรับ​ตัว​ของ​เขา​ นักเลง​? อันธพาล​? นั่น​ไม่ใช่ที่ๆ​ เหมาะกับ​เขา​ที่สุด​หรอก​รึ​? โจว​เหว่​ย​ชิงมั่นใจ​ใน​พลัง​และ​ความสามารถ​ของ​ตัวเอง​เป็นอย่างมาก​

ขณะที่​โจว​เหว่​ย​ชิงกำลัง​ครุ่นคิด​ว่า​จะทำ​อะไร​บ้าง​เมื่อ​ถูก​ส่งไป​ยัง​กองพัน​นักเลง​ ทั้ง​เขา​และ​ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​ก็​ถูก​ส่งไป​ที่​กระโจม​ชั่วคราว​เรียบร้อย​แล้ว​ มัน​เป็น​กระโจม​เดี่ยว​หลัง​หนึ่ง​ แน่นอน​ว่า​ ‘เดี่ยว​’ นั้น​หมาย​ถึงว่า​ทั้งคู่​ต้อง​นอน​ด้วยกัน​

กระโจม​นี้​มีขนาด​ค่อนข้าง​เล็ก​และ​ไม่สามารถ​ยืด​ตัวยืน​ตรง​ข้างใน​ได้​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​กับ​ความสูง​และ​ขนาด​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิง แม้แต่​การ​นั่ง​ก็​เกือบจะ​เป็นปัญหา​ พวกเขา​แทบจะ​ไม่สามารถ​เหยียด​ตัว​นอน​ข้างๆ​ กัน​ได้​ด้วยซ้ำ​

เมื่อ​ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​เห็น​กระโจม​ ใบหน้า​ก็​พลัน​ขึ้น​สีในทันที​ แต่​เพราะ​หญิงสาว​สวมหน้ากาก​จึงไม่มีใคร​เห็น​ใบ​หน้าแดง​จัด​ของ​เธอ​

“อะไร​นะ​? เรา​ต้อง​พัก​ที่นี่​? ไม่มีที่พัก​อื่น​แล้ว​หรือ​?” ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​ถามทหาร​ที่​พา​พวกเขา​มาที่นี่​อย่าง​ร้อนใจ​

ทหารคุ้มกัน​คน​หนึ่ง​เม้มริมฝีปาก​และ​พูดว่า​ “หลังจาก​ทำให้​ผู้บัญชาการ​กรม​ทหาร​ขุ่นเคือง​ พวก​เจ้ามีที่​ให้​ซุก​หัวนอน​ก็​ดีมาก​แล้ว​ อ้อ​ เจ้าทั้งคู่​จะต้อง​มุ่งหน้า​ไป​ยัง​กองพัน​นักเลง​ใน​วันพรุ่งนี้​ การพักผ่อน​อย่าง​สงบสุข​ใน​คืนนี้​น่าจะเป็น​โอกาส​สุดท้าย​ของ​เจ้าแล้ว​ ดังนั้น​ควร​ถนอม​มัน​ไว้​ให้​ดี​ อีก​อย่าง​ ข้า​ต้อง​แจ้งให้​เจ้าทราบ​ว่า​ผู้บัญชาการ​กรม​ทหาร​ออกคำสั่ง​ไม่ให้​พวก​เจ้ารับประทาน​อาหารเย็น​”

หลังจาก​พูด​เช่นนั้น​ ทหารคุ้มกัน​ก็​หัน​หลังจาก​ไป ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​รู้สึก​กรุ่น​โกรธ​ขึ้น​มาทันที​ แต่​เธอ​กลับ​ไม่มีที่​ให้​ระบาย​อาม​รมณ์​ออกมา​ เมื่อ​หัน​ไปหา​โจว​เหว่​ย​ชิง เธอ​ก็​รู้​ว่า​เขา​กำลัง​จมดิ่ง​อยู่​ใน​ห้วง​ความคิด​ ราวกับว่า​ไม่สนใจ​สิ่งที่อยู่​ตรงหน้า​หรือ​บางที​อาจจะ​มองไม่เห็น​กระโจม​ด้วยซ้ำ​

“นี่​ อ้วน​น้อย​โจว​! เรา​มีแค่​กระโจม​เล็ก​ๆ นี่​ จะนอน​ยังไง​ดี​ล่ะ​?” ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์ยก​ขา​ขึ้น​และ​เตะ​เบา​ๆ เพื่อ​ปลุก​เขา​ให้​ตื่น​จาก​ภวังค์​

จากนั้น​โจว​เหว่​ย​ชิงก็​มีสติ​ขึ้น​มาทันที​ และ​ในขณะที่​เด็กหนุ่ม​เห็น​กระโจม​เล็ก​ๆ เตี้ย​ๆ ตรงหน้า​ เขา​ก็​ถึงกับ​พูดไม่ออก​ เด็กหนุ่ม​พูด​พึมพำ​กับ​ตัวเอง​ว่า​ “นี่​ไม่ใช่บังคับ​ข้า​ให้​ต้อง​ทำ​เรื่อง​ผิด​ๆ หรอก​เหรอ​?”

“เจ้าพูดว่า​อะไร​นะ​!!?“ ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​จ้องมอง​เขา​อย่าง​โกรธเกรี้ยว​

โจว​เหว่​ย​ชิงเปลี่ยน​คำพูด​อย่าง​เร่งรีบ​และ​กล่าวว่า​ “ข้า​หมายความว่า​…คืนนี้​เจ้านอน​ข้างใน​และ​ข้า​จะยืน​เฝ้าอยู่​ข้างนอก​ทั้งคืน​”

ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก​ ถ้าโจว​เหว่​ย​ชิงยืนกราน​ที่จะ​อยู่​ด้วยกัน​กับ​เธอ​ใน​คืนนี้​ เธอ​ก็​ไม่รู้​ว่า​ควรจะ​ตกลง​ดี​หรือไม่​ แม้ว่า​จะไม่มีอะไร​เกิดขึ้น​ แต่​ใน​ฐานะ​หญิงสาว​คน​หนึ่ง​ การ​นอน​ร่วมกับ​ผู้ชาย​ใน​กระโจม​เล็ก​ๆ แบบนี้​ …จะเป็นไปได้​อย่างไร​?

“เช่นนั้น​ก็ดี​ ข้า​จะไป​พักผ่อน​แล้ว​” ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​ดึง​ม่าน​กระโจม​ขึ้น​ เตรียม​จะเข้าไป​ข้างใน​ ทว่า​ขณะที่​ทำ​เช่นนั้น​ หญิงสาว​ก็​ไม่ลืม​ที่จะ​ข่มขู่​โจว​เหว่​ย​ชิง “ประสาทสัมผัส​ของ​ข้า​เฉียบคม​มาก​ ถ้าเจ้ากล้า​มุด​เข้ามา​ใน​กระโจม​ตอนกลางคืน​ล่ะ​ก็​…ฮึ่ม! ระวัง​ไว้​ให้​ดี​ ข้า​จะเฉือน​มัน​ทิ้ง​!”

หลังจาก​พูด​อย่างนั้น​ เธอ​ก็​หันหลัง​เดิน​เข้าไป​ใน​กระโจม​ทันที​

“รอเดี๋ยว​!” โจว​เหว่​ย​ชิงคว้า​ตัว​เธอ​เอาไว้​

“เจ้ากำลังจะ​ทำ​อะไร​? ปล่อย​ข้า​นะ​!” ด้วย​ความหวั่นไหว​ของ​ตนเอง​ สภาพ​อารมณ์​ของ​ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​จึงไม่นิ่ง​นัก​ ทั้ง​ยัง​เอาแต่​คิดมาก​ ทันใดนั้น​โจว​เหว่​ย​ชิงก็​คว้า​ตัว​เธอ​อย่าง​กะทันหัน​ ราวกับว่า​หญิงสาว​เป็น​นก​ตัวเล็ก​ๆ ที่​กำลัง​ตื่นตระหนก​ และ​ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​ก็​รีบ​ผละ​ออกจาก​ร่าง​อีก​ฝ่าย​ด้วย​การ​กระโดด​หนี​ไป​หลาย​หลา​ ก่อน​จะจ้องมอง​ไป​ที่​โจว​ เหว่​ย​ชิงอย่าง​ระมัดระวัง​

โจว​เหว่​ย​ชิงส่าย​หัว​อย่าง​ช่วยไม่ได้​ก่อน​จะเหยียด​มือ​เข้าไป​ใน​กระโจม​ เสียง​สวบ​สาบ​ดัง​มาจาก​ภายใน​ เขา​คว้า​กอง​ผ้าห่ม​เหม็น​ๆ ขึ้น​แล้ว​โยน​ออก​ไป​ด้าน​ข้าง​ หลังจากนั้น​ เด็กหนุ่ม​ก็​โหน​ผนัง​กระโจม​ ยื่นมือ​เข้าไป​ข้างใน​และ​ไหลเวียน​พลัง​ปราณ​สวรรค์​ธาตุ​ลม​ออก​ไป​บังคับ​ให้​อากาศ​หมุน​วน​ไป​รอบ​ๆ ทำให้​กลิ่น​เหม็น​ถูก​ไล่ต้อน​ออก​มาจาก​ภายใน​กระโจม​ ไม่นาน​อากาศ​เหม็นอับ​ภายใน​นั้น​ก็​จางหาย​ไป​

จากนั้น​โจว​เหว่​ย​ชิงก็​นั่งลง​และ​ปัดกวาด​ใน​กระโจม​ เขา​หยิบ​ผ้าห่ม​ผืน​ใหม่​ออกมา​หนึ่ง​ชุด​จาก​ภายใน​แหวน​มิติ​ของ​เขา​ จากนั้น​ก็​ปู​ผ้าปูที่นอน​ไว้​ภายใน​ โจว​เหว่​ย​ชิงจัด​ที่นอน​ไว้​เพียง​ชุด​เดียว​ และ​หลังจาก​ทำ​เช่นนั้น​ เด็กหนุ่ม​ก็​ออกมา​อีกครั้ง​ โบกมือ​ให้​ชางก​วน​เฟยเอ๋อร์​แสดง​สัญญาณให้​เข้าไป​ข้างใน​

ขณะที่​โจว​เหว่​ย​ชิงทำ​ทุกๆ​ อย่าง​ใน​นั้น​ ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​ก็​ยืน​อยู่​ด้าน​ข้าง​เพื่อ​เฝ้าดู​เขา​ เมื่อ​ได้​เห็น​ทุกสิ่ง​ที่​เขา​ทำ​ ความอบอุ่น​ก็​พลัน​แทรกซึม​ผ่าน​เข้ามา​ใน​หัวใจ​ของ​เธอ​ช้าๆ

ตั้ง​แต่ก่อน​ที่สาม​พี่น้อง​ซ่างกวน​จะจำอะไร​ได้​ ถังเซียน​ได้​นำ​ซ่างกวน​ปิง​เอ๋อร์​จากไป​ก่อน​ ดังนั้น​ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​และ​ซ่างกวน​เสว่เอ๋อร์​จึงเติบโต​ขึ้น​มาโดย​ไม่รู้จัก​ความรัก​ของ​ผู้​เป็น​แม่ สำหรับ​พ่อ​ของ​พวก​เธอ​อย่าง​ซ่างกวน​เทียน​เย​ว่​ แม้ว่า​เขา​จะรัก​ทั้งคู่​ แต่​ใน​ฐานะ​รอง​จ้าว​วัง​สวรรค์​ไพศาล​ เขา​ไม่เพียงแต่​ต้อง​มุ่งความสนใจ​ไป​ที่​การ​ฝึก​ปราณ​เท่านั้น​ แต่​ยัง​ต้อง​จัดการ​กับ​เรื่องราว​ต่างๆ​ ใน​วัง​สวรรค์​ไพศาล​ด้วย​ ด้วยเหตุนี้​ พี่น้อง​ทั้งสอง​จึงได้รับ​การ​เลี้ยงดู​จาก​บรรดา​คนรับใช้​แทน​

ความรู้สึก​ของ​การ​ถูก​เลี้ยงดู​มาโดย​คนอื่น​จะเปรียบ​ได้​กับ​การ​ถูก​เลี้ยงดู​โดย​พ่อแม่​ที่​แท้จริง​ได้​อย่างไร​! แม้ว่า​เธอ​จะใช้ชีวิต​อยู่​ใน​สถานที่​ที่​ยิ่งใหญ่​เป็น​อันดับ​หนึ่ง​ของ​มหา​ดินแดน​ศักดิ์สิทธิ์​อย่าง​วัง​สวรรค์​ไพศาล​ แต่​ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​ก็​ไม่เคย​รู้สึก​อบอุ่น​ใน​หัวใจ​เช่น​วันนี้​มาก่อน​

ซ่างกวน​เสว่เอ๋อร์​และ​ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​แตก​ต่างกัน​มาก​ คน​หนึ่ง​เยือกเย็น​ คน​หนึ่ง​ซุกซน​ อย่างไรก็ตาม​ หัวใจ​ของ​ทั้งคู่​ก็​ต่าง​เต็มไปด้วย​ความ​เย็นชา​ตั้งแต่​วัยเด็ก​เพราะ​ปราศจาก​ความรัก​จาก​แม่

สำหรับ​คนนอก​ สิ่งที่​โจว​เหว่​ย​ชิงเพิ่ง​ทำ​นั้น​เป็น​สิ่งที่​เรียบง่าย​มาก​ กระทั่ง​เป็นเรื่อง​ปกติ​ด้วยซ้ำ​ อย่างไรก็ตาม​ การแสดง​ความห่วงใย​ที่​เรียบง่าย​และ​ซื่อสัตย์​นั้น​กลับ​ส่งผลกระทบ​ต่อ​ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​เป็นอย่างมาก​ ทำให้​ดวงตา​ของ​เธอ​กลายเป็น​สีแดงก่ำ​

“วาง​ที่นอน​ไว้​อีก​ชุด​สิ” ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​พูด​ขึ้น​มาเบา​ๆ

“เอ๊ะ​?” โจว​เหว่​ย​ชิงเงยหน้า​ขึ้น​มอง​อีก​ฝ่าย​ด้วย​ความ​ตกตะลึง​

ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​หันหน้า​หนี​ไป​อีก​ทาง​ โชคดี​ที่​ใบหน้า​ของ​เธอ​ถูก​ปกปิด​ด้วย​หน้ากาก​ มิฉะนั้น​โจว​เหว่​ย​ชิงก็​อาจจะ​ได้​เห็น​ใบ​หน้าที่​กำลัง​แดงก่ำ​ของ​หญิงสาว​แล้ว​

“อากาศ​ทาง​ตอนเหนือ​หนาว​จัด​และ​คืนนี้​ก็​มีลมแรง​ ข้า​ไม่ต้องการ​ให้​เจ้าถูก​แช่แข็ง​จนตาย​หรอก​นะ​ ไม่เช่นนั้น​เมื่อ​กลับ​ไป​ข้า​จะมีหน้า​ไป​บอก​ปิง​เอ๋อร์​ได้​อย่างไร​? เรา​ทั้งคู่​ต่าง​ก็​เป็น​จ้าว​มณีสวรรค์​ ดังนั้น​จึงสามารถ​ฝึก​ปราณ​ได้​ตลอด​ทั้งคืน​ แม้ว่า​กระโจม​จะไม่ใหญ่​นัก​ แต่​ก็​เพียง​พอให้​เรา​ทั้งคู่​สามารถ​นั่ง​ทำสมาธิ​ฝึก​ปราณ​ได้​”

น่าเสียดาย​ สำหรับ​โจว​เหว่​ย​ชิงในเวลานี้​ จิตใจ​ของ​เขา​เต็มไปด้วย​กองพัน​นักเลง​และ​แผนการ​ในอนาคต​ เขา​จึงไม่สังเกตเห็น​ท่าทาง​เขินอาย​ของ​ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​ซึ่งนานๆ ครั้ง​จะเกิดขึ้น​ เด็กหนุ่ม​ส่งเสียง​ตอบรับ​ใน​ลำคอ​ เขา​ปูที่นอน​อีก​ชุด​ใน​กระโจม​ก่อน​จะถอด​รองเท้า​และ​เข้าไป​นั่ง​โดย​ไม่ลังเล​ใดๆ​

Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา

Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา

Score 10
Status: Completed

ในโลกที่ความแข็งแกร่งคือทุกสิ่งทุกอย่าง ผู้มีพลังเหยียบย่ำผู้อ่อนแอ

มีเด็กผู้ชายผู้หนึ่งเกิดมาเพื่อหวังจะก้าวขึ้นเป็นราชาจ้าวมณีสวรรค์

ในอาณาจักรเล็กๆ ที่ยังต้องดิ้นรนในสงครามซึ่งรายล้อม

ตัวเขาในฐานะที่เกิดในตระกูลแม่ทัพจึงจำเป็นต้องมุ่งมั่นทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่

ทว่าสวรรค์กลับไม่เป็นใจ เด็กชายเกิดมาพร้อมลมปราณอุดตัน ฝึกวิชาใดๆ ก็ไร้ผล

ท้ายที่สุดก็กลายเป็นเศษสวะไร้ค่าในสายตาผู้อื่น!?

ทำลายความภาคภูมิใจของบิดา… กลายเป็นความอัปยศอดสูของคู่หมั้น…

หากแต่เขากลับใช้ชีวิตอย่างปกติสุข เที่ยวเล่นจับปลาไปวันๆ โดยไร้ความละอาย!

ทว่า…เมื่อพลาดพลั้งถูกฆ่าและทิ้งให้ตาย ท้ายที่สุดสวรรค์ก็เมตตา

ไข่มุกรัตติกาลจากต่างมิติถูกดึงดูดด้วยแรงดิ้นรนอยากมีชีวิตอยู่ของเขา

มันมอบพลังที่เปลี่ยนให้เขากลายเป็นจ้าวมณีสวรรค์ที่หายากที่สุด!

สิ่งนั้นปลุกศักยภาพของเขาขึ้นมา… แท้จริงแล้วเขาไม่ได้ไร้ค่า…

แต่นั่นจะเป็นของขวัญจากสวรรค์ที่มาเปลี่ยนชะตาของเขาได้จริงหรือ?

ร่วมผจญภัยไปกับ ‘โจวเหว่ยชิง’ ตัวเอกผู้ไร้ยางอายที่ใช้เล่ห์กลทุกอย่างในการเอาตัวรอดเพื่อมุ่งไปสู่จุดสูงสุดของโลกการฝึกวิชา

สร้างยอดกองทัพ ปกป้องคนที่เขารักและขยายอาณาจักรเล็กๆ ให้ยิ่งใหญ่เกรียงไกร!

นี่คือโลกใบที่ไม่คุ้นเคย พบกับระบบพลังใหม่ สุดยอดศาสตราวุธ และตัวเอกที่ไม่เหมือนใคร

Options

not work with dark mode
Reset